มกราคม 2551

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
26 มกราคม 2551
All Blog
E-ติ๊กแสนแปด
E-ติ๊กแสนแปด เรื่องนี้ต้องขยาย



ความปรารถนาดีที่งามเป็นหนึ่งเกี่ยวกับวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย ดำเนินต่อไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ กระนั้นก็ตามยังมีคนมาลองของเล่นเกมกับอาจารย์เฉลิมชัยเสมอ และสิ่งที่ชาวบ้านร้านตลาดต้องจดจำมาจารโจษกันยาวนาน ก็คือเรื่องของแม่ค้าหน้าวัดนามคุณติ๊ก ส่วนจะดุเด็ดเผ็ดมัน (ส์) แค่ไหน ต้องอาจารย์เฉลิมชัยเท่านั้นเป็นคนเล่า

“เมื่อก่อนเวลาที่ขอร้องใครเกี่ยวกับเรื่องวัดแล้วเขาไม่ยอมทำตาม ก็จะมีมาตรการเด็ดขาด อย่างแม่ค้ารอบวัดนี่เราไม่ได้ผลประโยชน์อะไร ปล่อยให้ขายด้วยความเมตตาที่มีต่อพวกชาวบ้าน ต่างก็ทำร้านให้เช่า ก็เช่ากันไป แต่ขออย่างเดียวคือกฎระเบียบ หนึ่ง ต้องทำความสะอวดให้เรียบร้อย แต่ถ้าเราด่ามันก็ดีขึ้นทุกวันๆ เพราะความกลัว พอคนมาเยอะๆ เข้า เรื่องก็เกิดขึ้นเยอะ

“แต่เรื่องหนึ่งคือลูกค้ามากินข้าวที่ร้านแม่ค้าแล้วเกิดของหาย ถ้าของหายในวัด ประกาศแป๊ปเดียวก็ได้คืนหมด เราก็ไปเตือนแม่ค้าว่าขอให้พวกเขาช่วยกันสอดส่องดูแลสมบัตรของนักท่องเที่ยว ถ้าเขาทำหายหรือลืม หากใครเก็บได้ให้นำมาคืนทันทีที่ประชาสัมพันธ์ จะประกาศให้”

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ร้านคุณติ๊ก ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยมักจะเรียกผู้หญิงทั้งหลายว่า e-ติ๊ก ร้านนี้มีของหายอาจารย์ก็ไปเตือน

“e-ติ๊กๆ กูบอกมึงไว้ก่อน มึงอย่าให้ของมาหายที่ร้านมึงอีกเด็ดขาด ครั้งที่แล้วของเขาสองพันกว่า เขาวางไว้บนโต๊ะมึงแล้วกลับมา มึงบอกว่าไม่มี ไม่มึงก็ลูกน้องมึงเอา e-ห่า มึงทำอย่างนี้วัดเสียหาย มาอาศัยวัดแดก มึงอย่าทำอย่างนี้อีกเด็ดขาด ขอร้อง กูขอร้องมึงอย่าทำนะ...e-ติ๊กละล่ำละลักบอก เจ้าๆๆๆๆ” (ค่ะๆๆๆๆ)

แต่อีกไม่นานนัก ของนักท่องเที่ยวก็หายที่ร้าน e-ติ๊กอีก คราวนี้จำนวนเงินเพิ่มเป็นห้าหมื่น รวมทองด้วย งานนี้ผีตัวมหึมาใหญ่เท่าภูเขาเลากาเข้าสิงอาจารย์เฉลิมชัยอย่างจัง มึงเจอแน่ e-ติ๊ก-กกกกกก ร่างอันเจ็บแค้นของอาจารย์เฉลิมชัยส่ายอาดๆ เข้าในยังร้าน e-ติ๊ก

“e-ติ๊ก e-ชาติหมา กูให้มึงคืนของเขา กูเตือนมึงแล้วนะว่าห้ามมีครั้งที่สอง มึงอยากลองดีกับกูเหรอ...มันบอก...ไม่ได้อยากลองดี...แต่ไม่ได้เอาๆๆ...มึงอย่า...อยากลองดีเดี๋ยวกูไปประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงนะ...มันบอก...ไม่ได้อยากลองดี อาจารย์จะทำอะไรก็ทำไปสิ...”

ปั๊ดโธ่...งานนี้มีเฮ อาจารย์เฉลิมชัยเดินดุ่มไปหยิบไมโครโฟนมาประกาศด่า e-ติ๊กออกไมโครโฟนวัดดังชัดแจ้งแดงแจ๋

“e-ติ๊ก...e-ห่า นี่มึงเป็นคนอย่างไร มาอาศัยวัดฮากเลือด (แรงกว่าแดก) แล้วของเขาหายไปคราวที่แล้ว คราวนี้หายอีกห้าหมื่น e-วอก ขอสาปแช่งมึง ขอให้มึงเจ๊ง ขอให้มึงตกต่ำ ขอให้มึงฉิบหาย e-ห่าตั่ง แล้วเปลี่ยนเสียงเป็นภาษากรุงเทพฯว่า เรียนท่านนักท่องเที่ยวที่เคารพรัก ถ้ามาอย่าไปซื้อร้าน e-ติ๊กนะครับ เพราะมันขี้ขโมย”

พูดยังไม่ทันขาดคำ ลูกศิษย์ก็วิ่งมาตะโกนบอกว่ายายติ๊กไม่ได้ยินหรอก เพราะเครื่องขยายเสียงไม่มีกำลังไปถึงฟากร้าน e-ติ๊ก รถปิ๊กอัพมาจอดยังไม่ได้ยินเลย คนก็ยังเดินเข้าร้านมัน ไม่ได้ยินที่อาจารย์ด่า คราวนี้เดือดขึ้นเป็นคำรบสอง พลางพ่นคำออกมาสุดเสียง

“หา...!!! มันไม่ได้ยินเหรอ ชาติหมา ไอ้ดอนมาเดี๋ยวนี้เลย เอาเงินไปซื้อลำโพงที่แพงที่สุด ดังที่สุด ชุดใหญ่ที่สุด เป็นเท่าไหร่ก็ไม่สน ไปซื้อเดี๋ยวนี้ ภายในบ่ายสามโมงต้องได้ วันนี้กูจะด่า e-ติ๊กใหม่ เอาให้แสบกว่าเดิม”

แต่สิ่งที่อาจารย์เฉลิมชัยได้ยินภายหลังจากนายดอนหายตัวเข้าไปในเมืองก็คือ

“อาจารย์ๆ ลำโพงที่แรงที่สุดและดีที่สุดแสนแปดจะเอามั้ย” คงไม่ต้องตอบเอาให้เสียเวลา เพราะภายในอีกไม่นานนัก ลำโพงใหม่แกะกล่องก็ถูกนำไปติดตั้ง หันเครื่องขยายเสียงไปทางร้าน e-ติ๊ก ด้วยวิถีเสียงที่ไปไกลถึงห้ากิโลสี่ทิศ เป้าหมายก็คือด่า e-ติ๊กนั่นเอง

“กราบเรียนท่านนักท่องเที่ยวที่เคารพรัก ขอความกรุณานะครับ เดี๋ยวผมจะพูดภาษาเหนือ ท่านอย่าตกใจนะครับว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นท่านอาจฟังไม่รู้เรื่อง นั่นคือการเริ่มต้นด่าร้านขายของที่เอาเปรียบประชาชน ท่านอย่าตกอกตกใจนะครับ ผมจะเริ่มด่าบัดนี้ครับ

(ปรับเสียงให้ดังลั่นสูงปรี๊ด) “e-ติ๊ก...กูจะด่ามึงทุกวัน...บอกแล้วนะว่าร้านไหนก็ตามที่ทำแบบนี้ต้องโดน มึงทำลายพี่น้องนักท่องเที่ยว ทำลายวัดร่องขุ่น มึงทำลายหมู่บ้านร่องขุ่น ขอให้มึงเจ๊งฉิบหาย กูจะด่ามึงทุกวัน ไม่ให้ประชาชนไปซื้อของร้านมึงคอยดู...เป็นไงครับท่านผู้มีเกียรติครับ ท่านคงตกอกตกใจนะครับ ภาษาผมโหดไปหน่อย ขอกราบเรียนท่านว่าสันดานผมเป็นแบบนี้”

มีหรือที่คุณนายติ๊กจะไม่ยอมมาขอโทษขอโพยอาจารย์เฉลิมชัย ตั้งแต่นั้นเหตุการณ์ก็เงียบสงบ ไม่ปรากฏของหายอีกเลย

“คิดดู ใครกล้ามั้ย ด่าสะใจ แสนแปด ด่าสิบโมงกว่า มันไม่ได้ยิน บ่ายสามลำโพงมา ด่าจนสะใจ จนคนร่ำลือ อาจารย์นี่มันผีบ้านะ มันซื้อลำโพงมาแสนแปดเพื่อด่า e-ติ๊ก นักท่องเที่ยวงี้สะใจ สุดยอดฉิบหายอาจารย์ อีกไม่กี่วัน e-ติ๊กเอาโทรศัพท์มือถืออย่างแพงมาคืนแขกลืมไว้ เราก็ประกาศทันที

“ตอนนี้ร้านคุณติ๊กเขาดีมากเลยครับ แหม...เมื่อก่อนนี้เป็นความผิดพลาดของคุณติ๊กเขาครับ ผมเพิ่งด่ามัน แช่งมันฉิบหาย แต่วันนี้ขอชื่นชมคุณติ๊กนะครับ ขอให้เฮงๆ รวยๆ ของขายดีรับทรัพย์เยอะๆ นะคุณติ๊ก เอาละ โทรศัพท์นี้ของใครก็มาเอาคืนนะครับ”

จากวันที่ถูกสอนธรรมะจนถึงวันนี้ คุณติ๊กก็กลายร่างเป็นคนดี สมกับที่ถูกด่าอย่างไรลืมหูลืมตาจากอาจารย์เฉลิมชัย ชะรอยคุณติ๊กคงจะคิดว่าผู้ใหญ่ด่าคือผู้ใหญ่ให้พรเป็นแน่แท้



จากหนังสือ “ไม่ธรรมดา “เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ”

ร้อยเรียงโดย “เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ”




Create Date : 26 มกราคม 2551
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 23:18:52 น.
Counter : 413 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LiTa Long Time Can't See
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นพนักงานบริษัทเอกชน มาถึง 12 ปี
กำลังจะพยายาม เปลียนมาเป็น "เจ้านายตัวเอง"
หรืออีกนัยหนี่งคือ "ลูกจ้างตัวเอง"

ณ. เวลาขณะนี้ (01-06-09)
การเดินทางครั้งใหม่ กับเส้นทางใหม่ ๆ ที่เลือกเอง
มาถึงแล้ว จากที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ กำลังจะนับ 1.2..3...4.... ไปเรื่อย ๆ แล้ว

" การเปลียนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นเรามีสติพร้อมที่ยอมรับ
และจัดการกับการเปลียนแปลงนั้นได้มากขนาดใหน"