วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และฮอร์โมน
ปัญหาเรื่องสิวเป็นปัญหาหนึ่งที่พบบ่อย
การมีสิวขึ้นที่ใบหน้าแม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่จะส่งผลให้ขาดความมั่นใจในตนเอง ทำให้ไม่กล้าแสดงออก ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง เป็นเหตุให้วัยรุ่นยอมจ่ายเงินจำนวนมากในการรักษา
หากเข้าใจเรื่องสิวในวัยรุ่นจะช่วยทำให้ไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก และทำให้ไม่เกิดผลเสียทั้งหน้าตา และสุขภาพจิต
|
|
|
หากเข้าใจเรื่องสิวในวัยรุ่นจะช่วยทำให้ไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก
และทำให้ไม่เกิดผลเสียทั้งหน้าตา และสุขภาพจิต
สิว คือตุ่มนูนหรือตุ่มหนองบนผิวหน้า โดยพบมากที่ใบหน้า หลัง และลำตัวตามลำดับ มี 2 ชนิด
1.สิวไม่อักเสบ สังเกตได้ง่ายๆ คือเป็นสิวที่ไม่มีอาการแดง เจ็บหรือบวม
2.สิวอักเสบ สิวพวกนี้จะมีลักษณะของการอักเสบ ได้แก่
เจ็บ บวมและแดงบริเวณรอบสิว
โดยความรุนแรงอาจเป็นได้ตั้งแต่ตุ่มนูนแดง
สิวหัวหนอง
สิวอักเสบที่มีตุ่มนูนใหญ่ หรือมีลักษณะของถุงหนองขนาดใหญ่
สิวอักเสบนี้รักษาหายได้
แต่ถ้ามีอาการอักเสบมากหลังจากสิวหายแล้วอาจทิ้งร่องรอยของจุดด่างดำบนใบหน้า หรือกลายเป็นแผลเป็น
|
|
โดยทั่วไปเมื่ออายุมากขึ้นสิวก็จะลดลง มีเป็นส่วนน้อยที่ยังคงเป็นสิวอยู่จนอายุ 30-40 ปี
ข้อแนะนำสำหรับวัยรุ่นที่เป็นสิว
1.ให้ความรู้แก่เด็กวัยรุ่น
โดยอธิบายถึงสาเหตุและการดำเนินโรคของสิว ชี้แจงให้เห็นว่าการรักษาสามารถทำได้ไม่ยาก แต่ควรรักษาต่อเนื่องเป็นระยะๆ เมื่อพ้นจากช่วงวัยรุ่นแล้วการเกิดสิวจะน้อยลง เพื่อให้วัยรุ่นมีความมั่นใจและลดความวิตกกังวล
2.เมื่อเป็นสิวแล้วห้ามบีบหรือแกะสิวออกอย่างเด็ดขาด
เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณสิวมากขึ้น ทำให้เป็นหนอง และเมื่อหายก็มีโอกาสเป็นแผลเป็นสูง
3.การทำความสะอาดผิวหน้า
ล้างหน้าทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง แต่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเอง
4.ไม่ใช้เครื่องสำอางโดยไม่จำเป็น
ถ้ามีการแพ้ควรหยุดใช้ทันที
5.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงอารมณ์เครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
6.การรักษาสิวควรปรึกษาแพทย์
โดยสามารถสอบถามถึงผลดีผลเสีย ผลข้างเคียงของการรักษาสิว ควรไปพบแพทย์เป็นประจำ และต่อเนื่องจึงจะได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
|
|
|
|
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
|
|
|
|