เศรษฐกิจในยุโรปยังคงซบเซาจากปัญหาหนี้ เน่าภาคครัวเรือน สำหรับการส่งออกรถยนต์ของไทยก็โดนไปเต็มๆกระจุยกระจายไปถึงสองหมื่นล้านจาก ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างผิดปกติ

ส่วนประเทศญี่ปุ่นนั้นมีทิศทางที่ดี ขึ้นหลังจากนโยบายของภาครัฐที่ออกมา กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ยังต้องเดินต่อไปข้างหน้า รถใหม่ประจำเดือนพฤษภาคมจากทวีปยุโรปออกมายั่วน้ำลายกันอีกแล้ว...

Toyota FT86 Open Concept Roadster
เวอร์ ชั่นเปิดประทุนของ Toyota GT86 เปลี่ยนรหัสหน้าเป็น FT เพิ่มความงงให้กับวงการเล็กน้อยเนื่องจากยังอยู่ในรูปแบบของ Concept Car นี่คือสปอร์ตเปิดหลังคาที่จะเข้ามาทำตลาดอย่างแน่นอนภายในปี 2014 นี้ ผู้บริหารของค่ายสามห่วงเรียกรถรุ่นนี้ว่า FT86 เป็นรหัสของ Concept Car ต้นแบบไร้หลังคาจากค่าย Toyota ก่อนที่จะออกขายจริงในราคาราว 30,000 ปอนด์ที่ประเทศอังกฤษ มันมีทุกอย่างเหมือน 86 รุ่นหลังคาแข็ง แต่แตกต่างกันที่หลังคาของ FT 86 Open Top จะเป็นหลังคาผ้าใบที่เปิด-ปิดได้ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า การใช้หลังคาผ้าแทนที่จะให้หลังคาโลหะแบบพับเก็บได้ช่วยลดทอนน้ำหนักลงไปได้ พอสมควร แชสซีในรุ่นเปิดประทุนของ 86 ถูกดามเพื่อความแข็งแกร่งและเพื่อลดการบิดตัวของโครงสร้าง เครื่องยนต์ ยังคงใช้เครื่อง FA20 ซึ่งเป็นเครื่อง Boxer 2.0 ลิตร สูบนอนแบบหายใจเองโดยไม่พึ่งพาเทอร์โบ พร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิง D4-S ของ Toyota หลังจากยอดขายของ GT86 รุ่น Coupe ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คาดว่าสัดส่วนทางการตลาดของรุ่นเปิดหลังคาใน 86 จะสูงถึง 30% ของรุ่นปกติ พวกแฟนคลับที่ชอบขับรถสปอร์ตเปิดประทุนรับสายลมแสงแดดถึงกับครางฮือกันเลยที เดียว

KIA Cadenza
Cadenza ซีดานหรูหราจาก KIA เปิดผ้าคลุมไปเรียบร้อยแล้ว มันคืองานดีไซน์ที่สวยงามลงตัวจากด้านหน้าไปจนจดบั้นท้าย กระจังหน้าและไฟหน้าที่เข้ากันมากๆ โดนใจผู้คนทั้งเกาหลีและยุโรปรวมถึงสหรัฐอเมริกาที่ KIA กำลังทำตลาดอย่างเข้มข้น ซีดานขนาดกลางสมรรถนะสูงจากแดนกิมจิคันนี้มีทั้งรุ่นหลังคาปกติและหลังคา แก้วแบบ Panoramic Roof ให้เลือกตามสมัยนิยม ชุดไฟหน้า HID หันตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย หน้าจออเนกประสงค์ TFT ใช้จอ LCD 7 นิ้ว เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ออปชั่นพิเศษที่เจ้าของรถสามารถลงหนัง Nappa แต่ก็ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้วใหญ่เต็มซุ้มกับเบรกมือไฟฟ้าและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ฉลาดพอใน การเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าด้วยเซ็นเซอร์เรดาร์อินฟราเรด พร้อมระบบป้องกันการชนที่สามารถเบรกเองได้เมื่อระบบตรวจพบว่าระยะห่างจากรถ คันข้างหน้าเริ่มไม่ปลอดภัย ระบบเตือนจุดบอด BSD รวมถึงระบบเตือนการเปลี่ยนเลน LDWS ที่คล้ายกับของ Volvo และ Honda เครื่องยนต์ของ KIA Cadenza รุ่นสูงสุดเป็นเครื่อง V6 3.3 ลิตร 300 แรงม้า ส่งกำลังลงไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้าด้วยเกียร์ออโต้ 6 สปีดแบบทริปทรอนิกส์ ระบบวาล์วแปรผันคู่ยกมาจาก Hyundai กันสะเทือนหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพเหล็กกันโคลง ส่วนระบบรองรับด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ที่แม่นยำไม่แตกต่างจากซีดานหรูของ ยุโรป

Suzuki SX4
Crossover รุ่นล่าสุดจาก Suzuki พุ่งตามหลัง Subaru XV ออกมาติดๆ แบบหายใจรดต้นคอ ยนตรกรรมขับเคลื่อนสี่ล้อประสิทธิภาพแจ่มของค่ายนี้ ยังคงใช้พื้นฐานเดิมของ S-Crossover มาพัฒนาต่อยอดเพื่อลดต้นทุน เส้นสายตัวถังยังยึดเอาแนวทางเดิมไว้อย่างชัดเจน ไฟหน้ามีไฟหรี่กลางวันหรือ Day Time Runing คาดที่ชายล่างของกรอบไฟฟ้าอย่างกลมกลืน สไตล์รถเล็กจอมลุยมองเห็นได้จากขนาดความสูงและสัดส่วนของบั้นท้ายที่เน้น ความอเนกประสงค์ของการใช้งาน หลังคาของเจ้า SX4 ยังติดตั้งขายึดแรคหลังคามาให้เรียบร้อยไม่ต้องไปดิ้นรนหาติดเอง ความยาวตัวถังด้านข้าง 4,300 มิลลิเมตร ทำให้มันมีห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารุ่นที่แล้วซึ่งโดนติว่าเล็กไปนิด ขุมกำลังยังคงใช้เครื่องเล็กแบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซลปริมาตรความจุ 1.6 ลิตร รหัส M16A ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้เบา เล็กและประหยัด ระบบส่งกำลังมีเกียร์ออโต้สายพาน CVT กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล สำหรับรุ่นเกียร์ CVT ยังเอาใจขาซิ่งด้วยการติดตั้งแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังพวงมาลัยมาให้ ทุกรุ่นทุกเครื่องยนต์ของ Suzuki มีระบบ Auto Start-Stop ที่จะดับเครื่องยนต์ทันทีที่รถหยุดสนิทและติดตัวเองทันทีที่ยกเท้าออกจาก แป้นเบรก เอาอกเอาใจพวกคออนุรักษ์กันแบบครบๆ เลยทีเดียว

Alfa Romeo 4C
สปอร์ต คูเป้อิตาเลียนสไตล์จากค่ายงูกินเด็ก Alfa Romeo 4C เวอร์ชั่นขายจริงถูกปล่อยออกมาแล้ว รถ Coupe 4C จะขายในเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอนบนจำนวนการผลิตเพียงแค่ 1,000 คันแบบกลัวเหลือแล้วจะขาดทุน สีของเจ้า 4C มีสองสีให้เลือกคือสีแดงและสีขาวเท่านั้น ค่าย Alfa Romeo คาดว่ารถรุ่นนี้จะช่วยฉุดให้บริษัทที่กำลังมีสถานะย่ำแย่ให้ฟื้นคืนชีพอีก ครั้ง เครื่องยนต์เทอร์โบสี่สูบ 1.75 วางอยู่ในแชสซีแบบคาร์บอน ส่งกำลังผ่านเพลากลางไปยังเฟืองท้ายก่อนลงล้อคู่หลังถึง 240 แรงม้า ห้องโดยสารแบบสองที่นั่งคล้ายกับ Ferrari ย่อส่วน เบาะแบบสปอร์ตและโครงคาร์บอนคอมโพสิตช่วยให้ม้าสองร้อยกว่าตัวแบกน้ำหนักไม่ มากนัก วัสดุพวกคาร์บอนไฟเบอร์และอัลลอยทำให้มันมีน้ำหนักตัวเพียง 960 กิโลกรัม อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักแบบยิ่งยวด ม้าหนึ่งตัวแบกน้ำหนักเพียงแค่สี่กิโลกรัม เหนือ Lotus Elise ที่ทำได้แค่หกกิโลกรัมครึ่ง เครื่องยนต์มีระบบวาล์วแปรผันและกลีบเทอร์ไบแบบพิเศษที่ลดแรงเฉี่อยได้ดี รถ Alfa Romeo 4C อัดจาก 0-100 กิโลเมตรใน 4.5 วินาที เร็วกว่า M3 ตัวใหม่อยู่นิดๆ ในราคา 52,000 ปอนด์ แน่ใจนะว่าจะขายหมด

Ford Fiesta ST
หลัง จาก Focus ST ได้รับความนิยมและมียอดขายพอไปได้ในยุโรป ล่าสุด Ford Motor ปล่อยกุมารทองตัวเจ็บตามออกมาติดๆ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง นี่คือ Fiesta รุ่นแรงสุดที่กำลังจะออกขายในตลาดรถยุโรป สิ่งที่เปลี่ยนไปใน Fiesta ที่ใช้รหัสร้อน ST เริ่มจากกระจังหน้า สปอยเลอร์ ไฟหน้า ล้อ ประตูแค่สองบานแบบสปอร์ตและเครื่องเทอร์โบที่สร้างแรงม้าได้มากถึง 182 ตัว (น้อยไปหรือเปล่า) กับแรงบิด 240 นิวตันเมตร เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร มีขนาดและระดับของย่านกำลังพอๆ กันกับ Hyundai Veloster Turbo แต่เจ้าแมลงจากเกาหลีมีแรงบิดที่เหนือกว่าเล็กน้อย

Porsche 911 GT3
กบ จอมซิ่งประจำสนามตัวล่าสุดคลอดออกมาสู่โลกยนตรกรรมแล้ว นี่คือรถเครื่องวางหลังที่แรงเหลือกำลังลาก เครื่องยนต์ 6 สูบนอนแบบหายใจเอง 3.8 ลิตร ปั่นเรี่ยวแรงได้ 400 แรงม้า ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่เคยถูกต่อต้านถูกนำมาใช้ในรุ่นนี้ ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมปรับให้สมดุลของพวงมาลัยไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แถมยังดีกว่าที่ความเร็วสูงจากอัตราทดแปรผันของพวงมาลัย ระบบ E-Diff สามารถส่งแรงบิด 100% ไปยังล้อข้างใดข้างหนึ่งได้อย่างฉับพลันทันที ล้อหลังยังเลี้ยวตามได้อีก 1.5 องศาช่วยให้นักขับเข้าโค้งได้เร็วขึ้น ระบบดังกล่าวยังถูกนำไปใช้ในรุ่น 911 Turbo อีกด้วย รถ 911 GT3 2014 เตี้ยกว่ารุ่นมาตรฐาน 30 มิลลิเมตร ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนักตัวเพราะฝากระโปรง ประตู หลังคา ทำจากอัลลอยทั้งหมด ยาง Michelin Cup หุ้มล้ออัลลอยลายพิเศษขอบ 20 นิ้ว ระบบเบรกขั้นเทพ ใช้คาร์ลิปเปอร์แบบ 6 พอต ที่ล้อหน้าและ 4 พอตที่ล้อหลัง จานเบรกเหล็กหล่อ 380 มิลลิเมตรทุกล้อ โดยมีออปชั่นเสริมเป็นจานขนาด 410 มิลลิเมตร หากกลัวเอาไม่อยู่ ระบบส่งกำลังมีให้เลือกแบบเดียว เป็นเกียร์ PDK 7 สปีด ที่ชอบมากคือหางหลังทรงอลังการงานสร้างที่แค่เห็นก็กลัวซะแล้ว

Range Rover Sport
SUV ของคนรวยจากอังกฤษ (แต่ดันเป็นของ TATA จากอินเดีย) Range Sport ยังคงใช้โครงแชสซีและตัวถังอะลูมินั่มอัลลอยเหมือนเดิมเพื่อความแข็งแกร่ง และน้ำหนักที่เบา โครงสร้างและเปลือกที่ห่อหุ้มนับเป็นเจ้าเดียวของวงการ SUV ระดับสูง ที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีตัวถังแบบใหม่ที่เบาขึ้น 420 กิโลกรัม น้ำหนักที่เบามีส่วนทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าการปล่อยมลพิษมี ตัวเลขที่ดีขึ้น เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซิน ดีเซล และไฮบริดดีเซล ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานของอากาศ 0.34 มีตัวเลขที่ไม่ค่อยดีนักเนื่องจากความเป็นรถลุยคันโตของพวกเศรษฐี สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล TDV6 3.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์อีกสองลูกมีเรี่ยวแรง 260 แรงม้ากับแรงบิด 600 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 208 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนเครื่องของเจ้า Sport อีกรุ่นคือ SDV6 ซึ่งถูกอัพเกรดด้วยซอฟต์แวร์แม้จะใช้พื้นฐานเดียวกับ TDV6 ทำให้มันมีกำลังมากถึง 292 แรงม้า แรงบิดเท่าเดิมที่ 600 นิวตันเมตรแต่ตัวเลข 0-100 ดีขึ้นนิดหน่อยที่ 7.2 วินาที ความเร็วสูงสูด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเครื่องดีเซลสุดบ้าพลัง SDV8 ที่มีแรงบิด 700 นิวตันเมตรกับม้าอีก 340 ตัว เป็นเครื่องดีเซล V8 อัดอากาศด้วยระบบทวินเทอร์โบกับทวินอินเตอร์คูลเลอร์ เครื่องยนต์ตัวนี้ยังใช้เทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ผลิตซึ่งลด น้ำหนักลงไปได้อีก 10 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นที่แล้ว อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรเพียง 6.4 วินาที ทั้งๆ ที่ตัวโตน้องๆ ช้าง สำหรับความนิ่มนวลนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะกระเทือนซางจากกันสะเทือนแบบถุงลม ที่ปรับระดับความสูงได้ 3 ระดับ มันโชว์ให้เห็นถึงความฉลาดของระบบเมื่อวิ่งถึงความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงจะลดลงทันที 10 มิลลิเมตร ถูกอกถูกใจพวกอาหรับและคนจีนรวยๆ ที่ต้องการรถลุยระดับสูงซะจริงๆ.

อาคม รวมสุวรรณ
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom