ให้ปากกามันพาไป ให้หัวใจมันขีดเขียน
Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
28 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
ENT

17 กรกฎาคม 2550

ไม่ได้จะไปสอบ entrance ที่ไหนหรอก ENT ย่อมาจาก Ears Nose Throat หรือแปลเป็นไทยว่า โสต ศอ นาสิก ไงละเออ(ทำไมไม่แปลว่า โสต นาสิก ศอ ให้มันตามลำดับก็ไม่รู้เนอะ) วันนี้ก็ขึ้นมาเป็นวันที่สอง วันแรกนั้นเนื่องจากยังทำอะไรไม่ไปน ได้แต่งงๆกับการตรวจคนไข้ของอาจารย์ โชคดีที่แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลนี้มีคนไข้ไม่มากนัก ช่วงบ่ายก็เลยว่าง เราก็เลยฝึกตรวจกันเอง เริ่มจากการเอาไฟสวมหัว คือที่คาดหน้าผากที่มีไฟติดแบบที่คุณหมอๆเค้าใช้กันน่ะ มาใส่ก่อน เราก็ตื่นเต้นกันใหญ่กับการได้เห็นแสงงส่องมาจากหน้าเราเอง(คือ อยากเป็นหิ่งห้อย มีแสงในตัวเอง)

จมูก : เราใช้ Nasal speculum ถ้าจะให้เห็นภาพก็ต้องเรียกว่า"คีมแหกจมูก" แหก...เอ๊ย! ถ่างรูจมูก แล้วก็เอาไฟส่องๆดูตามผนังจมูก คนที่รู้จักไอติมดีก็คงไม่ต้องบรรยายนะว่าเจออะไรในจมูกไอติม.... อย่าบรรยายให้มันทุเรศเลยดีกว่า

คอหอยด้านบน : ตรงนี้ตรวจยากมากเพราะมันต้องให้คนไข้อ้าปาก เปิดคอ หายใจทางจมูก แค่ทำก็ยากจะตายละ แล้วหมอต้องเอาเอากระจกแบบกระจกหมอฟันไปวางตรงโคนลิ้น ซึ่งถ้าทำไม่ดีมันจะไปกระตุ้น Gag reflex ของคนไข้อีก ภาษาชาวบ้านก็คือคนไข้"จะอ้วก"นั่นแหละ ไม่ว่าใครตรวจใคร ไอ้คนโดนตรวจก็อ๊อกซะทุกที จนอาจารย์ต้องแนะนำให้เอายาชามาพ่นๆให้มันชาๆ อาการอ๊อกๆแอ๊กๆจะได้ลดลงบ้าง เราก็พ่นแล้วขมๆดี แล้วก็ชาๆทีนี้ก็ตรวจกันง่ายหน่อย แต่ว่ามันมีผลเสียตรงที่พอชาแล้วมันกลืนน้ำลายไม่ได้นี่สิ หยดแหมะๆอย่างกะหมาบ้า(ดีที่คนไข้ไม่มีแล้ว ใครมาเห็นก็อายแย่)

คอหอยด้านล่าง : ตรงนี้ชาแล้วก็ตรวจง่ายหน่อย ให้คนไข้แลบลิ้น แล้วเราก็ดึงลิ้นคนไข้ เอากระจกหมอฟันบานใหญ่ๆคว่ำลงเอาไปจ่อตรงลิ่นไก่แล้วส่องดู ให้คนไข้พูด "เอ" ไปเรื่อยๆ(อาจารย์บางท่านให้ออกเสียง"อี"แต่ฟังแล้วไม่เป็นมงคลต่อผลการเรียน เอาเป็นว่า"เอ"ดีกว่า"อี"ละกัน) ไอ้ตอนเพื่อนตรวจเราบอกว่าเห็นชัดดี แต่อีนี่ร้อง แอ๊ะๆๆๆๆๆ อย่างกะกำลังโดนเชือดคอ ดูทรมานมากมาย

หู : อันนี้ไม่ยาก แต่ว่าไม่มีใครเห็นอะไรเลย เพราะรูหูทุกคนอัดแน่นไปด้วยขี้หู ส่องไปเจอแต่ขี้หูเต็มเลย ว่างๆก็เลยแคะขี้หูกัน อยากจะบอกว่า"ขี้หูอุดตัน" นี่ทาง WHO จัดเป็นโรคเลยนะชื่อว่า Cerumen Impact มีรหัสเรียบร้อยเสร็จสรรพ วิธีการรักษาคือ"แคะขี้หู"แค่นั้นแหละ หายแล้ว แต่บางคนขี้หูแข็งมาก แคะเลยไม่ได้ ต้องทำการละลายด้วยยาหยอดหูก่อน ใครสนใจอยาป่วยเป็นโรคนี้ดูก็ได้ อ้อ อาจารย์บอกว่า ผู้ชมทางบ้านไม่ควรแคะขี้หูเอง ไม่ควรใช้อะไรที่เล็กกว่าข้อศอกปั่นหู(พูดง่ายๆก็อย่าปั่นหู) ควรเอาไว้ให้เป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญ เพราะผิวหนังในรูหูมันค่อนข้างบาง เดี๋ยวแคะไม่ดีแล้วเป็นแผล หรือไม่ก็แก้วหูลุแล้วจะยุ่ง

ชีวิตก็เรื่อยๆนะตอนนี้ เพิ่งไปถ่ายรูปครุย(ของเพื่อนๆ)ที่ทุมวันมา ตอนเช้าแวะไปไมโครก่อน เอาของฝากยัยหวานไปคารวะอาจารย์อังคนา แล้วพ่อซายน์ก็เอาเรามาส่งที่โรงเรียน ถ่ายรูปๆ แล้วคอมไอ้โจก็พัง เลยรวมรูปใส่ CD ไม่ได้ โชคดีที่เอา Handy drive ไปเลยสบายหน่อยได้รูปมาละ ปกติไปเจอเพื่อนน่าจะเขียนเรื่องเพื่อนเนอะ แต่ว่าขอไปอ่านหนังสือก่อนนะ คิดว่างานนี้คงมีเพื่อนๆเขียนถึงกันมากมายอยู่แล้ว


Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 20:45:10 น. 2 comments
Counter : 418 Pageviews.

 
ไม่ควรใช้อะไรที่เล็กกว่าข้อศอกปั่นหู <อันนี้พ่อเราสอน ๆ


โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:21:00:56 น.  

 
ที่สถาบันโสต ศอ นาสิกเปล่าน้อ


โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:21:01:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน
ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี
ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี
ดูอีกทีดู"................"

เติมเองตามใจชอบเลยครับ
Friends' blogs
[Add คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.