Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 เมษายน 2553
 
All Blogs
 

:: REVIEW :: My Skincare (Moisturizer)

วันนี้ Lilac ขอแนะนำ Moisturizer ที่ Lilac ใช้อยู่ค่ะ ตอนนี้มีสามกระปุก ใช้สลับๆ กันไป ตามสถานการณ์และสภาพผิวในแต่ละวัน ก่อนอื่น ต้องบอกกันก่อน เพื่อพิจารณาสภาพผิวของ Lilac ควบคู่ไปกับรีวิวนะคะ


1. ผิวเคยมันมากเมื่อตอนวัยรุ่น และเป็นสิวบริเวณ T-Zone และเนื่องจากผิวขาวจึงมองเห็นรอยสิวชัดทุกจุดเลย แต่ก็ยังดีที่แก้มยังใสอยู่
2. เคยรักษาสิวมาหลายคลินิก ใช้ยาสิวมานับไม่ถ้วน รวมถึงทำทรีตเมนต์และเลเซอร์หลายประเภท และรู้ตัวว่าผิวบางพอควรเลยล่ะค่ะ 
3. ตอนนี้แก่ขึ้น ผิวแห้งค่ะ แล้วก็มาเป็นสิวที่แก้มแทน Smiley Lilac เคยเป็นสิวอักเสบมากเจ็บหน้าระบมไปหมด แต่ตอนนี้ดีขึ้นมาก ก็เลยไม่ค่อยกล้าจะเปลี่ยน skincare ค่ะ เพราะไม่รู้ว่าสิวหายเพราะตัวไหน หรือรวมๆ กัน หรือ เพราะแก่จนสิวไม่ขึ้นไปเองก็ไม่รู้ แหะๆๆ Smiley
4. ใครๆ ก็บอกว่ารอยสิวจะจางไปเองภายในหกเดือน แต่ Lilac คิดว่าผิว Lilac ไม่รักษาตัวเองเลย และเป็นรอยง่ายมาก ถ้าเป็นสิวแล้วยังไงก็เป็นรอย ไม่ว่าจะบีบหรือไม่ก็ตาม เศร้าาาา
Smiley


เอาล่ะค่ะ จะเริ่มจากรีวิวจากตัวที่ใช้มานานมากที่สุดแล้วกันนะคะ ตาม Lilac มาเลยค่าาา Smiley


1. Creme De La Mer Moisturizing Cream




กระปุกที่สองแล้วค่ะ ไม่เคยจ่ายเงินซื้อเองซ๊าาาาาาาากกระปุก กระปุกแรกเห็นแม่ใช้แล้วไปแอบจิ้มๆ แม่เลยยกให้ สองสามวันแรกใช้แล้วสิวขึ้นค่ะ มารู้ทีหลังว่าใช้ผิดวิธี คือจิ้มๆ มาทาหน้าเลย ตอนนั้นผิวก็มัน ครีมก็มัน ไปกันใหญ่ หลังจากนั้น แม่เลยสอนวอร์มครีม คือเอามาหมุนๆ ที่นิ้วแล้วแปะๆๆๆๆ ที่หน้าค่ะ ก็โอเคขึ้นนะคะ แต่ยังรู้สึกว่ามันเหนอะเกินไปอยู่ดี แต่ก็ยังเก็บไว้ประดับโต๊ะเครื่องแป้งต่อไป


ต่อมาไปเรียนที่ต่างประเทศ กลายเป็นคนผิวแห้ง อ้าวววว ตอนแรกดีใจเพราะมันเป็นสภาพผิวที่ใฝ่ฝัน ไม่ต้องพึ่งกระดาษซับมันแล้ว เย้ๆๆ แล้ว Lilac ก็ควักมันขึ้นมาเลยค่ะ ได้เวลาสนุกแล้วสิ หุหุ มันเหมาะกับเมืองหนาวจริงๆ ค่ะ แต่คราวนี้ Lilac วอร์มที่มือเลยนะคะ แต่ใช้ครีมนิดเดียวเองนะ เพราะฉะนั้น Lilac ใช้กระปุกนึงค่อนข้างนานเลย แต่ถึงจะนานอย่างไรมันก็หมดในวันหนึ่ง และแน่นอนว่า ไม่ซื้อเองอยู่แล้ว มันแพงเกินไปค่ะ ก็เลยไปซื้อครีมอื่นที่เป็นสำหรับผิวแห้งแทนค่ะ ซื้อแบบไม่แพง เบื่อก็เปลี่ยนค่ะ 


ส่วนกระปุกที่สองนี้ เพราะแม่เห็นเป็นรอยสิว ก็เลยยกให้มาอีกกระปุก ของฟรีแบบนี้ Lilac ไม่ยอมพลาดหรอกค่ะ รีบรับเลยเพราะกลัวแม่เปลี่ยนใจ แต่ตอนนี้อยู่ไทยแล้วก็ไม่ได้ใช้บ่อยค่ะ จะใช้ตอนที่รู้สึกว่าผิวแห้งมากๆ แล้วก็เอามาผสม concealer ค่ะ เพราะใต้ตาแห้งมาก ไม่ว่าคอนไหนที่ลองมาก็ตกร่องแล้วก็ดูแย่มากๆ ไม่ชอบเลย พอเอามาผสมกับครีมก่อนก็โอเคขึ้นค่ะ Smiley อ่อ หลายคนบอกว่ามันหอมมาก แต่ Lilac ไม่ชอบกลิ่นนี้ค่ะ


สรุป มีไว้ก็อุ่นใจดีค่ะ แต่ให้ซื้อเองไม่เอา แหะๆ นอกจากนี้กูรูสกินแคร์หลายท่านบอกว่าครีมนี้ไม่ได้เริศหรูตามราคาของมัน ครีมที่ราคาประหยัดลงมาหลายๆ อันก็ให้การบำรุงไม่ต่างกัน แต่สาวๆ แฟน La Mer หลายคนก็บอกว่า นี่แหละครีมในดวงใจ ยังไงก็ตาม ขอให้เลือกใช้ตามสภาพผิว และงบที่คุณแบ่งไว้ลงทุนกับครีมบำรุงผิวนะคะ


2. Estee Lauder DayWear Plus SPF 15



เนื้อครีมเป็นสีเขียวค่ะ ทาแล้วเหมือนทาเบสเขียว อันนี้รู้สึกเองนะคะว่าผิวดูสว่างขึ้นหลังทา เพราะตอนไปซื้อคือ Lilac เลือกระหว่างกระปุกนี้กับอีกอันที่สีม่วง แต่พอทาแล้วอย่างที่บอกค่ะ ผิวสว่างขึ้นมาเลย ก็เลยตกลงใจเลือกอันนี้ ข้อดีอีกอย่างคือ มันผสมสารกันแดดมาด้วย แม้จะน้อยไปนิดแต่ก็เหมาะกับวันสบายๆ ที่ไม่ต้องผจญภัยมากค่ะ กลิ่นเหมือนแตงกวา สดชื่นดีค่ะ ทาแล้วก็รอนิด ตบๆ ผิวหน้าให้ซึมลงไปค่ะ  


กระปุกนี้เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวผสมค่ะ บางคนผิวแห้งมากๆ อาจจะเข้มข้นไม่พอ แต่คิดว่าน่าจะกำลังดีสำหรับสาวผิวแห้งในเมืองร้อนค่ะ นอกจากนี้ใครที่ผิวไม่ถูกกับสารกันแดดน่าจะลองค่ะ เพราะ Lilac นี่ทากันแดด SPF สูงๆ ไม่ได้เลยค่ะสิวมาสวัสดีตลอด แต่ SPF 15 ของกระปุกนี้ก็พออุ่นใจค่ะ


สรุป เป็นครีมสามัญประจำบ้านค่ะ ราคาอยู่ในระดับที่ยอมจ่ายเอง ดังนั้น ถ้าหมดก็ซื้อต่อค่ะ


3. MAC Lightful Deep Ultramoisture Creme



สำหรับกระปุกนี้ คืออยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องเสียเงิน เพราะไปหารีวิวมาอ่านเล่นค่ะ ไปเจอบน Youtube ด้วย ทำไมทุกคนต้อง Loveeeeee มันขนาดนั้น จน Lilac ต้องดิ้นรนไปหามาลอง Smiley


เพิ่งใช้มาได้ประมาณหนึ่งเดือนค่ะ ถึงแม้ชื่อจะเป็นครีมแต่เนื้อเป็นเจลค่ะ ทาแล้วเหมือนมีฟิล์มมาเคลือบบนผิว กลิ่นหอมมากเลย Lilac ชอบกลิ่นตัวนี้มากที่สุดในสามกระปุกที่รีวิวค่ะ ทาแล้วรู้สึกดี ผิวดูหยุ่นๆ ซึมเร็วค่ะ รอแป๊บบบเดียวแต่งหน้าต่อได้เลย คิดว่าน่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิวนะคะ เพราะให้ความชุ่มชื่น แต่ไม่มัน เพราะเป็นเนื้อเจลค่ะ


สรุป หลังจากใช้มาหนึ่งเดือนก็พอใจนะคะ ในเรื่องความชุ่มชื่น แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะซื้อต่อรึเปล่า ขอใช้ต่อไปอีกซักพักก่อนนะคะ


มาดูเนื้อครีม/ เจลกันหน่อยแล้วกันโน๊ะ จากนั้นก็ลองทาค่ะ




เริ่มทาจากซ้ายไปขวา แต่ความเร็วในการซึมไล่กลับจากขวามาซ้ายค่ะ คือ MAC ซึมไปหมดแล้ว อีกสองตัวกำลังพยายามค่ะ หุหุ จากนั้น DayWear ซึมตามลงไปแต่เหลือความเงาบนผิวเล็กน้อย สุดท้ายคือ La Mer คงจะขอเวลาอีกสักพัก เอ้า สู้ๆ Smiley


วันนี้จบแค่นี้ค่ะ ยินดีตอบทุกคำถามเท่าที่จะตอบได้ค่ะ Smiley



Free TextEditor




 

Create Date : 21 เมษายน 2553
7 comments
Last Update : 21 เมษายน 2553 12:09:55 น.
Counter : 701 Pageviews.

 

ตัว Estee Lauder DayWear Plus SPF 15 นัดก็ใช้ในวันสบายๆเวลาอยู่กับบ้านเช่นกันค่ะ และตัวนี้ไม่เคยทำให้เป็นสิวเลยนะคะ ชอบเหมือนกันค่ะ

 

โดย: nadtha 21 เมษายน 2553 11:07:53 น.  

 

Estee น่าลองมากเลย

ส่วน La Mer นัทก็ว่าแพงเกินครับ

 

โดย: malaguena 21 เมษายน 2553 11:48:40 น.  

 



สวัสดีค่ะ...น้องไลแลค

ไม่ได้แวะมาเยี่ยมน้องนานแล้วช่วงนี้ปิดเทอมมัวแต่พาลูกๆ ตะลอนเที่ยวกันจ้า....Estee Lauder พี่น้องกำลังสน ตัวดีท๊อกซ์ขวดสีน้ำตาลอยู่ค่ะ...

น้องไลแลคสบายดีนะค่ะ

 

โดย: พี่น้อง nakawin IP: 222.123.177.109 21 เมษายน 2553 13:44:53 น.  

 

mac lightful ดูแล้วเนื้อคล้ายๆ กะ clinique moisture surge ของโปรดเลยชอบครีมแนวเจลๆ แบบนี้มากเลยค่ะ มันเหมาะกับผิวผสมถึงมันดี

 

โดย: ชฎาแหลม 22 เมษายน 2553 10:48:48 น.  

 

mac lightful ดูแล้วเนื้อคล้ายๆ กะ clinique moisture surge ของโปรดเลยชอบครีมแนวเจลๆ แบบนี้มากเลยค่ะ มันเหมาะกับผิวผสมถึงมันดี
****************************************************************
Lilac เคยใช้ moisture surge นะคะ รู้สึกว่า MAC จะเนื้อหนักกว่าค่ะ แต่ก็ชอบ MAC มากกว่าด้วย อาจจะเป็นเพราะผิวแห้งน่ะค่ะ

** แอบเติมคอมเมนท์ตรงนี้ด้วย เผื่อว่าใครอยากเปรียบเทียบระหว่าง Lightful Deep Ultramoisture กับ Moisture Surge ค่ะ **

 

โดย: der Flieder 22 เมษายน 2553 11:09:47 น.  

 

เนื้อครีมของ mac น่าใช้จังเลยค่ะ
ราคาเท่าไหร่คะเนี่ย

 

โดย: Hebihime 22 เมษายน 2553 16:10:34 น.  

 

เนื้อครีมของ mac น่าใช้จังเลยค่ะ
ราคาเท่าไหร่คะเนี่ย
**************************************
ถ้าจำไม่ผิด 1800 บาทค่ะ

 

โดย: der Flieder 22 เมษายน 2553 21:27:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


der Flieder
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






copo de nieve

&binary Lilac der Flieder

Free Hit Counter by Pliner.Net
user(s) online
Friends' blogs
[Add der Flieder's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.