|
นิสิตแพทย์ปีห้า
06 เมษายน 2550
ขึ้นปีห้าแล้วครับ ใสกาวน์สั้นดูภูมิฐาน(แก่) ก็ภูมิฐานไปงั้นเอง ความรู้ไม่ได้มากมายก็เหมือนๆเดิม แถมดูเหมือนจะสั้นลงตามเสื้อกาวน์ซะอีก อันว่ากาวน์สั้นนี้เราใช้ใส่แทนชุดนิสิตไปเลยไม่ได้ใส่คลุมชุดนิสิตอย่างกาวน์ยาวสมันปีสี่ นั่นทำให้เราต้องใส่มันอยู่ตลอดเวลาเป็นที่น่าอึดอัดรำคาญเพราะต้องเก๊กท่าหมอตลอดเวลา เหนื่อยครับ ไม่ใช่อะไรหรอก ให้ขรึมๆทั้งปีทั้งชาติมันก็ไม่ไหว โชคดีที่จิตตกหดหู่อยู่เป็นทุน การตีหน้านิ่งๆก็เลยไม่ยากนัก ที่จริงน่ะก็ขึ้นปีห้ามาได้สักพักแล้ว แต่ไม่ได้เขียนบล็อกรับเปิดเทอม เพราะมีเรื่องสะเทือนใจอย่างรุนแรง เรื่องอะไรน่ะเหรอ เรื่องอะไรจะบอก ก็บอกแล้วว่า"กูอยากเขียนกูก็เขียน"ในเมื่อตอนนี้กูไม่อยากเขียนก็ไม่เขียนน่ะสิครับ แต่สำหรับแขกประจำบางท่านก็คงรู้แหละครับว่าเกิดอะไรขึ้น ที่จริงตอนนี้ถึงจะเรียกไม่ได้ว่าหายแล้วแต่ก็ดีขึ้นพอที่จะดำรงชีวิตไปเรื่อยๆตามปกติ แค่อย่ามีสิ่งเร้ามากระตุ้นแรงๆถึงเรื่องนั้นเป็นอันใช้ได้ ปีห้านี่เรียนออกจะสบายกว่าปีสี่อยู่มาก ยกเว้นศัลยกรรมที่ปีนี้มาในมาดใหม่ไฉไลและโหดร้ายกว่าเดิมจนหลายๆคนบ่นอุบอิบว่าอำมหิตกว่าอารยุรกรรมตอนปีสี่เสียอีก ไอ้ราวด์วอร์ดตั้งแต่เจ็ดโมง มีสอนข้างเตียงแปดโมงถึงเก้าโมงน่ะไม่ว่า แต่ไอ้รายงานแปดฉบับในห้าอาทิตย์นี่มันอะไรครับ จะไม่ให้ได้หลับได้นอนกันเลยเรอะ อยากรู้จริงๆรุ่นพี่คนไหนไปคอมเมนต์ภาควิชาว่ามีรายงานน้อยไปล่ะเนี่ย เคสน้อยล่ะก็ใช่ แต่รายงานเดิมห้าฉบับก็แทบจะบ้าตายแล้วนะ ถ้าเคสมันน้อยนักก็เอาไม้หน้าสามตะบันหัวกันเองก็ได้ ให้เพื่อนมันมีเลือดออกในสมองจะได้มีเคสให้เรียน ไม่ก็เผานั่งยางเพื่อนไปเลยเอาให้เกรียมๆจะได้เรียนเคสถูกไฟลวก ถ้าไม่มีมีไม้หน้าสามก็ใช้ไม้บบรทัดหรือไม้จิ้มฟันแทนไปก่อน ส่วนยางรถยนต์ถ้ามันแพงนัก็ลองเปลี่ยนเป็นยางรัดของแทนไปพลางๆ ตอนนี้ก็อยู่วอร์ดรังสีครับ สบายดีเคสไม่ต้องรับรายงานไม่ต้องเขียนเวรไม่ต้องอยู่ สบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วเรียนก็เป็นห้องหับส่วนตัวดี แต่มีข้อเสียก็คือชีวิตขาดสีสันและมืดมน ก็ดูฟิล์ม X-ray CT MRI อะไรเทือกๆนี้นี่ครับ มันก็มีแต่ขาวๆดำๆ ไม่ค่อยมีสีหรอก เวลาดูก็ต้องปิดไฟมืดๆ(อาจารย์เค้าบอก) ชีวิตก็เลยไร้ซึ่งสีสันและหม่นหมอง แถมห้องเรียนในภาคนี่ดีนะครับอยู่ติดห้องทำ CT ทางคณะก็อุตส่าห์ทำผนังกันรังสีให้ แต่มันดีเกินไปครับเพราะมันกันสัญญาญมือถือจากภายนอกได้ด้วย เป็นอันว่าตอนเรียนรังสีนี่มือถือของพวกเรานิสิตแพทย์ก็ง่อยรับประทานเป็นแถบๆ แต่ทำไมของอาจารย์ใช้ได้ก็ไม่รู้ แปลกดี หรือมันกันได้เป็นค่ายๆไป แต่วันทูคอลของเราไม่มีสัญญาญเลยนะ สุดท้ายนี้อยากขอบคุณเพื่อนๆที่ทำให้ผ่านเรื่องเลวร้ายสะเทือนใจจนกลับมาเขียนเรื่องราวบ้าๆบอๆได้เหมือนเดิม ขอบคุณหลิง สำหรับความเข้าใจ คอยเป็นกำลังใจ และพร้อมจะช่วยเราเสมอ ขอบคุณซายน์ สำหรับสิ่งที่ซายน์ทำให้เรารู้สึกดีๆกับชีวิต ขอบคุณป้อ สำหรับการทนฟังเราบ่น แล้วก็คุยกับเราเวลาที่เราต้องการ ขอบคุณป้าบิ๋ม สำหรับคำแนะนำ ที่ถึงแม้เราจะทำไม่ได้ตอนนี้ แต่เราก็จะพยายามนะ ขอบคุณก็อต สำหรับความเป็นเพื่อน มิตรภาพ และการยอมรับฟังความรู้สึกของเรา คงอีกนาน กว่าแผลนี้จะดีพอที่จะให้เราเป็นเราอย่างที่เราควรจะเป็น และคงอีกนานมากกว่ามันจะหายสนิท ขอโทษที่ตอนนี้ไม่เข้มแข็งพอ
Create Date : 25 กันยายน 2550 |
|
1 comments |
Last Update : 25 กันยายน 2550 14:54:21 น. |
Counter : 580 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]
|
ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี ดูอีกทีดู"................"
เติมเองตามใจชอบเลยครับ
|
|
|
|
|
|
|
ไปอ่านมาในบางหน้า...ชื่อไอติมหรอคะ เก๋ดีนะ