หนังสือ...คือเครื่องมือการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
16 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ไอ้เขี้ยวขาว



วันนี้ มีลูกค้าคนหนึ่ง ยืมหนังสือ ไอ้เขี้ยวขาว ไปอ่าน เราต่างก็พูดคุยกันถึงความประทับใจของเราที่มีต่อหนังสือเล่มนี้ เท่าที่จำได้ เคยอ่านมาเมื่อ 12 แล้ว เมื่อยังวัยละอ่อน อ่านประมาณ สามรอบ อ่านครั้งใด ก็ให้น้ำตาซึมทุกครั้ง ผู้เขียน แจ็ค ลอนดอนเขียนบรรยายฉากความสัมพันธ์ของไอ้เขี้ยวขาว กับนายที่มันรักได้อย่างน่าประทับใจและสะเทือนใจ เรื่องราวความผูกพันธ์ ความจงรักภักดี ที่หมาตัวหนึ่งมีต่อเจ้านายของมัน ได้อย่างกินใจ ผู้แปล คุณอดิศร เทพปรีชา ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้เราได้ซึมซับถึงความเอื้ออาทร ระหว่าง หมากับคนให้เราได้ ประทับแม้จะอ่านเป็นครั้งที่เท่าใด ก็ยังอิ่มใจทุกครั้ง




เรื่องราวของ ไอ้เขี้ยวขาว ที่ต้องผจญกับความโหดร้ายทารุณที่มนุษย์ได้กระทำต่อมัน จนมันกลายเป็นหมาป่าดุร้ายและโหดเหี้ยม แต่เพราะมือมนุษย์ มนุษย์ที่มีคุณธรรมคนหนึ่งที่ได้ทำให้ไอ้เขี้ยวขาว กลับคืนสู่ความดีงามอีกครั้ง

ไอ้เขี้ยวขาว มีทั้งหมด 5 ภาคด้วยกัน

ภาคหนึ่ง
1. ตามรอยเนื้อ
2. นางหมาป่า
3. เสียงเพรียกแห่งความหิวโหย

ภาคสอง

1. สงครามเขี้ยว
2. โพรงอาศัย
3. เจ้าตัวสีเทา
4. กำแพงของโลก
5. กฎของป่า

ภาคสาม

1.ผู้ทำไฟ
2. ตกเป็นข้าท่าน
3. หมาหัวเน่า
4. ติดตามพระเจ้า
5. กติกาชีวิต
6. ทุพภิกขภัย

ภาคสี่

1. ศัตรูเชื้อชาติ
2.พระเจ้าผู้บ้าคลั่ง
3. อาณาจักรแห่งความเกลียด
4. ความตายที่สลัดไม่ออก
5.เลี้ยงไม่เชื่อง
6. นายที่รัก

ภาคที่ ห้า

1.เดินทางไกล
2.แผ่นดินภาคใต้
3.คฤหาสน์ของพระเจ้า
4.เสียงเรียกร้อง
5.เสื้อทิ้งลาย




ตัวอย่าง ตอนอาณาจักรแห่งความเกลียด
เมื่อต้องมาอยู่กับพระเจ้าผู้บ้าคลั่ง( ไอ้เขี้ยวขาวเรียกมนุษย์ ว่าพระเจ้า ) ไอ้เขี้ยวขาวก็กลายเป็นผีร้าย มันถูกล่ามโซ่ ขังไว้ในคอก และที่นี่เอง สมิธรูปงามจะเฝ้าคอยยั่วแหย่ มันให้ทวีความดุร้ายขึ้นด้วยการทรมานเล็กๆ น้อยๆ เพียงไม่นานนัก ชายคนนนั่นก็รู้ว่าไอ้เขี้ยวขาวมีนิสัยทนหัวเราะเยาะไม่ได้ เขาจึงได้จุดสำคัญ กล่าวคือเมื่อทำให้มันเจ็บแล้วก็หัวเราะเยาะซ้ำ เสียงหัวเราะของเขาดังสนั่นหวั่นไหวเหยียดหยาม
พร้อมกันนั้นก็ชี้หน้าชี้ตามันไปด้วย วินาทีนั้นเอง สติสัมปชัญญะทั้งมวลของไอ้เขี้ยวขาวก็สินไปมันบ้าคลั่งอาละวาดดุร้ายเอาเป็นเอาตาย
น่าสพรึงกลัวเสียยิ่งกว่า สมิธ รูปงามเองด้วยซ้ำไป เขาเลี้ยงมันให้เกลียดชังทุกสิ่งรอบตัว เพื่อให้เป็นหมาที่ใช้ในการต่อสู้ ( ในยุค 1906 อังกฤษเลี้ยงหมาไว้ต่อสู้กัน นิยมพนันกันด้วยเดิมพันสูงมาก )




ตัวอย่าง ความตายที่สลัดไม่ออก

ไอ้เขี้ยวขาว ได้ฉายาว่า หมาป่ายอดนักสู้ เวลาผ่านไป ไอ้เขี้ยวขาวมีคู่เปรียบน้อยลง เหล่านักพนันหมดแก่ใจหาคู่ต่อสู้มาให้มันเปรียบ
จนกระทั่ง มันต้องพบ กับ เชโรคี บลูด๊อก ตัวอ้วนที่ดูเหมือนไม่มีพิษสง.... แต่ทว่า มันเด็ดเดี่ยวและทนทาน อย่างที่สุด
เป็นคู่ต่อสู้ที่มันไม่เคยพบมาก่อน มันเสียท่าถูกเชโรคี งับที่ คอ
เป็นการงับแบบไม่มีวันปล่อย มันอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง แต่ เชโรคีก็ไม่ยอมปล่อยคอของมัน เลือดของมันก็ไหลออกมาดั่งสายน้ำเชี่ยว
ในที่สุดมันล้มลงอย่างหมดแรง เจ้าเชโรคียิ่งงับขย้ำเขี้ยวให้แน่นขึ้น
ดีที่ว่าขนที่แผงคอมันยาว ไม่งั้นเส้นเลือดใหญ่ที่คอคงขาดไปแล้ว จนกระทั่ง
“แกไอ้พวกขี้ขลาด ไอ้พวกสัตว์”
ชายคนนั้น เหวี่ยงกำปั้นไปที่ สมิธ รูปงาม พร้อมกับเรียกผู้ช่วยมาหาของง้างปาก เจ้าเชโรคี ออกจากคอไอ้เขี้ยวขาว แต่ไม่สำเร็จ ทั้งเค้นทั้งดึง ไม่ออก จนต้องใช้ปลายกระบอกปืนงัดและง้างออก จนคอไอ้เขี้ยวขาวหลุดออกมา ไอ้เขี้ยวขาวพยามทรงตัวลุกขึ้นแต่ไม่สำเร็จ
มันเซซังล้มฮวบลง ตาขุ่นมัวหรี่ปรือ ขากรรไกรอ้าห้อย จวนเจียนสิ้นใจ

ตอน เลี้ยงไม่เชื่อง

แมทท์หยิบพลองขึ้นมาถือไว้อันหนึ่ง แล้วเดินไปหาสัตว์ถูกที่ล่ามโซ่ตัวนั้น ไอ้เขี้ยวขาว จับตาดูพลอง ในลักษณะเดียวกับสิงโตในกรงจับตาแลดูแส้ในมือผู้ฝึก

“เห็นมันมองดูพลองไหมครับนาย แสดงว่ามันไม่โง่เลย คุณคอยดูนะ ตราบใดที่ผมขยับพลองในมือยังงี้ล่ะก็ หมอไม่กล้าเล่นงานผมแน่”

มือมนุษยืที่เอื้อมเข้ามาใกล้ทำให้ไอ้เขี้ยวขาวขนตั้งชัน พร้อมกับหมอบตัวลง แต่ทั้งๆที่มันมองดูมือที่เอื้อมใกล้เข้ามานั้น มันมิได้ละสายตาจากพลองเสียทีเดียว แมทท์ปลดโซ่ที่คอของมันออก แล้วก้าวถอยหลังออกไป ไอ้เขี้ยวขาวแทบไม่รู้สึกตัวว่ามันเป็นอิสระแล้ว หลายเดือนเต็มที่นับแต่มันตกเป็นสมบัติของ สมิธ รูปงาม มันไม่เคยเป็นอิสระเลย จะถูกปล่อยเฉพาะเวลาต่อสู้เท่านั้น มันไม่รู้ว่าจะใช้อิสรภาพครั้งนี้ทำอะไรดี บางทีพวกมนุษยือาจจะมีอุบายลามกอะไรจะเล่นงานมันอีกก็ได้
ไอ้เขี้ยวขาวเดินออกจากที่อย่างช้าๆ ระวังตัวเต็มที่ พร้อมที่จะจู่โจมทุกขณะจิต ตาไม่ละจากพระเจ้าทั้งสอง ขณะเดินไปยังมุมเคบิน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไอ้เขี้ยวขาว งง มันเดินกลับไปหาชายทั้งสองอีก หยุดอยู่ห่างราว สิบสองฟุต จ้องตาดูมนุษย์ทั้งสองอย่างเอาใจใส่

“แล้วนี่มันจะไม่หนีเรารึ” ผู้เป็นเจ้าของคนใหม่ถาม
แมทท์ยักไหล่ “ต้องเสี่ยงเอาหน่อยครับ นี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะพิสูจน์ได้ว่ามันเคยถูกฝึกมารึยัง”

“น่าสงสาร”สกอตต์พึมพำ
“มันคงยังต้องการความเมตตาของมนุษย์อีกมากที่เดียว”
ลุกหายไปในเคบินกลับออกมาพร้อมด้วยเนื้อก้อนหนึ่ง โยนให้ไอ้เขี้ยวขาวซึ่งกระโดดห่างออกมาอย่างว่องไว ไปยืนจ้องพิจารณาดูก้อนเนื้อนั้นอย่างสงสัย
“เฮ้ย ไอ้เมเยอร์” แมทท์ตะโกนปราม แต่สายเสียแล้ว ไอ้เมเยอร์กระโดดไปที่เนื้อ และวินาทีที่มันงับเนื้อนั้นเอง ไอ้เขี้ยวขาวก้เผ่นเข้าใส่ จนฝ่ายตรงข้ามล้มลงไป แมทท์วิ่งเข้าขวางแต่ช้าไปเสียแล้วเมเยอร์ลุกขึ้นวิ่งหนี เลือดไหลออกจากคอ เป็นรอยไปตามทางที่มันวิ่ง

“น่าสงสาร แต่ก็สมควรแล้ว “ แมทท์ง้างเท้า เตรียมจะเตะ ไอ้เขี้ยวขาวเพื่อลงโทษ
ทันใดนั้นเองไอ้เขี้ยวขาวกระโจน เข้างับ เสียงร้องอุทานด้วยความเจ็บของแมทท์ ไอ้เขี้ยวขาวถอยห่างออกไปตั้งหลัก
“เข้าลึกทีเดียว อืม... ท่าจะเลี้ยงไม่เชื่องเสียแล้ว " สก๊อต ดึงปืนพกออกขากซองช้าๆ ขึ้นนก

“เดี๋ยวก่อนครับเจ้านั่นมันเพิ่งพ้นมาจากนรก เราจะไปหวังให้มันเป็นเทพธิดาผ้าขาวทีเดียวยังไม่ได้ “

ไอ้เขี้ยวขาวสงสัย อะไรอย่างหนึ่งกำลังใกล้มันเข้ามา มันได้สังหารหมาของพระเจ้า คนนี้ กัดพระเจ้าเพื่อนเขา จะหวังอะไรได้อีก ถ้าไม่ใช่การลงโทษรุนแรง นี่พระเจ้าที่ย่างใกล้เข้ามาไม่มีพลองมันจะตัดใจให้เขาเข้ามาใกล้อีกหน่อย แต่ขณะเดียวกันมันสำทับเป็นเชิงปรามไว้ก่อนด้วยอาการขนตั้ง แยกเขี้ยว ตาเป็นประกาย ร่างเขม็งพร้อมที่จะทะยานใส่ทันที
มือที่ยื่นเข้ามาจะวางบนหัวของมันจะต้องเป็นอะไรอย่างหนึ่ง ซึ่งมีเล่ห์กระเท่ห์ให้เกิดความเจ็บปวด มันรู้จักมือมนุษย์ดี ไม่ต้องการให้มือมนุษย์มาแตะต้องตัวมันเลย ไอ้เขี้ยวขาวคำรามเสียงคุกคามยิ่งขึ้น ย่อตัวหมอบติดพื้น มันเองมิได้ปรารถนาจะกัดมือนั้น แต่ สัญชาตญาณป้องกันตัวที่วิ่งพล่านอยู่ทั่วตัวนั่นเองบงการ

วีดอน สกอตต์ เชื่อใจตัวเองว่าว่องไวพอ ที่จะหลบอาการงับของไอ้เขี้ยวขาว แต่เขายังไม่รู้จักความไวประดุจสายฟ้าแลบของมันพอ จึงถูกมันตระหวัดเขี้ยวเอาด้วยความไวประดุจงูจงอาง
สกอตต์ร้องดังด้วยความตกใจ เอามือข้างหนึ่งจับมือข้างที่ถูกกัดทะลุไว้ ไอ้เขี้ยวขาวถอยห่างออกมาย่อตัวคุมเชิงไว้ คำรามฮื่อในคอ แยกเขี้ยวขู่ขวัญ มันนึกหวังว่าคงถูกตีรุนแรงอย่างกับที่สมิธ รูปงาม เคยปฏิบัติกับมัน

“มานี่ นั่นคุณจะทำอะไร”สก๊อตร้องขึ้นในทันที

แมทท์ถลาเข้าไปในเคบิน กลับออกมาพร้อมกับปืนยาวในมือ

“ไม่ทำอะไรหรอก เพียงแต่รักษาคำพูดของผมเท่านั้นเอง”เขาตอบช้า ด้วยสำเนียงสงบ
“มันถึงเวลาที่ผมจะต้องสังหารเจ้าสัตว์เลี้ยงไม่เชื่องตัวนี้แล้ว”
“อย่า อย่าเพิ่ง”
“ต้องครับ คอยดู” ตอนแรกที่เขาถูกไอ้เขี้ยวขาวกัด แมทท์เป็นฝ่ายไอ้เขี้ยวขาว คราวนี้จึงเป็นคราวของสก๊อตบ้าง

“คุณเป็นคนบอกผมเองว่าเราต้องให้โอกาสมัน นี่เพิ่งเริ่มต้นกันเท่านั้นเองนี่นา เราจะมาล้มเลิกตั้งแต่ต้นกันอย่างไรเล่า มันกัดผม ถูกแล้วสมควรแล้ว ดูมันซี”

ไอ้เขี้ยวขาวตอนนี้เปิดออกไปยืนอยู่มุมเคบินห่างออกไปราวสี่สิบฟุตแยกเขี้ยวคำรามฮื่ออย่างเอาเรื่อง แต่ไม่ใช่คำรามสก๊อต มันคำราม แมทท์

“ให้ตายโหง ทำไมมันรู้ยังงั้นละ” แมทท์อุทานด้วยความงงงัน

“เห็นไหม ไอ้หมอนี่ฉลาดวายร้าย” สก๊อตเสริมโดยเร็ว “มันรู้จักความหมายของปืนเท่าๆกับคุณนะแหล่ะ แมทท์ มันฉลาด เราควรจะต้องให้โอกาสความฉลาดของมันบ้าง เอาปืนไปเก้บเสียเถอะ”

“ตกลง ผมเต็มใจอยู่เหมือนกัน” แมทท์วางปืนลงกับกองฟืน
“คุณลองดู มันอีกทีซี” เขาร้องในวินาทีต่อมา ไอ้เขี้ยวขาวหยุดคำราม หยุดแยกเขี้ยวแล้ว

“คุณคอยดูผมนะครับ ผมจะลองอะไรให้ดู” แมทท์เอื้อมมือไปที่ปืนยาว ไอ้เขี้ยวขาวแยกเขี้ยว พอเขาเดินห่างปืนออกมา ริมฝีปากของไอ้เขี้ยวขาวหุบปิดเขี้ยวตามเดิม

“ ทีนี้คอยดู นะครับ เล่นๆ เท่านั้นเอง “ แมทท์หยิบปืนขึ้นมาประทับบ่า ช้าๆ อาการแยกเขี้ยวของไอ้เขี้ยวขาวดุร้ายขึ้น
แต่ก่อนที่ปืนยาวกระบอกนั้นจะมีโอกาสประทับในท่าเล็งยิงนั้นเอง ไอ้เขี้ยวขาวก็กระโดดหลบเข้ามุมเคบินหายตัวไป แมทท์ยืนตะลึงมองดูที่ว่าง มุมเคบินซึ่งเป็นที่ที่ไอ้เขี้ยวขาวยืนอยู่เมื่อครู่

“จริงครับ มิสเตอร์สก๊อตต จริงอย่างที่คุณว่า ไอ้หมอนี่ฉลาดเกินกว่าเราจะฆ่ามันได้ลงคอ”

โปรดติดตามตัวอย่างตอนจบ







Create Date : 16 กันยายน 2551
Last Update : 20 กันยายน 2551 20:38:20 น. 12 comments
Counter : 2583 Pageviews.

 


โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:15:06:20 น.  

 
เคยดูตอนเป็นหนัง สนุกดี


โดย: Boyne Byron วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:19:46:21 น.  

 
เคยได้อ่านครับ ยืมห้องสมุดสมัยเรียน ได้อารมณ์สะเทือนใจมาก


โดย: sarntee วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:14:32:20 น.  

 
ดีคร๊า

แวะมาเยี่ยมบล๊อคจ้า
มิสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: ม๊ามี๊น้องอิงอิ๊ง (INGING777 ) วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:18:48:22 น.  

 
รอ มาดูตัวอย่างตอนจบ ..
แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: กิ่งโศก (Taboonkam ) วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:10:11:59 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักครับทั่น


โดย: smack วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:21:10:31 น.  

 
มาเยี่ยมอีกรอบ...กะลังหา มัทธนะพาทา อ่านอยู่อะ..
แบบว่า มาจุดประกาย นี่

ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย
................................................

ตำนานดอกกุหราบ...


โดย: กิ่งโศก (Taboonkam ) วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:15:32:21 น.  

 
ลองอ่าน หอมกลิ่นแก้มหมา
พีรพัศ


โดย: พีรพัศ ทัศนพิทักษ์ IP: 115.67.89.122 วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:4:55:44 น.  

 
ลองอ่าน หอมกลิ่นแก้มหมา
สั่งซื้อที่ 02-2555598
ราคาเล่มละ 300 บาท
ตรีเทพ


โดย: ตรีเทพ IP: 183.89.152.3 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:52:29 น.  

 
อ่านแล้วประมาณ 80 รอบ
แฮะๆ ชอบมากกกกกกก


โดย: เจ้านาย IP: 114.128.52.254 วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:12:32:10 น.  

 
หาซื้อได้ที่ไหน ทั้ง 5 ภาคเลย


โดย: Arnon IP: 182.52.23.125 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:17:55:35 น.  

 
ผมเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้อ่ะครับอยากดูอีกแต่หาไม่ได้เลย


โดย: sungkabouy IP: 49.49.232.147 วันที่: 20 พฤษภาคม 2560 เวลา:9:56:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

manow_noi
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พ่อเป็นคนปทุม แม่เป็นคนอยุธยา เกิดกรุงเทพ ไปทำงานที่สงขลา ใช้ชีวิต ที่สงขลา ทำงานเกี่ยวกับหนังสือ ..มีความสุขอยู่ท่ามกลางหนังสือ ...ใช้หนังสือในการดำรงตน

Friends' blogs
[Add manow_noi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.