<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 พฤษภาคม 2559
 

วันดับสูญ...เรือโนอาห์

วันดับสูญ...

...เรือโนอาห์

ช่วงเวลาหกเดือนที่ผ่านมาหลังจากคืนที่สมชายได้พบกับชายชรา ทุกวันยังคงดำเนินไปตามปกติราวกับเหตุการณ์ที่ได้คุยกันในคืนนั้นไม่ใช่เรื่องจริง

แม้ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์จะดวงใหญ่ขึ้นและแผดแสงแรงกล้าขึ้น แต่นกก็ยังคงบินออกจากรังยามที่มันโผล่พ้นขอบฟ้า และบินกลับเมื่อมันลับหายไป ผู้คนยังคงตื่นมาสู้ชีวิตในเช้าวันใหม่ และกลับไปหาคนที่รักเมื่อสิ้นภาระในแต่ละวัน

อีกไม่กี่นาทีแล้วที่ชายชราจะมารับเขา เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่สมชายสอนหนังสือให้แก่เหล่าเด็กๆ ที่เขารัก เสียงหัวเราะไร้เดียงสา รอยยิ้มใสซื่อเหล่านั้นส่งผลลึกๆ ต่อจิตใจ มันทำให้รู้สึกหดหู่ เขากำลังจะทอดทิ้งเด็กเหล่านั้นให้เผชิญชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นตามลำพัง

แต่ถึงแม้เขาจะยังอยู่ที่นี่ก็คงไม่ได้ทำให้สถานการณ์ทั้งหมดดีขึ้น

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

เสียงเคาะประตูดึงชายหนุ่มออกจากภวังค์ เขาเดินไปเปิดมัน สลัดความกังวลทุกอย่างทิ้งไป

“สวัสดีครับ ด๊อกเตอร์สมชาย คุณพร้อมแล้วใช่ไหม เชิญตามผมมา”

ด๊อกเตอร์โทมัสที่ยืนอยู่หลังบานประตูพูดทักทาย และเข้าเรื่องอย่างตรงประเด็น ทั้งคู่เดินลงจากอาคารหอพักตรงดิ่งไปขึ้นรถยนต์สีดำคันใหญ่ที่กำลังติดเครื่องยนต์รออยู่ อากาศที่ถูกปรับจนเย็นเฉียบภายในรถหรูทำให้สมชายรู้สึกสะท้าน

เมื่อทุกคนพร้อมรถยนต์ก็เริ่มเคลื่อนตัวออกเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง

“เรากำลังจะไปไหนกันครับ”

“ไม่ไกลจากที่นี่หรอกครับ อีกสักครู่คุณก็จะรู้เอง”

ด๊อกเตอร์โทมัสตอบคำถามสมชายอย่างคลุมเครือเช่นเคย

รถยนต์วิ่งผ่านเข้ามาในตัวเมืองหลวง มันเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าท่ามกลางการจราจรอันคับคั่งก่อนที่จะมาหยุดอยู่หน้าอาคารสูงรูปทรงทันสมัยแห่งหนึ่ง

“ถึงแล้วครับ ด๊อกเตอร์ เชิญครับ”

ด๊อกเตอร์โทมัสผายมือ ประตูรถเปิดออก สมชายก้าวลงจากรถ แหงนหน้ามองความสูงเสียดฟ้าของอาคาร ผิดคาดไม่น้อยกับสถานที่ที่ชายชราพามา เพราะเขานึกว่าจะถูกพาไปยังท่าอากาศยานหรือสถานที่ห่างไกลร้างผู้คนที่ไหนสักแห่งแทนที่จะเป็นอาคารใจกลางเมืองเช่นนี้

ชายชรายิ้มอย่างรู้ใจ

“เข้าไปข้างในเถอะครับ แล้วทุกอย่างที่คุณอยากรู้ ทุกอย่างที่คุณกำลังสงสัยจะกระจ่างเอง”

ภายในอาคารเป็นห้องโถงโล่งๆ แตกต่างจากความหรูหราทันสมัยภายนอก สมชายพยายามมองสังเกตสิ่งต่างๆ แต่ก็ยังไม่พบคำตอบซ่อนอยู่ที่ใด ชายชราเดินนำทางเขามาจนถึงประตูที่มีเครื่องสแกนม่านตาติดตั้งอยู่

“ยืนยันตัวตน ด๊อกเตอร์โทมัส”

เครื่องสแกนม่านตาทำการตรวจสอบและยืนยันผู้ที่จะผ่านประตูไป

“กรุณากดรหัสเพื่อยืนยันการเข้าถึงอีกครั้ง”

ชายชราทำตามคำแนะนำจากเสียงประดิษฐ์ ประตูเลื่อนขึ้นด้านบนเปิดทางให้แก่เขาทั้งสองหลังรหัสทั้งหมดถูกกรอกลงไป

ทั้งคู่เดินผ่านประตูบานแล้วบานเล่า สมชายนึกไม่ถึงว่าจะมีประตูมากมายขนาดนี้ในอาคาร และในแต่ละบานประตูที่เขาและด๊อกเตอร์โทมัสเดินผ่านนั้นใช้วิธีการสแกนเพื่อระบุตัวตนและรหัสปลดล็อกที่แตกต่างกัน

การที่มีประตูมากมายขนาดนี้ก็เพื่อบังคับให้ต้องใช้การระบุตัวตนหลายวิธีป้องกันการเข้าถึงด้วยการทำชิ้นส่วนอวัยวะปลอม และการต้องยืนยันด้วยรหัสอีกครั้งก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่อาจจะเสียชีวิตแล้วถูกนำชิ้นส่วนอวัยวะมาใช้ในการเข้าถึง

มันแสดงให้เห็นว่ามาตรการเข้าออกของที่นี่เข้มงวดมาก และสิ่งที่อยู่ข้างในนี้ก็คงจะมีความสำคัญมากเช่นกัน

“เอาล่ะครับ ด๊อกเตอร์ นี่เป็นประตูบานสุดท้ายแล้ว กรุณายื่นตั๋วของคุณเข้าไปในเครื่องด้วยครับ”

ด๊อกเตอร์โทมัสกล่าว สมชายทำตามอย่างว่าง่าย

เขายื่นแขนที่สวมอุปกรณ์ที่ได้มาเมื่อสามเดือนก่อนเข้าไปในช่องข้างประตู หลังจากเครื่องทำการสแกนเสร็จสิ้น อุปกรณ์ที่สวมอยู่ก็หลุดออกจากข้อมือของเขาพร้อมๆ กับที่บานประตูเลื่อนเปิดออก

“อุปกรณ์ที่คุณสวมมันอยู่ทุกวันมาตลอดระยะเวลาสามเดือน นอกจากจะใช้ติดต่อกันแล้ว มันยังเป็นเครื่องบันทึกด้วย ทุกวินาทีที่คุณสวมมันอยู่ มันได้ทำการบันทึกลักษณะกล้ามเนื้อ เส้นเลือด การเต้นของหัวใจ เซลล์ ดีเอ็นเอ ทุกอย่างที่เป็นร่างกายของคุณ ดังนั้น ต่อให้มีคนขโมยมันและแอบอ้างตัวว่าเป็นคุณ เขาคนนั้นก็ไม่สามารถใช้มันได้”

ทั้งคู่เดินเข้าไปในลิฟต์ที่ตั้งอยู่สุดทาง ลิฟต์ตัวนี้แตกต่างจากลิฟต์ที่พบเห็นได้ทั่วไป คือมันไม่มีปุ่มกดใดๆ ภายใน และไม่มีเลขชั้นของอาคาร มันเป็นเพียงกล่องสีเหลี่ยมที่มีประตูเข้าออกเท่านั้น

เมื่อประตูลิฟต์ปิดมันก็เริ่มเคลื่อนที่

“คุณเคยได้ยินเรื่องเรือโนอาห์ไหมครับ”

ชายชราตั้งคำถามทำลายความเงียบ ลิฟต์ทึกตัวนี้กำลังเคลื่อนที่ลงด้วยความเร็วที่มากพอประมาณจนทำให้สมชายรู้สึกกระอักกระอ่วน

“เรือโนอาห์หรือครับ ผมเองก็ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็มีอ่านผ่านๆ ตามาบ้าง ถ้าจำไม่ผิด เรือโนอาห์เป็นเรือที่พระเจ้ามีบัญชาให้ชายที่ชื่อโนอาห์ประกอบขึ้นจากไม้สนโกเฟอร์ ยาวสามร้อยศอก กว้างห้าสิบศอก มีทั้งหมดสามชั้น ความสูงรวมคงราวๆ สามสิบศอก”

“โนอาห์และครอบครัวพร้อมด้วยสัตว์บนโลกอีกชนิดละหนึ่งคู่ได้รับการอนุญาตให้ขึ้นไปอยู่บนเรือลำนั้นก่อนที่พระองค์จะทรงบันดาลให้ฝนตกหนักถึงสี่สิบวัน และน้ำท่วมแผ่นดินไหวอีกหนึ่งร้อยห้าสิบวัน จนสิ่งมีชีวิตทั้งโลกตายจนหมดสิ้น”

ลิฟต์ยังคงเคลื่อนตัวต่อไปจนสมชายเริ่มสงสัยว่านี่เขาขึ้นมาสูงหรือลงมาลึกขนาดไหนกันแล้ว

“ตามตำนานบอกว่าเรือโนอาห์ไปค้างอยู่บนยอดเขาอารารัตซึ่งเป็นพรหมแดนของประเทศตุรกี และถัดจากนั้นอีกหนึ่งร้อยห้าสิบวันน้ำก็ลดลงหมด โนอาห์และสรรพสัตว์จึงลงมาจากเรือและใช้ชีวิตกันต่อไป”

“แต่ทั้งหมดที่ผมได้อ่านมาก็ยังเป็นเพียงแค่ตำนาน เพราะในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครเคยพบเรือโนอาห์ มีบ้างที่มีพวกที่อ้างว่าพบแล้ว แต่นั่นก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของจริง รวมถึงสถานที่ที่พบก็ไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้”

ในที่สุดลิฟต์ก็เคลื่อนตัวมาถึงจุดหมาย ประตูเปิดออก ทั้งคู่ก้าวออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยม บัดนี้พวกเขาอยู่ในห้องสีขาวปลอด ทั้งห้องปราศจากเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์อื่นใดนอกจากเครื่องมือรูปทรงประหลาดที่ตั้งอยู่ตรงแนวกับประตูลิฟต์

ชายชราเดินนำสมชายมายังเครื่องมือประหลาดตัวนั้น เมื่อดูใกล้ๆ แล้วมันมีลักษณะเหมือนห้องขนาดเล็ก ภายในมีวงจรไฟฟ้าอยู่เต็มไปหมด

“ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าในอดีตกาลเรือโนอาห์จะมีอยู่จริงหรือไม่ แต่สิ่งที่คุณกำลังจะได้พบเห็นต่อจากนี้ ผมรับประกันได้ว่ามันจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตำนานที่คุณเพิ่งเล่าไปเมื่อสักครู่แม้แต่น้อย”

ชายชรายิ้ม ถอนหายใจ ยืดอกอย่างผึ่งผาย

“เชิญคุณเข้าไปในเครื่องเคลื่อนย้ายมวลสารได้แล้วครับ เราจะพาคุณเดินทางไปหามันเดี๋ยวนี้”

“เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสาร...”

สมชายพูดย้ำ ไม่แน่ใจว่าเมื่อสักครู่ฟังผิดหรือไม่

“ใช่ครับ เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสาร คุณฟังไม่ผิด นี่เป็นอีกโครงการหนึ่งขององค์กรของเรา แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ตอนนี้มันมีข้อจำกัดในการใช้งานมากมาย เช่น มันสามารถเคลื่อนย้ายจากเครื่องต้นทางไปสู่เครื่องปลายทางได้เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าหากเราต้องการเคลื่อนย้ายอะไรไปที่ไหน เราต้องสร้างมันไว้อีกเครื่องที่นั่น และนั่นก็หมายถึงงบประมาณมหาศาล”

ชายชราอธิบายเพิ่ม

“และอีกประการหนึ่งที่ทำให้มันยังไม่ถูกนำไปใช้ในการเดินทางขององค์กรของเรา ก็เพราะการเคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตนั้นยากและซับซ้อนมากกว่าสิ่งของมากมายนัก สิ่งมีชีวิตที่จะเดินทางด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องมีข้อมูลมากมายมหาศาลของสิ่งมีชีวิตนั้น”

พูดจบประโยค สมชายก็เข้าใจทันทีว่าเหตุใดเขาจึงจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์ชิ้นนั้นไว้ที่ข้อมือตลอดเวลาสามเดือน และด๊อกเตอร์โทมัสเองก็ปราดเปรื่องพอที่จะอ่านออกว่าสมชายเข้าใจแล้ว

“ใช่แล้วครับ อุปกรณ์ที่คุณสวมมันก่อนหน้านี้เป็นตัวเก็บข้อมูลของคุณ มันต้องจดจำตำแหน่งกระดูก เส้นเลือด เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ รวมถึงการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั้งหมด เพื่อที่พอเครื่องย้ายมวลสารทำการแยกคุณออกเป็นอะตอมและส่งคุณไปยังปลายทางแล้ว มันจะได้ประกอบคุณกลับเป็นแบบเดิมได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นข้อจำกัดในเชิงพานิช เพราะหากมีการนำมาใช้ในการเดินทางปกติ ความสะเพร่าของคนคุมเครื่องเพียงชั่วเสี้ยววินาทีหรือหากมีข้อมูลแปลกปลอมเพียงเล็กน้อย นั่นก็หมายถึงชีวิตของผู้เดินทาง”

นิยายวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่กล่าวถึงเครื่องย้ายมวลสาร ความสะดวกสบายในการเดินทางที่แค่อ่านก็ยังรู้สึกไกลเกินจริง เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะได้เห็นของจริง ไม่เคยคิดว่าเทคโนโลยีนี้จะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเขา

“แต่ที่เราต้องนำมันมาใช้ในโครงการนี้ เพราะเราไม่ต้องการให้ใครรู้ถึงสถานที่ที่แท้จริงที่เรากำลังจะไปกัน ผมบอกคุณไปแล้ว เราป้องกันทุกอย่าง ทุกความผิดพลาด เราใช้เครื่องนี้เพื่อป้องกันข่างที่จะเล็ดรอดออกไปจนอาจเกิดจลาจล”

“เอาล่ะ ตอนนี้ขอให้คุณเข้าไปยืนในตำแหน่งที่บอกไว้ในเครื่อง แล้วทำตามคำแนะนำครับ”

สมชายทำตาม ประตูเครื่องปิดลง รู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างกำลังไหลวนรอบกาย ร่างกายค่อยๆ ถูกบีบอัดจนรู้สึกแทบจะทำไม่ไหว และเพียงฉับพลันความอึดอัดนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความผ่อนคลาย เขารู้สึกเบา ไร้น้ำหนัก

แสงสีขาวแผ่พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วเกินประมาณ เขารู้สึกเหมือนตนเองกำลังบินไปในช่วงรอยต่อของความจริงและความฝัน




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2559
0 comments
Last Update : 3 พฤษภาคม 2559 11:00:49 น.
Counter : 1081 Pageviews.

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

KTHc
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




[Add KTHc's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com