ปัญหาทุกอย่าง มีทางออกเสมอ
Group Blog
 
 
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 เมษายน 2550
 
All Blogs
 

รวบรวมเรื่อง ขำขำ มากมาย หลายรสชาติ จ้า Vol 5.

ชื่อเรื่อง : ผิดที่ไปหน่อย สุภาพสตรีวัยกลางคนไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาถึงวิธีรื้อฟื้นความสนใจทางเพศให้สามี "ลองไวอะกร้าดูหน่อยเป็นไง" แพทย์เสนอความคิด "อาจไม่ได้ผลค่ะ" คุณนายฮัมฟรี่ตอบ "สามีดิฉันไม่ยอมกลืนยาเม็

ผิดที่ไปหน่อย สุภาพสตรีวัยกลางคนไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาถึงวิธีรื้อฟื้นความสนใจทางเพศให้สามี "ลองไวอะกร้าดูหน่อยเป็นไง" แพทย์เสนอความคิด "อาจไม่ได้ผลค่ะ" คุณนายฮัมฟรี่ตอบ "สามีดิฉันไม่ยอมกลืนยาเม็ด แม้แต่แอสไพรินแก้ปวดหัวก็ไม่เคย" "ไม่มีปัญหา" นายแพทย์ตอบ "ผสมในกาแฟให้เขาดื่ม เขาจับรสชาติไม่ได้แน่ ลองดูนะครับ แล้วกลับมาพบผมสัปดาห์หน้าว่าได้ผลเป็นยังไง" หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป คุณนายฮัมฟรี่กลับมาพบแพทย์ตามนัด แพทย์ถามว่าได้ผลเป็นอย่างไร "แย่มากเลยค่ะคุณหมอ แย่มากจริงๆ" คุณนายฮัมฟรี่ตอบ "เกิดอะไรขึ้นครับ" แพทย์ถาม "คืองี้ค่ะ ดิฉันทำตามที่หมอแนะนำทุกอย่าง ใส่ไวอะกร้าลงในกาแฟของเขา เห็นผลทันทีเลยค่ะ เขาพรวดพราดลุกขึ้นยืน กวาดทุกสิ่งทุกอย่างออกจากโต๊ะ ฉีกทึ้งเสื้อผ้าดิฉัน แล้วร่วมรักกับดิฉันอย่างดื่มด่ำสุดพรรณนาบนโต๊ะตัวนั้นเลยค่ะ เป็นเรื่องที่แย่มากจริงๆ" "แย่ตรงไหนครับ" แพทย์ถาม "การร่วมรักไม่ดีอย่างที่คุณคิดงั้นหรือ" "ไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นการร่วมรักที่ดีที่สุดเท่ าที่ดิฉันเคยได้รับมาในรอบ 25 ปี แต่นับจากนี้ ดิฉันคงไม่กล้าเสนอหน้าไปที่ร้านแมคโดนัลด์ได้อีกแล้วล่ะค่ะ!"


ชื่อเรื่อง : เพราะความไม่รู้...จึงฮา
มีสามีภรรยาคู่นึงแต่งงานกันมาได้หลายปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีบุตร จนในที่สุดสามีจึงตัดสินใจให้ชายอื่นมาทำหน้าที่พ่อเด็กแทนตัวเอง (จ้างคนอื่นมาผลิตลูก) ก่อนออกจากบ้านเค้าได้มาจูบลาภรรยาแล้วบอกว่า ”ทำตัวตามสบายนะ" ผมจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวกลับมาตอนเย็น”ภรรยาก็รับคำและเดินเข้าบ้านไป
ต่อมาซักห้านาที
ได้มีชายหนุ่มคนนึงที่มีอาชีพถ่ายภาพเด็กเดินมาที่บ้านของสามีภรรยาคู่นี้ ดันมาเคาะประตูด้วยหวังจะถ่ายรูปเด็กทารกของบ้านนี้
"เอ่อ ผมขอแนะนำตัว ผมเกรงว่าคุณนายคงยังไม่รู้จักผม ผมมาเพื่อ..."
"ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ดิฉันทราบแล้วเชิญเข้ามาก่อนค่ะ"
ชายหนุ่มจึงดีใจที่ไม่ต้องกล่าวมาก

"เราจะเริ่มกันที่ไหนดีคะ" หญิงเจ้าของบ้านถาม
"เอ่อปกติผมจะเริ่มที่อ่างอาบน้ำซัก2ครั้งโซฟาและก็บนพื้นห้องนั่งเล่นก็กว้างดีนะครับ" ชายหนุ่มยิ้มกว้าง
"หา!!!!!!ห้องน้ำและห้องนั่งเล่นมิน่าฉันกับสามีถึงทำไม่ได้และจะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่คะ" ถามพลางหน้าแดง
”สำหรับอาชีพอย่างพวกผมส่วนใหญ่จะพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุดสำหรับผมประมาณที่ละ 5 นาทีแต่ว่าต้องแล้วแต่สถานการณ์แต่ผมรับรองได้เลยว่าคุณนายต้องพอใจแน่” ชายหนุ่มตอบ
"ไม่รู้สิคะ" คุณนายหน้าแดงหนักไปอีก
"นี่ครับ ผลงานของผมพลางควักรูปเด็กทารกมาให้ดูคนนี้ทำกันบนรถเมล์"
"รถเมล์..." เธอร้องเสียงหลงพลางเอามือจับปกเสื้อตัวเองกำแน่น"ครับ...ส่วนแฝดคนนี้ผลงานไม่ดีนัก เนื่องจากแม่ของเด็กไม่ให้ความร่วมมือ"
"ยังไงคะ ไม่ให้ความร่วมมือ"หน้าแดงหนักเข้าไปอีก
"คือเธอร้องตลอดเวลาหนะครับร้องจนผมไม่มีสมาธิในที่สุดผมต้องพาเธอออกไปที่สวนสาธารณะ"
"ต้องไปถึงสวนสาธารณะเลยเหรอคะ"
"ครับทำกันจนเย็นพอดีกระรอกมาแทะเครื่องมือของผมเลยต้องกลับ""อะไรนะคะ!!!!!กระรอกแทะเนี่ยนะคะ"
" ครับ เริ่มกันหรือยังครับผมจะได้เอาขาตั้งออกมา"
"ทำไมต้องใช้ขาตั้งหล่ะคะ" เธอตกใจ
"อ๋อ อุปกรณ์ของผมมันใหญ่มากหนะครับใหญ่จนไม่สามารถถือได้
"อ้าวๆๆ คุณนาย !!! เป็นอะไรไป??? เป็นลมไปซะแล้ว"


ชื่อเรื่อง : ผู้หญิงสาวคนนึงเดินเข้ามาในห้องตรวจโรคโดยอุ้มเด็กทารกคนนึงมาด้วย "คุณหมอคะ น้องเกดท่าทางไม่ค่อยดีเลยค่ะ หมู่นี้นอกจากน้ำหนักจะไม่ขึ้นแล้ว ยังลดลงไปตั้งเกือบครึ่งโลแน่ะค่ะ" เธอเล่าปัญหา คุณหมอตร


ผู้หญิงสาวคนนึงเดินเข้ามาในห้องตรวจโรคโดยอุ้มเด็กทารกคนนึงมาด้วย "คุณหมอคะ น้องเกดท่าทางไม่ค่อยดีเลยค่ะ หมู่นี้นอกจากน้ำหนักจะไม่ขึ้นแล้ว ยังลดลงไปตั้งเกือบครึ่งโลแน่ะค่ะ" เธอเล่าปัญหา คุณหมอตรวจเด็กซักครู่นึง แล้วบีบหน้าอกของสาว ก่อนจะแกะกระดุมเสื้อเธอออกปลดบราแล้วดูดหน้าอกเธออย่างแรง "อย่างนี้ก็แน่สิครับ" หมอว่า "คุณไม่มีน้ำนมเลยเด็กก็เลยขาดอาหารน่ะสิครับ" "แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะคะ" แม่สาวว่า "น้องเกดนี่ลูกพี่สาวชั้นนะคะ!!!"

ชื่อเรื่อง : รวมมิตรกระเหรี่ยง

กระเหรี่ยงหนุ่มคนนี้ หลังจากแต่งงานกับสาวชาวเขาเดียวกันได้ไม่นาน เธอก็บรรจงตั้งท้องลูกคน แรก ประคองครรภ์อยู่บนยอดดอยจนใกล้คลอด เธอก็รีบชวนเพื่อนสาวบ้านใกล้กันมาแอ๊ดมิทยังโรง พยาบาลพื้นราบ เตรียมตัวและเตรียมพร้อม เพื่อจะเป็นคุณแม่อย่างเต็มที่ เธอนอนครางโอดโอยอยู่จนคุณ หมอบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเข้าห้องคลอด แต่ก่อนเข้าหมอก็แจ้งแก่เธอว่าต้องทำความสะอาดอวัยวะ เพศก่อน โดยการแว๊กซ์หรือกำจัดขนบริเวณนั้นให้เหี้ยนเตียน เมื่อเธอได้ยินเธอก็ให้ตกอกตกใจยิ่งนัก แล้วก็ตั้งมั่นกับตัวเองว่ายังไงก็ไม่ให้หมอโกนแน่นอน ขณะพยาบาลจับขึ้นขาหยั่ง เธอก็ส่ายหน้าแล้วเอามือปิดตรงนั้นไว้แน่น "เราม่าโกเดะขาด" เธอพูดกับ หมอเสียงแข็ง "ไม่โกนไม่ได้นะคะ เพราะว่าบริเวณนั้นมันสกปรกแล้วอาจจะทำให้ลูกติดเชื้อ" หมออธิบาย "ม่าโก ยางายเราก็ม่าโก" คุณหมออธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอก็ยังไม่ยอม แต่แล้วจู่ๆ เธอก็หาทางออกให้คุณหมอได้ ด้วยวิธีที่เธอคิดว่า น่าจะเป็นการพบกันครึ่งทาง "แหวะ ๆ อากิเน๊ะ....แหวะ ๆ อากิเน๊ะ" เธอพูดประโยคนี้กับหมอ แต่ หมอฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ เพื่อนสาวของเธอที่มาด้วยก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะพูดไม่ชัดเหมือนกันในที่สุด หมอก็บอกกับเพื่อนสาวของ เธอว่าให้ไปตามสามีของหญิงคนนี้มาให้หน่อยเพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง เพื่อนสาวของเธอรีบขึ้นดอยไปตาม สามีเธอมา เมื่อมาถึงคุณหมอก็บอกกับสามีเธอว่า "นี่ช่วยอธิบายให้เมียเธอเข้าใจหน่อยว่ายังไงก็ต้องโกนเพราะถ้าไม่โกนเด็กอาจจะเป็นอันตราย" สามีรีบหันไปพูดกับภรรยาเหมือนที่หมอบอก แต่คำตอบก็ได้กลับมา อย่างเดิม คือ "แหวะ ๆ อากิเน๊ะ" "ไหนบอกหมอซิว่าเมียเธอพูดว่ายังไง" หมอถาม >"เมียผมบอกว่าให้หมอแหวก ๆ แล้วเอากิ๊บเหน็บครับ" หมอได้ยินก็สะดุ้งโหยง และบอกกลับไปว่า "เธอจะบ้าเหรอ! ใครมาคลอดลูกก็ต้องโกนกันทั้งนั้น แล้วกิ๊บ ที่ไหนมันจะเก็บได้ทุกเส้นล่ะ" สามีหันไปพูดกับภรรยา และก็ได้คำตอบกลับมาว่า "หวิ ๆ อาเจโปะ....หวิ ๆ อาเจโปะ" "อ่ะ...ไหนว่ามาซิ เมียเธอบอกว่ายังไง" หมอถาม สามีอ้ำอึ้งไปชั่วครู่ แล้วก็บรรจงแปลให้หมอฟังว่า "เมียผมบอกว่า ถ้าหมอกลัวว่าจะเก็บไม่ได้ทุกเส้น ก็ ให้หมอหวีๆ แล้วก็เอาเจลโปะครับ"



ชื่อเรื่อง : นึกว่าแน่

มีค้างคาวอยู่สามตัวเป็นเพื่อนกันมานานพวกมันพากันอยู่ในถ้ำเล็กๆแห่งหนึ่งแถวพนมดงรัก ในระแวกนั้นมีการแย่งชิงที่อยู่กันมากเนื่องจากปัญหาประชากรที่ไม่ได้มีการวางแผนครอบครัว ดังนั้นพวกมันจึงไม่อาจที่จะละทิ้งถ้ำไว้แล้วออกไปหากินด้วยกันทั้งสามตัวได้ พวกมันจึงตกลงกันว่าจะผลัดกันออกไปหากินที่ละตัว ตัวละ 3 ชั่วโมง เมื่อทุกตัวยอมรับมติที่ประชุมแล้ว พอตกเย็นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ตัวที่หนึ่งจึงออกไปหากินก่อน แต่มันไปเกินเวลาที่กำหนดไว้ร่วมชั่วโมงทีเดียวเพื่อนที่รอก็พากินหิว จนเวลาห้าทุ่มเศษตัวที่หนึ่งจังกลับมา มันได้กินแค่นิดเดียวดูปากแล้วไม่มีรอยเลือดติดมาเลยคาดว่าคงกินผลไม้มา พอตัวที่หนึ่งมาถึงตัวที่สองก็ออกไป คราวนี้มันก็เลยกินเวลาของตัวที่สามบ้าง โดยมันไม่คิดเลยว่าตัวที่สามรอจนไส้กิ่วแล้ว เวลาประมาณตีหนึ่งตัวที่สองจึงกลับเข้ามาแต่มันก็ได้กินไม่มากไปกว่าตัวที่หนึ่งเท่าไดนัก ตัวสามพอเห็นตัวที่สองเข้ามาก็เลยต่อว่า "ไปยังไงว๊ะ ข้ารอตั้งนาน ได้กินแค่นี้เอง" พูดจบมันก็เลยรีบรุดออกไป ผ่านไป 5 นาที่ มันก็กลับเข้ามาแถมเอามือเช็ดเลื่อดที่ปากท่าทางจะอร่อยน่าดู สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนค้างค้างทั้งสองยิ่งนัก เพราะพวกมันได้กินแต่ผลไม้ จึงพากันถามว่า
• ตัวที่ 1 " แกไปหากินยังไงว๊ะถึงได้กินเร็วขนาดนั้น แถมมีเลือดติดมาด้วย"
• ตัวที่ 3 " พวกแกเห็นตันไม้ใหญ่หน้าถ้ำไหมว๊ะ" ตัวที่หนั้งย้อนถาม
• ตัวที่ 1 "เห็น"
• ตัวที่ 2 "เห็น"
• ตัวที่ 3" เออ นั่นแหละ กูไม่เห็น"


ชื่อเรื่อง : แค้นนี้ต้องชำระ



จอห์นนี่ เด็กชายอายุ 10 ขวบ เดินไปตามทาง.. มือนึงลากรถลากอีกมือนึ่งดึงเชือกที่ผูกติดกับซากกบตัวแบนแต๊ดแต๋.. เมื่อเขาเดินมาถึงหอนางโลม..เขาก็เคาะประตู.. หญิงวัยกลางคนนางนึงออกมาเปิดประตู และเมื่อหญิงผู้นั้นเห็นจอนห์นี่กับรถลากและซากกบหล่อนจ้องมองเขาแล้วถามว่าเขาต้องการอะไร จอห์นนี่ตอบว่า "ผมรู้น่าว่าคุณขายอะไร ผมมีเงินนะและผมก็จะไม่ไปไหนจนกว่าผมจะได้สิ่งที่ผมต้องการ" หญิงผู้นั้นขำ และคิดจะหยอกเด็กน้อยเล่น หล่อนจึงบอกให้เขาเข้ามาข้างในก่อน "เข้ามาสิ แล้วก็เลือกหญิงสาวที่เธอต้องการ" จอห์นนี่ถามว่า "มีสาวคนไหนที่เป็นโรคบ้างมั้ยเนี่ย?" หญิงวัยกลางคนประหลาดใจนิดๆแต่หล่อนก็ตอบไปว่า "ไม่มีหรอก" จอห์นนี่เถียง "แต่ผมได้ยินพวกผู้ชายพูดกันนะว่าใครที่มีเซ็กซ์กับนางมาเบลที่หอนางโลมแล้วนั้น จะต้องไปโรงพยาบาลและโดนฉีดยา... ผมเอาคนนั้นแหละ.. ผมขอเลือกมาเบล..ผมมีตังค์จ่ายน่าไม่ต้องห่วง" หญิงวัยกลางคนมองจอห์นนี่อย่างไม่เชื่อหูตัวเองแต่ในที่สุดหล่อนก็บอกจอห์นนี่ว่า "เอาหล่ะ ถ้าอย่างงั้นจะเลือกมาเบลก็ได้ขึ้นไปชั้นบนนะ มาเบลอยู่ห้องแรกทางขวามือ" จากนั้นจอห์นนี่ก็เดินไปที่บันไดพร้อมกับลากซากกบที่ถูกรถทับไปด้วย.. 10 นาทีต่อมา เขาก็เดินลงบันไดมามือก็ยังลากซากกบตายอยู่อย่างนั้นเขาจ่ายเงินให้หญิงวัยกลางคนแล้วจูงรถลากมุ่งหน้าไปทางประตู หญิงวัยกลางคนเรียกให้เค้าหยุดก่อนแล้วถามว่า "ถามหน่อยเถอะไหนๆเธอก็รู้เรื่องของมาเบลแล้วแล้วทำไมถึงเลือกสาวคนเดียวที่ติดโรคอีก? จอห์นนี่ตอบว่า.. "อ๋อ..มันเป็นแผนการแก้แค้นของผมน่ะ..คืนนี้พอผมกลับบ้านพ่อกับแม่จะออกไปกินข้าวนอกบ้านกันแล้วทิ้งให้ผมอยู่กับพี่เลี้ยง พอพ่อกับแม่ออกไปผมก็จะฟันพี่เลี้ยงซะ..แล้วพี่เลี้ยงผมก็จะติดโรคที่ผมเพิ่งติดไปเนี่ยแหละ..พอพ่อกับแม่กลับมาบ้าน พ่อก็จะขับรถไปส่งพี่เลี้ยงของผมระหว่างทางพ่อก็จะฟันพี่เลี้ยง..แล้วพ่อก็จะติดโรค.. พอพ่อกลับมาบ้าน พ่อก็มีอะไรกับแม่..แล้วแม่ก็จะติดโรคอีก.. แล้วพอถึงตอนเช้า พอพ่อไปทำงานคนส่งนมก็จะมาส่งนม แล้วเขาก็จะฟันแม่ผม..แล้วเขาก็จะติดโรค..... "ไอ้คนส่งนมเนี่ยแหละครับที่มันขับรถทับกบของผมตาย"


ชื่อเรื่อง : เป็นโรคอะไร

• หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในร้านหมอ เมื่อหมอเห็นหน้าหญิงสาวก็รักเธอทันที เมื่อหญิงสาวเข้ามาในห้อง หมอก็แกล้งจับมือเธอ
• ด้วยความที่เธอยังเด็กอยู่จึงทำหน้าเขินอาย หมอเห็นดังนั้นจึงแกล้งจับหน้าอกเธอ เธอก็ทำหน้าเขินอาย หมอเห็นดังนั้นก็ได้ใจ ยื่นมือมาจับทันที
• หมอเห็นดังนั้นจึงถกกระโปรงของหญิงสาวขึ้น แล้วเริ่มลงมือทันที ด้วยความที่หญิงสาวไม่เคยแต่เธอรู้สึกดี......จึงเคลิ้มไป หญิงสาว:Ahhhhhhhhh…………
• เข้าอีก อาห์.......................... หมอได้ยินดังนั้นก็ยัดเต็มที่ หญิงสาว:อ่าห์...............................ยอดเลย หลังจากเสร็จภารกิจ หมอก็ถามหญิงสาวว่ามาหาหมอเป็นโรคอะไร หญิงสาว:โรคเอส์ดค่ะ หมอ:...............................................................


ชื่อเรื่อง : มีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนเจ้าชู้มาก มีอยู่วันหนึ่งเขาขับรถไปตามถนนบังเอิญมองเห็นเด็กสาวสวยนั่งอยู่ข้างถนนคนเดียว ด้วยความที่เป็นคนเจ้าชู้มากเลยจอดรถเทียบและเปิดกระจกถามเด็กสาว ชายหนุ่ม :- มานั่งทำอะไ

มีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนเจ้าชู้มาก มีอยู่วันหนึ่งเขาขับรถไปตามถนนบังเอิญมองเห็นเด็กสาวสวยนั่งอยู่ข้างถนนคนเดียว ด้วยความที่เป็นคนเจ้าชู้มากเลยจอดรถเทียบและเปิดกระจกถามเด็กสาว ชายหนุ่ม :- มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวตรงนี้มันเปลี่ยวและอันตรายมากนะ หญิงสาว : นิ่งไม่ตอบ ชายหนุ่ม : พี่ไปส่งเอาไหม หญิงสาว : นิ่งไม่ตอบ แต่เดินมาเปิดประตูขึ้นรถของชายหนุ่มทันที ชายหนุ่ม : บ้านอยู่ไหนบอกทางมาพี่จะไปส่งให้ หญิงสาว : นิ่งไม่ตอบอีกเหมือนเดิม ชายหนุ่ม : ถ้าไม่พูดอีกพี่จะพาเข้าโรงแรมนะ หญิงสาวก็นิ่งไม่ตอบเหมือนเดิมชายหนุ่มจึงได้ใจพอเห็นโรงแรมก็เลี้ยวรถเข้าโรงแรมทันที และจัดการ ปล้ำ เด็กสาวจนเป็นผลสำเร็จ โดยที่เด็กสาวมิได้ขัดขืนแต่อย่างใด แต่ ..ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่นั้น ได้ยินเสียง เด็กสาวร้องไห้ ก็เลยถามว่า ชายหนุ่ม : ร้องไห้ทำไม หญิงสาว :ตอบไปร้องไห้ไป หนู อย..า..ก. บ..อ..ก พี่..ว่.า ห..นู....เ.ป็..น เ....อ....ด.....ส์ ชายหนุ่ม : ????????

ชื่อเรื่อง : ทัพพีที่หายไป


เมื่อวินัยเชิญแม่ของเขามากินมื้อค่ำที่อพาร์ทเมนท์ ซึ่งเขาอยู่กับสาวสวยชื่อลินดา คุณแม่จึงอดเคลือบแคลงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ ระหว่างร่วมโต๊ะมื้อเย็นนั้นเอง คุณแม่ของวินัยเฝ้าสังเกตสายตาที่ทั้งคู่มองสบกัน จนลูกชายชักเดาใจออก จึงรีบพูดขึ้นว่า “ผมรู้นะว่าแม่กำลังคิดอะไร .. แต่ผมยืนยันได้แน่ว่า ผมกับลินดาเป็นแค่รูมเมทเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆ” หลังจากแม่ของวินัยกลับไปได้ 1 อาทิตย์ ลินดาจึงบอกวิชัยว่า “ตั้งแต่แม่ของคุณมาเยี่ยมเราคราวนั้น ฉันก็หาทัพพีคันโปรดไม่เจอเลย ที่จริง..ฉันก็ไม่คิดว่าแม่ของคุณจะเอาไปหรอกนะคะ หรือคุณว่ายังไง” วินัยจึงตอบว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะลองเขียนจดหมายไปถามคุณแม่ดู” วินัยจึงนั่งลงเขียนจดหมาย เนื้อความว่า.. “เรียน คุณแม่สุดที่รัก.. ผมไม่ได้คิดว่าคุณแม่จะเผลอเอาทัพพีที่บ้านผมไปหรอกนะครับ แต่จะว่าแม่ไม่ได้เอาไป.. ก็ยังไงอยู่ เพราะทัพพีสวย ๆ คันหนึ่งหายไปตั้งแต่วันที่คุณแม่มาทานข้าวเย็นที่บ้าน ขอแสดงความนับถือ วินัย” หลายวันต่อมา วินัยได้รับจดหมายตอบจากแม่ของเขา เนื้อความว่า.. “ถึง ลูกชายสุดที่รักของแม่ แม่ไม่เคยพูดว่าลูกมีอะไรกับลินดา แต่แม่ก็ไม่ได้คิดว่าลูกจะไม่มีอะไรกับเธอ เพราะความจริงมีอยู่ว่า ถ้าลินดานอนที่ห้องตัวเอง ก็คงเจอทัพพีนั่นไปตั้งนานแล้ว รักมาก แม่”

ชื่อเรื่อง : พี่ชาย กะ น้องสาว

เรื่องนี้ต้องอ่านเป็นอุทาหรณ์ เรื่อง พี่ชายกับน้องสาววัยแรกรุ่น อุทาหรณ์ จากเรื่องจริง.ที่เกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว เหตุการณ์ นี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว เช้าวันหนึ่ง พี่ชายอายุ 15 น้องสาวอายุ 13 อยู่ ในบ้านตามลำพัง 2 คน ในวันหยุด 'พี่ชาย ค่ะ พี่ชาย' น้องสาวเข้ามา ในห้องพี่ชายด้วยความกระวนกระวาย เกิดอะไรขึ้น' พี่ชายร้องทักด้วยความเป็นห่วงน้องสาว น้องสาวเอ่ยปากบอกพี่ชายด้วยความกังวลไปว่า 'พี่ชาย ค่ะ เออ...คือว่า น้องรู้สึกว่ามีบางอย่างอะไร ในตัวน้องเปลี่ยนไป' 'มันเป็นงัยเหรอ' พี่ชายถามด้วยความสงสัย 'น้องรู้สึกว่ามันกำลังจะ ใหญ่ขึ้นทุกวันๆ ' ' ใหญ่ขึ้นเหรอ' พี่ชายพูดพร้อมทำตาเบิก โพลงด้วยความสน ใจแล้วเอ่ยปากว่า 'ขอพี่ดูหน่อยได้ไหมจ๊ะ' พี่ชายดึงตัวน้องสาวลงมานั่งที่ขอบเตียง แต่น้องสาวได้เลื่อนมือมาปิดไว้เสียแล้ว 'น้องเอามือออกซิ พี่ชายจะดูว่ามัน ใหญ่ขึ้นจริงมั๊ย' น้องสาวเลื่อนมือออกด้วยความเขินอาย 'ทำไม ใหญ่จัง' พี่ชายร้องด้วยความตก ใจ พร้อมเอื้อมมือจะไปสัมผัส 'พี่ชายจะทำอะไรน้อง' 'พี่ชายแค่อยากสัมผัส ขอพี่จับได้ไหม' พี่ชายเอ่ยปากด้วยสายตาที่วิงวอน ด้วยความสงสารพี่ชาย น้องสาวจึงตอบไปด้วยความเต็ม ใจ 'ได้ซิพี่ชาย' 'สีชมพู เต่งตึง' พี่ชายพูดพร้อมคลึงไปพร้อมกันเกินที่น้องสาวจะเก็บความรู้สึกไว้ได้จึงพูด โพลงออกมาว่า 'อือออ......อาว.......พี่ชายจ๋า น้องทรมานเหลือเกิน' เมื่อพี่ชายได้ยินเช่นนั้นพี่ชายดึงร่างน้องสาวมานอนบนเตียง 'นอนลงซิจ๊ะพี่ชายจะช่วย ให้น้องหายทรมาน' ' โอ๊ย...พี่ชายพอก่อน น้องเจ็บ' น้ำตาของน้องสาวไหลออกมาด้วยความเจ็บ ด้วยความสงสารพี่ชายจึงเอานิ้วคลึง เพื่อบรรเทาความเจ็บ ให้น้องสาว 'หายเจ็บหรือยังจ๊ะ พี่ก็เพิ่งจะทำครั้งแรกนิ ' พี่ชายถาม 'ดีขึ้นแล้วจ๊ะ' น้องสาวตอบไปพร้อมเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม 'งั้นพี่ทำเบา ๆ ก่อนน่ะ' น้องสาวพยักหน้าพร้อมรับสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น พี่ชายออกแรงกดช้า ๆ 'อืออ.... โอวววว....' น้องสาวร้องฟังไม่เป็นศัพท์ 'อืออ... อูยย..ดีจัง ค่ะ พี่จ๋าของน้องจะแตกแล้ว แรงๆ เลยจ๊ะ โอวว...' พี่ชายออกแรงกดตามเสียงร้องน้องสาว ' โอวว...อูยยย... พี่จ๋าน้องไม่ไหวแล้ว จะแตก แตก....แตก..แตกแล้ว' พี่ชายพลิกตัวมานอนด้วยความเหนื่อยหอบ 'พี่ชายดูซิ เลอะหน้าน้องหมดเลย แสบด้วย' น้องสาวตัดพ้อพี่ชาย พี่ชายหันมายิ้มพร้อมพูดว่า 'ครั้งแรกไม่ ใช่เหรอ มันก็ต้องเจ็บ ต้องแสบเป็นธรรมดา' 'มีเลือดออกด้วย' น้องสาวร้องลั่นด้วยความตก ใจ พี่ชายจึงพูดออกไปด้วยความรำคาญ 'มันก็ต้องมีเลือดออกซิ สิวหัวช้างเม็ด ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ดูแลหน้าตาตัวเองเลยปล่อย ให้เป็นสิวหัวช้างได้

โปรดติดตาม Vol.6. ต่อไป สวัสดี




 

Create Date : 17 เมษายน 2550
1 comments
Last Update : 20 เมษายน 2550 15:21:29 น.
Counter : 1088 Pageviews.

 

ขำดีครับ
แล้วจะตามมาอ่านอีก

 

โดย: พิกกี้เม้าส์ 20 มิถุนายน 2550 15:00:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


KnightWin
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รักแรก รักเดียว รักเธอ
ยินดีต้อนรับ เพื่อน ๆ ทุกคนครับ
ส่งอีเมล์ถึงเราได้ที่นี่ครับ
Tips for New Bloggers
Google

Friends' blogs
[Add KnightWin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.