Bloggang.com : เกดจัง : ดงดอกไม้งาม นาม ดงนาทาม (12-14 ต.ค. 07)

ดงดอกไม้งาม นาม ดงนาทาม (12-14 ต.ค. 07)

กลับมาแล้ว กับการเดินทาง 3 วัน 2 คืน สู่ดงดอกไม้งาม นามว่า
ดงนาทาม จ.อุบลราชธานี พื้นป่าที่อุดมด้วยดอกไม้งาม หลากหลายชนิด

แม้ว่าเส้นทางสู่จุดหมายจะไม่ราบเรียบ รถติดหล่ม แต่ก็นี่แหละนะ
.. รสชาดของการเดินทาง .. รสชาดของชีวิต ..

สารน์จากเวปมาสเตอร์
ที่หมาย
- ป่าดงนามทาม จ.อุบลราชธานี

เป้าหมาย
- ถ่ายดอกไม้พลาญหิน เช่น แดงอุบล ดุสิตา สรัสจันทร สร้อยสุวรรณา มณีเทวา หยาดน้ำค้าง ฯลฯ
- ชมและถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยามที่ผาชนะได อยู่ใกล้แคมป์เราจะไปพักมาหครับ เดิน สัก 10 – 15 นาทีก็ถึง
- แถมท้ายด้วย น้ำตกแสงจันทร์ หนึ่งใน Unseen Thailand เหมือนที่เห็นในโฆษณาบรั่นดียี่ห้อนึง นั่นแหละครับ แต่ตรงนี้เราคงใช้เวลาไม่มากหรอกครับสักชั่วโมงก็เหลือเฟือแล้ว

แนวคิด
เส้นทางเลียบน้ำโขงแถบอีสานตอนล่างถือได้ว่าเป็นเส้นทางสายดอกไม้อีกสายหนึ่งครับ ก่อนนี้เราคิดแต่ว่าอีสานแล้ง แต่จริงๆแล้วดินแดนผืนนี้มีอัญมณีแสนสวยซุกซ่อนอยู่ ทริปนี้เราเลือกเจาะใจกลางของเพชรเม็ดงามเลยครับ นั่นคือป่าดงนาทาม

โลกใบเล็กสัญจรไปเยือนมาแล้วสองครั้ง สมาชิกที่เคยไปมาแล้วหลายคนก็ยังอยากไปอีก ปีนี้จึงจัดแบบเจาะลึก นอนที่นั่นทั้งสองคืน จะได้ค่อยๆเก็บภาพ ค่อยๆส่อง ค่อยๆละเลียดกันให้อิ่มใจ ทริปนี้ แช่จริงๆเลยนะครับ เตรียมเปลไปผูกนอนเล่นกันได้เลย ใครชอบไปหลายๆที่คงต้องผิดหวังนะครับ

วันเวลา
12-14 ต.ค.50 3 วัน 2 คืน (ลางานวันศุกร์ 1 วัน ออกเดินทางคืนวันพฤหัส)
ออกเดินทางวันพฤหัสที่ 11 ต.ค.50 ณ ปั๊มปตท.สนามเป้า ล้อหมุนเวลา 21.00 น.(รอขึ้นที่รังสิตได้ –กรุณาแจ้งล่วงหน้า)
เดินทางกลับวันอาทิตย์ที่ 14 ต.ค. 50 คาดว่าถึงกทม.ประมาณ เที่ยงคืน

เลือกช่วงเวลานี้เพราะต้องการหลบผู้คน ซึ่งคงจะเยอะมากในสัปดาห์ถัดจากที่เราไป กัน

การเดินทาง
รถตู้ปรับอากาศ ต่อด้วยรถกระบะลุยเข้าป่า ช่วงเข้าป่ารถจะวิ่งไปบนพลาญหิน ดังนั้นมันจะโขยกโยกเยกอยู่ตลอดเวลาครับ หลายคนจึงแซวกันเล่นๆว่าถ้าเป็นริดสีดวงไม่ควรไป เพราะแตกแน่ๆ

สรุปว่าทริปนี้รถถึงนะครับ แต่ช่วงเข้าป่าจะไม่ได้นั่งสบายๆหรอก เพราะต้องนั่งกระบะหลัง และทางก็โยกเยกจนเคล็ดขัดยอกไปตามๆกันเลยหละ จะมีเดินบ้างก็ตอนไปชมพระอาทิตย์ขึ้นนั่นแหละ เดินสัก 20 นาทีก็ถึง ทางเดินก็ไปตามลานหิน มีปีนบ้างเล็กๆน้อยพอได้เหงื่อ

ที่นอน
นอนเตนท์ครับ ใครไม่มีเตนท์ช่วยแจ้งด้วยจะได้เตรียมให้ ใครมีแล้วก็หิ้วไปเผื่อเพื่อนด้วย ส่วนถุงนอนและแผ่นรองนอนเตรียมกันไปเองนะครับ
อาหาร
ซื้อทานตลอดการเดินทาง ช่วงที่อยู่ในป่าจะจ้างชาวบ้านเข้าไปทำอาหารให้ เป็นการกระจายรายได้สู่ชนบทครับ (ตอนนี้แจ้งให้ทางโน้นจัดหาให้แล้ว ถ้าหาไม่ได้จริงๆค่อยเปลี่ยนแผนมาทำทานกันเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายจะลดลงไปอีก ถึงเวลานั้นค่อยมาว่ากันอีกที ตอนนี้ยืนแผน 1 ไปก่อน

กำหนดการ
ออกเดินทาง คืนวันพฤหัสที่ 11 ต.ต.50 ล้อหมุนเวลา 21.00 น.

12 ต.ค.50 (ศุกร์)
เช้า เดินทางถึง อุบล แวะหาอะไรใส่ท้องกันก่อน
สายๆเดินทางถึง จุดนัดหมาย ย้ายคน ย้ายของขึ้นรถกระบะ เพื่อเข้าสู่ป่าดงนาทาม เส้นทางช่วงนี้จะเป็นพลาญหิน รถจะโขยกโยกเยกไปตามแผ่นหิน มีบางช่วงไปดินบ้าง โคลนบ้าง เคยไปติดหล่มกินข้าวลิงกันมาแล้ว ระหว่างทางจะมีกล้วยไม้บ้าง ดอกไม้ดินบ้าง ยั่วน้ำลายเป็นระยะๆ เราไปไหนกันไม่รอดหรอกครับ เป็นต้องจอดทู้ก....ที ก็ว่ากันไปครับ ทริปนี้เจาะลึกอยู่แล้ว ไล่เก็บให้หนำใจ เตรียมร่ม เตรียมหมวกปีกว้างๆไปด้วยนะครับ ในป่าน่ะต้นไม้ใหญ่ก็มีเยอะอยู่ แต่ซับเจคของเราเป็นพืชบนพลาญหิน ซึ่งจะเป็นที่โล่ง ฟ้าใสๆแดดเปรี้ยงๆนี่ใครบางคนเป็นลมมาแล้วนะพี่น้อง

เที่ยง แวะทานข้าวกลางป่า (ข้าวห่อ)

บ่ายแก่ๆ (หรืออาจจะเย็นๆ ถ้าเราแวะกันบ่อยและ) มาถึงจะตั้งแคมป์ ก็จัดการกางเตนท์ ใครยังมีไฟ ใครจะลุยเก็บภาพต่อก็ไม่ต้องไปไหนไกล รอบๆแคมป์นั่นแหละครับ หรือใครออยากอาบน้ำอาบท่าก็มีทั้งห้องน้ำ และน้ำตกพร้อมแอ่งจากุชชีให้เลือก เดินทางมาทั้งคืนทั้งวันแล้วนี่ รอบนี้ขอไปนอนแช่ให้สบายอุราหน่อยเถอะ ทุกทีไปอาบตอนดึกๆแล้วมันหนาว แช่นานไม่ไหว

ค่ำๆทานข้าวด้วยกัน แล้วภาคกลางคืนก็ตามอัธยาศัย พื้นมีมีกว้างขวาง ใครจะสนธนากับบรรดาสาวกอารยะธรรมก็ล้อมวงเข้ามา ใครอยากปลีกวิเวกก็กางเตนท์ไกลออกไปหน่อย ตามอัธยาศัยเลยครับ

13 ต.ค .50 (เสาร์)
ตื่นแต่เช้ามืด
ไปรับตะวันก่อนใครในสยาม ที่ผาชนะไดครับ ต้องเดินจากแคมป์ราวๆ 20 นาทีนะครับ เตรียมไปฉายไปด้วย จากหน้าผามองลงมาด้านล่างจะเห็นแม่น้ำโขง ทอดตัวยาว กางกั้นแผ่นดินพี่น้องไทยลาวออกเป็นสองฝ่าย ถ้าฟ้าและแสงเป็นใจ จะได้ฉากที่งดงามมากเชียวหละ

กิจกรรมถ่ายภาพสามารถลากยาวตั้งแต่เช้ามืด มาเรื่อยๆ เลยครับ เสร็จจากหน้าผ้า ก็ไล่เก็บช็อตตามทางกลับสู่แคมป์ มีให้กดตลอดแหละและหมายสำคัญคือที่ บริเวณลำธารซึ่งพื้นที่จะยังชุ่มน้ำ พวกพืชพลาญหินตึมเลยหละ โดนแสงตอนเช้าเข้าไปล่ะก็ ตัวใครตัวมันนะคร้าบ

สายหน่อย ก็กลับมาทานข้าวเช้ากัน ไม่ต้องรีบมาก เพราะทริปนี้ไม่ต้องหุงหาเอง (ใครบางคนเลยอดล้างจานเลย)

ทานข้าวเสร็จก็ลุยเก็บภาพกันต่อ ให้ทั่วบริเวณเลยครับ ใครจะเดินเลยไปถึงน้ำตกห้วยพอกเลยก็ได้ ห่างออกไปราว 500 เมตรเอง กล้วยไม้ก็มี ค่อยเล็งค่อยๆหากันไป พอแดดเปรี้ยงจริงๆ ผมว่าจะกลับมาผูกเปลนอนเล่นเขียนโปสการ์ดที่แคมป์

รอให้บ่ายคล้อย ค่อยเอารถออกไปสำรวจดงดอกไม้อีกที่นึงคือ ที่เสาเฉลี่ยงคู่ แถบนี้ดอกไม้เป็นทุ่งเลยหละ ต้องเดินกันนิดหน่อยนะครับ เดินไปถ่ายไป (ไม่ได้ท้องเสียนะ) เย็นย่ำค่อยมุ่งหน้ากลับแคมป์

มื้อเย็นก็ทานข้าวเย็นด้วยกัน

กลางคืนก็ล้อมวงคุยกัน กินมันต้มขิง หรือ ถั่วเขียวต้มน้ำตาลอะไรประมาณนั้น รายการของหวานนี่คงต้องทำกินกันเองนะ

14 ต.ค.50 (อาทิตย์)
ใครจะตื่นไปผาชนะไดอีกรอบก็ตามอัธยาศัยครับ แต่อย่าอยู่นานเหมือนเมื่อวานนะ กลับมาทานข้าวเช้า อาบน้ำอาบท่า เก็บเตนท์ แพ็คของขึ้นรถ แล้วออกเดินทางกลับจุดนัดหมาย ย้ายไปนั่งรถตู้ แล้วมุ่งหน้าสู่ น้ำตกแสงจันทร์

ข้าวเที่ยง ถ้าทำเวลากันได้ดี จะไปทานข้าว ทานปลาน้ำโขงกัน แถวๆนั้นแหละ

บ่ายๆก็มุ่งหน้าเข้าอุบลฯ ซื้อของฝากกันพอหอมปากหอมคอ หมูยอเขาขึ้นชื่อมาก รอบที่แล้วแย่งกันซื้อจนไม่พอขาย
มื้อเย็น หิวตรงไหนก็แวะตรงนั้น
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ราวๆ ก่อนเที่ยงคืนครับ

ค่าใช้จ่าย
ทริปนี้กึ่งหารเฉลี่ยนะครับ คือถ้าขาดไม่เก็บเพิ่มและถ้าเหลือไม่คืน ค่าใช้จ่าย คนละ 2,700 บาท
รวมค่ารถตู้ ค่ารถกระบะ(ตอนเข้าป่า) ค่าอาหาร 9 มื้อ ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่ ค่ากางเตนท์ ค่าประกันอุบัติเหตุ(วงเงิน 200,000 บาท) ถ้าหาคนทำอาหารไม่ได้ ต้องทำอาหารกันเอง ค่อยมาปรับงบลงครับ

ขออนุญาตใช้กฎเหล็ก คือจองและเลือกที่นั่ง โดยการโอนเงินมัดจำ 1,700 บาท
- ถ้าจองแล้ว ไม่ไป จะไม่คืนเงินนะครับ แต่สามารถหาคนอื่นเสียบแทนได้ คนอื่นจริงๆนะครับ ไม่ใช่คนที่อยู่ในลิสต์อยู่แล้ว (แนวปฏิบัติอันนี้ใช้กันโดยทั่วไปเพื่อไม่ให้มีการกั๊กที่นั่ง และช่วยให้ทริปเกิดได้จริงๆครับ ไม่เช่นนั้นคนจัดก็ไม่สามารถจองรถจองบ้านจองคนและเตรียมทริปในเรื่องต่างๆได้ครับ)
- กรณีที่ต้องยกเลิกทริป อันมีสาเหตุมาจากทางผู้จัดเอง จะคืนเงินมัดจำให้เต็มจำนวนครับ

Create Date : 19 กันยายน 2555

Last Update : 19 กันยายน 2555 22:13:47 น.

0 comments

Counter : 671 Pageviews.