เมมโมรี รัก (ที่ข้าพเจ้า) หลอน..๒
จะมาขอเล่าความยากง่ายในกองถ่าย..เรื่อง เมมโมรี่ นะคะ
แต่ช้าก่อน..ขอเล่าย้อนอดีตความเป็นมาของข้าพเจ้าก่อนนะคะ ข้าพเจ้าเริ่มต้นทำอาร์ตจากดาราวีดีโอ และมาสุริโยทัย แล้วมาเปลี่ยนสาย ทำเสื้อผ้าจาก คืนบาป พรมพิราม เป็นเรื่องแรกของสายนี้นะคะ ตามมาด้วยพระนเรศวร,ฅนไฟบินและก็เรื่องนี้ค่ะ
ใครจะติ-ชม ยินดีนะคะ..
(โดนเยอะแน่ เรา..)
ความแรกที่ข้าพเจ้ามารับงานนี้..อย่างที่บอก..เครียดค่ะ.. ไหนจะ พี่ใหม่ ไหนจะอนันดา(ในความรู้สึกข้าพเจ้า) แต่พอร่วมงานไป..น่ารักทั้งคู่ค่ะ คนทำงานจริงๆ
ขออธิบายรายละเอียดสักนิด(เกี่ยวกับงานสร้าง) เรื่องนี้ ผกก. ด้วยความที่อยากให้หนังออกมาดี แกเลยโดดลงมาทำเองหลายหน้าที่ ที่นอกจากกำกับแล้ว แกยัง เขียนบท, production designer( ซึ่งตำแหน่งนี้จะคุม art director และ costume designer อีกทีนะคะ) รวมสามตำแหน่ง.. ซึ่งก็ผกก.คนนี้จะควบตำแหน่งแบบนี้ตั้งแต่ ยังไงก็รัก แล้ว..
เข้าเรื่องหนังดีกว่า..
เรื่องนี้เหมือนง่าย..แต่ก็ไม่ง่ายเลยครับผม.. มีแสตนด์อินและดับเบิ้ลตลอด..ทั้งคน ทั้งของ.. เมนๆเรื่องนี้..มีอยู่สามคน.. พี่ใหม่,อนันดา, น้องซัน(ที่เล่นเป็นลูกพี่ใหม่) สำหรับข้าพเจ้า..นักแสดงน้อย..ชอบจัง..แต่ค่ะแต่..ดับเบิ้ล บานเลย..
ป๊าดดดดดด.. น้องซันรับศึกหนักที่สุด (อันนี้ข้าพเจ้าขอเชียร์น้องซันเข้าแข่ง ดาวรุ่งดวงใหม่)
ไหนจะมีเลือด ,ฉากรถชน,ฉากพี่ใหม่อุ้มโดดตึก,ไม่นับฉากฉี่บนที่นอน และเด็กถูกแขวนคออีกนะ (เอฟเฟกต์ท้างน้าน) ซึ่งมันก็คือ ทีมเสื้อผ้าก็หาชุดดับเบิ้ล ทีมอาร์ตก็ทำดับเบิ้ลหุ่นเด็ก..เตรียมให้หมดคร่า..
ในเซตผู้ใหญ่ก็ไม่แพ้กัน..ทั้งพี่ใหม่ทั้งอนันดาก็ต้องมีดับเบิ้ลหมด (ตามบทที่เราได้รับมา)เพราะไหนจะเจอกับเลือด(ที่คุณๆไม่ได้เห็น) ที่เยอะมากๆ(แอบเมาธ์กันว่า ผกก. บ้าเลือด )
ชุดของอนันดาน่ะ..ไม่เท่าไหร่ เพราะเสื้อผ้านักแสดงชาย ไม่ค่อยยาก ซื้อดับเบิ้ลบ้างแล้ว (แต่บางซีน,บางชุดก็ต้องมาหาดับเบิ้ลที่เชียงใหม่-คิดดู)
แต่บางซีนอยู่ดีๆ ผกก.จะเอาซีนนี้..เพิ่มอารมณ์แบบนี้.. เฮ้ย..เสื้อผ้ามีชุดอีกเปล่า เดี๋ยวจะมีเลือดนะ(งง?) เดี๋ยวจะต้องใช้แสตนด์อินนะ(งง?) อะไรกันนี่..แล้วตรูประชุมกับใครมาฟระ
(การเพิ่มอะไรก็แล้วแต่..หน้างาน.. ภาษาทีมงานเรียก ถั่วงอก) T_T
..............................................................................
เล่าเรื่องดับเบิ้ลดีกว่า..สนุกกว่า..
เอาเรื่องเสื้อพระเอกก่อนนะ..อนันดา เห็นเสื้อผ้าแค่นั้นน่ะดับเบิ้ลเยอะนะ เอาซีนที่เห็นๆก็ซีนที่ปาดกระเดือกบักจ่อย.. สนุกดี ค่อยรู้สึกว่าทำงานหน่อย ใช้เสื้อไปไม่ต่ำกว่าหกตัวเลย โชคดีที่เป็นเสื้อขาว (แบบว่าหาได้ง่ายหน่อย) ตอนแรกคุย(ในที่ประชุม) ว่าไม่เกินสามเทค(ใครจะไปเชื่อ) เสื้อซื้อดับเบิ้ลมาจากกทม.แล้ว แล้วต้องไปหาให้คล้ายที่สุด(อีกสี่ตัว) ที่เชียงใหม่..หุหุ
ผ่านเรื่องเสื้ออนันดา..ในซีนเดียวกัน..ชุดพี่ใหม่นี่อะสิ.. ที่เป็นชุดข้างใน-อันนี้ไม่ยาก สีหนึ่งก็ตัดไว้อย่างละสอง หลายสี..แต่เสื้อคลุมบางๆ ซีทรู โดยความอนุเคราะห์จาก อ.แพนด้วย (อ.เผ่าทอง ทองเจือ) แพงโคตร ไม่มีดับเบิ้ลแน่ๆ ทำไงคะพี่น้อง..
เสื้ออนันดามีดับเบิ้ล ชุดพี่ใหม่ไม่มีดับเบิ้ล..ตอนซ้อมก็ให้อนันดาถอดเสื้อก่อนนะ แล้วเอาผ้าขนหนูมาคลุมท่อนล่างไว้..แล้วเอาแรป(ที่เป็นพลาสติกบางๆน่ะค่ะ) มาห่อตัวพี่ใหม่ก่อนนะสิ.. เพราะซีนนี้ต้องซ้อมด้วยเรื่องของเอฟเฟกต์เลือดพุ่งด้วย..ไม่ใช่แค่ทีมเสื้อผ้าแรปที่พี่ใหม่นะ.. ทีมอาร์ตยังต้องปูพลาสติกนี่ไปข้างสนาม,บ่อปลากันเลือดกระเด็นด้วยนะ พอซ้อมทำเลือดพุ่งได้ที่แล้ว..ก็เอาทุกอย่างที่แรปออก..เอาผ้าขนหนูที่คลุมอนันดาออกแล้วให้ใส่เสื้อ.. แล้วก็..แ อ๊ ก ชั่ น .. ไม่ผ่านหรอกเทคแรก..เสื้ออนันดาเหรอ..สบ๊าย...แต่..ชุดพี่ใหม่อะดิ โอเคไม่เปื้อน..เช็ดเล็บพี่ใหม่หน่อย ซ้อมเลือดอีกรอบหรือ..(ฝ่ายอาร์ตทำเลือดมาเยอะ) ขอแรปพี่ใหม่อีกรอบละกัน..
ก็สรุปของอนันดาใช้เสื้อไปหกตัว..เหลือมาหนึ่งตัว..หมดไปครึ่งวัน..แค่ซีนปาดกระเดือกที่เห็นแวบๆอยู่วิ.สองวิ. แค่นั้นแหละ..
กล่าวถึงพระเอกก่อนดีกว่า..ก็มีซีนเลือดออก(ซีนไหนฟระ-เลือดเยอะไปหมด) เอาแค่หลังจากโดนคนบ้ากัด..จำกันได้มั้ยเอ่ย..หมอกฤษไปหาอิงอร มีเลือดซึมๆที่ไหล่ (ต้นๆเรื่อง)..นั่น (เรา) ก็ไม่รู้เนื้อรู้ตัวนะว่างานจะเข้า(โชคดีของเราที่เดาทางออก อย่างน้อยซื้อเสื้อดับเบิ้ลไว้ก่อนแหละ) ต้องมาแต่งรอยฟันที่เสื้อที่โดนคนไข้กัดอีกด้วยนะแล้วทำให้เป็นเลือดค่อยๆซึมออกมา (ทำไมค่าแรงเสื้อผ้า ไม่ให้เป็นคิวมั่งฟระ)
แล้วก็ซีนที่หมอกฤษหลอนตัวเอง ประมาณนอนไม่หลับแล้วเอาเครื่องต่อก-แต่ก มานั่งจ้องอ่ะ(เรียกชื่อไม่ถูก-ที่เค้าใช้กับดนตรีด้วยนั่นน่ะค่ะ) แล้วก็หลอนเป็นว่ามาเดินอยู่คนเดียวที่โรงพยาบาล
ภาพไกล บรรยากาศเงียบๆ วังเวง หมอกฤษเดินอยู่คนเดียวทางเดินมืดๆของร.พ.
ตัดเข้ามาใกล้ หมอกฤษได้ยินเสียงดังมาจากข้างบนเพดาน..เหลียวซ้ายแลขวา ไม่มีอะไร เดินต่อไป ...
ใกล้มาก หมอกฤษรู้สึกว่ามีอะไรหยดลงมาที่ไหล่..แปะ..แปะ.. หมอกฤษหยุดเดิน เอามือแตะไหล่ตัวเองแล้วเอามาดู...เลือด มันคือเลือดหยดลงมา... เงยไปข้างบน..ไม่มีอะไร..หันกลับไปดูทางที่เดินผ่านมา..เลือด..เลือด นองเต็มทางเดิน และเหมือนเป็นรอยลาก!!!
แค่ฉากนี้ก็สนุกแล้ว เพราะข้าพเจ้าได้ทำงานอีกแล้ว หุหุ.. มาร์กจุดบักจ่อยต้องมาหยุด, มาร์กกล้องไว้ที่หัวไหล่บักจ่อย แล้วข้าพเจ้า ขึ้นไปอยู่บนกล่องไม้ ต่อกัน๒ชั้น (block) ให้ตัวเองสูงกว่ากล้อง แล้วก็ต้องค่อยๆยื่นมือไปให้สุดเพื่อหยดเลือดลงมาที่หัวไหล่ โดยไม่ให้มีส่วนใดของข้าพเจ้าโผล่เข้าไปในกล้อง.. ฮ่าฮ่า.. นึกภาพแล้วทุลักทุเลพิลึก ที่ก็แคบ ตรงกล้องก็ปาไป๓คนแล้ว และต้องให้แม่นด้วยนะ ไปพลาดลงไปส่วนอื่น ข้าพเจ้าก็งานเข้าเองอ่ะสิค้า กร๊ากกกก
แล้วข้าพเจ้าก็มือไม้สั่นพอควรด้วยสิ..ซีนนี้ (เพราะทุกคนลงความเห็นว่าควรให้ข้าพเจ้าทำเอง..ป้องกันการถูกบ่นและโวยจากข้าพเจ้า..ฮ่าฮ่า..สมน้ำหน้า) >
แล้วฉากนี้ก็..ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่า...ตัดออกไป...เฮ้อออออออ
เล่าๆมานี่ก็สนุกๆนะคะ มันผ่านมาแล้ว มองย้อนกลับไปมันก็คือความเหนื่อย,ความสนุกในการทำงานที่ทุกๆที่ต้องประสบพบเจออยู่แล้ว
มีอีกหลายอย่าง..เดี๋ยวมาต่อ..
Create Date : 14 ตุลาคม 2551 |
|
20 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2551 4:20:26 น. |
Counter : 981 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาหาด้วยความคิดถึงค่ะ