♪ สมมุติว่าเขารัก/ปนัดดา ♪

ชื่อเพลง : สมมุติว่าเขารัก
ศิลปิน : ปนัดดา เรืองวุฒิ
อัลบั้ม : แกรมมี่โกลด์ ซีรี่ส์ สุนทราภรณ์ ชุดที่ 8



ถูกตาต้องใจ ต้องมนต์ของใครคนหนึ่ง
หลงไปเก็บเขามาคำนึง จนติดตรึงหทัย
อกเอยลืมตน ต้องมนต์เสียจนเป็นไข้
เพราะเป็นโรคหัวใจอาลัย
เฝ้าครวญเพ้อไปเต็มกลั้น

เงินแสนเงินหมื่นของใคร
แม้นมากองให้ถึงใจ
จะเมินห่างไกล มิยอมให้ใครซื้อกัน
แต่คนในใจ ไม่มีของใดมาหมั้น
เหมือนมีโชคล้านเป็นรางวัล
ด้วยใจรักอันมีค่า

ด้วยใจถูกพัน ผูกพันเสียจนต้องตู่
สมมุติว่าเขามาเอ็นดู คงชื่นชู..อุรา
ดุจมีเทวัญ แบ่งปันทิพย์ธารลงหล้า
ฉันคงอิ่มเพราะธารเทวาที่มีฤทธาเต็มที่

คงรักกันอยู่ทุกวัน เหมือนดังไฟต้องน้ำมัน
เกิดระเบิดพลัน เพราะมันต้องกันทุกที
เฝ้าครวญรำพัน โอ้เราฝันไปหรือนี่
โถคนที่รักดังชีวี ก็ยังมิมีทีท่า








Create Date : 17 มีนาคม 2553
Last Update : 17 มีนาคม 2553 20:01:41 น.
Counter : 737 Pageviews.

9 comments
  
ถ้าดูจากสถานการณ์บ้านเมือง
คงยากแล้วล่ะครับที่พี่ก๋าจะได้ลงไป กทม.น่ะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:21:41:05 น.
  
**ดีครับหญิงไล..

หญิงไลคงไม่ได้อ่านกลอนหวานแล้วละ
เจ้าของบล็อกกำลังอยู่ในช่วงภาวะวิกฤต
หัวใจล้มเลว เสียแล้ว

หญิงไล..ไร้คลื่นจะทำไงดีละ ครับ
นิราศลวงเห็นจะเป็นจริงเข้าแล้วละนะ

ต่อไปนุชนารถคงจะหาไม่เจอแล้วละ
ถึงหาเจอ เค้าคงไม่กลับมาอีกแล้วครับ
หญิงไล..


ต่อไปนี้คงเหลือแค่เสื้อเก่า
ต่อไปนี้คงเศร้าไม่จางหาย
ต่อไปนี้ภาพหลังอันโหดร้าย
ต่อไปนี้หัวใจคงสลายมิคลายคืน...


โดย: เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:22:34:39 น.
  
สวัสดียามเช้าครับหญิงไล






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:5:44:35 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:7:00:58 น.
  
พี่ก๋า
เบื่อสภาพที่เป็นอยู่จังค่ะ รู้สึกว่าจะขยับ
ไปไหนก็ต้องดูข่าวว่าสถานการณ์ไปถึง
ไหนแล้ว งานกาชาดไม่รู้จะมีคนไปเดิน
เยอะหรือเปล่า รวมทั้งงานสัปดาห์หนังสือ
ด้วยค่ะ

หน้าตาน้อง หมิง หมิง ยิ่งโตยิ่งเหมือน
พี่ก๋านะคะ 555+








คุณไร้คลื่น
ก็คิดเสียว่าคนไม่ใช่เนื้อคู่กัน ต่อให้ให้รัก
กันมากแค่ไหน ย่อมมีเหตุต้องให้พลัด-
พรากกัน และสิ่งที่เราต้องทำ ในขณะนี้
คือทำใจค่ะ และก็ถือซะว่าหากคนที่เรารัก
มีความสุข เราก็ควรจะอวยพรให้เขาไม่ใช่
หรือคะ มันอาจจะเจ็บปวด แต่..ก็ดีกว่าการ
ถูกความเจ็บปวดครอบงำ และทรมานตัวเอง
ให้จมอยู่ในความทุกข์..ยิ้มสู่นะคะ

หญิงไลขอให้คุณไร้คลื่นผ่านช่วงเวลานั้นไป
อย่างราบรื่นและขอให้เจอคนที่ใช่ ในอนาคต

เอาล่ะเศร้ากันพอแล้วค่ะ มาเข้าสู่โหมดเฮฮากัน
ต่อนะคะ งี้หญิงไลต้อง(ทน)อ่านกลอนเศร้าเคล้าน้ำ
ไปอีกนานล่ะซิ อดเลยกลอนหวานๆ ..เฮ้อ

โดย: ไลเดเลีย วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:21:07:10 น.
  
ใช่แล้วครับ
การเมืองไม่ว่าเหลืองหรือแดง
ก็สร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมืองเหมือนกันทั้งสิ้น

พี่ก๋าทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ได้รับผลกระทบเต็มๆเลยล่ะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:22:06:35 น.
  
จ๊ะเอ๋...คุณฝน
หลบเสื้อแดงมาหาคุณฝนดีกว่าค่ะ
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:15:55:33 น.
  
เพลงนี้ นกเคยเปิด (บ่อย ๆ) นี่หว่า เค้าเคยเอาขึ้นบล็อก
ครั้งนึงมั้ง ถ้าจำไม่ผิด... ชอบเสียงปนัดดา มากกว่าเสียง
เวอร์ชั่นโบราณนะ... คนนี้ร้องเพลงนุ่มดีเนอะ ยังติดใจ
เพลง ลมหนาวกับดาวเดือน อยู่เลย แต่ตอนนี้ค่อยไม่ได้ฟัง
อากาศร้อนเกินไป เอิ๊ก ๆ ๆ


คุยต่อจากบล็อกเค้าที่นี่เลยนะ...

เกินไปแล้วอะฝน... เค้ายังไม่ได้เริ่ม CSI Miami เลย
ฝนเล่นดูจนจบแล้ว เมื่อไหร่เค้าจะตามทันล่ะนี่... เอางี้ก็
แล้วกัน ฝนก็เมม ๆ ไว้ อย่าเพิ่งลืมละกัน เค้าก็ค่อย ๆ ดู
ไปเรื่อย ๆ ดูไปถึงไหนก็คุยไปถึงนั่น เนาะ...

เอ้อ! สถานการณ์แถวบ้านฝนเป็นไงบ้าง เห็นข่าวในทีวีแล้ว
ชาวกทม.เสื้อแดงก็ออกไปต้อนรับขบวนเยอะนี่ เล่าให้ฟังมั่ง
สิฝน... อยากรู้แต่ไม่อยากไปดูด้วยตัวเอง 555+

อ้อ! ไปตอบคำถามคุณนางที่ถามไว้ที่บล็อกเค้าให้หน่อยสิ
ตอบที่บล็อกคุณนางก็ได้นะ เค้าคิด ๆ จะเปลี่ยนหน้าใหม่อยู่
(ยังคิดอยู่ แต่ไม่ได้ลงมือ... ไม่มีเวลา เอิ๊ก ๆ ๆ)

มาคุยด้วยก่อนไปทำงาน ..ยิ้มสดใส..
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:7:19:20 น.
  
ฝนเอ๊ย...

เค้าเพิ่งอัพบล็อกใหม่เสร็จ ..ยิ้มกว้าง..
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:14:25:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
มีนาคม 2553

 
1
2
3
4
5
8
10
11
12
14
15
16
18
19
20
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
All Blog