..ความเครียดเหมือนของหวาน ยิ่งกินยิ่งดุ...^_^'
ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเวลา up blog เท่าไหร่ ( ไม่มีอารมณ์ ว่างั้นเหอะ 5555 )
รู้สึกชีวิตจะยุ่งเหยิงไปหน่อย เหมือนเชือกที่ต้องคอยแกะทีละปม ทีละปม แก้ทีละเปาะ ทีละปัญหา ทำให้เราเรียนรู้ว่า เราต้องแก้ปัญหาทีละเรื่อง และ แก้ให้จบ เพราะ พรุ่งนี้ มะรืน มะเรื่อง มะโว้ อาจจะมีเรื่อง เข้ามาอีก
เราไม่ท้อหรอก แต่ กลับชอบซะอีก ทีทำให้ชีวิตไม่ได้อยู่เพื่อ หายใจทิ้งไปวันๆ แรกๆ อาจจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอเจอหลายเรือ่งๆ เข้า ทำให้เรากลายเป็นนักแก้ปัญหาขั้นเทพ ไปแล้ว แน่ะ.. ชงเอง กินเอง
มีหลายครั้งเหมือนกัน ที่เราต้องหยุด หยุดแม้กระทั่ง ต้องมาฝึกหายใจ และ นับหนึ่ง เพื่อควบคุม อารมณ์ และ จิตใจ ของเราเอง ฝึกที่จะ นิ่ง เงียบ สงบ เพื่อสยบปัญหา
พอคิดย้อนเรื่องๆ ต่างๆ ที่ผ่านมา ผิดก้อมี พลาดก้อเยอะ ล้มเหลวก้อเพียบ
แต่เราก็ไม่ท้อหรอก หลายเรือ่งกลายเป็นเรือ่งเล่าสู่กันฟัง บางเรื่องก้อขำไม่ออก บางเรื่อง ก้อ ฮา ดีเหมือนกัน
อย่างที่บอกแหละ ........ความเครียดน่ะเหมือนของหวาน ยิ่งกินยิ่งดุ ยิ่งกินยิ่งอร่อย แต่อย่ากินบ่อย เดี๋ยวโรคถามหา ....^_^'
ยิ่งได้ดู ซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่อง บันทึกน้ำตา 1 ลิตร 1 Litre of Tears ( ดองไว้นานนนน มากแล้ว เพิ่งจะหยิบขึ้นมาดู )
ทำให้รู้สึกว่า เรื่องของเราเนี่ยเล็กกระจิดริดเท่าผงฝุ่นจริงๆ มันเป็นเรื่องจริงที่ ถ้าเป็นเรา เราจะยอมรับและสู้ได้ขนาดนี้หรือเปล่า ประทับใจจริงๆ
ละครเรื่อง 1 Litre of Tears สร้างขึ้นมาจาก ไดอารี่ 1 Litre of Tears ที่ คิโตะ อายะ เด็กผู้หญิงที่ต่อสู้กับโรคร้ายมาตลอดได้บันทึกไว้ เป็นหนังสือที่เอาไดอารี่ของเธอทั้ง 46 เล่มมาสรุปและพิมพ์จำหน่ายในชื่อ 1 Litre of Tears ที่ทำให้ทุกคนประทับใจและจำหน่ายได้ถึง 1.2 ล้านเล่ม และหลังจากที่ละครเรื่องนี้ฉายเป็นละครแล้ว ยอดจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นถึง 1.8 ล้านเล่ม ตอนสิ้นปี 2548
และไดอารี่ 1 Litre of Tears นี้ยังได้สรุปบันทึกที่ คิโตะ ชิโอกะ แม่ของอายะ เขียนเอาไว้ในเรื่อง "อุปสรรคของชีวิต" รวมอยู่ในไดอารี่ 1 Litre of Tears นี้ด้วย และวันที่ 23 พฤษภาคม 1988 อายะ ทิ้งความประทับใจเอาไว้ในโลกนี้ และเดินทางสู่สรวงสรรค์ รวมอายุได้ 25 ปี ละครเรื่อง 1 Litre of Tears นี้ เป็นละครชีวิตที่ให้กำลังใจกับคนญี่ปุ่นสมัยนี้ โดยในละครเรื่องนี้ ได้แทนนามสกุลจริง คิโตะ เป็น นามสกุล อิเคอูจิ
"ฉันมีชีวิตต่อเพื่ออะไรกันนะ" นี่คือ ประโยคหนึ่งจาก ไดอารี่ 46 เล่ม ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเขียนไว้ตลอด ระยะเวลาที่ต่อสู้กับโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษานี้ คิโต อายะ เกิดปี 1962 เป็นโรคที่ชื่อว่า Spinocerebellar Degeneration ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ในตอนอายุ 14 ปี เป็นโรคที่รักษาได้ยาก อาการของโรคจะทำให้สมองส่วนการรับรู้ จะยังทำงานเป็นปกติ แต่จะค่อยๆเสื่อมลง และควบคุมร่างกายไม่ได้ไปทีละอย่าง ซึ่งไดอารี่ทั้ง 46 เล่มนี้ ก็คือบันทึกการต่อสู้กับโรคตั้งแต่เริ่มมีอาการ จนถึงตอนที่อายะไม่สามารถ ควบคุมแขนของตัวเองให้เขียนได้ เสมือนเป็นเสียงตะโกนที่ร้องขอการมีชีวิตอยู่ต่อ จากส่วนลึกของหัวใจเธอ
"โรคนี้ทำไมถึงเลือกฉันนะ" นี่คืออีก ประโยคหนึ่งจาก ไดอารี่ 46 เล่ม ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งทั้งๆ ที่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่ก็ยังพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปกับโรคร้ายนั้น ทุกๆ วันที่ถูกรายล้อมไปด้วย ความรักทั้งของครอบครัว และคนรัก และเพื่อนๆ ที่คอยช่วยเหลือ ร้องไห้และหัวเราะด้วยกัน อยากใช้ชีวิตกันต่อไป เป็นละครชีวิตที่ให้กำลังใจกับคนญี่ปุ่นสมัยนี้
"ร้องไห้เสียน้ำตาไปหนึ่งลิตร" เป็นอีก คำพูดหนึ่งที่ คิโตะ อายะ ได้พูดกับเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย ตอนที่จะลาออกจากโรงเรียนไปอยู่ที่โรงเรียนคนพิการ เนื่องจากไม่อยากทำให้เพื่อนทุกคน ในห้องต้องลำบากใจ เพราะเพื่อนๆ ในห้องส่วนใหญ่กลัวจะเรียนไม่ทัน จะสอบต่อมหาวิทยาลัยไม่ได้ เพราะอาจารย์ต้องสอนช้าลง เพื่อให้ อายะ สามารถจดตามได้ทัน เนื่องจากเมื่ออายะ เป็นโรคนี้แล้ว ช่วงแรกก็ยังพอเดินได้ปกติ แต่หลังจากนั้นก็เดินได้ยากขึ้น จนในที่สุดเวลาจะเดินต้องนั่งรถเข็น และเวลาเขียนก็ไม่สามารถเขียนได้เร็วเท่าคนปกติ โดยที่จริงๆแล้ว อายะ ไม่อยากจะไปที่โรงเรียนคนพิการ แต่อยากจะอยู่ที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนต้องลำบากเพราะตนเอง จึงได้ตัดสินใจลาออก โดยที่เธอได้บอกกับเพื่อนๆว่า กว่าเธอจะตัดสินลาออกได้ ต้องนอนร้องไห้เสียน้ำตาไปหนึ่งลิตร ...........
เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้าเสียน้ำตา เป็น 100 ลิตร เลยกระมั๊งงง เศร้าจริงๆ
ขอบคุณภาพจาก kapook.com
Create Date : 26 มกราคม 2552 |
|
11 comments |
Last Update : 26 มกราคม 2552 18:01:06 น. |
Counter : 1039 Pageviews. |
|
|
ทำเอาน้ำเกือบท่วมบ้าน
เพราะน้ำตาไหลพราก ๆๆๆๆ เหมือนกันค่ะ