ใช่เลย!! 'กลิ่นบำบัด' สำหรับ แต่ละกรุ๊ปเลือด ☆
รู้มั้ยว่า กรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปทำให้เราใช้กลิ่นบำบัดที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาวะของแต่ละกรุ๊ปเลือด และยังมีกลิ่นที่ต้องห้ามสำหรับแต่ละกรุ๊ปเลือดอีกด้วยนะ อยากรู้แล้วใช่มะ ว่ามันจะเป็นยังไง
คนที่มีเลือดกรุ๊ป O
เป็นเหมือนแม่พระแห่งกรุ๊ปเลือดเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ปเลือด แต่โชคร้ายที่รับได้แต่กรุ๊ปเลือดตัวเองเท่านั้น
กรุ๊ปโอเป็นกรุ๊ปที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เรียกง่ายว่ายาวนานที่สุดในบรรดากรุ๊ปเลือดทั้งหมด คนยุคโบราณส่วนใหญ่จะมีเลือดกรุ๊ปโอ
อย่างที่รู้กันว่า คนสมัยก่อนต้องเข้าป่า ล่าสัตว์ กินเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก คนที่เลือดกรุ๊ปโอจึงสามารถย่อยอาหารประเภทโปรตีนได้ดี แต่สิ่งที่คนกรุ๊ปนี้ต้องหลีกเลี่ยงก็คือ 'กลิ่นบำบัด' ทั้งหลาย อาทิเช่น น้ำมันหอมระเหยตระกูลส้ม มะนาว มะกรูด เกรปฟรุค ฯลฯ ดังนั้น กลิ่นเลือดของชาวกรุ๊ปโอจึงมีกลิ่นที่คล้ายกับสิ่งมีชีวิตบนดินธรรมดามากที่สุด
กลิ่นบำบัดสำหรับชาวกรุ๊ป O ได้แก่ ราสเบอร์รี่ ซีดาร์วู้ด แฟรงคินเซนส์ เปเปอร์มิ้นท์ กำยานไทย
คนที่มีกรุ๊ปเลือด A
เป็นกรุ๊ปที่มีพัฒนาการต่อมาจากรุ๊ปโอ เมื่อมนุษย์ล่าสัตว์ โลกก็ได้เข้าสู่ยุคการตั้งถิ่นฐาน มนุษย์เริ่มทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์เอาไว้ใช้งาน ดังนั้นจีงทานผัก ผลไม้เป็นอาหารหลัก น้ำย่อยของกระเพาะอาหารจึงมีความเป็นกรดต่ำ ชาวกรุ๊ปเอจึงมีปัญหา ถ้ากินเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากเกินไป
กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ป A จะมีกลิ่นของต้นไม้ในสวน ชาเขียว ใบมะเขือเทศ ใบโหระพา และยี่หร่า
กลิ่นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ กระดังงา มะลิ หรือกลิ่นโทนต่ำ
คนที่มีกรุ๊ปเลือด B
เป็นกรุ๊ปที่ค่อยข้างโชคร้าย เพราะเป็นคนที่อ้วนง่าย กินอะไรเข้าไปหน่อย ก็น้ำหนักขึ้นอีกและ แต่ชาวกรุ๊ปบีด็เป็นนักคิด วิเคราะห์ที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และชอบคิดนอกกรอบ กรุ๊ปบีเกิดช้ากว่ากรุ๊ปโอ และเอ
เมื่อมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการในการหาอาหารมากขึ้น เลือดของคนกรุ๊ปนี้ได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับ ความสมบูรณ์ของพัฒนาการของมนุษย์ ทั้งด้านความคิด สติปัญญา และด้านร่างกาย
แต่ที่โชคร้ายสำหรับชาวกรุ๊ปบี คือ จะเหนื่อยล้าง่าย ส่งผลให้เกิดความเครียด ดังนั้น จึงควรเลือกกลิ่นที่คลายเครียดได้เป็นอย่างดี
กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ป B ได้แก่ ขิง เปเปอร์มิ้นท์ โสม ชาเขียว ชาดำ แอปเปิ้ลแดง เชอร์รี่ดำ ทับทิม พริกไทย พิมเสน และไม้สัก
คนที่กรุ๊ปเลือด AB
กรุ๊ปเอบีสามารถรับเลือดได้จากทุกกรุ๊ป แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่สามารถแบ่งปันเลือดให้กรุ๊ปไหนได้เลย กรุ๊ปเอบีเป็นกรุ๊ปเลือดที่เกิดขึ้นเป็นกรุ๊ปสุดท้าย เกิดจากการรวมกันของเลือดกรุ๊ป A และ B จนเกิดมาเป็น AB นั่นเอง
โชคร้ายที่ชาวเอบีมักมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ และมีกรดในกระเพาะต่ำ โปรตีนของชาวเอบี มีกลิ่นคล้ายสารเคมีที่ประกอบขึ้มาจากส่วนต่างๆ ของพืชจ๊ะ
กลิ่นที่บำบัดกรุ๊ป AB ได้แก่ พวกแอลดีไฮด์ (ยูคาลิปตัส มะนาว ตะไคร์ ใบส้ม เกรปฟรุต และซีตาร์วู้ด)
แต่ละกรุ๊ปเลือดมีกลิ่นบำบัด และกลิ่นต้องห้ามที่แตกต่างกันออกไปตามปัจจัยต่างๆ ดังนั้น สาวๆ ควรเลือกกลิ่นที่เข้ากับกรุ๊ปเลือดของตัวเอง เพื่อสุขภาพและใจที่ดีจ๊ะ
ทำไมเราต้องบำบัดด้วยกลิ่น??
การบำบัดด้วยกลิ่นที่เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือด ไม่ว่าจะเป็นการนวดอาโรมา หรือการบำบัดกลิ่นการผสมใช้ในเครื่องสำอางล้วนส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย จิตใจ และช่วยเสริมสร้างแอนติบอดี ภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดี
กลิ่นบำบัดที่ใช้กับตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นทางจมูก หรือทางผิวหนัง กลิ่นเหล่านี้จะถูกส่งผ่านเข้าไปยังสมองส่วนลิมบิค สมองส่วนนี้ จะทำงานเกี่ยวกับอารมณ์ต่างๆ ความรัก ความเศร้า ความโกรธ รวมไปถึงความทรงจำ
นอกจากนี้สมองส่วนนี้ยังช่วยสื่อสารกับร่างกายผ่านไปยังสมองส่วน ไอโปธาลามัส ซึ่งมีหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะสมดุล ผ่านต่อมใก้สมองซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อที่สำคัญของร่างกาย
เนื้อหาคัดลอกจาก yenta4.com ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Create Date : 24 เมษายน 2558 |
Last Update : 24 เมษายน 2558 19:40:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1687 Pageviews. |
|
|