Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
24 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
สร้างเสน่ห์.. ด้วย น้ำหอม








กลิ่นหอมเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สามารถครอบงำอารมณ์ความรู้สึกและจิตใจมนุษย์เราได้


ในสมัยโบราณกรรมวิธีในการผลิตน้ำหอมและเครื่องหอมต่าง ๆ



ถูกเก็บไว้เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะในชนชันสูง ซึ่งคนธรรมดาสามัญไม่มีโอกาสจะเรียนรู้ได้ ถือกันว่าเป็นศาสตร์ลี้ลับที่ใช้ในการสร้างเสน่ห์ของหญิงสาว



ปัจจุบันผู้หญิงและผู้ชายใช้น้ำหอมกันเป็นประจำทุกวัน



กลิ่นที่ถูกผลิตออกมาก็มีความหลากหลายกว่าสมัยโบราณ น้ำหอมกลายเป็นอุตสาหกรรมวิธีการทำน้ำหอมเป็นที่เปิดเผยกันทั่วไปไม่ได้เป็นเรื่องของศาสตร์ลึกลับอีกแล้ว คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้เช่นเดียวกับคนระดับสูง





การเลือกน้ำหอมให้เข้ากับตัวเราเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้


เพราะถ้าเลือกผิดแล้วแทนที่จะสร้างเสน่ห์ให้กลับทำลายเสน่ห์ของเราจนสิ้น เราจึงมีเกร็ดความรู้ในการเลือกซื้อและเลือกใช้น้ำหอมมาฝาก



น้ำหอมในปัจจุบันมีกลิ่นหลากหลาย



ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นผู้หญิง ผู้ชาย กลิ่นวัยรุ่น วัยสาว วัยผู้ใหญ่ จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับเพศและวัยตนเอง



น้ำหอมที่ต่างกลิ่นกัน



ก็เหมาะกับแต่ละโอกาสหรืออารมณ์ เช่น น้ำหอมกลิ่นหนึ่งอาจเหมาะกับเวลากลางวัน และอีกกลิ่นหนึ่งอาจเหมาะกับเวลากลางคืน หรือน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อน ๆ ก็เหมาะที่จะใช้ในหน้าร้อนส่วนหน้าหนาวก็ควรใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นแรงมากขึ้น





การจะรับรู้ได้ว่ากลิ่นหอมนั้นๆ


เหมาะกับตัวเราและเราชอบมันจริงหรือไม่นั้น อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง ฉะนั้น ควรเลือกซื้อน้ำหอมขวดเล็กไปลองใช้ก่อนถ้ามั่นใจแล้วจึงค่อยกลับมาซื้อขวดใหญ่อีกที



ปกติระดับกลิ่นของน้ำหอมจะไม่คงที่



แต่จะค่อยๆ เปลี่ยนระดับของกลิ่นไปเรื่อยตามกาลเวลา กลิ่นของน้ำหอมมี 3 ระดับ กลิ่นแรก กลิ่นกลาง และกลิ่นพื้นฐาน



เมื่อฉีดน้ำหอมครั้งแรก กลิ่นที่จะได้รับจะมีลักษณะหอมสดชื่นและบางเบา กลิ่นแรกนี้จะอยู่ได้ประมาณ 15 นาที และจางหายไปอย่างรวดเร็ว





กลิ่นต่อไปคือ


กลิ่นกลาง ที่ถือว่าเป็นหัวใจของน้ำหอมเป็นช่วงที่กลิ่นจะกระจายตัวอย่างเต็มที่บนผิวกาย จะคงอยู่ประมาณ 2-4 ชั่วโมง



กลิ่นสุดท้าย คือ กลิ่นพื้นฐาน ซึ่งเป็นกลิ่นเข้มข้นที่สุดที่เหลืออยู่ ซึ่งจะแสดงกลิ่นเมื่อเวลาผ่านไป ประมาณ 4-6 ชั่วโมง และค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด



ควรเก็บน้ำหอมในที่แห้ง มืดและเย็น น้ำหอมจะเก็บไว้ได้ประมาณ 3 ปีนับจากวันผลิต





ในการทดลองกลิ่นน้ำหอมขณะซื้อ


เมื่อฉีดแล้วควรรอสัก 2-3 นาที เพื่อให้กลิ่นของน้ำหอมผสมกลมกลืนกับกลิ่นกาย จนสมบูรณ์เป็นหนึ่งเดียว เพื่อคุณจะได้รู้ว่าน้ำหอมกลิ่นนั้น เหมาะกับตัวคุณจริงหรือไม่



และควรลองเพียง 2-3 กลิ่นก็พอเพราะถ้าลองมากไปกลิ่นจะตีกันจนแยกไม่ออกแล้วคุณก็อาจสับสนจนไม่สามารถเลือกน้ำหอมได้ถูกใจ



ถ้าคุณมีผิวที่แพ้น้ำหอมให้ฉีดน้ำหอมลงบนผ้าเช็ดหน้าแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าแทนที่จะฉีดลงบนผิวตรงๆ





ไม่ควรใช้มือหรือนิ้วถูน้ำหอม


ให้ซึมเข้าไปในผิวเพราะจะทำให้น้ำหอม "ช้ำ" ทางที่ดีควรฉีดน้ำหอมลงบนผิวแล้วปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติจะดีกว่า



บางครั้งคุณอาจลองคิดวิธีใช้น้ำหอมให้สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นบ้างก็ได้



เช่น ฉีดลงบนกระดาษจดหมายก่อนพับใส่ซอง ฉีดพรมบนผ้าปูที่นอนก่อนเข้านอน ฉีดที่เทียนไขก่อนจุด เป็นต้น





น้ำหอมจะระเหยได้ดีบนผิวเนื้อที่อุ่นและมีการหมุนเวียนโลหิตดี


ดังนั้นจุดที่จะช่วยเร่งให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมได้มากและได้นานก็คือบรรดาจุดชีพจรของเรานี่เอง เพราะในทุกจังหวะที่ชีพจรเต้นก็จะทำหน้าที่ทางอ้อมช่วยกระตุ้นให้กลิ่นหอมกระจายออกมาอย่างเป็นจังหวะต่อเนื่อง



ฉะนั้น จึงควรฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร เช่น ด้านในข้อมือ ข้อศอก ข้อพับ ใต้ติ่งหู





น้ำหอมส่วนใหญ่มักจะคงอยู่ได้นานกว่าผิวแห้ง


หากต้องการให้กลิ่นหอมติดทนนานบนผิวกายควรฉีดพรมน้ำหอมหลังทาโลชั่นบำรุงผิว แต่ไม่ว่าอย่างไรการฉีดน้ำหอมเพียงครั้งเดียวก็ไม่สามารถทำให้กลิ่นอยู่ได้นานตลอดวัน



ดังนั้น หากต้องการให้กลิ่นหอมอยู่ทนบนผิวกายตลอดวันควรฉีดน้ำหอมวันละ 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย



จุดสำคัญในร่างกาย



ที่ควรได้รับการฉีดพรมด้วยน้ำหอมมีดังนี้ ขมับทั้ง 2 ข้าง บริเวณร่องอก ข้อพับแขน ข้อมือ ข้อพับขา ด้านหน้าของตาตุ่ม และกระดูกหน้าขา




สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:






 

From: //variety.teenee.com/foodforbrain/1697.html


Create Date : 24 มิถุนายน 2553
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 21:03:02 น. 0 comments
Counter : 362 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lifewater
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add lifewater's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.