|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไปดูที่เกิดเหตุ
เช้าวันเสาร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๐ นิสิตแพทย์เทอดเกียรติยืนบิดขี้เกียจอยู่ที่บ้านอย่างสบายอารมณ์ คิดว่าวันนี้อยูเวรที่นิติเวช เดี๋ยวค่อยๆไปก็ได้ คงไม่มีใครฆ่ากันตายตอนสายๆอากาศดีๆแบบนี้หรอก ฉับพลัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น "หมอๆ มีคนแจ้งเหตุมา หมออยู่เวรใช่ไหม จะไปดูที่เกิดเหตุหรือเปล่า รถจะออกจากนิติเวชที่ตำรวจแล้วนะ" ฮ่วย นิสิตแพทย์นึกในใจ ซวยล่ะสิตู ทำไงดี ไม่ทันแล้ว... "อาจารย์ครับ แจ้งเหที่ไหนหรือครับ" "ดอนเมือง หมอ ที่ซอยโกมสุมรวมใจ๑๗" "อ่า...แล้วมันอยู่ตรงไหนหรือครับอาจารย์" "ผมก็ไม่รู้ ผมไปกับรถ หมอเอาไง ไม่ไปก็ได้นะ" เรื่องอะไรตูจะไม่ไปวะ นิสิตแพทย์นึกในใจอย่างเคืองๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ไปไม่ได้เฟ้ย "อาจารย์ครับ งั้นผมไปแท็กซี่เลยดีกว่า" "งั้นเจอกันที่เกิดเหตุนะหมอ"
หลังจากแท็กซี่พาไปหลงอยู่พักใหญ่ ที่จริงน่าจะถามพวกวินมอเตอร์"ซค์รับจ้างแต่เนิ่นๆว่าตรงไหนที่มีเหตุฆ่ากันตาย นิสิตแพทย์หน้าตาตื่นเต้นก็ไปถึงจุดเกิดเหตุ อันมีรถตำรวจจอดอยู่เกือบๆสิบคัน พร้อมกับฝูงตำรวจไม่ต่ำกว่ายี่สิบนายเดินขวักไขว่ ทันทีที่นิสิตแพทย์ในชุดเสื้อกาวน์โผล่หน้าไป สายตาทุกคู่ก็จับจ้องมาเป็นตาเดียว เสื้อสีขาวบริสุทธิ์ท่ามกลางดงเสื้อสีกากีเป็นจุดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย เหล่าตำรวจ"เชิญ"นิสิตแพทย์เข้าที่เกิดเหตุอย่างกระวีกระวาด เล่นเอานิสิตแพทย์ขวัญหนีดีฝ่อเพราะตกใจ แต่ก็ทำเป็นเก๊กหมอ เดินผ่านสายกั้นสีเหลืองๆเหมือนในหนังไม่มีผิด น่าเสียดายที่น้องชายมันชิงเอากล้องไปทำไรไม่รู้ ไม่งั้นคงได้เก็บภาพมาฝากกัน นิสิตแพทย์ทำเนียนๆขึ้นไปดูศพ แล้วก็บอกกับสารวัตรว่า ครับ รออาจารย์ผมก่อนนะครับ.... แป่ว พอตำรวจรู้ว่าไอ้ชุดขาวๆนี่เป็นนิสิตแพทย์ เหล่าตำรวจก็เลิกให้ความสนใจในทันที(ไม่น่าบอกเลยตู) แต่ก็ทำให้เราตระหรฃนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเสื้อกาวน์ขึ้นมาอีกคำรบหนึ่งว่า ชุดนี้เป็นชุดที่ทุกๆคนใหเกียรติ ให้ความเชื่อถือ และให้ความคาดหวังอย่างสูงสุกด ไม่ใช่ชุดที่จะเอามาใส่อวดกันเล่นๆ หรือใส่ไปเดินเที่ยวไปไหนต่อไหนให้เตะลูกตาคนเพราะมันเท่ห์ดี นึกถึงคำของรุ่นพี่ในวันมอบเสื้อกาวน์"ชุดนี้ น้องใส่แล้วมันมีศักดิ์ศรีค้ำคออยู่นะครับ พี่ไม่อนุญาติให้น้องๆใส่ออกไปข้างนอกโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น" วันนั้นอยู่ปีสี่ ตอนนี้อยู่ปีห้า พี่ๆยอมให้ใส่กาวน์สั้นไปไหนต่อไหนได้แล้วก็จริง แต่ก็นั่นแหละมันก็ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษไม่ว่าเราจะทำอะไร
ภายในบ้านที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จนั้น ชั้นบนมีศพชายวัยกลางคนนอนหงายศรีษะจมกองเลือด มีกุญแจรถคาไว้ที่ปาก ไพ่พลาสติกกระจายอยู่รอบศพ ดูรอบๆศพพบกล่องโทรศัพท์มือถือโนเกียร์รุ่นไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าดีกว่าที่หมอใช้อีกสามกล่อง(เป็นคนงานก่อสร้างนี่รวยกว่าเป็นนิสิตแพทย์แฮะ)สภาพศพ ดูไม่เห็นจะน่ากลัวเลย(หรือว่าเราเจอจนชิน)
หลังจากที่อาจารย์มาถึงก็ทำการชันสูตร"พลิกศพ"ที่ต้องเรียกแบบนี้ เพราะการชันสูตรทุกครั้ง นอกจากจะระบุว่าผู้ตายเป็นใคร ใส่เสื้อผ้าสีอะไร นอนท่าไหนแล้ว ยังต้อง"พลิก"ศพทุกๆครั้งเพื่อตรวจหาบาดแผลและจ้ำภายหลังตาย รวมไปถึงตำหนิและรอยแผลเป็นอื่นๆที่อาจอยู่อีกด้านหนึ่งของศพได้
ไม่ขอใส่รายละเอียดการชันสูตร อาจารย์บอกว่าหมอไม่ควรบอกอะไรแก่สาธารณะชนจนกว่าจะแน่ใจในข้อเท็จจริง และไม่ควรให้ข้อมูลอันจะทำให้เสียรูปคดี ทีนี้ไอ้ข้อมูลแบบไหนล่ะที่จะทำให้เสียรูปคดี ในเมื่อเราไม่รู้ ก็ไม่บอกอะไรเลยนั่นแหละดีที่สุด
วันนี้หนังสือพิมพ์ลงข่าวคดีที่ผมไปดูครับ
"คนงานสุดแค้น หน.โกงไพ่-ทุบหัวเละ ใช้ค้อนปอนด์กระหน่ำ เผ่นหนีแบบลอยนวล" แค้นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ศพมันพูดไม่ได้แล้วง่ะ คนทำก็ไม่อยู่ซะด้วยสิ
โกงหรือเปล่าก็ไม่รู้ อันนี้ถามตำรวจที่สอบสวนดีกว่า แต่หัวที่ถูกทุบไม่เละนะ ทำไมลงข่าวอย่างนี้ล่ะ ยังไม่เละนะ ยังเป็นหัวอยู่เลย แต่มีแผล
กระหน่ำ?? เดี๋ยวนี้ตีกี่ทีมันก็เรียกกระหน่ำหมดเลยแฮะ น่าจะมีบัญญัติศัพท์เนอะว่าต้องมากกว่า....ทีขึ้นไป ถึงเรียกกว่ากระหน่ำได้
ไอ้ที่หลบหนี เราไม่เกี่ยวฮะ เป็นเรื่องของตำรวจ
Create Date : 14 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 14 ตุลาคม 2550 15:17:44 น. |
|
8 comments
|
Counter : 443 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]
|
ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี ดูอีกทีดู"................"
เติมเองตามใจชอบเลยครับ
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องเธอคนนั้นที่คุณเขียนก็เหมือนนักเขียนนิยายตัวจริง
ที่เคยอ่านมาบ่อยๆ เขียนเก่งจัง เรื่องนี้ก็เหมือนกัน
เป็นเรื่องสั้นจากประสบการณ์จริง
ต่อไปถ้าทำงานคงมีอะไรมาเขียนได้มากมายทีเดียว
ฝืมือการเขียนเหมือนนักเขียนเลย
ที่กล่าวเช่นนี้เพราะเคยอ่านหนังสือมาทุกประเภท