อยากเป็นนักเขียนควรเริ่มต้นอย่างไร....?
ช่วงนี้อ่านหนังสือหลายเล่ม..จะเน้นไปในแนว ธรรมะ และ Howto ในการพัฒนาตนเอง ทั้งทางด้านความคิด และ สติปัญญา เลยคิดอยากจะนำความรู้ที่ได้มาเล่าให้คนอื่นได้ฟังบ้าง
เลยนั่ง Search google หาวิธีการเป็นนักเขียน.. นั่น...หวังสูง อิอิ
ก็ได้คัดมา ลิ้ง 2 ลิ้ง ที่น่าสนใจ เลยนำมาเก็บไว้เผื่อใครสนใจอยากเป็นนักเขียนบ้าง จะได้แบ่งปันกันไปนะคะ
อันที่ 1 ได้มาจาก msn.. อยากเป็นนักเขียน(มืออาชีพ) มีเคล็ดลับมาบอก
อันนี้ก็สรุปมาจากลิ้งข้างบนค่ะ
1. ต้องปลูกนิสัยรักการอ่าน คือ อ่านให้หมดทุกแนว.. เป็นยาขมนิดนึงเพราะอ่านไม่ได้ทุกแนว ยิ่งนิยายไม่ค่อยได้อ่านเลย
2. หาแนวให้เจอ ชอบแนวไหนก็เขียนแนวนั้น 3. ฝึกอดทนจากง่ายไปยาก เหมือนนักยกน้ำหนักที่ ค่อยๆ ยกจากน้ำหนักน้อยๆ ไปหาน้ำหนักมากๆ 4. เคล็ดเด็ดๆ เคล็ดง่ายๆ อันนี้ขอลอกมาเลยละกันนะ มันยาว
ประชาคมแม้จะออกตัวว่าเขามิใช่นักเขียนที่ประสบความสำเร็จ และรางวัลมิใช่เป้าหมายสูงสุดของเขาในชีวิตของการเป็นนักเขียน โดยให้เหตุผลว่า งานเขียนหรืองานศิลปะทั้งหลายถ้ามีเป้าหมายอยู่ที่รางวัลจะทำให้เสียความบริสุทธิ์ เพราะเป็นการทำงานโดยพื้นฐานของตัณหาราคะ ความอยากเด่นอยากดัง และรางวัลก็เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่จูงใจให้นักอ่านเข้ามาดูผลงานเท่านั้น
แต่ประชาคมก็ไม่หวงวิชาที่ได้สั่งสมมา 10 กว่าปี ได้เปิดเผยถึงเคล็ดลับที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จเอาไว้
1.เรียนรู้จากผู้อื่น : หมายถึงการอ่านหนังสือของผู้อื่น อ่านประวัติของนักเขียน ศิลปิน บุคคลที่ประสบความสำเร็จ บุคคลที่ล้มเหลว บุคคลสำคัญๆ ศึกษาการเดินทางของคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งพวกเขามีเส้นทางให้ได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวเป็นตัวอย่างอยู่มากมาย
การอ่านงานของคนอื่นนอกจากเราจะมีความสุข ความรื่นรมย์แล้ว ยังได้เทคนิค กลวิธี ได้ภาษา และอะไรอีกมากมาย หลายอย่าง ประชาคม ยืนยัน
2.ตื่นขึ้นมาทำงาน : ประชาคมเล่าว่า อะไรที่คิดไว้แต่เมื่อคืนจะตื่นขึ้นมาทำเรื่องราวอะไรที่คิดไว้เมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา เรื่องไหนที่กระตุ้นตัวเราที่สุดก็ต้องตื่นขึ้นมาเขียนทุกๆ วัน โดยไม่คิดว่าจะได้รวมเล่มไหม จะได้รางวัลไหม รู้เพียงว่าเป็นงานที่ทำแล้วมันเติบโตข้างใน สำนึกเราดีขึ้น
3.จินตนาการถึงความสำเร็จ : งานที่ดีต้องมีทีเด็ดในการสร้างสรรค์ ต้องมีอะไรพิเศษ ซึ่งต่างจากงานพื้นๆ ซึ่งจะเป็นงานที่ไม่ถูกกล่าวถึงและถูกหลงลืม เพราะฉะนั้นการเขียนจะต้องมีกลวิธีพิเศษ การใช้ภาษาพิเศษ มีการนำเสนอพิเศษ และพลังของเรื่องมันก็ต้องมีพลังที่พิเศษ
ช่วงที่ผมเขียนหนังสืออยู่นั้นไม่มีความสำเร็จอะไร ทั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ห้องเช่าแคบๆ ทำงานวันต่อวัน ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทำงานเหงื่อท่วมตัวกับพิมพ์ดีดเครื่องเก่าๆ ถ้าอนาคตผมอยู่ในสิ่ง ที่ดีกว่านี้ สักวันหนึ่งงานของผมจะได้การ รวมเล่ม สักวันหนึ่งงานของผมจะมีคนอ่านทั่วประเทศ สักวันหนึ่งงานของผมจะได้ถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศ
นี่คือจินตนาการ แม้เราจะอยู่ในที่ที่ไม่สวยงาม ในที่ที่แคบๆ แต่จินตนาการของเราต้องกว้างใหญ่ไพศาลกว่านั้น
4.ทำความคิดให้ใหม่สด : เรื่องราวอะไรต่างๆ คนอื่นนำเสนอมาหมดแล้ว แต่นักเขียนที่ฉลาดจะต้องเสนอ แง่มุมของตนให้แปลกต่างจากคนอื่น อย่างเรื่องประวัติศาสตร์ ถ้าจะเขียนเชิดชูวีรบุรุษ วีรสตรี ก็มีคนเขียนมากแล้ว ในเรื่องนี้เราอาจหยิบตัวละครที่ไม่สำคัญหรือตัวละครกบฏ ก็ได้มานำเสนอ
นี่คือการมีมุมมองและความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น
5.บดให้ละเอียด : ประชาคมเล่าว่า การจะเขียนถึงสิ่งไหนจะต้องรู้แจ้งในสิ่งที่จะเขียน ข้อมูลของตัวละคร ข้อมูลของเหตุการณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องกระจ่างแจ้งในใจเรา
6.ต้องละเมียดละไม : เรื่องราวทุกเรื่องจะต้องมีความหมดจดงดงาม ตั้งแต่การใช้ภาษา ตัวเรื่อง นักเขียนจะมีฝีมือมากน้อยกว่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะทำเนื้อหาให้กลืนเข้าไปในเนื้อเรื่องได้ดีกว่าคนอื่น ทำให้มันกลมกลืนเหมือนอาหารสำรับหนึ่งที่ปรุงได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนคนอ่าน ไม่อาจแยกออกเลยว่า ตรงไหนเป็นเนื้อหา ตรงไหนเป็นเนื้อเรื่อง
7.ถอดหัวใจให้กับงาน : ประชาคมอธิบายว่า นักเขียนที่ดีจะต้องใส่ใจกับงานที่ตนเขียน หนังสือทุกเล่มของ นักเขียน เขาบอกว่ามีหยดเยิ้มของหัวใจของนักเขียนอยู่ทุกตัวอักษร
8.ขยันให้เป็นปกติ : ประชาคมเล่าว่า การที่จะเป็นนักเขียนมืออาชีพนั้น อย่าพูดถึงวินัย อย่าพูดถึงการบังคับตัวเอง แรงบันดาลใจสามารถสร้างได้ ไม่ต้องไปหา ไม่ต้องอ้อนวอนขอพรพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นักเขียนทั้งหลาย แรงบันดาลใจสร้างได้ อารมณ์สร้างได้
ผมก็ไม่เก่งหรอก แต่ในระยะ 10 กว่า ปีที่ผ่านมา ทำงานเขียนโดยไม่เอียงคิ้ว ความขยันหมั่นเพียรเป็นความปกติ เป็น กิจวัตรตื่นขึ้นมาทำงาน วางแผนวางโครงเรื่องอะไรไว้ทำได้ตามที่คิด ทำได้เท่าที่คิด เหมือนชาวสวนที่ตื่นเช้ามาก็ออกไปทำสวน เหมือนชาวนาที่รุ่งเช้าเอาควายออกไป ท้องทุ่ง ผมก็เหมือนกัน ตื่นเช้ามาก็เข้าสู่ โต๊ะทำงาน ไม่ใช่ความขยันหมั่นเพียรแต่ เป็นเรื่องวิถีชีวิตปกติ ประชาคมเล่าด้วย รอยยิ้ม
อย่างไรก็ตาม ประชาคมทิ้งท้ายว่า การที่จะมีนักเขียนเกิดขึ้นนั้นจะต้องมีนักอ่านที่ดีด้วย เพราะก่อนที่จะเป็นนักเขียนที่ดี ก็ต้องเป็นนักอ่านที่ดีมาก่อน ถ้ามิได้เป็นนักอ่านที่ดี ไม่เคยเห็นงานของคนอื่น ไม่เคยคิดที่จะอ่าน ไม่เคยสร้างจินตนาการจากงานของคนอื่นๆ พอเวลามาถึงงานของตัวเองก็จะไม่สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้
ผมคิดว่าไม่ว่าใครก็ตามที่อยากเป็น นักเขียน ถ้าทำอย่างนี้ได้แล้ว ผมเชื่อว่าเขา ต้องได้รางวัลและก็มีความสุขอย่างแน่นอน ประชาคมย้ำหนักแน่น
ส่วนอีกลิ้งนึงเค้าไม่ให้ copy เลยเก็บลิ้งไว้ละกัน
//www.deewrite.com/knowledge/beingwriter.html เค้าบอกว่า อยากเขียนเก่งต้องลงบันทึกทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นบันทึกในสมุดหรือบันทึกออนไลน์ และใช้ภาษาเขียนในการบันทึก ทุกอย่างต้องมีการฝึกแล้วเราก็จะเก่งขึ้นค่ะ
สำหรับตัวเอง ก็แค่อยากเขียนได้และเล่าอะไรได้สนุกเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง ถ้าเขียนได้แค่นี้ ก็ดีใจแล้ว
Create Date : 02 กันยายน 2551 |
|
24 comments |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2551 16:30:18 น. |
Counter : 716 Pageviews. |
|
|
|
แฟนคุณประชาคม
อยากเป็นนักเขียน...จงเขียนให้เยอะ