สวัสดีค่า รอบนี้หนิงพาเที่ยวทริปที่มีโปรแกรมแน่นเอี๊ยดอย่าง

ไปทานข้าวร้านข้าวสามสี 

นอนพักคืนแรกสวนเมืองพรเขื่อนลำตะคอง (ห้องR006)

ตื่นเช้าไป ไร่จิมทอมป์สัน (Jim Thompson Farm)

กลับมานอนพักคืนสองที่ ชาโตวเดอเขาใหญ่ (Chateau de Khaoyai บ้าน Mountain Villa)

และทานข้าวเที่ยวที่ทอสคาน่าวัลเล่ย์ (Toscana Valley) ก่อนกลับบ้านค่ะ

ความตั้งใจหลักของการเที่ยวรอบนี้คือไปเที่ยวไร่จิมทอมป์สันค่ะ เพราะหนิงพลาดมาสองปีแล้ว ทำให้ปีนี้ตั้งใจมากว่า ต้องไปให้ได้ ปัญหาแรกของหนิงคือ จะนอนไหนดีล่ะ

ตอนแรกเกือบไปนอนทางเส้นธนะัรัตช์แล้วค่ะ แต่คิดไปคิดมา เอหรือไปนอนสวนเมืองพรดี เพราะไม่น่าจะไกลไร่ลุงจิมเท่าไรนัก (สรุปประมาณ45นาทีค่ะ) ก็เลยวางโปรแกรมว่าคืนแรกนอนที่สวนเมืองพรและค่อยไปนอนชาโตวเที่ยวเส้นธนะรัตช์อีกวันค่ะ

ออกจากกทม.ประมาณเที่ยงวัน เพราะตอนเช้าต้องทำธุระก่อนค่ะ ระหว่างทางแวะทานข้าวที่ร้านข้าวสามสี
ป้ายหน้าร้านใหญ่มาก.................นี่หนิงมาเที่ยวแถบนี้ครั้งแรก แต่ ไม่มีทางขับเลยร้านแน่ๆค่ะ ดูป้ายเสียก่อน



ที่จอดรถกว้างขวางค่ะ เดินเข้ามาหน้าร้านจะเป็นแบบนี้ค่ะ






โต๊ะนั่งเยอะมาก หนิงมาวันศุกร์บ่ายแล้ว คนไม่เยอะค่ะ แต่รอบหลังหนิงแวะมาตอนวันเสาร์เที่ยง ไม่มีที่นั่งเลยค่ะต้องรอคิวโต๊ะว่าง



บรรยากาศโดยรวมร่มรื่นดีเชียวค่ะ



รอบนี้หนิงทานอะไรง่ายๆ คุ้นๆ เพราะแค่แวะและรีบเดินทางต่อค่ะ

รายการอาหารที่สั่งมีดังนี้
สปาเก็ตตี้กุ้ง มันบด ไข่กระทะ มักกะโรนีกุ้ง และน้ำทับทิมค่ะ









จริงๆเมนูแนะนำของร้านข้าวสามสี หนิงแนะนำ ข้าวผัดพริกไข่ปูค่ะ เพราะหนิงไปทานรอบหลังมาอร่อยประทับใจค่ะ

แล้วเราก็เดินทางต่อไปสวนเมืองพร ตอนทางเลี้ยวขวาแยกเข้าสวนเมืองพรระวังขับรถเพลินจนเลยนะคะ

แผนที่ค่ะ







เมื่อเลี้ยวเข้ามาจากถนนใหญ่ จนถึงสวนเมืองพรจะเจอป้ายนี้ค่ะทางเข้า
(ภาพไม่ชัดเพราะถ่ายจากIGค่ะ)



หลังจากแจ้งเช็คอิน พนง.จะพาเราเข้าห้องพักค่ะ หนิงเลือกพักหห้องหมายเลย  R006 เดินไกลและเหนื่อยใช้ได้เลยค่ะ เพราะเป็นทางขึ้นเนิน

ภาพทางเดินไปห้องพักค่ะ



ทางขึ้นห้องค่ะ เห็นบันไดไหมคะ ห้องชั้นสองฝั่งซ้ายมือค่ะ ^_^ สู้ๆ






เปิดมาดูในห้องกันดีกว่า












ห้อง R006 ถึงจะไม่ใช้ห้องหมายเลขฮิตสุดของที่นี่ ที่ผู้คนแย่งกัน เหมือนอย่างห้อง R301 แต่ห้อง R006 เพิ่งสร้างเสร็จทีหลังและใหม่กว่าค่ะ ส่วนวิวห้องนี้หนิงว่าก็สวยใช้ได้อยู่ค่ะ เป็นคนละฝั่งกับห้องฮิต แต่ได้วิวทั้งอ่างเก็บน้ำลำตะคองและวิวสระว่ายน้ำค่ะ



มีชิงช้าให้นั่งเล่นที่ระเบียงด้วย แต่คงต้องรอให้แดดร่มก่อนเนอะ












ห้องR006 เห็นวิวนี้จากระเบียงและเตียง ตลอดเวลาค่ะ



รายละเอียดของสวนเมืองพรค่ะ (ข้อมูลจาก//www.suanmuangporn.com/resort.htm)

สวนเมืองพรมีห้องพักเพียง 14 ห้องเท่านั้น (ตัวเลขนี้หนิงไม่แน่ใจว่าเขานับรวมห้องที่สร้างใหม่เพิ่มหรือยังนะคะ)

ห้องพักแบบ Deluxe Room จำนวน 8 ห้อง
ตกแต่งด้วยโทนสีขาว,แดง,เทา ผนังปูนเปลือยและกระจก
ซึ่งทำให้สามารถ ชมทัศนียภาพของวิวอ่างเก็บน้ำลำตะคองด้านล่างได้อย่างชัดเจน Deluxe Room เป็นห้องที่มีขนาด
ใหญ่สุดในจำนวนห้องพักทั้งหมด ตัวห้องพักอยู่บนอาคารเดียวกันแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง


ห้องพักแบบ Superior  จำนวน 2 ห้อง ( R001, R002 )
เป็นบ้าน 1 หลังแบ่งเป็น 2 ห้องพัก ผนังปูนเปลือย
ทาด้วยสีขาว และโทนสีน้ำตาล,เทา ห้องขนาดเล็กกว่า Deluxe ด้านหน้าเป็นกระจกใส สามารถชมวิวเขื่อนลำตะคองได้
เป็นแนวกว้าง


ห้องพักแบบ Villa  จำนวน 4 หลัง  ( เปิดให้บริการแล้ว )
โดดเด่นด้วยวัสดุธรรมชาติเกือบทั้งหมดเป็นไม้เปิดโล่งด้วยผนังกระจกทุกด้าน และมีความเป็นส่วนตัวมากใกล้กับสระว่ายน้ำมากกว่าห้องแบบอื่น ๆ แต่ด้วยห้องมีีขนาดเล็ก จึงเหมาะสำหรับการเข้าพักเพียง 2 - 3 ท่าน / หลัง เท่านั้น


ไปสำรวจรอบๆกันดีกว่าค่ะ
ตึกที่เราอยู่ แชร์กัน4ห้องค่ะ ห้องของหนิงคือขวาบน


















เดินไปทานอาหารมื้อเย็นกันดีกว่าค่ะ



วิวคุ้นตาของสวนเมืองพร คืนวันศุกร์และเสาร์ทางร้านมีดนดรีเล่นสดด้วยค่ะ






สำกรับแขกที่มาพักสวนเมืองพร ไม่ต้องห่วงว่ามื้อเย็นจะต้องจองโต๊ะนั่งทานอาหารล่วงหน้านะคะ เพราะทางพนง.จัดเตรียมโต๊ะวิวที่ดีที่สุด ให้สำหรับแขกที่พักทุกห้องค่ะ โดยโซนนี้ คนที่มาทานข้าวเฉยๆโดยไม่ได้เข้าพัก จะไม่ได้มานั่งค่ะ



โต๊ะหนิงเกือบติดเวทีเลย จริงๆตอนค่ำมันก็มืดหมดไม่เห็นวิวอะไรหรอกนะคะ ฮ่าๆๆ แต่ทานข้าวใต้แสงเทียนโรแมนติกมากกกกกกก หนิงแยกไม่ออกเลยหมูอยู่ไหน ผักอยู่ไหน พริกอยู่ไหน 55555















แสงสุดท้ายของวัน วิวจากโต๊ะอาหาร



ขอตัดช่วงทานอาหารเพราะจุดเทียนทานข้าว หนิงมัวแต่เล็งกับข้าวไม่สนใจอะไรเลยค่ะ ฮ่าๆ

แต่ช่วงเวลา22.00น ไปแล้ว วงดนตรีจะย้ายไปเล่นในบาร์ของสวนเมืองพรค่ะ และแขกที่เข้าพักทุกคนจะได้ฟรีดริ๊งคนละ1แก้ว เลือกเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือว่าพวกนมสด โกโก้ ก็มีหมดค่ะ

บรรยากาศ












ถือว่าวันนี้นอนหลับสนิทดี ห้องR006 ไม่มีเสียงดนตรีดังมารบกวนค่ะ

กลับมาเข้าห้องพัก เจอของเล่นค่ะ ฮ่าๆๆๆ กำลังพรางตัวอยู่ แต่ ...มันปิดไม่มิด (มีใบอะไรใหญ่ๆกว่านี้อีกไหมคะ55555)
(ภาพไม่ชัดเพราะถ่ายจากIGค่ะ)




ตื่นเช้าอีกวันรีบทานอาหารเช้าและเช็คเอ้าท์เพื่อไปเที่ยวไร่จิมทอมป์สัน (Jim Thompson Farm) ต่อค่ะ

แต่งตัวๆ




สรุปข้อดีข้อด้อยของสวนเมืองพรกันนะคะ
ข้อดี
1.ที่พักราคาถูกมาก คุ้มค่าสุดๆ
2.อาหารอร่อย ราคาไม่แพง
3.มีดนดรสดฟังตอนทานอาหารเย็นและทางสวนเมืองพรจัดโต๊ะวิวดีๆไว้รอ
4.ดึกๆมีบาร์และฟรีดริ๊ง
5.บรรยากาศดีค่ะ ทั้งวิวร้านอาหารและห้องพัก
6.พนง.เต็มใจบริการค่ะ

ข้อเสีย
1.ห้องพักมีกลิ่นน้ำเสียออกจากท่อในห้องน้ำค่ะ ตกดึกรู้สึกว่าได้กลิ่นเยอะเป็นพิเศษต้องปิดประตูห้องน้ำให้สนิทเลยค่ะ
2.พื้นในห้องพักรู้สึกมันลื่นๆ ใส่รองเท้าสลิปเดินไม่ได้ ยิ่งลื่นเลยค่ะ
3.ทางเดินไปห้องพักไกลไปหน่อย ขึ้นเนินด้วย เหนื่อยเลยค่ะ
4.ที่พักมักเต็มเร็ว ต้องจองก่อนวันเดินทางล่วงหน้านานๆเลยค่ะ



ออกเดินทางจากสวนเมืองพรไปไร่จิมทอมป์สันใชเวลาประมาณ45นาทีค่ะ

ที่นี่ล่ะ ที่อยากไปมานานแล้ว
เสียดายปีนี้อากาศไม่ค่อยดี ทุ่งปอเทืองดอกโรยไม่มีให้เห็น

การเดินทางไปแต่ละจุดในไร่ นั่งรถแบบนี้ค่ะ


































มีใครมีมีดดาบไหมคะ
หนิงมั่นใจว่ามีสังขยาอยู่ในฟักทองลูกนี้ค่ะ!!!!!?????   ฮ่าๆๆๆๆ


































ไร่จิมทอมสันป์ปี2012นี้หนิงไปเที่ยวมาสองรอบค่ะ
รอบแรก วันที่ 22 ธันวาคม 2555
รอบสอง วันที่ 5 มกราคม 2556

จากการไปเที่ยวไร่จิมทอมสัน2รอบห่างกัน14วัน ได้เห็นอะไรแบบนี้

แปลงผักไฮโดร ดูเจริญหูเจริญตาเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีสุด
"หนูอยากทราบว่าใส่อะไรลงไป ผักถึงโตพุ่งขึ้นฟ้าขนาดนี้คร้าาาา"

ส่วนดอกไม้แปลงอื่นๆ ฟักแฟง เปลี่ยนแปลงในทางเฉาลง โรย เหี่ยว ตาย ผลหลุดร่วงเน่า

รอปีหน้า งานท่องเที่ยวปลายปีมีเมื่อไหร่ จองที่พักแถวเขื่อนลำพระเพลิงรอไว้เลยค่ะ 15ธค เป็นต้นไปของทุกปี ไร่ลุงจิมเปิดใหม่ๆรีบไปกันเลยจ้า



22ธันวา ต้นแค่นี้



5มกรา โตขึ้นขนาดนี้เลยค่ะ




ผักงามมากเลยค่ะ



แปะรูปที่ไปรอบสองกับแม่หน่อยดีกว่า












วิวตรงนี้ อย่างกับเกาะนามิ ฮี่ๆ..






ประมาณบ่ายสามกว่าๆ หนิงก็เดินทางออกจากไร่จิมทอมป์สันค่ะ รอบนี้ขับรถยิงยาวเลย ไปพักที่ชาโตว เดอ เขาใหญ่ค่ะ (ก็งงๆตัวเองเหมือนกัน ทำไมไม่พักใกล้ๆกว่านี้หน่อย) วันนั้น มีการชุมนุมทางการเมืองที่โบนันซ่าด้วยค่ะ บังเอิ๊ญบังเอิญ รถเลยติดยาวๆช่วงเส้นธนะรัชต์เข้าโบนันซ่าค่ะ

ทางเข้าชาโตว เดอ เขาใหญ่ Chateau de Khaoyai




มาถึงชาโตว เราจะพักกันที่บ้านMountain Villaที่เห็นไกลๆนั่นค่ะ



ซื้อวอยเชอร์มาจากงานท่องเที่ยว เลยมีAfternoon Tea เซตใหญ่ ให้ด้วยค่ะ แต่ เอ...หน้าตาไม่ค่อยเหมือนตอนออกบูท แต่ขนมก็เยอะดี (รึปล่าว เทียบหน่อยๆ)

อันนี้ถ่ายไว้ตอนเขาออกบูท ภาพซ้ายล่างที่บอกว่าเราจะได้ฟรี  แต่ แพคเกทจานชามต่างออกไป สงสัย ล้างไม่ทัน ฮ่าๆๆ



อันนี้คือAfternoon Tea ที่ได้ค่ะ
จริงๆหนิงไปถึงชาโตวก็เย็นแล้ว เลยเวลาบ่าย ก็เลยทานตอนเช็คอินนี่ล่ะค่ะ แต่ว่า โต๊ะนั่งไม่มี โต๊ะเต็มหมดเลยทั้งที่เย็นแล้ว แต่คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆ ต้องรอโต๊ะว่างพักนึงเลยค่ะ



ห้องพักที่ชาโตว เดอ เขาใหญ่ หนิงเลือกพักบ้าน MOUNTAIN VILLA(ที่ลุลาถ่ายMV)ห้องใต้หลังคาบนสุด หัวมุมหน้าต่างวิวสองด้าน ราคาปกติ3300 ลดเหลือ 2500 ในงานท่องเที่ยวค่ะ

บันไดทางขึ้นตึกMOUNTAIN VILLA จุดขายของตึกนี้ค่ะ เป็นสถานที่ถ่าย MV และโฆษณาเยอะเลย
แต่หนิงพักชั้น3 มีบันไดสวยแต่ไม่มีลิฟท์ เล่นเอาหอบแฮ่กๆเลยค่ะ








ข้อดีห้องที่อยู่มุมตึกคือ มีหน้าต่าง2ด้านค่ะ






แต่ว่า...................ทำไมวางทีวีตรงนั้นหนออ  จะดูยังไงกันดีเนี่ย เขาบอกว่าห้ามเคลื่อนย้ายเตียงด้วย



สงสัยให้นั่งตรงนี้ดูทีวี ห้ามนอนดู....ง่ะ




แต่พอเปิดทีวี ปรากฏว่า ดูไม่ได้สักช่องค่ะ จอดำ เลยโทรศัพท์ไปถามเขาว่าทีวีเป็นอะไร โทรศัพท์เสียอีกค่ะ!!?? ไม่มีสัญญาณเสียงอะไร ทั้งๆที่ต่อปกติ เลยต้องเดินลงบันไดจากชั้น3ลงมาถามเขา

ทางพนง.ตอบว่า ระบบเคเบิ้ลเสียค่ะ กำลังซ่อมอยู่ จะดูได้ภายในคืนนี้
(แต่จะบอกว่าทีวีดูไม่ได้จนเช็คเอ้าท์เที่ยงอีกวันเลยอ่าค่ะ แจ้งพนง.ทั้งที่ตึกนี้ตึกใหญ่ ก็ ทำอะไรไม่ได้) ...แย่เลยเนอะ

มื้อเย็นทานข้าวกันที่นี่ค่ะ
เหมือนเป็นการรวมตัวของแขกที่เข้าพักชาโตว มื้อเย็นดีที่ว่าต่างคนต่างมา ต่างเวลา บ้างไปทานข้างนอก แต่ตอนมื้อเช้านี่สิคะ โต๊ะไม่พอนั่งจนเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยค่ะ






ส่วนหนึ่งของมื้อค่ำ ทานง่ายๆเพราะเหนื่อยมาก อยากรีบกลับไปนอน



สิ่งที่ประทับใจที่สุดของ ชาโตว เดอ เขาใหญ่ สำหรับหนิงเลย คือสิ่งนี้ค่ะ

ตอนเสริฟน้ำ พนง ใช้ซองหลอด ครอบปลายหลอดก่อนเสริฟ(เพื่อความสะอาด) จริงๆเรามักเห็นทั่วไป แต่ที่นี่พับเป็นดอกกุหลาบด้วยค่ะ หุ้มไว้เฉพาะส่วนที่พ้นน้ำดื่มมาแล้วค่ะ
(ภาพถ่ายจากIGค่ะ)



พอถึงห้องหนิงก็นอนเลยค่ะ แต่คุณแฟนนั่งเล่นเนตต่อ ได้ยินเสียงบ่นๆเป็นระยะว่าทำไมสัญญาณอ่อนแบบนี้เล่นอะไรไม่ได้เลย จนหนิงหลับไปเลยค่ะ
ตืนเช้ามาแฟนบอกว่า จะอาบน้ำตอนสี่ทุ่ม น้ำไม่ไหล!?!?!....................
อะไรกันนี่ น้ำไม่ไหล ฟังแล้วตกใจ
แฟนบอกว่าเมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำนะ แต่นี่เช้านี้น้ำไหลปกติค่ะ

เรื่องนี้ หนิงนำไปแจ้งพนง.ตึกใหญ่ค่ะ เขาบอกว่าท่อแตก!!!! แก้ไขอยู่ครึ่งชม.น้ำจึงไหล
แต่แฟนหนิงไม่ทราบว่าจะไม่ไหลแค่30นาที หรือนานแค่ไหน เขาเปิดแล้วน้ำไม่มีก็เลยไม่อาบน้ำ จะโทรไปหาใครก็ทำไม่ได้ โทรศัพท์ในห้องเสีย

เอาเป็นว่า หลายสิ่งจริงๆกับปัญหา ทำให้ตัดสินใจว่า จะไม่มาพักที่นี่อีกแล้วล่ะค่ะ เสียดายชื่อเสียง ที่ใครๆก็รู้จัก แต่พอมาจริง ผิดหวังจังเลยค่ะ

ตื่นเช้ามา ปิดแอร์ เปิดหน้าต่างห้อง อากาศเย็นๆสดชื่นจังค่ะ



วิวตอนทายอาหารมื้อเช้าค่ะ
(ภาพไถ่ายจากIGค่ะ)






หลังจากทานอาหารเช้าไปด้วย เล่นเก้าอี้ดนตรีไปด้วย (โต๊ะนั่งไม่พอกับแขก) หนิงก็ ไปเดินถ่ายรูปเล่นค่ะ

































สรุปข้อดีข้อด้อยของชาโตวเอดเขาใหญ่กันค่ะ
ข้อดี
1.วิวสวย บรรยากาศดี บริเวณรอบๆกว้างขวาง ที่ถ่ายภาพเยอะ

ข้อด้อย
1.บริการต่างๆต้องปรับปรุงค่ะ เช่น โต๊ะนั่งสำหรับทานอาหารเช้าไม่เพียงพอ
2.วันที่เข้าพัก โทรทัศน์ใช้การไม่ได้เลยค่ะ โทรศัพท์ก็เสียค่ะ
3.สัญญาณเนตอ่อนมาก มีก็เหมือนไม่มีค่ะ
4.น้ำไม่ไหลตอน4ทุ่ม ตอนเช้าอีกวันแจ้งว่าหยุดไหลแค่ครึ่งชม.แต่ คนเปิดน้ำจะอาบ พอมันไม่ไหล ไม่ทราบว่ามันจะมาเมื่อไหร่ ก็คงไม่นั่งรอค่ะ เพราะไม่มีใครแจ้ง ก็เลยนอนทั้งแบบนั้น

โดยรวมไม่ประทับใจที่นี่เลยค่ะ อาจเพราะคาดหวังกับชื่อเสียงเดิมๆมากไป








หลังจากเช็คอินออกจากชาโตว เดอ เขาใหญ่ ตั้งใจจะไปทอสคาน่าค่ะ (คนละที่กับลาทอสคาน่าสวนผึ้งนะจ๊ะ) การเดินทางไป ไม่ไกลค่ะ 7กม.ออกจากชาโตวตรงไปด้านขวายาวๆเลยค่ะ

ทอสคาน่าวัลเล่ย์Toscana Valley  โครงการบ้านพักตากอากาศเศรษฐี หลังละ10ล้านขึ้นไป

คนผ่านไปมาชอบแวะถ่ายรูป แต่หนิงมีวิธีจะให้เข้าไปได้มาบอก (ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้ และไม่กล้าเลี้ยวรถเข้าไปเพราะรปภ.เยอะ ถามแยะ)

ให้ขับรถเข้าไปเลยค่า รปภ.ถามก็บอกว่า มาทานข้าวที่คลับเฮ้าส์ เข้าได้แน่ แต่แลกบัตรด้วยนะ และรปภ.อีกฝั่งเมื่อเราถึงคลับเฮ้าส์เขาจะวิทยุมาบอกทีมปากทาง(เอาเป็นว่า เขาดูแลความปลอดภัยที่นี่จริงๆ ทะเบียน ยี่ห้อ สีรถ โดนจดบันทึกหมดนะจ๊ะ)

ภายในคลับเฮ้าส์อาหารแพ๊งแพงง +vat และเซอร์วิสต่างหาก แต่ วิวสวย อลังการงานสร้างกว่าด้านหน้าที่เห็น แต่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างค่ะ

อ้อๆ ภายในบริเวณ ทอสคาน่าวัลเล่ย์Toscana Valley  ทั้งหมด ห้ามใช้ขาตั้งกล้องเด็ดขาดนะคะ
เพราะหนิงกางขาตั้งกล้องที่คลับเฮ้าส์ด้านนอกห้องแอร์ พนง.เห็น เดินมาบอกว่าขออนุญาตในงดใช้ขาตั้งกล้องค่ะ เป็นนโนบาย (แต่เขาไม่ได้ติดป้ายเตือนไว้นะ)

ทางเข้า มุมฮิต ที่ใครผ่านไปมาต้องจอดรถถ่ายภาพ









ด้านหน้าคลับเฮ้าส์ค่ะ




โต๊ะทานอาหารด้านนอกห้องค่ะ หนิงเห็นว่าวันที่ไป อากาศเย็น เลยไม่นั่งในห้องแอร์ค่ะ และ ในห้องคนเยอะด้วยค่ะ



วิวด้านหลังค่ะ กว้างใหญ่มาก ยังก่อสร้างไม่เสร็จค่ะ บ้านทุหลังกำลังทำเลย คนงานเต็มไปหมดค่ะ




รายการอาหารและราคาค่ะ (ยังไม่รวมvatและเซอร์วิสชาร์ทอีกนะคะ)






อาหารที่หนิงสั่งมาค่ะ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หนิงติดใจเลยค่ะ









ขากลับออกจากToscana Valleyค่ะ มุมนี้สวยจัง เลยจอดรถถ่ายแป๊บนึง




พอถึงปากทางแลกบัตรออก รปภ.หยิบบัตรมาให้และวิทยุไปคุยกับรปภ.ที่คลับเฮ่าส์ รถยี่ห้ออ...สี...ทะเบียน..ได้ออกมาแล้วนะ
โอ้ววว...........รุ้สึกเหมือนโดนจับตามองอยู่ มีใครส่องกล้องตามหนูด้วยไหมคะนี่ หนูมาดีค่ะ ฮ่าๆๆ

ด้านหน้าค่ะ



ขอลากลับบ้านด้วยภาพนี้ค่ะ ขอบพระคุณที่ติดตามรีวิวค่าา