เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลของชาวจีนโดยปกติจะมีวันเพ็ญ เดือน 8 (เดือนกันยายน หรือตุลาคม) เทศกาลนี้จัดขึ้นกลางฤดูใบไม้ร่วงจึงเรียกว่า "จงชิว" (Zhong Qiu) แปลว่า "กลางฤดูใบไม้ร่วง" เพื่อระลึกถึงเทพธิดาแห่งพระจันทร์ ซึ่งเชื่อกันว่าถือกำเนิดขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ยังคงไม่เป็นที่ ปรากฏแน่ชัด บ้างก็ว่าจักรพรรดิ์วูแห่งราชวงศ์ฮั่นเป็นผู้ริเริ่มการฉลองเพื่อกราบไว้พระ จันทร์เป็นเวลา 3 วันในฤดูใบไม้ร่วงนี้ แต่หลายคนก็แย้งว่า ความจริงแล้วเทศกาลนี้เกิดขึ้นในราวปี พ.ศ.1911 ในช่วงมองโกลยึดครองจีน ขนมเค้กที่ทำขึ้นก็เพื่อซุกซ่อนข้อความลับของพวกกบฏที่มีถึงประชาชนทั่วทั้ง ประเทศให้มาชุมนุมกันครั้งใหญ่นเดือน 8 นี้ ทหารมองโกลไม่ได้ระแวงถึงจุดประสงค์ของพวกกบฏ เพราะคิดว่าขนมเค้กเหล่านั้นเป็นการทำตามประเพณีดั่งเดิมของชาวจีน ด้วยเหตุนี้ในคืนนั้นเองทหารมองโกลจึงถูกปราบเสียราบคาบหลังจากที่ราชวงศ์ ใหม่คือราชวงศ์ หมิงได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว ประเพณีนี้ก็ถือปฏิบัติกันมาจนถึงทุกวันนี้
จันทราเทวี ฉางเอ๋อ วาดโดยฮว๋าซานชวน
    นอกจากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เหล่านี้แล้ว ก็ยังมีนิทานและตำนานอีกหลายเรื่อง หนึ่งในจำนวนนี้ก็คือเรื่องเกี่ยวกับนางเซียงง้อ (บ้างก็เรียกฉางเอ๋อ) ซึ่งเป็นหญิงที่มีความงดงามมาก นางเป็นภรรยาของขุนนางจีนท่านหนึ่ง หลังจากที่นางทานยาวิเศษเข้าไป นางก็เหาะขึ้นไปอยู่บนพระจันทร์ภายหลังนางกลายเป็นอมตะหลังจากที่ได้ดื่มน้ำ อมฤตของเทพธิดาองค์หนึ่งบนสวรรค์ กล่าวกันว่านางจันทรเทพธิดาเสี้ยงหงอมีน้ำใจเมตตาเอื้ออารีมาก พอถึงฤดูกาลเพาะปลูกนางก็จะประพรมน้ำอมฤตลงมาบนพื้นโลกและนี่ก็นำมาซึ่งความ เจริญรุ่งเรืองแก่ชาวไร่ชาวนาทั้งมวล เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อนางจันทรเทพธิดาชาวนาจึงทำขนมโก๋จากแป้งข้าว เจ้าเพื่อสักการะนางในคืนวันเพ็ญเดือน 8 เนื่องจากว่าโดยปกติประเพณีต่าง ๆ ของชาวจีนจะเกี่ยวของกับการทำอาหารพิเศษ ๆ เพื่อเป็นเครื่องสักการะในวันนั้น แต่ว่าอาหารจีนที่ทำขึ้นในวันไหว้พระจันทร์นี้ไม่ใช่ขนมเค้กอย่างเช่นของ ชาวตะวันตกตามที่เข้าใจกัน ในประเทศไทย ศิลปะการทำขนมเค้กแบบชาวจีนนี้ถูกนำเข้ามาเผยแพร่โดยชาวจีนอพยพมากกว่า 100 ปีมาแล้ว ขนมไหว้พระจันทร์ของจีนแต่เดิมนั้นมีส่วนประกอบ เช่น ถั่วแดง ลูกนัทจีน 5 ชนิด และ เมล็ดบัว เป็นต้น ในประเทศไทยก็มีส่วนประกอบที่แตกต่างออกไป เช่น การรวมเอาทุเรียน ลูกเกาลัดและลูกพลับเข้าไว้ด้วย เครื่องปรุงที่เพิ่มเข้ามาก็อาจจะรวมเอาเมล็ดบัว ไข่แดงเค็ม และเมล็ดแตงโมด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่า โดยปกติแล้วพิธีนี้จะให้สตรีเป็นผู้ทำเพราะว่าคนเชื่อกันว่าพระจันทร์มีส่วน เกี่ยวข้องอย่างแนบแน่นกับเทพเจ้าสตรีเรื่อยมา ดังนั้น จึงมีการบูชาด้วยแป้งและเครื่องสำอางด้วยเพราะหวังว่าการทำเช่นนี้จะนำมา ซึ่งความสวยงามและผิวงามแก่สมาชิกในครอบครัวที่เป็นจริงทั้งหมด ไม่ว่าความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปไกลขนาดไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อตามประเพณี และพิธีที่สืบทอดกันมาชั่วลูกชั่วหลานของชาวจีนแต่ประการใด

ส่วนผสมขนมไหว้พระจันทร์

ส่วนผสมแป้งที่1
แป้งบัวแดง 400 กรัม
น้ำมันพืช 200 กรัม
น้ำเชื่อมที่ต้มจนเป็นสีน้ำตาลเข้ม 425 กรัม
น้ำด่าง 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมแป้งที่ 2
แป้งบัว 300 กรัม
ส่วนผสมไส้
ทุเรียนกวน 1 กก.
ถั่วกวนอุ่นๆ 200 กรัม
เม็ดแตงโม 100 กรัม

วิธีทำ
  1. ผสมน้ำมัน น้ำเชื่อม น้ำด่างเข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆใส่แป้งในส่วนที่ 1 คนให้เข้ากันดี พักไว้ ไม่ต่ำกว่า 30 นาที
  2.ขณะรอพักแป้ง ผสม ทุเรียนกวน กับ ถั่วเขียวอุ่นๆ นวดให้เข้ากันดี ทุเรียนกวนจะนุ่มมากขึ้นแล้วค่อยๆใส่เม็ดแตงโมลงไปผสมให้ทั่ว พักไว้
  3. ค่อยๆใส่ แป้งส่วนที่ 2 ลงในส่วนผสมแป้งที่1 นวดให้เข้ากัน
  4. นำไส้ทุเรียนมาแบ่งก้อนละ 35 กรัม นำแป้งมาชั่งก้อนละ 15 กรัม
  5. แผ่แป้งให้แบน แล้วนำใส้ทุเรียนมาวาง หุ้มให้มิด
  6. นำไปใส่พิมพ์ กดให้แบน เคาะออกจากพิมพ์
  7.วางบนถาดทาเนยขาว อบไฟล่าง 350F หรือ180C อบประมาณ 20 นาที
  8.นำมาทาไข่แดงให้สวยงาม อบ ต่อจนสุก (ประมาณ 10 นาที)ใช้ไฟบนช่วยได้

    ถ้าต้องการใส่ไข่แดงเค็ม ก็ให้ชั่งรวมไปกับส่วนของไส้เลยโดยลดไส้ลงตามน้ำหนักไข่แดงเค็ม

วิธีทำน้ำเชื่อม
  1.ใช้น้ำตาลทรายแดง 1 กก.ใส่น้ำลงไปพอประมาณไม่ต้องมาก นำไปต้มให้น้ำตาลละลาย ทิ้งให้คลายร้อนเล็กน้อย นำไปกรองฝุ่นออก
  2.บีบน้ำมะนาวลงไป 1-2 ลูก แล้วตั้งไฟให้เดือด จากนั้น หรี่ไฟอ่อนค่อยๆเคี่ยวให้เหนียว ไม่ต้องคน และ ระวังน้ำตาลไหม้(ใช้เวลาเกือบวัน เชียวละ)
  3.วิธีเช็คดูว่าน้ำตาลเหนียวได้ที่แล้วยังคือ หยดน้ำตาลลงไปในน้ำเย็น ถ้า น้ำตาลรวมตัวเป็นหยดกลมๆไม่กระจาย ก็ใช้ได้ ทิ้งให้เย็นเก็บใส่ภาชนะที่สะอาด
วิธีทำ ถั่วเขียวกวน
  1.แช่ถั่วเขียวที่เลาะเปลือกแบ่งซีกเรียบร้อยแล้ว ค้างคืนไว้ 1 คืน
  2.นำมานึ่งให้สุก
  3.ปั่นในเครื่องปั่น เติมน้ำน้อยให้แค่พอปั่นได้
  4.นำไปกวนในกระทะทองเหลืองจนแห้ง พอประมาณ ลากพายผ่านถั่วกวนแล้วถั่วไม่ไหลกลับมาปิดรอยพายก็ใช้ได้
    พอถั่วเริ่มอุ่นๆก็นำไปนวดกับทุเรียนกวนตามสูตรได้เลย

วิธีคลึงแป้งหุ้มไส้
รูปที่1 ทำลูกเล็กนะคะ ใช้แป้ง 15 กรัม หุ้มไส้ 35 กรัม
รูปที่2 แผ่แป้งให้แบน นำไส้ทุเรียนวางกลางแป้ง
รูป ที่3-4 วางแป้งบนนิ้วมือซ้าย มือขวาใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งไล่แป้งขึ้นมาหุ้มไส้ โดยนิ้วโป้งซ้ายกดไส้เบาๆ 4 นิ้วข้างล่างประคองแป้งและหมุนให้แป้งโดนเกลี่ยทั่วๆกันทุกด้าน

พอแป้งหุ้มไส้เกือบหมดก็ปิดคล้ายๆปิดซาลาเปา แล้วเอามือคลึงให้แป้งเนียน จากนั้นโรยแป้งนวลเล็กน้อยคลึงให้เนียนอีกครั้งนวลหายไปกับเนื้อแป้งหมด

จากนั้นนำไปกดใส่พิมพ์
( พิมพ์ที่ใช้เป็นพิมพ์ไม้ ก่อนใช้ 1 คืนเอาน้ำมันพืชใส่ให้เต็มหลุมพิมพ์ แช่ทั้งคืน แล้วเช็ดน้ำมันออกนำไปใช้ได้เลย )
กดใส่พิมพ์ครั้งแรกโรยนวลที่พิมพ์แล้วเคาะแป้งออก ใส่ลูกแป้งลงไปใช้ฝ่ามือกดให้ลูกแป้งลงไปขยายเต็มพิมพ์ เกลี่ยแป้งให้เข้ามุมทั้ง 4 มุม จากนั้น เคาะออกจากพิมพ์โดยเคาะบนเขียงไม้ที่มีผ้ารองไว้หนาๆกันพิมพ์แตก วิธีเคาะ ตะแคงพิมพ์เคาะด้านซ้าย 1 ที ขวา 1 ที แล้วคว่ำพิมพ์เคาะทางหัวพิมพ์แรงๆให้ขนมหลุดออกมาจากพิมพ์

นำใส่ถาดทาเนยขาว แล้วอบตามสูตรได้เลยคะ อบนาน 20 นาที เอาออกมาทาไข่แดง แล้วอบต่ออีก10นาทีให้สีสวยและไข่สุกคะรอเย็นเก็บใส่ภาชนะให้มิดชิด ทิ้งไว้ 1 คืนเปลือกแป้งจะนุ่มขึ้น

ที่มา : //th.wikipedia.org
         //www.pantown.com/board.php?id=16288&area=3&name=board2&topic=183&action=view

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ

Create Date : 29 กันยายน 2555
Last Update : 29 กันยายน 2555 11:19:29 น.		1 comments
Counter : 3107 Pageviews.
Share Tweet