ชนะคนอื่นเป็นร้อย ยังไม่ยากเท่าชนะตนแค่คนเดียว...

การหายใจมากเกินไป (Hyperventilation syndrome)

ผศ.นพ.สเปญ อุ่นอนงค์

ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ รามาธิบดี

     กลุ่มอาการนี้เป็นความไม่สบายที่เกิดจากการหายใจมากเกินไป โดยอาจจะเกิดจากการหายใจตื้นๆ ถี่ๆ หรือหายใจไม่ถี่มากแต่ลึกหรือทั้งหายใจถี่และลึกก็ได้

การหายใจมากเกินไปเกิดจากอะไร?
    ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเกิดอาการดังกล่าวเมื่อเครียด เพราะเมื่อเกิดความเครียดความกังวลหรือความกลัวขึ้นมาร่างกายจะตอบสนองโดยการหายใจเร็วและ/หรือหายใจลึก เมื่อหายใจมากถึงระดับหนึ่งก็จะเกิดอาการขึ้น
    ในครั้งแรกๆ ต้องมีความเครียดมากพอสมควรจึงจะเกิดอาการต่างๆ ได้แต่เมื่อเป็นหลายๆ ครั้งอาการต่างๆ จะเกิดง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งเพียงแค่ถอนหายใจเฮือกหนึ่งก็เริ่มเกิดอาการได้แล้วทั้งที่ไม่ได้เครียด

หายใจมากๆ มีผลเสียด้วยหรือ?
    การหายใจมากเกินจำเป็น ไม่ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่ม เพราะในคนปกติขณะพักและหายใจในอากาศธรรมดาจะมีปริมาณออกซิเจนในเลือดเกือบเต็ม คือ 97-98% ของที่จะรับได้อยู่แล้ว การหายใจมากเกินไปจะมีผลต่อปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์โดยมีการระบายคาร์บอนไดออกไซด์ทิ้ง ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดเหลือน้อยเกินไป คาร์บอนไดออกไซด์เป็น ”ก๊าซเสีย” ก็จริงแต่ร่างกายต้องเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมความเป็นกรด-ด่างในเลือด เพราะเมื่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ละลายน้ำจะเกิดกรดอ่อนๆ ที่เรียกว่า”กรดคาร์บอนิค” ดังนั้นเมื่อมีการหายใจมากๆ ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายจะเหลือน้อยเกินไปทำให้ความเป็นกรดของเลือดไม่พอจึงเกิดอาการต่างๆ ขึ้นได้แก่
       - รู้สึกแน่นๆ หน้าอกเหมือนหายใจไม่เต็มอิ่ม
       - ใจสั่น
       - มือชาเท้าชา
       - มึนศีรษะ
       - ถ้าเป็นมากๆ จะมีอาการมือเท้าเกร็งด้วย

    เมื่อเกิดอาการดังกล่าวโดยเฉพาะอาการหายใจไม่เต็มอิ่มผู้ป่วยจะรู้สึกไม่สบายและจะพยายามหายใจให้มากกว่าเดิมอาการต่างๆ ก็จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่สบายแต่ไม่มีอันตรายเพราะเมื่อเป็นมากๆ และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เหลือน้อยเกินไป เส้นเลือดในสมองจะหดตัวทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลงผู้ป่วยจะง่วงและหลับไป เมื่อหลับไปผู้ป่วยจะหายใจช้าลงเพราะปริมาณออกซิเจนในร่างกายมีมากมายและปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เหลือนิดเดียวจึงไม่มีสิ่งกระตุ้นให้หายใจมาก เมื่อเวลาผ่านไปปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จะค่อยๆ ถูกสะสมมากขึ้นๆ เส้นเลือดในสมองก็จะค่อยๆ ขยายตัวส่งเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้นผู้ป่วยก็จะค่อยๆ ตื่นขึ้นมาเอง

เป็นแล้วจะทำอย่างไร?
    ผู้ป่วยเองสามารถทำให้อาการเหล่านี้หายเองได้โดยควบคุมการหายใจให้น้อยลงซึ่งมีหลายวิธีได้แก่
     - การใช้ถุงกระดาษครอบปากครอบจมูกเวลาหายใจเพื่อให้หายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์กลับคืนไป
     - การคลุมโปงหายใจในผ้าห่ม ใช้หลักการเดียวกับการครอบถุงกระดาษ
     - การฝึกหายใจด้วยท้องโดยมุ่งความสนใจมาที่ท้องให้ท้องโป่งออกเวลาหายใจเข้า ท้องแฟบลงเวลาหายใจออก
     - การกลั้นหายใจ นับ 1-4 ในใจ แล้วจึงหายใจออก ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ
     - การควบคุมลมหายใจด้วยการฝึกสมาธิ
     สามวิธีนี้หลังเป็นการควบคุมการหายใจไม่ให้หายใจมากเกินไป วิธีการต่างๆที่กล่าวมาจะทำให้ร่างกายค่อยๆ สะสมคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมาทำให้อาการต่างๆ ค่อยๆ หายไป
     ในบางครั้งถ้าผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมตนเองให้หายใจน้อยๆ ได้แพทย์อาจให้ยาคลายกังวลเพื่อให้จิตใจสงบลงและหายใจช้าลงเองได้ ยาที่ใช้อาจเป็นยากินหรือยาฉีดก็ได้แต่ยากินจะสะดวกกว่าเพราะผู้ป่วยสามารถกินเองที่บ้านได้และไม่ต้องมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น

ขอบคุณข้อมูลจาก : //www.ramamental.com/medicalstudent/generalpsyc/hyperventilationsyndrome/




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2556
2 comments
Last Update : 15 สิงหาคม 2556 20:44:13 น.
Counter : 1435 Pageviews.

 

เป็นความรู้ใหม่เลยนะคะเนี่ย
เข้ามาเก็บข้อมูลค่ะ ^ ^
(แจก 1 ไลค์) ค่ะ

 

โดย: ณ ปลายฉัตร 15 สิงหาคม 2556 15:07:38 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
ได้ประโยชน์เยอะเลยค่ะ ^^

 

โดย: lovereason 16 สิงหาคม 2556 14:10:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kitpooh22
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




สวัสดีครับ
..............................
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม และมาเม้นให้ครับ



ขอบคุณครับ :-)
THX


วันเกิดบล็อก 25/5/2009
Google+
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kitpooh22's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.