<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 พฤษภาคม 2559
 

วันดับสูญ...โลกใหม่

วันดับสูญ...

...โลกใหม่

รถยนต์ชะลอตัวและหยุดลงหน้าเขตปล่อยยานอวกาศ ศรัทธากระโดดลงจากที่นั่งคนขับ เดินไปที่ป้อมรักษาการณ์หน้าเขตอย่างแคล่วคล่อง

หลังจากทักทายกันตามประสาและแจ้งความจำนงให้แก่ผู้ดูแลเขาก็เกินกลับมาหาด๊อกเตอร์โทมัสและสมชายที่กำลังรออยู่ในรถพร้อมๆ กับที่ประตูสีเขียวทึบขนาดใหญ่ที่กั้นอยู่ค่อยๆ เปิดแง้มออก

รถจิ๊ปเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้งผ่านรอยเปิดของประตู และเมื่อรถยนต์เริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้มากขึ้นยานที่เห็นแต่ไกลก็เริ่มเผยให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย สมชายทำอะไรไม่ได้นอกจากจ้องมองภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบ ในใจคิดว่าบางทีเขาอาจกำลังหลุดมาอยู่ในโลกอื่น

“ในตัวยานที่เรากำลังจะเข้าไปดูกันถูกจัดสรรออกเป็นหลายส่วนและหลายห้อง ทั้งห้องทั่วๆ ไป เอ่อ ผมหมายถึง ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องโถง ห้องออกกำลังกาย ห้องอาหาร ทำนองนั้น และอีกส่วนจะเป็นห้องพิเศษที่เราสร้างไว้สำหรับใช้ปรับตัวเมื่อไปอยู่บนโลกใหม่”

ด๊อกเตอร์โทมัสเริ่มต้นอธิบาย

“ห้องพิเศษอะไรหรือครับ”

สมชายถาม ศรัทธามองทั้งคู่ผ่านกระจกมองหลัง แอบยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง

“ไม่ต้องใจร้อนไปครับด๊อกเตอร์ อีกสักครู่เมื่อไปถึงแล้วผมจะพาคุณไปให้เห็นด้วยตาตัวเองเลยครับ”

ชายชราตอบไม่ตรงประเด็น ศรัทธาที่มองทั้งคู่สนทนากันผ่านกระจกมองหลังแอบยิ้ม ไม่นานศรัทธาก็บังคับรถจิ๊ปให้เข้าจอดในซองจอดรถที่อยู่ห่างจากตัวยานประมาณหนึ่งกิโลเมตร

“ต่อจากนี้เราต้องเดินไปที่ยานครับ พวกเราไม่ต้องการเสี่ยงที่จะให้มียานพาหนะอื่นใดเข้าไปใกล้ตัวยานมากกว่านี้”

ชายชรากล่าวก่อนที่ทั้งสามคนจะลงจากรถ

“ศรัทธา เดี๋ยวคุณไปดูแลความเรียบร้อยที่หอบังคับการนะ”

“ครับ ด๊อกเตอร์”

ด๊อกเตอร์โทมัสออกคำสั่ง ศรัทธาตอบรับทันท่วงที เขาโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนจะโยนตัวเองขึ้นรถจิ๊ปและขับมันออกไป

ชายชราเดินนำทางสมชายผ่านห้องต่างๆ ในตัวยาน แนะนำแบบผ่านๆ ไปเรื่อยๆ ห้องมีขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างตามแต่วัตถุประสงค์และสิ่งที่ถูกบรรจุอยู่ภายในห้องเหล่านั้น อุปกรณ์บางชิ้นบนยานลำนี้มีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยและแปลกตาอย่างที่ชายหนุ่มไม่เคยเห็นมาก่อน

“ถึงแล้วครับ เชิญเลย ด๊อกเตอร์”

ประตูห้องเลื่อนเปิดออกอย่างนุ่มนวล ทั้งคู่ก้าวเข้าไปในห้อง สมชายกวาดตามองจนทั่ว ห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์คล้ายเตียงนอนที่มีฝาครอบคล้ายกระจกขนาดประมาณคนสูงสองเมตรนอนได้อย่างสบายเรียงรายอยู่รอบๆ ห้อง ที่ผนังอีกฝั่งหนึ่งมีประตูลักษณะเดียวกับประตูบานที่พวกเขาเพิ่งเดินผ่านเข้ามา

“ห้องนี้เป็นห้องจำศีลสินะครับ”

“ถูกต้องครับ การเดินทางอาจยาวนานจนทำให้คุณเบื่อที่จะตื่น เครื่องนี้จะช่วยให้คุณหลับอย่างสงบโดยที่คุณจะไม่แม้กระทั่งฝัน”

“ส่วนอีกห้อง...”

“อ้อ อีกห้องที่คุณเห็นเราแบ่งออกเป็นสองห้องย่อยใช้เก็บตัวอย่างเซลล์และเม็ดเลือด และใช้สำหรับการโคลนนิ่ง”

ชายชราพาชายหนุ่มเดินไปดูภายในห้องผ่านช่องกระจกที่ประตู ห้องเก็บตัวอย่างเซลล์และเม็ดเลือด ห้องโคลนนิ่ง สมชายยืนจ้องอุปกรณ์เหล่านั้น เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ทั้งๆ ที่คิดว่าไม่น่าจะเคยเห็นมาก่อน แต่ทำไมเขากลับรู้สึกคุ้นเคยกับพวกมันอย่างประหลาด

“มาเถอะครับ ผมจะพาไปดูห้องต่อไป”

ชายชรากล่าวพร้อมเดินนำทางออกจากห้องเพื่อไปยังพื้นที่ถัดไป

“ห้องนี้เป็นห้องควบคุมแรงโน้มถ่วง เราสามารถตั้งระดับแรงโน้มถ่วงในห้องนี้ได้ตั้งแต่ศูนย์จนถึงสามเท่าของแรงโน้มถ่วงของโลก”

“เรามีห้องแบบนี้ไว้ใช้ทำอะไรอย่างนั้นหรือครับ ด๊อกเตอร์โทมัส”

ในขณะที่สมชายกำลังเอ่ยปากถามเกี่ยวกับห้องควบคุมแรงโน้มถ่วง แต่ในใจของเขาขณะนี้กลับนึกไปถึงอย่างอื่น อะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจะติดอยู่ในหัวของเขามาตั้งแต่เมื่อสักครู่ อะไรบางอย่างที่เขาพยายามนึก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

“ไว้ไปห้องสุดท้ายแล้วคุณก็จะเข้าใจเองครับ ด๊อกเตอร์”

ชายชราเอ่ยพร้อมพาคู่สนทนาเดินไปยังจุดต่อไปอีกครั้ง ระหว่างทางชายชราอธิบายเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่เป็นระยะ หากแต่คำพูดในขณะนี้ได้เพียงผ่านหูของชายหนุ่มไป

ห้องบังคับการส่วนหน้าของยานเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มากนักหากเทียบกับห้องอื่นๆ เมื่อสักครู่ ชายชราพาสมชายมาหยุดยังหน้าจออิเล็กโทรนิคขนาดใหญ่ที่แสดงแผนผังอะไรบางอย่าง

“ที่นี่เป็นห้องบังคับการของยานลำนี้ หน้าจอนี้แสดงแผนที่จักรวาลและเส้นทางการเดินทางของยาน จุดสีแดงที่คุณเห็นในกรอบเล็กๆ มุมขวาของจอเป็นที่อยู่ปัจจุบันของยาน ส่วนจุดสีเขียวใจกลางจอก็เป็นดาวที่เราจะไปกัน”

“ดาวดวงนี้อย่างนั้นหรือ ดาวดวงนี้เรายังไม่มีข้อมูลของมันมากพอเลยไม่ใช่หรือครับ”

“ไม่หรอก เรื่องข้อมูลน่ะเรามีมากเกินพอแล้ว ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเราเฝ้าสังเกตดาวดวงนี้ด้วยกล้องอวกาศที่ทันสมัยที่สุด เราตรวจพบน้ำ ก๊าซออกซิเจน และแม้กระทั่งก๊าซมีเทนซึ่งเป็นโมเลกุลของสารอินทรีย์ที่เล็กและง่ายที่สุด ทั้งหมดเป็นร่องรอยของการเกิดชีวิตในอนาคต”

ชายชราเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“ความจริงแล้วเราศึกษาความเป็นไปได้ในการอพยพไปบนดวงดาวหลายๆ ดวง และวิธีการต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน ทั้งดาวศุกร์ ดาวอังคาร หรือแม้กระทั่งดวงจันทร์ที่เป็นดาวบริวารของโลกเองก็ตาม”

ชายชราแตะนิ้วลงบนจอ แผนที่ถูกขยายให้เห็นระบบสุริยะ

“แต่เราพบปัญหาต่างๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันภายในระยะเวลาห้าปี เช่น ดวงจันทร์มีมวลน้อยจนไม่สามารถรักษาชั้นบรรยากาศให้ห่อหุ้มอยู่รอบๆ ตัวมันได้ หากต้องการใช้ดวงจันทร์เป็นบ้านก็จำเป็นต้องสร้างแรงดึงดูดให้กับมันก่อน ดาวอังคารก็เช่นกัน มีบรรยากาศเบาบางและส่วนใหญ่ยังคงเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย”

“ส่วนปัญหาของดาวศุกร์นั้นต่างออกไป เราเราต้องลดความหนาแน่นของบรรยากาศแทนเนื่องจากมันมีความหนาแน่นมากกว่าโลกถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ และประกอบไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงเก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์ ซึ่งยิ่งแก้ไขยากไปกว่าดวงสองดวงที่พูดไปก่อนแล้ว”

ตั้งแต่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ความรู้สึกขัดแย้งในอะไรบางอย่างนั้นเด่นชัด และมันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่อะไรบางอย่างนั้นมันคืออะไรกันแน่

ตั้งแต่วันแรกที่เขาได้พบกับชายที่ชื่อโทมัสจนกระทั่งถึงเมื่อสักครู่ เขาครุ่นคิด

หน้าจอแสดงแผนที่จักรวาลอีกครั้งเมื่อชายชราแตะนิ้วลงไป

“แต่หากเป็นดางดวงนี้ล่ะก็”

เขาชี้ไปยังจุดสีเขียวซึ่งเป็นดวงดาวเป้าหมาย

“ทุกอย่างพร้อมอยู่ที่นั่น เพียงเราเดินทางผ่านระยะทางยี่สิบปีแสงไปหามัน ดาวดวงนี้หนักกว่าโลกห้าเท่า รัศมีเป็นหนึ่งจุดห้าเท่าของโลก อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศประมาณศูนย์ถึงสี่สิบห้าองศาเซลเซียส ทั้งหมดที่ผมพูดไปนั้นช่างเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์”

“มีเพียงสองสิ่งที่เราต้องปรับตัว หนึ่ง มันมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ในระบบของมันเพียงสามสิบวัน และสอง มันมีแรงดึงดูดมากกว่าโลกสองจุดสองเท่า และนี่ก็เป็นคำตอบที่ว่าทำไมเราถึงต้องมีห้องควบคุมแรงโน้มถ่วงไว้บนยานลำนี้”

“ระยะทางยี่สิบจุดห้าปีแสงมันออกจะไกลเกินไปสำหรับเทคโนโลยีที่มนุษยชาติมีอยู่ตอนนี้นะครับ หากเราเดินทางได้เร็วเท่าแสง ซึ่งนั่นไม่มีทางเป็นไปได้เลย เรายังต้องใช้เวลาเดินทางถึงยี่สิบกว่าปี แต่ที่สำคัญกว่านั้นในเวลานี้ยานบนโลกที่มีอยู่ไม่มีลำไหนเร็วได้ถึงครึ่งหนึ่งของความเร็วแสงด้วยซ้ำ”

สมชายคิดไม่ออกว่าจะเดินทางไปถึงที่นั่นด้วยยานลำนี้ได้อย่างไร แต่ในขณะเดียวกันเขาก็กำลังพยายามคิดถึงความไม่สมเหตุสมผลที่กำลังรบกวนจิตใจอยู่

ชายชรายิ้ม

“ใช่ครับ ตามทฤษฏีสัมพัทธภาพ เราไม่มีทางเดินทางได้เท่ากับความเร็วแสง หรือเราไม่มีทางเดินทางได้ด้วยความเร็วสามแสนกิโลเมตรต่อวินาที แต่หากผมจะบอกว่าเราสามารถเดินทางได้ใกล้เคียงกับความเร็วแสงล่ะครับ”

หัวใจของสมชายเต้นแรงขึ้น เขาคิดว่ากำลังจะได้รับคำตอบที่เกินความคาดหมายอีกครั้ง

“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของความเร็วแสงคือสิ่งที่เราทำได้ เราจะเดินทางกันด้วยความเร็วระดับนั้น ใช้ระยะเวลาเดินทางไปยังโลกใหม่ของเราทั้งสิ้นยี่สิบสองปี”

เขาตื่นเต้นที่ได้ยินตัวเลขความเร็วในระดับที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับพระเจ้าเลยก็ว่าได้ ที่นี่ บุคลากรเหล่านี้ บัดนี้สมชายเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าปัญญาและความสามารถของคนที่อยู่ที่นี่ช่างแตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้เห็นได้ยินตั้งแต่แรกล้วนเกินกว่าความสามารถและเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการถึง

เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ความสามารถ เทคโนโลยี ความพร้อมของพวกเขา นี่เอง ใช่แล้ว ความไม่สมเหตุสมผลอันนั้น

ราวกับตัวของชายหนุ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หากทว่าแสงสว่างที่เขากำลังพุ่งตรงเข้าไปหานั้นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของคำถามมากมายที่เขาต้องการคำตอบ




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2559
0 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2559 22:52:49 น.
Counter : 714 Pageviews.

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

KTHc
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




[Add KTHc's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com