Group Blog
ธันวาคม 2551

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
********เพราะเหตุใด ทำไมเพลงไทยสมัยนี้จึงดังได้ไม่นาน ไม่เหมือนสมัยก่อน?***********
วันนี้ผมอยากเขียนเรื่องทั่วไปที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษดูบ้าง บทความนี้ ผมจะไม่เขียนในฐานะ “ครูเฟียต” นะครับ เพราะไม่ได้เขียนเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ แต่เขียนจากความคิดเห็นของผมเองที่มีต่อวงการเพลงเมืองไทยมันเป็นเพียงแค่ความเห็นคนๆ หนึ่งเท่านั้นที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง (แต่ก็ไม่วาย ผมแอบสอดแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษลงไปด้วยนะครับ) แน่นอนต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยังไงก็ post comment กันได้ว่าความคิดของคุณเป็นอย่างไร? แต่ขอให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์นะครับ ต่างคนต่างเคารพในความคิดเห็นของกันและกัน ไม่มีใครถูกใครผิดหรอกครับ

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปลายเดือนที่แล้วผมได้ไปประเทศฮ่องกง ระหว่างที่เดินช็อปปิ้งอยู่ในห้างๆ หนึ่งก็ได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นในห้าง ซึ่งเพียงแค่ intro ขึ้นก็คุ้นมากๆ นึกอยู่ไม่นานก็นึกออกว่า ใช่แล้ว เพลง “นอนไม่หลับ” ของ Mic Idol นั่นเอง ซึ่งตอนนั้นอัลบั้มเต็มของ Mic Idol ยังไม่วางแผงในเมืองไทยเลยนะครับ (เพิ่งวางแผงเมื่อวันอังคาร 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา) แต่เริ่มมี single เพลงนอนไม่หลับ ออกมาให้ได้ฟังกันก่อน จำได้เลยว่า เพียงครั้งแรกที่ผมได้ยินเพลงนี้ก็ชอบในทันทีที่ได้ยินครั้งแรก เพราะทุกอย่างลงตัว ทั้งดนตรีและเสียงร้องที่ทำได้ดีมาก (เดี๋ยวนี้หายากมากนะครับ เพลงที่จะฟังเพราะเลยในครั้งแรก) แต่การที่ผมได้ยินเพลงนี้ในภาษาจีนที่ฮ่องกงหมายความว่าอย่างไรหรือครับ? ผมขอเดาแล้วกันว่า คนไทยคงไปก๊อปปี้ทำนองเพลงของจีนมาหรือเปล่า? ผมยังไม่ได้ซื้ออัลบั้มมาดูชื่อคนแต่งทำนองว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า หรือให้เครดิตว่าเอาทำนองมาจากเพลงต่างประเทศ พูดถึงเรื่อง copy ทำนองเพลงมาจากต่างประเทศเนี่ย มีให้เห็นค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า การไป copy ทำนองเพลงต่างประเทศเค้ามาโดยไม่ให้เครดิต เทียบกับการเจอพวกเทปผีซีดีเถื่อน นี่จะถือว่าเป็นกรรมตามสนองของค่ายเพลงหรือเปล่า?

ถ้าให้นึกถึงเพลงไทยที่มีทำนองคล้ายเพลงของฝรั่งมาก (ผมไม่อยากฟันธงหรือคอนเฟิร์มว่าไป copy มาหรอกนะ ลองฟังแล้วใช้วิจารณญาณกันเอาเอง) เท่าที่ผมนึกได้ จะยกตัวอย่างได้ดังนี้ครับ

เพลงได้ยินไหม ของ ดา เอ็นโดรฟิน vs เพลง So small ของ Carrie Underwood (เหมือนตอน intro และ solo มากๆ แต่เพลงนี้ก็ขอยอมรับว่า ดาเอ็นโดรฟิน ก็ทำออกมาได้ดีมากเหมือนกัน)

เพลงรักแท้หรือแค่เหงา ของ โบ สุนิตา vs เพลง The trouble with love is ของ Kelly Clarkson อัลบั้มชุดแรกชื่อ Thankful ออกเมื่อปี 2003

เพลงหัวใจขอมา ของ คริสติน่า vs เพลง Don’t wanna lose you ของ Gloria Estefan ออกเมื่อปี 1989 (เหมือนทั้งเพลงครับ ขอบอก)

ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า คนแต่งทำนองเพลงไทยเหล่านี้ เค้าอาจจะได้แรงบันดาลใจ (inspiration) มาจากเพลงสากลต้นฉบับดังกล่าว แล้วมาดัดแปลงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่แนบเนียนพอ พวกเราเลยจับได้ว่าทำนองคล้ายกับเพลงสากลที่เราเคยได้ยิน

ในทางกลับกัน มีเพลงไทยบางเพลงที่แต่งทำนองได้ดีมากจนสามารถนำไปขายต่างประเทศได้ อย่างเช่น เพลงคนใจง่าย ของ ไอซ์ ศรันยู ที่โด่งดังมากไม่เฉพาะในไทย ยังดังในญี่ปุ่นด้วย นี่สิถึงจะเจ๋งจริง น่าภูมิใจว่าคนไทยก็ทำทำนองให้ขายต่างประเทศได้เช่นกัน ผมอยากเห็นเพลงไทยอย่างนี้เยอะๆ นะครับ

พอพูดถึงวงการเพลงไทยสมัยนี้ มันเปลี่ยนไปเยอะมาก พวกเราจะเจออัลบั้มที่มีเพลงเพราะมากกว่าครึ่งอัลบั้มยากมากๆ ในปัจจุบัน เพราะว่าตอนนี้มีนักร้องคลอดอัลบั้มมาราวกับดอกเห็ด อาทิตย์หนึ่งๆ มีอัลบั้มใหม่ออกมาไม่รู้ตั้งกี่อัลบั้ม ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าขั้นตอนการทำเพลงสมัยนี้กับสมัยก่อนมันแตกต่างกันหรือไม่? ทำไมผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาดจึงมีคุณภาพต่างกัน ไม่เชื่อคุณลองสังเกตดูสิครับ ที่แกรมมี่นำเอาอัลบั้มเก่าๆ ของ เบิร์ด, มาลีวัลย์, นันทิดา, คริสติน่า, บิลลี่, เจ ฯลฯ มา remaster คุณภาพเสียงให้ดีขึ้นกว่าเก่าแล้วมาขายใหม่ ในชุด The Long Play Collection ยังขายได้ในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่อัลบั้มเหล่านั้นเก่ามากๆ แต่ที่ทุกอัลบั้มมีเหมือนกัน คือถึงแม้จะเก่า แต่ classic คือมีเพลงเพราะบรรจุอยู่เต็มอัลบั้ม ผมเองก็ซื้อหลายอัลบั้มเลยล่ะเพราะมันทำให้ย้อนกลับไปรำลึกถึงอดีต เวลาฟังเพลงเก่าเหล่านั้นได้อย่างดี ฟังทีไรก็คิดทุกครั้งว่า ทำไมเพลงสมัยนี้มันถึงไม่เพราะ ไม่ classic เหมือนเพลงสมัยก่อนนะ? สมัยก่อนจำได้เลยว่า เราต้องคอยรอฟังเพลงที่กำลังจะออกใหม่ (new release) ทางวิทยุ (เมื่อก่อน MP3 ยังไม่ระบาดขนาดนี้) และผมก็จะตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้ถึงวันวางแผงของศิลปินที่เราชอบ ผมจะไปซื้อในวันแรกที่วางแผงเลย ทั้งๆ ที่ยังฟังเพลงโปรโมททางวิทยุไปได้ 1-2 เพลงเท่านั้น เพราะเราไว้ใจศิลปินที่เราชื่นชอบว่าต้องทำเพลงออกมาดี(เกือบ)ทั้งอัลบั้มแน่ๆ และเราก็มักจะไม่ผิดหวัง ทำให้เรายังมีความศรัทธาในตัวศิลปินคนนั้น ตราบใดที่ยังทำเพลงมีคุณภาพออกมา เราก็พร้อมจะอุดหนุนเต็มที่

พอมาในยุคปัจจุบัน เมื่อ MP3 เข้ามามีบทบาทในวงการเพลง ยอดขายเทปและ CD ตกฮวบ ในปัจจุบันรายได้หลักของค่ายเพลงคือการ download เพลงทางมือถือ ทุกอย่างมันเลยเปลี่ยนไป นักร้องหน้าใหม่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด เพลงเพราะในแต่ละอัลบั้มมีเพียง 2-3 เพลงเท่านั้นก็คือเพลงที่โปรโมทนั่นแหละ พอซื้ออัลบั้มมาฟังเพลงเหลือก็จะทราบเหตุผลว่าทำไมถึงไม่โปรโมท (ก็เพราะว่าไม่เพราะนะสิ) ไม่รู้ว่าคุณเคยแปลกใจอย่างผมหรือเปล่าว่า คนทำเพลงเค้าจะรู้ไหมนะ ว่าเพลงๆ นี้จะดังหรือไม่ดัง? ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของนักแต่งเพลงบางคน เค้าบอกว่าไม่รู้หรอก แต่ผมว่าแล้วคุณรู้ได้ไงว่าจะโปรโมทเพลงนี้ทั้งๆ ที่ในอัลบั้มมีประมาณ 10 เพลง นั่นแสดงว่าคุณคิดว่าเพลงนั้นจะดังใช่มั้ย? แล้วทำไมคุณไม่ทำให้คุณภาพของทุกเพลงในอัลบั้มมันดีเทียบเท่ากับเพลงที่คุณคิดจะเปิดตัวหล่ะ มันจะได้ดังทั้งอัลบั้ม ซึ่งปรากฏการณ์อย่างที่ผมบอกมักจะเกิดกับนักร้องหน้าใหม่ในอดีตที่ค่ายเพลงคิดจะปั้นให้ดัง ยกตัวอย่างเช่น

โบ สุนิตา กับอัลบั้มแรก (ที่มีเพลง ฉันรู้ เป็นเพลงเปิดตัว)
นิโคล กับ อัลบั้ม กะโปโลคลับ
คริสติน่า กับอัลบั้ม นินจา
นัท มีเรีย กับอัลบั้ม R&B
ปาล์มมี่ กับอัลบั้มแรก ที่มีเพลง อยากจะร้องดังดัง
ทาทา ยัง กับอัลบั้มแรกที่มีเพลง โอ๊ะ โอ๊ย
เจ เจตริน กับอัลบั้ม จ-เอะ-บอ
แอม เสาวลักษณ์ กับอัลบั้ม ดอกไม้เหล็ก
ฯลฯ

อัลบั้มที่ผมเอ่ยถึงล้วนแต่เป็นอัลบั้มที่มีเพลงเพราะๆ บรรจุอยู่เต็มอัลบั้ม มีความประณีตในการผลิตมาก จึงทำให้นักร้องหน้าใหม่เหล่านั้นเปิดตัวแล้วดังเป็นพลุแตก ยอดขายถล่มทลาย มีคอนเสิร์ตของตัวเอง และก็มักจะมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้อัลบั้มใหม่ๆ ที่พวกเขาออกมาใหม่จะไม่ดังเหมือนเก่า แต่ศิลปินพวกนี้ก็ยังใช้เพลงเก่าของตัวเองหากินได้อยู่ดีเพราะของดี วันเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังดีอยู่ ใครๆ ก็ยังอยากฟังอยู่ดี

อีกเหตุผลที่ผมคิดได้ว่าทำไมเพลงสมัยนี้จึงดังอยู่ไม่นานก็คือ การโปรโมทอัลบั้มสมัยนี้ก็ทำได้แป๊บเดียวเพราะมีนักร้องออกมาใหม่เยอะ การจะโปรโมทนานๆ เดี๋ยวนักร้องที่ออกมาใหม่ก็ไม่ได้โปรโมทสักที มีเรื่องตลกที่ผมเคยอ่านมา คือแอม เสาวลักษณ์ไปแสดงคอนเสิร์ตหนึ่ง แล้วมีผู้ชมถามว่าเมื่อไหร่จะออกอัลบั้มใหม่สักที ซึ่งตอนนั้นเธอก็เพิ่งออกอัลบั้มใหม่มาได้ไม่นาน เธอจึงเล่นมุขตลกว่า “อย่าไปบอกใครนะคะว่าตอนนี้ทางต้นสังกัดเค้ากำลังโปรโมทอัลบั้มใหม่ของแอมอย่างเป็นความลับ” อย่าว่าแต่นักร้องทั่วไปเลยครับ ขนาดระดับ superstar อย่างพี่เบิร์ด ชุดหลังๆ มานี้ก็ไม่ค่อยจะเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ ยกเว้นชุดรับแขก ที่ขายได้ถึง 3 ล้าน copy เพราะเพลงที่ร้อง ขี้จุ๊ เบะ เบ๊ะ ขี้จุ๊ ตะลาลา เพลงนี้ดังระเบิดระเบ้อขนาด MP3 ระบาดก็ทำอะไรกับยอดขายของพี่เบิร์ดไม่ได้ นี่น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งนะครับที่ถ้ามีเพลงที่โดนจริงๆ ออกมา ต่อให้ MP3 ระบาดก็ตาม ยอดขายก็พุ่งกระฉูดได้อยู่ดีนะครับ

นักร้องรุ่นใหม่ๆ ที่ทำเพลงออกมาอย่างมีคุณภาพแบบสม่ำเสมอ ไม่ใช่เป็นแค่ One hit wonder คือ มีเพลงดังเพลงเพียงเดียวแล้วก็หายไปจากวงการ ผมว่าน่าจะเป็น ดา เอ็นโดรฟินนะ จากคอนเสิร์ตของเธอเอง พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีเพลงเพราะของเธอเองมากมาย ทั้งๆ ที่อยู่ในวงการเพลงได้ไม่นาน อีกคนที่ผมกำลังจับตามอง คือ แก้ม เดอะสตาร์ คนนี้เธอมีพลังเสียงสุดยอด (คนที่ชอบแนวแผดเสียงก็จะชอบ แต่ใครไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลย) เธอเพิ่งเข้าวงการมาจากการประกวดเดอะสตาร์ ปีก่อน เข้ามาได้ไม่ถึงปี ได้เป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตแบบ เบิร์ด เบิร์ด แล้ว และทำได้ดีมากๆ ด้วย ผมชอบมากเลยที่แก้มกับดาร้องเพลง คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น ในคอนเสิร์ตแบบ เบิร์ด เบิร์ด และที่แก้มร้องเพลง ใบไม้ และ And I’m telling you I’m not going ในคอนเสิร์ตของวี ทรีโอ ก็ทำให้ขนลุกได้เช่นกัน แถมอัลบั้มใหม่ของเธอก็ทำได้ไม่เลว มีเพลงเพราะอยู่มากเหมือนกันในอัลบั้ม ผมว่าในไม่ช้าต้องมีคอนเสิร์ตของเธอเองออกมาให้เราได้ชมกันแน่ๆ

นักร้องชายรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ก็เป็น บี้ เดอะสตาร์, ไอซ์ ศรันยู, อ๊อฟ ปองศักดิ์ และ ป๊อป แคลอรี่ บลาส์ บลาส์ ฯลฯ ที่แต่ละคนก็มีเพลงฮิตประจำตัวอยู่ไม่น้อย และก็ออกอัลบั้มมาได้เรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่ได้เพราะทั้งอัลบั้มเหมือนกับนักร้องรุ่นเก่าก็ตาม อันนี้ก็ต้องติดตามดูไปเรื่อยๆ นะครับว่าใครจะเป็นตัวจริงคืออยู่ในวงการได้นานที่สุด

ขอฝากอีกนิดนึง มีใครรู้บ้างว่าทำไม CD บางอัลบั้มอย่าง อัลบั้มของโรสและโบ ที่ชื่อ My Inspiration ที่เอาเพลงเก่ามา cover จึงแพงกว่า CD ทั่วไป (แพงกว่า 155 บาท)? ผมว่าต้นทุนไม่น่าจะต่างกันกับอัลบั้มทั่วไปนะ หรือว่ามีการอัดเสียงที่ดีกว่าอัลบั้มทั่วไปเหรอครับ ผมไม่เห็นความแตกต่างเลย เลยสงสัยมาทุกวันนี้ว่าเพราะอะไร?

นอกจากนี้ ผมกำลังเขียนวิจารณ์เรื่องคอนเสิร์ตต่างๆ ในเมืองไทยแยกอีกบทความนึง รับรองมันส์แน่ๆ เพราะมีเรื่องให้เม้าท์เยอะเหมือนกัน แล้วจะนำมาให้อ่านกัน เร็วๆ นี้ครับ




Create Date : 20 ธันวาคม 2551
Last Update : 20 ธันวาคม 2551 19:57:41 น.
Counter : 3343 Pageviews.

14 comments
  
ผมว่าไ่ม่แปลกครับ เพราะว่ามันออกมาเยอะมาก แถมสื่อที่โปรโมตก็ต้องแบ่ง ๆ กันไป

แต่อัลบั้มบางอัลบั้มถ้าทำดีจริงผมว่าก็จะอยู่ได้นานนะครับ
โดย: I will see U in the next life. วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:21:52:54 น.
  
นิติ สว่างทรัพย์
โดย: นิติ สว่างทรัพย์ (mlmboy ) วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:1:36:24 น.
  
[ Click Me ]



Merry Christmas & A Happy New Year

แวะมาส่งความสุขเนื่องในวันปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ ปีใหม่นี้ก็ขอให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะคะ ตลอดปีและตลอดไปค่ะ
โดย: แม่น้องแปงแปง วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:13:18:22 น.
  
สวัสดีครับ
สำหรับผมคิดว่ามันคงเป็นไปตามยุคสมัยนะครับ อย่างเช่น คำร้อง ในการเขียนสมัยนี้กับสมัยก่อนก็แต่กต่างกัน ในสมัยก่อนคำจะค่อนข้างอยู่ในลักษณะคำสัมผัส ซึ่งทำให้ฟังแล้วไพเราะ ซึ่งเปรียบเทียบกับสมัยนี้คำร้องใหม่จะเป็นในลักษณะคำพูดซะมากกว่า
ส่วนเรื่องการทำดนตรีในสมัยนี้ก็ค่อนข้างง่ายขึ้นทำได้เร็วขึ้น มีระบบซอฟต์แวร์ต่างๆช่วยมากมาย ทำให้การทำดนตรีในสมัยใหม่จะทำที่บ้านก็ยังได้ ทำให้ในยุคนี้ทำเพลงออกมาได้มากขึ้นตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ศิลปินก็เลยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต่างกับสมัยก่อนการทำดนตรีต้องอาศัยสตูดิโอใหญ่ๆในการทำ เช่าค่าห้องอัดกันทำ เป็นเดือนๆ
ในยุคนี้ผมคิดว่า อยู่ที่จิตสำนึกครับไม่ว่าจะเป็นทางด้านผู้ผลิต ศิลปินเอง หรือแม้แต่ผู้บริโภคเองก็ตาม ต้องปลูกฝังจิตสำนึกครับ ผู้ผลิตและศิลปินเองก็ตั้งใจผลิตงานที่มีคุณภาพ ผู้บริโภคก็สนับสนุนผลงานที่มีคุณภาพ

ซึ่งเป็นเรื่องยากครับในเรื่องการสร้างจิตสำนึก !!

ปล.ในสมัยก่อนผมก็ไม่ชอบการขายเพลงอยู่ในรูปแบบนึงเหมือนกัน คืออกอัลบั้มมาแล้วได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงมากมาย หลังจากในนั้นออกอัลบั้มพิเศษออกมาแถมเพลงนึงนอกนั้นเป็นเพลงเดิมๆจากอัลบั้ม ขายราคาเท่าเดิม รู้สึกโดนเอาเปรียบยังไงก็ไม่รู้ ...
โดย: smiley IP: 58.136.119.52 วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:11:04:57 น.
  


Merry Christmas & Happy New Year

From LuPookHui & Mama


โดย: ...ที่สุดในโลก... วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:13:38:52 น.
  
ไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่เห็นด้วยต่ะ นักร้องรุ่นใหม่ ไม่รู้จักเลย
แป้ปๆ หาย
โดย: แม่น้องขวัญ ซาแมนต้า IP: 72.153.46.16 วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:22:05:26 น.
  
เห็นด้วยบ้าง
และไม่เห็นด้วยบ้าง

ที่เห็นด้วยคือปัจจุบันไม่เพราะ
แต่ไม่เห็นด้วยในเรื่องการวัดระดับมาตรฐานเพลงสมัยปัจจุบัน ที่บอกว่าเพลงคนใจง่าย ยอดเยี่ยม ผมว่าไม่จริงครับ เผลอๆ ก็อบเค้ามาด้วยนั่นน่ะ รู้สึกจะก๊อปเพลงเพลงๆ หนึ่งของ George Michael มา คับ

หรือแม้กระทั่งเพลงของดา เอ็นโดรฟิน ก้ไม่ถือเป็นงานเพลงคุณภาพทุกเพลงต่อเนื่อง
ของดา เท่าที่ฟัง ไม่มีระดับ Record of the year (พิจารณา Sound และ Design ในเพลง)
มีแค่ระดับ Song of the year (พิจารณาเนื้อเพลง) คือ
เพลง น้ำเต็มแก้ว และอย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง


โดย: รู้จริง IP: 124.121.110.102 วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:1:55:50 น.
  
เห็นด้วยในหลายๆ ประการครับ และมีอยู่อีกอย่างหนึ่งในสมัยนี้ นักร้องมักจะร้องเพลงแล้วออกเสียงมาไม่ชัด มีการใช้คำเพี้ยนๆ ไปจากเดิม เช่น คำว่า เธอ เป็นเชอ ไม่มีคำควบคล้ำที่ถูกต้อง ทำให้บั่นทอนคุณภาพของเพลงลงไปอย่างน่าเสียดาย
สมัยนี้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ มี MP3 ออกมา ทำให้ค่ายเพลงต้องเปลี่ยนแผนการตลาด เจาะเป้าหมายไปทางดิจิตอล คือ การดาวน์โหลดเพลง ซึ่งเป็นรายได้หลักของค่ายเพลงเลยทีเดียว
และสมัยนี้มีการโปรโมทเพลงทีละเพลงก่อนที่จะมีการออกวางแผงอัลบั้ม มีการปล่อย MV ทีละเพลง เพื่อให้เพลงๆ นั้นได้เป็นที่รู้จัก กว่าจะออกอัลบั้มเต็มจริงๆ ก็ใช้เวลาโปรโมทเพลงทีละเพลง 2 เพลง นานหลายเดือน จึงอาจเป็นข้อดีและเป็นทางออกทางนึงให้กับศิลปินในสมัยนี้ เพลงอาจจะดังก็จริง แต่เพลงที่ออกมานั้นคุณภาพก็แตกต่างกันไปในแต่ละเพลงครับ
โดย: Core Music IP: 125.27.207.253 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:19:12:25 น.
  
เพลงไทยสมัยนี้ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ร้องซะภาษาเพี้ยนหมดเลย ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องร้องให้ไม่ชัดด้วย ทั้งๆที่ตอนพูดก็เห็นพูดชัดทุกคน เลยไม่รู้เป็นที่ศิลปินหรือผู้จัด แล้วเนื้อร้องแต่ละเพลงไม่ค่อยมีอะไรมากเหมือนเพลงสมัยก่อน
โดย: พยายามฟัง IP: 171.99.96.92 วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:16:24:30 น.
  
เพลงเพราะๆ ก็มีวันหมดเหมือนกันนะเนี่ย
โดย: kkk IP: 58.11.69.67 วันที่: 23 มีนาคม 2556 เวลา:16:57:54 น.
  
^
^
^ นิยามของคนยุคใหม่ 'ความพากเพียรน้อย... ความต้องการผลประโยชน์มาก'
โดย: kkk IP: 58.11.69.67 วันที่: 23 มีนาคม 2556 เวลา:17:07:20 น.
  
เกลียดการออกเสียง ร.เรือ ในเพลงสมัยใหม่มาก เช่น รัก มันออกเสียงเป็น รูวัก 555 ฟังแล้วอยากตบปากคนร้องจริงๆ
โดย: changphol IP: 171.7.23.140 วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:21:59:28 น.
  
เพลงวัยรุ่นสมัยนี้ร้องแล้วฟังไม่รู้เรื่อง เนื้อหาน้อย ร้องคำซ้ำๆเยอะมาก เน้นดนตรีมากกว่าเนื้อร้อง สงสัยคนแต่งคิดได้แค่นั้น
โดย: ศุภชัย IP: 171.99.102.34 วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:59:08 น.
  
ที่แน่ๆผมเชื่อโดยส่วนมากก๊อปดนตรีจากต่างชาติเกือบ100% พอรู้เลยไม่อยากฟังเพลงไทย จะกลับไปฟังที่ต้นฉบับเพราะกว่า และเสียความรู้สึกที่เขาหลอกคนไทยด้วยกันไม่แปลกใจที่เขาบอกว่าเราชอบละเมิดลิขสิทธิ เพราะศิลปินไทยไม่มีจิตวิญญาณของศิลปินจริงๆนักร้องตามกระแสเลยอยู่ไม่นาน พอเขาตำหนิเราเลยไม่ยอมรับ แต่ก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ตเหมือนสมัยนี้ แฟนเพลงเลยไม่ค่อยรู้
โดย: น้ำมัน IP: 171.100.13.231 วันที่: 24 มกราคม 2557 เวลา:16:10:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3