ฮ่องกง.. เที่ยวที่หนึ่ง (3) เดี๋ยวก็ฝน เดี๋ยวก็แดด
อากาศบนท้องฟ้าตลอด 3 ชั่วโมง ระยะทางดอนเมือง-ฮ่องกง แจ่มใสมาก
แจ่มใสซะทำให้เราหลงระเริงไปว่า ถึงจะมาฮ่องกงปลายพฤษภา เราก็ไม่เจอฝนนะ ได้เที่ยวแบบสบายๆ แน่ๆ
ทว่า .. พอแอร์สาวประกาศว่าเรากำลังจะลดระดับสู่สนามบินฮ่องกงเท่านั้นแหละ ฝน ... มาจากไหนจ๊ะ
เมฆทะมึนก้อนใหญ่มาเลย..
โอเคจ๊ะ..ชั้นเชื่อแล้วก็ได้ว่า ฮ่องกงหน้านี้น่ะ เจอแต่ฝน
ลงเครื่องปุ๊บ ก็ต้องไปหา ตม.
วิธีการไปหาตม.ของเราน่ะเหรอ เดินตามฝูงชนสิจ๊ะ คนหมู่มากไปทางไหน เราก็ตามไปทางนั้น เห็นมั้ย .. ง่ายจะตาย
ทีนี้พอตามฝูงชนมาปุ๊บ อุ๊ต๊ะ! .. คนมหาศาลเลยจ้า เยอะจนแบบ แถวคดเคี้ยว เลี้ยวลดประมาณ 5 ตลบ
ด้วยความที่มีประสบการณ์เดินทางสูง ??~ (กว่าคนอื่นหน่อยนึง) ก็เลยเดินนำหน้าไปต่อแถวคดเคี้ยวนั้นแหละ ถึงจะยาวแต่ใช้เวลาไม่นาน
พอใกล้จะถึงคิวเรา มีพ่อหนุ่ม.. น่าจะแถวๆ อินเดีย บังคลาเทศอะไรทำนองนั้น ต่อก่อน ซึ่งคนนี้โดนถามมากกกกกก ถามแบบ ถามจริงจัง มากี่คน ..มากับใครบ้าง.. เรียกหาเอกสารอะไรสักอย่างจากคนนั้น
จนกระทั่งเราเริ่มใจแป้วล่ะ ไอ้รีวิวคนที่เคยอ่านว่าโดนเรียกเข้าห้องเย็นวาปเข้ามาในหัว
เราจะโดนไหมหว่า จะถามอะไรเราบ้างนะ เราจะฟังเค้าพูดออกมั้ย
พอถึงตาเรา... ตอนยื่นพาสปอร์ต สังเกตมือตัวเอง ดูแข็งๆ นะ
พอยื่นเสร็จ ตม.ผู้หญิง เอาพาสปอร์ตเราไปสแกน สักพักก็มีใบอะไรสักอย่างถูกปริ้นออกมา
แล้วพาสปอร์ตก็ถูกยื่นถึงมือเรา
แล้วก็เพิ่งรู้ตอนนั้นเองว่า ฮ่องกงเค้ายกเลิกตราประทับแล้วอ่า...
เค้าอยากได้ตราประทับอ่า~
(เพื่อนตะโกนบอกว่า ถ้าอยากได้ตราประทับก็เอาสก๊อตเทปแปะไว้กับพาสปอร์ตสิ - อืม..จ๊ะ)
ออกมาก็เดินๆ หากระเป๋ากัน
สาบานได้ว่ามาทริปเดียวกันจริงๆ ด้านซ้ายนี่เหมือนแค่ มาแค่อยุธยาไม่ใช่ฮ่องกง ส่วนด้านขวานี่ก็แบบ ไม่ได้มาฮ่องกงแต่ไปยุโรป (แซวขำๆ นะตัวเองงง)
ลากกระเป๋ากันออกมาซื้อบัตรปลาหมึก
แล้วก็มาเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า แผนการตอนแรกของเราก็คือ พอลงสนามบินแล้วก็จะไปไหว้พระใหญ่ก่อน เพราะอยู่ฝั่งเดียวกัน จะได้ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา
แต่เนื่องจากฝนตก ดังนั้นแผนก็เลยเปลี่ยน มุ่งหน้าไปที่พักก่อนเลย
ที่พักของเราอยู่ที่สถานี Tsim Sha Tsui ล่ะ สุดปลายของเกาะเกาลูน
อยู่ในสนามบินก็ไม่รู้หรอกว่าฝนตกขนาดไหน พอนั่งรถไฟออกมา ฝนก็ยังตกอยู่ ที่นั่งในรถสบายมาก
รอบนี้เป็นคอนเซ็ป Selfie คือถ่ายกันเยอะมาก
ขาไป เราว่าวิวทางด้านซ้ายสวยกว่า อย่าลืมนั่งด้านซ้ายละ
ฝนตก ทั้งเมฆ ทั้งหมอก ตอนแรกโปรแกรมของเรากะว่าออกจากสนามบินแล้วก็จะตรงไปไหว้พระใหญ่ เจอฝนแบบนี้ แถมเจอเคอร์ฟิวเมื่อวาน เลยเปลี่ยนแผนไปที่พักไปอาบน้ำ เก็บกระเป๋ากันก่อนละกัน
ระหว่างทางเจอคุณลุงใจดีคอยชี้ทางบอกว่าต้องไปทางนั้นนะ ทางนี้นะ แถมเดินไปส่งด้วย (คือลุงก็ไปทางเดียวกัน)
เราว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับฮ่องกงไม่น้อยเลยนะ
ลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก B1
ตั๊กหาที่พักให้ได้ที่ Hong Kong Tai San ได้ข่าวว่าเป็นห้องพักที่ฮิตใน pantip.com ไม่น้อย
เป็นอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ที่ดัดแปลงเป็นห้องพัก มีทั้งหมด 7 ห้อง ที่สำคัญมีห้องน้ำในตัวด้วย
กดออดเรียกก็เจอแม่บ้านออกมาต้อนรับ แนะนำตัวว่าชื่อโมนาลิซ่า โมนาลิซ่าเป็นคนตลก เฟรนด์ลี่ ใจดี และขยันทำความสะอาดมาก มาก มาก
เราได้ห้องหมายเลข 3 เล็กมาก คือห้องอื่นไม่เล็กขนาดนี้นะ (ไปสำรวจมาแล้ว ) มีห้องเราเนี่ย เล็กสุดเลย นอนกัน 2 คน
ห้องน้ำเล็กมากกกกกกก คือหมุนตัวได้อย่างเดียว ไม่ต้องคิดจะขยับไปไหนเลย ที่แขวนผ้าก็ไม่มีอ่ะ (แต่ห้องอื่นห้องน้ำกว้าง แล้วก็มีที่แขวนนะ)
มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นห้างจ๊ะ ใกล้แหล่งช็อปปิ้งกันเลย (ฝนยังตกอยู่เลย..)
พอต่างคนต่างจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ก็ว่าน่าจะได้เวลาหาอะไรใส่ท้อง ตอนนั้นน่าจะราวๆ เกือบๆ บ่าย 2 กดหาพิกัดจากมือถือเลยจ๊ะ wifi ที่นี่เร็วมาก แรงดีไม่มีตก เป็นที่ปลาบปลื้มกับมนุษย์ยุคใหม่อย่างเรากันมาก
ออกมาด้านนอกต้องใช้พิกัดจาก google ช่วย จี่เปิด Roaming มาจากไทย ส่วนเราซื้อซิมฮ่องกงมาใช้ สั่งจากเมืองไทยก็ได้มีขาย จะซื้อที่นี่ก็ได้ แต่เราว่าน่าจะเสียเวลา (พวกเรา) เลยสั่งให้มาส่งที่บ้าน
ร้านแรกที่เลือกไป (เพราะใกล้ที่สุด) คือ บะหมี่เกี๊ยวร้าน Lung Kee ยังต้องกางร่มกันไป
เป็นร้านคูหาเล็กๆ 1 คูหา มีโต๊ะเล็กๆ ประมาณ 7 โต๊ะ
ด้วยความที่คนเยอะเลยต้องรอก่อน แป๊ปนึง
ด้านใน ก็ต้องกระจายกันไป 3 โต๊ะ การนั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา
ที่โต๊ะเรา จี่เปิดรูปบะหมี่เกี๊ยวกุ้งให้ป้า แล้วชูมือ 3 นิ้ว (เป็นการสื่อสารที่ง่ายและประเสริฐมากกกกก)
เราอ่านป้ายเจอเค้าเขียนว่าอิเกี๊ยวเนี่ย เรียก Wan-tan (วันทัน) เราก็เลยพูดว่า วันทัน ๆ
ป้าที่รับออเดอร์หันมาพูดเลยว่า "วันทัน ชี๊~ วันทัน ชี๊" เราพยักหน้า ป้าเดินจากไป
ตัดกลับมาที่โต๊ะเรา... เราหันไปพูดกับเพื่อนว่า "วันทัน ชี๊~ มันแปลว่าอะไรอ่ะแก"
ตัดกลับมาที่ป้า เอาถ้วยมาเสิร์ฟ ได้เป็น เ กี๊ยวน้ำล้วนจ๊ะ
ละ.. แล้ว บะหมี่หนูละป้า เราว่านะ อิวันทันชี๊~ ที่เราพยักหน้านั่นแน่เลย
โอ๊ย... เกี๊่ยวที่กุ้งเป็นกุ้ง เนื้อแน่ๆ คำโตๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก น้ำลายพุ่งงงงงงงง
ดูหน้านางแบบ
อร่อยมากกกกกกกกกกก ต้องมา ร้านนี้คือแนะนำเลย วันที่ 3 ของร้านนี้ที่ฮ่องกง พวกเราก็ยังมาซ้ำกัน รอบนี้สั่งบะหมี่เกี่ยวกุ้งแห้ง โปะหน้าเนื้อด้วย อร่อยยยย คือสั่งเลยนะ เกี๊่ยวกุ้งคำแน่น บะหมี่ น้ำราด เนื้อนุ่ม อยากนั่งเครื่องไปกินเสียเดี๋ยวนี้
ถ้ากลัวสั่งผิด เซฟรูปไปเลยจ๊ะ ชัวร์แน่ๆ เอ้ย..เราสั่งคะน้านำ้มันหอยมาด้วย คือชื่อภาษาจีนมันคือ ไค่-หลาน อร่อยมาก อย่าลืมสั่งละ
หนังท้องตึง พลังงานเต็มร้อย ก็เดินเที่ยวกันได้เล้ยยยย
ที่แรก Avenue of Stars เดินทะลุทางเชื่อมตรงใต้ดิน Tsim Sha Tsui ได้เลย
ข้างล่างมีแผนที่ชัดเจนว่าต้องไปโผล่ทางออกไหน แต่ถามว่าหลงมั้ย... ก็หลงนะจ๊ะ ฮ่าๆ ก็ทางเดินจริงกับแผนที่มันก็ไม่ได้เหมือนกันสักทีเดียวนิ
แต่ก็โผล่ออกมาจนได้ เดินตามป้ายไปจนถึง หน้า Hong Kong Museum of Art
โซนนี้คือมีทั้ง Hong Kong Museum of Art, Hong Kong Culture Center Hong Kong Space Museum
คืออยู่ตรงนี้ที่เดียวเข้ามิวเซียมนู้นออกมิวเซียมนี้ได้เป็นวันๆ
โชคดีที่ฝนหยุดตกแล้ว แต่เมฆยังเยอะอยู่
เราว่าที่นี่ก็ไม่มีอะไรเยอะนะ นอกจากวิวริมอ่าว รูปประทับมือดารา
แต่เหมาะสำหรับมาเดินเล่นรับลมเย็นๆ เดินชิลๆ ไม่รีบ ถือว่าเป็นโปรแกรมต้อนรับวันแรกที่ฮ่องกงที่สบายดี
รอยประทับฝ่ามือรู้จักอยู่แค่ Bruce Lee กับ Jacky Chan
รูปปั้น Burce Lee นี่ฮิตมาก คนรุมเลย
เดินย้อนขึ้นเหนือไปหน่อยเป็นหอนาฬิกาเก่า จากที่นี่เราแยกย้ายกันไปเดินเล่น ซื้อของ หาอะไรกินในห้างแถวนั้น มาเจอกันที่หอนาฬิกาตอนทุ่มนึง
รอดูการแสดง symphony of light ตอน 2 ทุ่ม
ตัดตอนเข้ามาในห้าง มีนิทรรศการ
"Happy Moment" Sculpture Exhibition พอดี
เป็นรูปปั้นที่น่ารักดี ดูแล้วอารมณ์ดี
ชอบที่ฮ่องกงนะ มีนิทรรศการอะไรให้ดูฟรี ๆ เยอะดี
พอถึงเวลาสองทุ่ม การแสดง Symphony of Light ของเกาะฮ่องกงก็เริ่ม
ขอสารภาพว่าแอบผิดหวังพอสมควรนะ
คือเคยจินตนาการ (เอาเอง)ว่า เค้าคงดับไฟหมด แล้วแสดงไฟอย่างเดียวมันต้องเด่นมาก แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ดับไฟ แล้วการแสดงก็มีอยู่กระจุกนึง ดูแรกๆ ก็ดี หลังๆ เริ่มเบื่อนะ
ความดีอย่างนึงของที่นี่คือ มันชิลดี นั่งริมน้ำ ได้คุยเรื่องนั้น เรื่องนี้กับเพื่อน แต่ถ้าตั้งใจมาดูคงผิดหวังน่าดู
เหมือนเพื่อนเราเคยบอกก่อนมาว่า อย่าไปคาดหวังกับการแสดงมาก คือมาดูก็ดี แต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรเยอะ
พอการแสดงจบก็เดินกลับที่พัก กลับทางเดิม แต่ก็หลง วนอยู่ข้างในตั้งนาน โผล่มาอีกทีห่างกันแค่ถนนกั้น เลยเดินบนดินแทนใต้ดิน
มื้อที่ 2 ของฮ่องกงวันนี้คือ บะหมี่นิสชินของฮ่องกง รสชาติพอใช้ แต่ที่ไม่ประทับใจก็คือ ไม่มีส้อมให้ ต้องไปขอยืมโมนาลิซ่า
อา....มาคราวหน้าจะพก ส้อมกับตะเกียบมา
Create Date : 13 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2557 14:46:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1844 Pageviews. |
|
|