สัจจะนั้นมีเพียงหนึ่ง แต่หนทางรู้ซึ้งนั้นมีหลากหลาย...
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
เขายังเดินได้ แม้ไม่มีขา







       เขายังเดินได้ แม้ไม่มีขา



       ดวงตะวันยามเย็นทอแสงประกายแผดรังสี  มุ่งมายังชุมชนแออัดเล็กๆแห่งหนึ่งในโลกกว้างใบนี้ ไม่มีใครรู้ว่ามันส่องมาตรงนี้นานเท่าใดแล้ว และส่องมาเพื่ออะไร  บางทีมันคงส่องมาเย้ยหยันผู้คนที่ไร้กำลังใจอยู่กระมัง ?



       ณ ที่นั่น นิวัฒน์  ชายวัยกลางคนนั่งรับแสงสุริยาทอดสุดท้ายบนรถเข็นก่อนที่มันจะลาไปทำงาน ณ อีกซีกหนึ่งของโลก  เขาทอดสายตาเหม่อลอยมายังเบื้องล่างระเบียง  มองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างเดียวดาย นักศึกษาหญิงกับกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค นิวัฒน์มอง เฒ่าขอทาน เขาก็มอง  หนุ่มน้อยทรงผมประหลาด เขาก็มอง นิวัฒน์มองทุกคนที่เดินผ่านด้วยความอิจฉา เขามองจากตรงนี้อยู่มานานมากแล้ว อาจะ 2ปี หรือ 3ปี แล้วกระมัง…



       อะไรหนอ คือสิ่งที่ทำให้คนเดินได้ ?  คำตอบอาจมีอยู่ว่า “ก็ขายังไงละ ?”  ใช่มันคือ “ขา”  คนมีขาทุกคนมีสิทธิเดินได้ แต่นิวัฒน์ไม่มีขา เขาพิการ และเป็นภาระให้แก่ครอบครัว แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยมีขา เขาเคยมีขา ที่พร้อมจะพาเขาเดินไปไหนมาไหนได้ตามต้องการ  แต่นั่นไม่ใช่วันนี้  วันนี้เขาสูญเสียมันไปแล้ว



       ทุกครั้งที่นึกถึงวันนั้น... วันที่เขาสูญเสียอิสรภาพในการเดิน แล้วขึ้นมานั่งจับเจ้าอยู่บนรถเข็นบ้าๆนี้แทน นิวัฒน์จะยิ้มให้กับความโง่เขลาของตัวเองเสมอๆ  ก่อนที่จะหัวเราะอย่างสะใจ  และร้องไห้อย่างขมขื่นในที่สุด  แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น… ?



       ย้อนกลับไปเมื่อ 2 - 3 ปี มาแล้วกระมัง  ปีศาจสีอำพันในสภาวะของเหลว ที่เรียกว่ากัน "เหล้า" ได้เปลี่ยนนิวัฒน์ให้กลายเป็นมัจจุราชอย่างไร้สติ  เขาก่ออุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากความ “เมา” นิวัฒน์แหยียบคันเร่งวีโก้คันโปรดของเขาพุ่งเข้าประทะวีออสสีขาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง  และความตายได้เดินทางมาถึงเจ้าของรถคันนั้นทันที  ส่วนนิวัฒน์กลับรอดอย่างปาฏิหาริย์  ในห้องไอซียู หมอพากันตัดสินใจซื้อชีวิตเขาด้วยขาทั้งสองข้าง  มันเป็นค่าใช้จ่ายราคาแพงที่สุดเท่าที่นิวัฒน์เคยจ่ายมา  เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากนั้น เขายังต้องซื้ออิสรภาพทางกฎหมาย ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้ตายอีก จนเงินที่เก็บหอมรอมริบมา ถูกใช้ไปจนหมด ต้องขายบ้าน ขายรถ ขายทุกอย่าง แล้วมาอยู่ที่ชุมชนแออัดแห่งนี้



       ไม่ว่าใครก็ไม่อยากตกอยู่ในสภาพแบบนี้ นิวัฒน์เองก็เช่นกัน  หลายต่อหลายครั้งที่เขาไม่คิดจะอยู่ต่อ  แต่เขาก็ใจเสาะเกินกว่าที่จะลั่นปืนใส่หัวตัวเองได้ เขายังมีความรู้สึกหวงแหนชีวิตที่แสนทรมานของตัวเอง  โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะหวงมันไว้ทำไม



       หากแต่ไม่ใช่วันนี้  วันนี้เขาได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า จะไม่อยู่เป็นภาระให้ใครอีกต่อไป เขาสร้างปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง และเขาก็ไม่ควรจะมาเป็นภาระให้ใครอีก  นิวัฒน์คิด



       บนโต๊ะเก่าๆตัวหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นที่ทำงานของเขา จดหมาย 3 ฉบับถูกเขียนขึ้น สั่งเสีย อธิบาย และร่ำลา คือเนื้อความของจดหมายทั้ง 3ฉบับนี้ ไม่มีน้ำตาใดๆ กับการตัดสินใจในครั้งนี้ เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นการกลับไปสู่จุดเริ่มต้นต่างหาก “มันคงจะดีซะกว่าถ้าตายเร็วกว่านี้อีกหน่อย” นิวัฒน์พูดกับตัวเอง



       นิวัฒน์เลื่อนรถเข็นของเขาไปยังบนหัวเตียง  แล้วเปิดลิ้นชักหยิบปืน ซีแซท452 กระสุน .22 ออกมาจากลิ้นชัก เขานึกถึงครั้งสุดท้ายที่เขาใช้มันยิงกระต่ายป่าตัวหนึ่ง เมื่อราวๆ 3ปีก่อน เมื่อตอนไปตั้งแคมป์กับเพื่อนของเขาในป่า ภาพกระตัวนั้นกลับเข้ามาในหัวของเขาอีกครั้ง อาการชัก เลือด และเสียงร้องอย่างทรมาน มันประกายอยู่ในหัวของเขาอย่างชัดเจน จนเขาแทบจะถอดใจด้วยความกลัว... “ไร้สาระ” นิวัฒน์พูด...



       เขายกปืนขึ้นจ่อหัวตัวเอง ตั้งสมาธิ ทำใจให้สงบ อยู่เป็นเวลานาน แต่ทว่าส่วนลึกในใจเขาก็ไม่อาจสงบลงได้จริงๆ เดี๋ยวอีกสักครู่จะต้องมีคนมามุงดูร่างอันไร้วิญญาณของเขา เพราะเสียงปืนคงจะดังไปไกลถึงนอกบ้าน คนพวกนั้นจะได้เก็บเรื่องของเขาไปเล่าต่อๆกันไปได้อีกหลายเดือน แล้วคนพวกนั้นก็จะตั้งศาลเตี้ยพิพากษาว่าเขาคิดผิด แต่นิวัฒน์ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นแม่แต่น้อย คนที่จะตายอยู่แล้วอย่างเขาจะมานึกเรื่องนั้นอีกทำไมกัน... 

       “พอกันที”  เขาบนบ่นเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่  ก่อนที่จะซุกนิ้วมือเข้าไปในไกปืน แล้วลั่น...

       “เชะ...” 

       “เชะ...” 

       “เชะ...” 


       เขาลั่นปืนไปถึง 3ครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...  ปืนกระบอกนั้นไม่มีกระสุน มีคนเอากระสุนออกไปแล้ว นิวัฒน์ปาปืนกระบอกนั้นทิ้ง เขาร้องไห้... แล้วนึก ? ใครเอากระสุนออกไป.. ไม่สิ  ในโลกมีเพียง 2คนที่รู้ว่าเขาเอาปืนไว้ที่ไหน นอกจากนั้นแล้วจะเป็นใครไปอีกไม่ได้...



       เมื่อนึกได้ดังนั้น น้ำตาแห่งความเศร้าเสียใจก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม เขายิ้มและร้องไห้สลับไปมากับหัวเราะ ด้วยเสียงที่ดังกว่าเก่า ทว่ามันไม่ใช่เสียงแห่งความโศกเศร้าเสียใจ แต่เป็นเสียงแห่งความดูถูก เขาดูถูกที่ตัวเองโง่ พร้อมๆกันนั้นเขาก็ดีใจที่รู้แล้วว่าชีวิตเขาควรอยู่ต่อไปเพื่ออะไร  ขณะนั้นเองเขารู้สึกขึ้นมาทันทีว่า  ความโชคร้ายหลายทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขา มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับความโชคดีที่เขามีอยู่



      แสงอาทิตย์ยามเช้าเวียนกลับมาทอประกายมาอีกครั้ง หลังจากที่มันหนีไปทำงานอีกด้านหนึ่งมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาจไม่มีใครรู้ว่ามันทำไปเพื่ออะไร แต่นิวัฒน์รู้  เขารู้ว่ามันไปเพื่อให้คนอีกฟากหนึ่งได้ตื่นขึ้นมาค้นหากำลังใจเช่นเดียวกับเขา  เขามองลงมาล่างระเบียง เหมือนเช่นวันก่อนๆ เขามองทุกอย่าง เหมือนที่เคยมองเช่นก่อนๆ นักศึกษาหญิงกับกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค นิวัฒน์มอง เฒ่าขอทาน เขาก็มอง  หนุ่มน้อยทรงผมประหลาด เขาก็มอง แต่สิ่งที่เขาเห็นนั้นเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความอิจฉาเหมือนอย่างเมื่อวาน แต่มันเป็นความคิดใหม่ๆ เขาคิดว่าการสูญเสียขาทั้งสองข้างไม่ได้สำคัญต่อชีวิตเขาอีกต่อไป เพราะเขายังเดินต่อไปได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีขาก็ตาม ขอเพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์เดินไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้ทั้งนั้น ชีวิตเป็นสิ่งมีค่าเสมอ... 


       “พี่วัฒน์ มาทานข้าวได้แล้วค่ะ...” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากในครัว

       นิวัฒน์ยิ้มอย่างมีความสุข..  ก่อนที่เขาจะขานรับเสียงนั้นกลับไป 

       “ดาว  แถวนี้มีโรงเรียนเปิดสอนซ่อมคอมไหม... ?”


 


 


       Smiley    Smiley    Smiley




 







Free TextEditor





Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 4:53:45 น. 0 comments
Counter : 459 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สหายกุนเชียง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]







บ่นเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
ครั้งที่ 60
ตอน - ความสุขของความรัก
.........คือการได้รัก

ทำไม? คนเราถึงอยากมีคนรัก
นั่นเพราะอยากมีความสุข
ในเมื่อที่การได้รักใครสักคน
มันก็ทำให้มีความสุขอยู่แล้ว
ทำไมจะต้องไปอยากรู้
หรือไปใส่ใจอะไรอีก 
ว่าใครรัก ใครไม่รัก
เขารักใคร ใครรักเขา ฯลฯ

กับหัวใจที่เต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ดวงนี้ 
มันดีแค่ไหนแล้ว ที่ยังใช้รักใครได้อยู่...

13/08/55







เพลงพวกนี้.........
ผมชอบทุกเพลงครับ
แต่ละเพลงฟังมานานแล้ว
และจะฟังต่อไปเรื่อยๆ
เพราะฟังกี่รอบๆ ก็ไม่เบื่อ
ว่างๆมานั่งฟังเป็นเพื่อนกันเถอะ
แล้วจะติดจาย~* ^___^



MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






free counters


Website counter

Friends' blogs
[Add สหายกุนเชียง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.