ขนมครก
ส่วนผสม 1. แป้งข้าวเจ้าอย่างดี ตราดอกไม้ 1 กิโลกรัม 2. น้ำกะทิ 4 ถ้วยตวง 3. น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง 4. น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง 5. น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ 6. เกลือ 1 ช้อนชา 7. โรยหน้าตามใจชอบ อาทิ ต้มหอม ข้าวโพด เผือก ฯลฯ
วิธีผสมแป้ง ค่อยๆ เทแป้งข้าวเจ้า ลงผสมกับน้ำสะอาด น้ำปูนใส คนจนกว่าจะเข้ากัน จากนั้นเติมกะทิ น้ำตาลโตนด เกลือป่น แล้วคนให้เข้ากันดี กะทิหน้าขนมครก ส่วนผสม 1. หัวกะทิ 6 ถ้วยตวง 2. หางกะทิ 2 ถ้วยตวง 3. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย 4. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำกะทิสำหรับหยอดหน้า ผสมหัวกะทิ หางกะทิ เกลือป่น น้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟ คนให้น้ำตาลและเกลือละลาย จากนั้นยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น ใส่ภาชนะเตรียมหยอดหน้าขนมครก
วิธีทำขนมครก 1. ตั้งกระทะขนมครก ใช้ไฟอ่อนปานกลาง รอจนเตาร้อนเต็มที่ 2. นำลูกประคบ ทำด้วยกากมะพร้าวห่อด้วยผ้าขาว แตะน้ำมันพืช เช็ดที่เบ้าขนมครกให้ครบทุกเบ้า 3. ตักหรือใช้กาหยอดแป้งขนมครก ลงในเบ้าปริมาณ 3/4 นำกระบวยกดให้ล้นขึ้นมาด้านข้าง ประมาณ 1 เซนติเมตร ปิดฝาทิ้งไว้ราว 2-3 นาที 4. หยอดหางกะทิ ตามด้วยหัวกะทิ ประมาณ 1 ช้อนชา ต่อ 1 เบ้า โรยหน้าตามใจชอบ ปิดฝาทิ้งไว้ รอจนขอบแป้งเหลือง ใช้ช้อนแซะขึ้นใส่ภาชนะ วิธีทำหน้าไข่เค็ม นำไข่เค็มต้มสุก มาแกะเปลือกออก นำไปขูดให้เป็นเส้นฝอยๆ ใช้โรยหน้าขนมครก เพิ่มความอร่อยด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นฝอย และผักชี (เฉพาะใบ) วิธีทำหน้ากุ้ง ใช้ กุ้งสด มะพร้าวทึนทึก ในปริมาณที่เท่ากัน สับให้ละเอียด นำไปรวน ใส่พริกไทย เกลือป่น ชิมให้ออกรสเค็มนิดๆ โรยบนหน้าขนมครก แต่งด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย พริกเหลืองซอย ใบผักชีเด็ดเป็นใบๆหรือว่าใครจะคิดสูตรหน้าขนมครกใหม่ๆ เองก็ได้นะคะขนมครกของเราจะได้ไม่เหมือนใคร *เคล็ดลับความอร่อย* 1. น้ำมันพืชที่ใช้เช็ดเบ้าขนมครก ควรเป็นน้ำมันมะพร้าว จะทำให้ขนมครกมีกลิ่นหอม ชวนให้น่ารับประทาน นอกจากนั้น ยังทำให้ผิวขนมครกมีสีสวย 2. ภาชนะใส่ขนมครก ไม่ควรใช้โฟม เนื่องจากมีสารเมลามีน ก่อให้เกิดมะเร็ง ควรเป็นจานกระดาษ หรือรองด้วยใบตอง หรือหากจำเป็นต้องเรียงซ้อนกัน ก็ควรมีใบตองวางทับไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ขนมครกติดกัน 3. เบ้าขนมครก มีทั้งที่ผลิตจากเหล็ก และสเตนเลส ขึ้นอยู่กับเงินลงทุน ส่งผลด้านความสวยงาม แต่ไม่ส่งผลต่อรสชาติแต่อย่างใด ................................................................................................................................. สูตรขนมครกโบราณ สูตรขนมครกสูตรนี้ เป็นของอาจารย์ทองเยาว์ โทณานนท์ จากวิทยาลัยในวังคะ อาจารย์ทองเยาว์แนะนำว่า ข้าวสารที่จะใช้สำหรับทำขนมครกนั้น ควรใช้ข้าวสารเก่า เพราะถ้าใช้ข้าวใหม่ จะเหนียวติดฟัน และเวลาแคะออกจากเตาก็ไม่ค่อยจะล่อนด้วย ส่วนเรื่องที่เช็ดหลุมขนมครกคุณถามมา เขาจะใช้เศษผ้าฝ้ายหรือผ้าขาวบางมาห่อรวมกันหลาย ๆชั้น ทำเหมือนเวลาเราทำลูกประคบนั่นแหละคะ แล้วเอาไปแช่น้ำมันเอาไว้ พอให้น้ำมันซึมทั่วเนื้อผ้า ก็เป็นอันใช้ได้ หรืออาจจะใช้ผ้านำห่อกากมะพร้าวแล้วนำไปชุบน้ำมันนิดหน่อยก็ได้คะ สมัยก่อนโน้นเขาจะใช้เตาขนมครกที่ทำจากดินเผา แต่ถ้าซื้อปุ๊บนำมาใช้ปั๊บ ขนมจะติดเตา ไม่ล่อน วิธีแก้ไขของคนโบราณ คือ ก่อนที่จะนำกระทะนี้มาใช้ เขาจะเอากากมะพร้าวสุมให้เต็มหลุมแล้วนำไปตั้งไฟให้น้ำมันจากกากมะพร้าว เคลือบทั่วกระทะขนมครก (ทิ้งไว้ให้กากมะพร้าวไหม้คาหลุมเลย) วิธีนี้จะทำให้ขนมไม่ติดเตาคะ
ส่วนผสมตัวแป้ง ข้าวสารเก่า 1 ลิตร ( = 4 ถ้วย 4 ช้อนโต๊ะ กับอีก 1 ช้อนชา) ข้าวสุก 1 + 1/ 2 ถ้วย มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม เกลือป่น 1 ช้อนชา ส่วนผสมกะทิสำหรับหยอดหน้า หัวกะทิ 4 + 1/ 2 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 + 1/ 2 ถ้วย เกลือป่น 1 - 2 ช้อนชา
วิธีทำ เริ่มจากทำตัวแป้งก่อน โดยเอาข้าวสารซาวให้สะอาด ผสมกับข้าวสุก มะพร้าว เกลือ ใส่ภาชนะปากกว้าง เช่น ชามอ่าง ใช้น้ำ 3 เท่า ต้มให้เดือด แล้วเอามาชงในชามอ่างที่ใส่ส่วนผสมไว้ ใช้ไม้พายหรือทัพพีคนให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปโม่ (การเอาน้ำร้อนชงก่อน จะช่วยรักษาแป้งไว้ได้นาน คือ ทำเช้าไปจนถึงบ่ายแป้งก็ไม่เปรี้ยว ไม่อย่างนั้นจะบูด และถ้าเราใช้ภาชนะปากแคบทรงสูง ข้าวก็จะสุกมากเกินไป เพราะความร้อนจะกระจายได้น้อย)หลังจากนั้นก็หันมาทำกะทิสำหรับหยอดหน้า โดยเอาหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ มาผสมเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลและเกลือละลาย ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือด จึงยกลง (อย่าเคี่ยว กะทิจะแตกมันมาก) วิธีหยอด ตั้งเตาเอาน้ำมันพืชเช็ดให้ทั่ว เริ่มหยอดหลุมกลางก่อนเพียงหลุมเดียว หยอดตัวแป้ง หยอดหน้ากะทิ ปิดฝา แล้วมาหยอดแถวที่ 2 ปิดฝา แล้วมาหยอดรอบนอก เสร็จแล้วปิดฝา เราก็เปิดหลุมแรก แล้วเปิดแถวที่ 2 แคะออก แล้วมาเปิดรอบนอก จะสุกพอดีกันเลย เวลาหยอดเสร็จแล้ว ต้องปิดฝาทันที ไฟต้องแรง แต่ถ้าใช้เตาดิน ก็แรงมากไม่ได้ เดี๋ยวเตาจะแตก ถ้าใช้กระทะเหล็กก็จะสะดวก แต่หอมสู้กระทะดินไม่ได้ ก็ต้องใจเย็น เวลาหยอดหน้าก็ต้อ ระวัง ถ้าช้าไปก็จะไหม้ และกะทิจะแตกมัน ขนมครกแบบโบราณ จะนิยมทานกับหน้าต่าง ๆ ที่นิยมทำคือ หน้าไข่เค็ม หน้าหัวผักกาดเค็ม และหน้ากุ้งคะ วิธีทำหน้าไข่เค็ม เริ่มจากนำไข่เค็มต้มสุกมาแกะเปลือกออก เวลาแกะเปลือกไข่เค็ม อย่ากะเทาะไข่ทั่วทั้งฟองเหมือนกับไข่ต้มธรรมดา ๆ นะคะ ต้องกะเทาะเพียงที่เดียว แล้วค่อย ๆ แกะไปเรื่อย ๆ จนทั่วทั้งฟอง อันนี้ต้องใจเย็นกันหน่อยคะ พอได้ไข่เค็มที่ปอกเปลือกเสร็จแล้ว ก็นำไปขูดให้เป็นเส้นฝอย ๆ ระวังอย่าให้ไข่ที่ขูดแล้วกองทับกันมากเกินไป มันจะติดเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไข่เค็มที่ขูดเสร็จนี้ไปโรยหน้าขนมครกเมื่อจะแคะขึ้น วางพริกชี้ฟ้าหั่นฝอย และ ผักชีเด็ดใบ วิธีทำหน้าหัวผักกาดเค็ม ใช้หัวผักกาดเค็มนำมาสับให้ละเอียด ผสมรากผักชี กระเทียม พริกไทยป่น แล้วนำไปผัดกับน้ำมันนิดหน่อย วิธีทำหน้ากุ้ง ใช้กุ้งสด มะพร้าวทึนทึกในปริมาณที่เท่ากัน สับให้ละเอียดแล้วรวนด้วยน้ำมัน โรยพริกไทย เกลือป่น ให้ออกรสเค็มนิด ๆ ใช้โรยหน้าขนมครก แต่งด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย พริกเหลืองซอย ใบผักชีเด็ดเป็นใบ ๆ ที่มา : //bychoms.blogspot.com/2010/06/blog-post_22.html ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
Create Date : 22 กันยายน 2555 |
|
3 comments |
Last Update : 22 กันยายน 2555 10:47:12 น. |
Counter : 3948 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: notenook IP: 1.4.128.236 22 กันยายน 2555 15:42:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ข้างทุ่ง (uphichet ) 4 มีนาคม 2556 8:13:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
- TRANG เที่ยวตรัง กับ kitpooh22
- เที่ยว เที่ยว เที่ยว กับ kitpooh22
- ภาพ ดอกไม้
- ภาพ ดอกไม้ & พันธุ์ไม้ 2
- ภาพ ดอกไม้ & พันธุ์ไม้ด่าง
- ภาพ ดอกกล้วยไม้ พันธุ์ไม้อื่นๆ
- ภาพ ปาล์ม,ปรง,พันธุ์ไม้อื่นๆ
- ภาพ ดอกไม้...ใบหญ้า
- ดอกไม้และแมลง 1
- Photo By KIT 1
- โครงการพระราชดำริ
- สุขภาพ 1
- สุขภาพ 2
- สุขภาพจิต,จิตวิทยา
- ร่างกายของเรา
- สมุนไพร
- อาหารการกิน
- ความรู้ทั่วไป
- AEC,อาเซียน,ประชาคมต่างๆ,เศรษฐกิจ
- TOP 10
- ประวัติบุคคลสำคัญ
- วิทยาศาสตร์ (ตารางธาตุ)
- วิทยาศาสตร์,เทคโนโลยี่,ดาราศาสตร์
- ข้อคิด-ธรรมะ
- มหัศจรรย์สัตว์โลก
- ของสะสม , ของเก่า
- จิปาถะ
- ห้องเพลงสากล
- ห้องเพลงเกาหลี
- ห้องเพลงจีน
- ห้องเพลงบรรเลง
- บทสวด , เพลง
- Clip YouTube , เพลง
- ทดสอบ รูปภาพ
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|