ปั้นเหน่ง แม่นาคพระโขนง



ความจริงแล้ว คำว่า "ปั้นเหน่ง" มีความหมายถึง หัวเข็มขัด แต่ที่เรียกว่า "ปั้นเหน่งแม่นาค" เพราะว่ากันว่าเป็นที่สิ่งสถิตของวิญญาณแม่นาคพระโขนง ทั้งนี้ ตามตำนานเล่ากันว่า ในสมัยของรัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งที่แม่นาคออกอาละวาดหลอกหลอนผู้คนอย่างหนัก และครั้งหนึ่งข่าวแม่นาคหลอกหลอนหนักโดยเฉพาะที่แยกมหานาค(ในปัจจุบัน) ทำให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาทำการสะกดวิญญาณความเฮี้ยน และเจาะกะโหลกผีแม่นาคเอามาขัดเป็นมัน ลงอักขระอาคม ทำเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ซึ่งหลังจากนั้นได้นำปั้นเหน่งไปเก็บรักษาไว้ที่วัดระฆังโฆสิตาราม



ครั้นเมื่อท่านชรามากแล้ว ได้มอบปั้นเหน่งกระดูกหน้าผากแม่นาคนี้ไว้กับหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ ซึ่งในภายหลังท่านได้เป็นหม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัต) ต่อมาท่านได้ประทานปั้นเหน่งแม่นาคให้กับหลวงพ่อพริ้ง หรือพระครูวิสุทธิ์ศิลาจารย์ แห่งวัดบางปะกอก ซึ่งภายหลังได้นำเอาปั้นเหน่งอันนี้มาถวายแด่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ใน เวลาต่อมา ก่อนที่ปั้นเหน่งแม่นาค จะถูกเปลี่ยนมือไปอีกหลายทอด และหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย อย่างไรก็ตาม "ปั้นเหน่งหรือกะโหลกหน้าผากแม่นาค" ถือได้ว่าเป็นหลักฐานที่หลงเหลือและจับต้องได้เพียงชิ้นเดียว จากตำนานรักอมตะระหว่างผีกับคน ที่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า ของศักดิ์สิทธิ์จากตำนานรักแม่นาค ตกทอดไปอยู่ในมือของผู้ใด?



เนื่องจาก ไม่สามารถหาภาพสมเด็จวัดระฆังแท้ๆ มาแสดงในบล๊อคนี้
ผมจึงขอโชว์ สมเด็จ ปิลันทร์ แทน นะครับ เพราะ เป็นพระสมเด็จที่เกี่ยวพันกับ
หม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ ผู้ซึ่งได้รับมอบปั้นเหน่งมาจาก สมเด็จโตฯ







พระสมเด็จปิลันทร์ หม่อมเจ้าสมเด็จพุทธบาทปิลันทร์ ท่านได้สร้า้งไว้ โดยนิมนต์พระอาจารย์ของท่าน เป็นประธานฯ อธิษฐานจิต ประจุพุทธาคมไว้ในพระสมเด็จปิลันทร์ ซึ่งก็คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี


จึงเรียกพระนี้ว่าพระสองสมเด็จมาแต่โบราณกาล


ด้านพุทธคุณเชื่อว่า พระสมเด็จปิลันทน์เฉก เช่นเดียวกันกับพระสมเด็จวัดระฆังของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ซึ่งมีพุทธคุณดีครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม และโภคทรัพย์ดีเยี่ยมที่สุด


จัดเป็นสุดยอดพระเครื่องที่บูชาได้ดุจเดียวกับสมเด็จวัดระฆัง เพราะท่านผู้สร้างท่านคือองค์เดียวกัน








อ้างอิง ภาพจากหนังสือเล่มครู อาจารย์ประชุม กาญจนวัฒน์




......................................





เรื่องของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ)


ครั้นเมื่อนางนาค บ้านพระโขนงเขาตายทั้งกลม ปีศาจของนางนาคกำเริบ เขาลือกันต่อมาว่า ปีศาจนางนาคมาเป็นรูปคน ช่วยผัววิดน้ำเข้านาได้จนทำให้ชายผู้ผัวมีเมียใหม่ไม่ได้ ปีศาจนางนาคเที่ยวรังควานหลอนหลอกคนเดินเรือในคลองพระโขนงไม่ได้ ตั้งแต่เวลาเย็นตะวันรอนๆ ลงไป ต้องแลเห็นปีศาจนางนาคเดินห่มผ้าสีบ้างโหนตัวบนต้นโพธิ์ต้นไทรบ้าง พระสงฆ์ในวัดพระโขนงมันก็ล้อเล่น จนกลางคืนพระภิกษุสามเณรต้องนอนรวมกันถ้าปลีกไปนอนองค์เดียว เป็นต้องถูกปีศาจนางนาครบกวน จนเสียงกร๊อกแกร๊กอื่นๆ ก็เหมาว่าเป็นปีศาจนางนาคไปหมดพวกหมอผีไปทำเป็นผู้มีวิเศษตั้งพิธีผูกมัดเรียกภูตมัน มันก็เข้ามานั่งแลบลิ้นเหลือกตาเอาเจ้าหมอต้องเจ๊งมันมาหลายคน จนพวกแย่งพวกชิงล้วงลัก ปลอมตัวเป็นนางนาคหลอกลวงเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านกลัวนางนาค เลยมุดหัวเข้ามุ้ง ขโมยเก็บเอาของไปสบายค่ำลงก็ต้องล้อมต้องนั่งกองกันยันรุ่งก็มี


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)ท่านรู้เหตุปีศาจนางนาคกำเริบเหลือมือหมอ ท่านจึงลงไปค้างที่วัดมหาบุศในคลองพระโขนง พอค่ำท่านก็ไปนั่งอยู่ปากหลุม แล้วท่านเรียกนางนาคปีศาจขึ้นมาสนทนากันฝ่ายปีศาจนางนาคก็ขึ้นมาพูดจาตกลงกันอย่างไรไม่ทราบ ลงผลท้ายที่สุดท่านได้เจาะเอากระดูกหน้าผากนางนาคที่เขาฝังไว้มาได้แล้วท่านมานั่งขัดเกลาจนเป็นมัน ท่านนำขึ้นมาวัดระฆัง ท่านลงยันต์เป็นอักษรไว้ตลอดเจาะเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ไปไหนท่านก็เอาติดเอวไปด้วยปีศาจในพระโขนงก็หายกำเริบซาลง เมื่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ)ยังเป็นสามเณรอยู่ในกุฏิ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นางนาคได้ออกมารบกวน ม.ร.ว.เณรๆก็ฟ้องสมเด็จฯ ว่า สีกามากวนเขาเจ้าข้า สีกามากวนเขา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)ท่านร้องว่า นางนาคเอ๊ย อย่ารบกวนคุณเณรซี ปีศาจนั้นก็สงบไป นานๆ จึงออกมารบกวน

ครั้นท่านชรามากแล้ว ท่านจึงมอบปั้นเหน่งกระดูกหน้าผากนางนาค ประทานไว้กับหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ มอบหม่อมราชวงศ์สามเณรเจริญให้ไปอยู่กับหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ด้วย นานๆ นางนาคออกมาหยอกเย้าหม่อมราชวงศ์สามเณรเจริญ หม่อมราชวงศ์สามเณรเจริญต้องร้องฟ้องหม่อมเจ้าพระพุทธบาทฯ ๆ ต้องทรงกริ้วนางนาคว่า เป็นผู้หญิงยิงเรืออย่ามารบกวน คุณเณรจะดูหนังสือหนังหา เสร็จกริ้วแล้วก็เงียบไป












ภาพประกอบ พระสมเด็จพิมพ์เล็บมือ สร้า้งโดยสมเด็จพุธโฆษาจารย์ เจริญ (สามเณรเจริญในเรื่องข้างต้น) บรรจุกรุไว้ที่วัดอัมพัน นครนายก






.
.







Create Date : 23 มิถุนายน 2555
Last Update : 23 มิถุนายน 2555 12:03:12 น.
Counter : 8336 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thaithinker
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กตัญญู ขยัน ซื่อสัตย์
เป็นคุณธรรมพื้นฐาน ของการดำเนินชีวิต
ที่เราทุกคนเกิดมาเป็นคน
พึงรักษาไว้








JAVA counter clicks
มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog