จากนั้นก็ไปต่อแถวขึ้นเรือที่ด้านนอก (อันยาวเหยียด สุดลูกหูลูกตา)   เรือจะจอด 2 ที่นะคะ ที่แรก คือ Ellis Island อย่าเพิ่งลงค่ะเอาไว้แวะตอนกลับ    ไปให้ถึงเทพีเสรีภาพก่อนนั่งเฉยๆไว้ และที่ๆ 2 ก็คือ Liberty Island อ่ะ ลงได้ ถึงที่หมายแล้ว "เทพีเสรีภาพ" เป็นของขวัญที่ประเทศฝรั่งเศส มอบให้อเมริกาเมื่อวันที่ 28 ตค. 1886 เพื่อรำลึกถึงวันประกาศอิสภาพของอเมริกา (Independence day, July 4, 1776) เกาะนี้เป็นเกาะเล็กๆ เดินทั่วเกาะได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงค่ะ  จากนั้นก็กลับมาขึ้นเรือ ซึ่งเรือจะออกทุกๆ 30 นาที แล้วจะไปเทียบท่าที่ Ellis Island ถ้ามีเวลาก็แวะดูได้นะคะ เป็นสถานที่คล้ายๆ museum จัดแสดงเรื่องราวของผู้อพยพที่ข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามา NYC เพื่อแสวงหาความร่ำรวยและชีวิตใหม่ค่ะ ซึ่งดูๆแล้วเป็นชาวอิตาลีไม่น้อยเลยทีเดียว 

               กลับเข้ามาที่ฝั่งให้เดินย้อนขึ้นไป ผ่านเจ้าวัวกระทิงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็น Trinity church สำคัญยังไงไม่ทราบ แต่คุณจะมองเห็น รากไม้ใหญ่ สีแดง (เค้าทาสีไว้ค่ะ)ซึ่งเล่าสืบต่อกันมาว่ามันกระเด็นกระดอนมาจากเหตุการณ์ 9-11 นั่นเองจากนั้นก็เดินชม sculpture ลายทั้งไมเดิร์น และ คลาสสิค เรื่อยมาจนถึง Century 21 (shopping mall ที่คล้ายๆ outlet อ่ะค่ะ รวมของแบรนด์เนมต่างๆ นำมาลดในราคาถูกจังช๊อบบชอบ) จะแวะช็อป หรือ จะดูความอลังการงานสร้าง ของตึกใหม่ “Freedom Tower”ที่สร้างขึ้นมาแทนตึก “World Trade Center” ก็ได้นะคะซึ่งตอนนี้สร้างใกล้เสร็จแล้ว รูปทรงเป็นตึกเดี่ยว สูง หรูไม่ได้ทำเป็นตึกแฝดเหมือนอย่างเคย อยู่ๆก็ยืนเศร้าใจ นึกถึงเหตุการณ์ ตึกถล่ม 9-11แล้ว ยืนไว้อาลัยแด่ผู้ที่เสียชีวิตสักประเดี๋ยวค่ะ 

                Next stop นั่ง subway ไปที่ China Town ได้บรรยากาศแบบจีนๆสุดๆ ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นชุมชนจีนที่ใหญ่ที่สุดใน อเมริกาค่ะอย่าลืมถ่ายรูปกับประตูชัย (คล้ายๆกับของฝรั่งเศสเป๊ะเลย) นะคะ แล้วเหลือบไปทางซ้ายมือ (หันหน้าเข้าประตู) จะเห็นวัดจีน วัดนึง จำชื่อมะได้อ่ะเค้าบอกว่าเสี่ยงเซียมซีแม่นมาก จัดไปหนึ่งดอกซะ ถ้าคุณเดินเลาะเลียบขึ้นไป จะเป็นย่าน Little Italy ส่วนใหญ่มีแต่ร้านอาหารค่ะ

              New Museum อยู่โซนใกล้ๆกะ China Town บนถนน Bowery หาไม่ยากเลย เพราะรูปทรงตึกเป็นเอกลักษณ์มาก เป็นทรงเหลี่ยม ซ้อนวางเรียงกันแบบเบี้ยวๆ มองดูแล้วมึนๆเสียวๆ เพราะกลัวมันจะถล่ม นี่แหละ Contemporary Art ตัวแม่ออกแบบตึกโดยพี่ยุ่นเค้าค่ะ ไฮ้! ค่าเข้าจำไม่ได้แล้ว เพราะไปปีแรกที่ Museum นี้เปิดให้เข้าชม คือปี 2007 ศิลปะในแต่ละ Gallery เป็นแบบร่วมสมัย บ้างก็เอาวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์ บ้างก็ล้ำซะจนงง ส่วนใหญ่เน้น pop-art จับต้องได้ (แต่ห้ามจับนะ!) มีภาพวาดไม่มากเท่าไรนัก ซึ่งกะเบิ๊ดขอแนะนำว่าถ้าใครไม่อาร์ตพอ กรุณาผ่านไปเลยค่ะ

                So-ho บนถนน Spring street ย่านแหล่งนักช็อปตัวยง เดินตัดมาทางซ้ายมือจากLittle Italy หรือจะนั่ง subway ก็ได้นะคะ คุณสามารถช็อปได้อย่างจุใจ ถนนทั้งสองข้างทางมีห้างร้านยี่ห้อดังๆให้เลือกมากมายจนเมื่อยตุ้มเลยค่ะ 

               NYU ที่นี่ มี Washington square park เป็นสวนหย่อมฮิปๆที่นักศึกษา NYU และคนทั่วไปมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ กินบรรยากาศ ฟังlive music สดๆจากนักดนตรี local มีที่ให้น้องหมามา playdate กัน ถ้าหน้าร้อนเค้าจะเปิดน้ำพุ ตรงใจกลางสวนหย่อม ส่วนด้านข้างมี landmark เป็นประตูชัย(เหมือนของฝรั่งเศสอีกแล้ว) ตั้งตระหง่านซึ่งใช้เป็นฉากในภาพยนต์ดังหลายๆเรื่องมาแล้วค่ะ 

              W4 (West 4) ระแวกติดกับ Washinton square park นั่นแหละค่ะ เดินมาทางทิศตะวันตกเรื่อยๆก็เจอ ย่านนี้เอาใจชาวสีม่วงเกย์ทั้งหลาย มีถนนชื่อ “Gay Street” ด้วยนะเธอ โซนนี้เค้าขาย Sex toysกันอย่างโจ๋งครึ่ม ถูกกฏหมาย มี Sex Toy shops ติดกันทั้งแถบ... แม่เจ้า! แนะนำว่าอย่าได้อายค่ะเข้าไปดูเลย ครั้งนึงในชีวิต 555 

                Union Square ย่านรวมวัยรุ่นวัยโจ๋ วัยฮิป ลานด้านหน้าตอนที่โผล่ Subway ขึ้นมา (ตรงข้าม Forever 21)คือลานแสดงทุกสิ่งอย่าง ที่อยากโชว์ อาทิ ร้องเพลง เต้น เล่นสเก็ตบอร์ด เล่นดนตรี.... และท้ายที่สุดก็รับบริจาคหาตังค์เข้ากระเป๋านั่นเอง จำได้ว่าวันไหนที่ว่าง กะเบิ๊ดจะชอบมานั่งเล่นที่นี่แหละค่ะ ได้อารมณ์ และผ่อนคลายดี มองดูผู้คนแฟชั่น ไปเรื่อย รวมถึงมี street fair ตามเทศกาลด้วย ที่นี่เป็นสวนหย่อมที่คนแน่นเอี๊ยดตลอดปี หมาก็เเน่น เพราะมีที่ playdate น้องหมาด้วยจร้า

                    นอกจากนี้ถ้ามองตึกที่เยื้องกับด้านหน้าของ Union Square จะเป็นตึกสีน้ำตาลไหม้ มีปล่องปล่อยควันออกมาตลอดเวลา และมีตังเลข digital 5-6 ตัว วิ่งๆเปลี่ยนไปเรื่อยตลอดเวลาไม่รู้เหมือนกันว่าสื่อถึงอะไร แต่เก๋ดีค่ะ 

                  High line Park ข้ามมาทางฝั่งตะวันตกเลียบแม่น้ำ Hudson River อยู่ ถนน 10 Av ระหว่าง W22nd & W23rd street ย่านChelsea ค่ะ Park นี้ มีความยาว 1 mile มีความเด่นพิเศษ คือดัดแปลมาจากทางรถไฟเก่า ที่ปิดไปแล้วมาเป็นสวนสาธารณะ ชอบไอเดียจัง อยู่ชั้นลอย ต้องเดินขึ้นบันไดไปสวยเท่ห์ มองเห็นวิวแม่น้ำ เปิดให้ผู้คนเข้าชมตั้งแต่ปี 2009

        ย่าน Greenwich Villageให้อารมณ์แบบยุโรปๆ ตึกรางบ้านช่อง เก่าๆ แต่มีสไตล์ กะเบิ๊ดไม่ค่อยสันทัดแถวนี้เท่าไรเพราะไม่ค่อยได้ไปค่ะ ถ้าไปก็จะออกแนว เดินเล่นกับเพื่อนๆ และกินนู่นนี่นิดๆหน่อยๆ ที่ Hudson River Park คือ สวนสาธารณะติดแม่น้ำ ผู้คนสามารถมาออกกำลังกาย อาบแดดหรือ นั่งเหล่หนุ่มๆสาวๆได้ค่ะ ขอผ่านย่านนี้ไปค่ะ

      ขึ้นมาที่ 34th street ไฮไลท์ ของถนนเส้นนี้คือ

          - 34th street + 7AV มีอีกชื่อนึงคือ Fashion Avenue ที่ได้ชื่อนี้คงเพราะ มีร้านค้าแฟชั่นทั้งแถบและถนนเส้นนี้ถ้าเดินลงไปเรื่อยๆอยู่ประมาณ 28th street จะเจอ FIT ( Fashion Institute of technology) โรงเรียนแฟชั่นระดับโลกที่ใครๆก็ปรารถนาอยากเข้าเรียนค่ะ

          - Madison square garden ชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเพราะเป็น Multi-purpose indoor areana ที่ใหญ่มว๊ากกกใช้เป็นทั้งสถานที่แข่งขันกีฬา แสดงคอนเสริต entertainment ต่างๆรวมถึงเป็นสถานที่รับปริญญาบัตรของบางมหาวิทยาลัย เปิดใช้เมื่อปี 1968 ค่ะ ถ้าเฉียดไปแถวนั้นก็อย่าลืมถ่ายรูปด้านหน้าพอเป็นพิธีนะคะ 

          - Macy’s shopping mall ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (วันThanksgiving เค้าก็มาแห่บอลลูนยักษ์กันที่นี่แหละค่ะ แถมถ้าเป็นช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ มี window display อ้อมตึกสวยๆงามให้ชมตลอด 24 ชั่วโมงเลย

           - เกาะกลางถนน ของเส้น 34th + 6AV& Broadway คือ Herald Square และ Greeley square ค่ะ เป็นสวนหย่อมเล็กๆไว้นั่งเมาท์ หรือพักเหนื่อยค่ะ

           - 34th + 5th AV อันนี้พลาดไม่ได้กับThe Empire State building ทางเข้าอยู่บนถนน 5th นะคะ ต้องขึ้นลิฟท์ภายในตึกไปสูงลิบลิ่วทีเดียวค่ะตั๋วตอนที่ไปล่าสุด รู้สึกจะอยู่ที่ $18 แต่ตอนนี้ไม่รู้เท่าไรแล้วนะคะตึกนี้มีทั้งสิ้น 102 ชั้น เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ระหว่างปี 1931-1972 (ซึ่งตึกที่สูงที่สุดในโลกตอนนี้คือ Burj Khalifa ประเทศดูไบร์ ค่ะ) ขึ้นไปถึงข้างบนตึก เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพของNYC ได้ในมุมกว้าง ไม่รู้ลืมเลยค่ะ อ้อออ! ช่วงกลางคืนตึกนี้จะเปิดไฟเด่นเป็นสง่าสวยงาม ซึ่งในแต่ละคืนสีจะต่างกันนะคะ ให้สังเกตดีๆค่ะ 

            - 32nd + 6th & 5th AV ย่านKorea Town กินๆๆ อาหารเกาหลีทั้งแถบให้หนำใจไปเลยค่ะ ร้านประจำที่ชอบไปคือ ไก่ทอดBonchon ขายอาหารคือไก่อย่างเดียว ไว้ดริ้งค์กับเหล้าค่ะ 

                   Time square 42nd street สัญลักษณ์แห่งความศิวิไลย์ และ นักท่องราตรี จะมากลางวัน กลางคืน ก็สวยไม่แพ้กัน แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องถ่ายก้คือ ตึกเกาะกลางตรงถนน 42nd พอดิบพอดีเป๊ะ เพราะที่นี่เป็นที่ countdown วันปีใหม่ ที่คนทุกสารทิศมารวมตัวฉลองกัน (อีชั้นมาร่วมแค่ปีเดียวค่ะทรมานมาก มารอตั้งแต่ 6 โมงเย็น หนาวก็หนาว ปวดฉี่ก็ปวด ไม่เอาอีกแล้ววว) ไฮท์ไลท์ที่นี่ก็คือ โรงละคร Broadway มีให้เลือกเป็นร้อยๆเรื่องๆ (แต่เราดูแค่เรื่องเดียวคือ Phantom of the opera อิๆ) แหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหารแต่ที่ไปทีไรแล้วต้องแวะทุกทีเลยคือ ร้าน ช็อคโกแลต M&M ค่ะ น่ารักฝุดๆ 

           ถ้ามีเวลาในช่วง winterควรไปเล่น ice skate แบบ Outdoor ที่ Bryant Park ซึ่งอยู่ด้านหลังของ New YorkPublic library และไหนๆก็ไหน แวะเข้าไปเยี่ยมชมห้องสมุด ด้วยเลยจะดีมากเพราะที่นี่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกา และเป็นอันดับ 3 ของโลก มีหนังสือมากถึง53 ล้านเล่มค่ะ คุณจะได้กลิ่นอายความเก่าแก่ของปฏิมากรรม ในยุค คศ. 18 ค่ะ

  Grand Central Terminal เรียกว่าGrand Central station ก็ได้ อยู่ที่ 42nd + Park AV. จำได้ว่าเข้าไปข้างในครั้งแรก ประทับใจเลยค่ะ เป็นสถานีรถไฟที่ Classic สุดๆพอยิ่งได้ทราบประวัติแล้วยิ่งชอบ ซึ่งก็คือ

    - เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกถ้านับจำนวนของชานชาลา ซึ่งมี 44 ชานชาลา และ 67 รางรถไฟค่ะ

    - ได้ฉายาว่า “The world’sloveliest station” จากหนังสือ Travel + Leisure magazine

   - นอกจากนี้ยังเป็น The world’snumber six most visited tourist attraction ซึ่งในแต่ละปี มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมถึง21,600,000 คนค่ะ 

          เมื่อก่อนกะเบิ๊ดไปที่นั่นบ่อยค่ะเพราะต้องนั่งรถไฟ ต่อไปที่ สุดสาย Hudson line รถไฟสายนี้จะพิเศษไม่เหมือนใครตรงที่รถไฟแล่นเลียบแม่น้ำ Hudson river (บางช่วงก็ติดประชิดเลยค่ะ เวลาที่น้ำขึ้นก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน กลัวจม 555) ช่วงที่ประทับใจที่สุดคือ ช่วงที่รถแล่นผ่านเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำ... 

ซึ่งมองไปที่เกาะจะเห็นแมนชั่น คฤหาสน์หรูๆนั่นเองเหมือนในเทพนิยายเลยค่ะ ถึงแม้จะเก่าตามวันเวลา แต่มนต์เสน่ห์นับทวีคูณขึ้นเรื่อยๆค่ะ

   Rockefeller Center มีทั้งหมด 19ตึกค่ะ สร้างโดยตระกูล Rockefeller อยู่ระหว่าง ถนน 48th & 51st street + 5th& 6th AV. รวยจริงไรจริงค่ะตระกูลนี้ ไฮไลท์สำคัญๆถ้ามาระแวกนี้คือ

- ช่วง Winter จะมีลาน Ice skateกลางแจ้ง (เคยไปเล่นแล้ว เท่ห์ฝุดๆ แต่ราคาแพงหูฉี่เลยค่ะ) ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับที่ตั้งต้น คริสต์มาส ยักษ์ ประดับด้วย Crytal แท้ จาก swarovski ไฮโซซะ และในเวลากลางคืน จะมีช่วงแสดง แสง สี เสียงฉายไปที่ตัวตึก เป็นรูป snow flake วิ่งไปมาเข้าจังหวะเพลง

- เดินมาทางฝั่งตะวันตกตึกที่ตรงข้ามกับ Radio City Hall คือตึก GE building หรือ RCA buildingที่คุณๆสามารถซื้อตั๋วขึ้นไปบนยอดตึกเพื่อชมความงามของวิวทิวทัศน์ NYC ในมุมที่ต่างออกไปจาก Empire StateBuilding ค่ะ ถ้าใครไม่อยากขึ้นไปก็ไม่เป็นไร แรกเข้าที่คุก้าวเข้าไปในตัวตึกคุณจะเห็น Crystal ห้อยอยู่ใจกลางตึกถ้ามองดูดีๆ Crytal นี้คือรูป ตึก Rockefeller Center ในมุมกลับหัว Up side downน่าทึ่งในฝีมือจริงๆ

- Radio City Hall จุดประสงค์เพื่อเป็นInternation music hall ค่ะ

   เริ่มปวดน่องแล้วอ่ะแต่ยังเพลิดเพลินไปกับปฏิมากรรม อาร์ตๆ สไตล์ กรีกซ์ เช่น Statue of Atlas, Statueof the Greek โอยย มากมายมายค่ะ สวยๆทั้งนั้นเลย

         แล้วยิ่งถ้าเดินทะลุมาที่ 5th AV. ซึ่งเป็นถนน ช็อปปิ้ง แบรนด์ดังทั้งสายเลย เอ้าาา เดินจนน็อคกันไปข้างเลยคร้าาา (เดินเลาะขึ้นมาเรื่อยๆเลยค่ะตั้งแต่ถนน 40 ต้นๆ - 60 กว่าๆ ตรง Central park พอดีเลยค่ะ)

          St. Patrick’s Cathedal เป็นโบสถ์Roman Catholic และเป็น โบสถ์ที่มีชื่อเสียง และเป็น landmark ของ NYC ด้วยค่ะโบสถ์นี้อยู่ตรงข้ามกับ Atlas statue ของตึก Rockefeller Center บนถนน 5AV.

           Moma Museum (Museum of ModernArt ) ตั้งอยู่บนถนน 53rd street ระหว่าง 5th + 6th AV. เป็นหนึ่งใน Museumโปรดที่กะเบิ๊ดชอบมาเดินดู เพื่อ inspiration ค่ะ เปิดมาตั้งแต่ปี 1929 บริเวณHall way จัดกิจกรรมเวียนไปเรื่อยๆตามแต่ละคอนเซ็ป จำได้ว่าครั้งนึงที่ไป มีกิจกรรมนอนดูแสงสี รอบๆห้องและเพดาน... เค้าจะปูคล้ายๆกับสระว่ายน้ำพลาสติกไว้บนพื้นแต่ไม่มีน้ำนะคะ แล้วใครอยากนอนตรงไหนก็นอนได้เลย ตามสะดวกอีชั้นก็กระโจนลงไปนอนตรงกลางเลยค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนึงศิลปะที่นี่ แบ่งการจัดแสดงเป็นห้องๆ อาทิ Architecture & design, drawings,painting, sculpture, photography, prints, illastrated books, artist’s books,film, และ electronic media ที่นี่เค้ารวบรวม Artists มากกว่า 70,000 คนเลยค่ะ มีภาพวาดที่ดังๆเช่น

- The Starry Night, 1889 ของ Vincent van gogh

- Les Demoiselles d’Avignon, 1907ของ Pablo Picasso

- The dream, 1910 ของ HenriRousseau

- Bather, 1885-1887 ของ PaulCezanne      

เป็นต้น และอีกเยอะแยะมากมายอ้อ!!! ที่เซอร์ไพส์สุดก็คือ ผลงานของ ศิลปินไทย จำชื่อไม่ได้ ขอโทษจริงๆค่ะโดยภาพนั้น เป็นภาพใหญ่ๆ สีขาวล้วน แต่ถ้ามองลึกๆดีๆจะมีรายละเอียดของสีขาวอีกทีเช่นกันในนั้นค่ะ ถ้าใครรู้ว่าศิลปินชื่อ และรูปนั้นชื่ออะไร ช่วยบอกด้วยนะคะ

    “LOVE” sign ถ้าใครไม่ได้ถ่ายกะป้ายนี้ถือว่าเชยค่ะหาไม่ยากเลย พอคุณเที่ยว MOMA museum เสร็จแล้ว ก็เดินขึ้นมาทาง 6AV.แป๊บเดียวจริงๆ ก็เจอ ป้ายตั้งตระหง่านเลย

       ตัดกลับมาที่ทางฝั่ง 5AV. แถบๆนั้นร้านหรูที่พี่ไทยเราไม่พลาดก็คือ Louis Vuitton ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Abercrombie ที่มีนายแบบยืนหล่อถอดเสื้อโชว์ six pack ให้สาวๆเป็นอันต้องต่อแถวถ่ายรูปด้วยอันนี้ขอบอกว่าป้าไม่เคยนะคะ แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน 555

     Apple store อยู่ฝั่งเดียวกับ LV ติดๆกันเลยค่ะที่ป้าชอบเพราะว่า Designร้านโมเดิร์นสุดๆ เป็นกล่องกระจกใส่ แก้วหรู ถ้าจะช็อป ต้องลงไปชั้นล่างใต้ดินค่ะ

     FAO Schwarz ร้านขายของเล่นเด็ก อ๊ะๆอย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไม่ต้องไป ก็เพราะว่า ร้านนี้เค้าใหญ่โตมโหราฬมากมีของเล่นทุกอย่างให้เลือกสรร ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบน จะมีที่เล่นเปียโนยักษ์ซึ่งผู้เล่นต้องไปยืนในตำแหน่งนั้น ถ้าจะเปลี่ยนเสียงก็ให้กระโดดไปตามตัวโน๊ตนั้นๆ ที่สำคัญที่มาที่นี่ก็เพราะ ร้านนี้เคยเป็นฉากหนึ่งของภาพยนต์Home Alone ค่ะ

     Wollman Rink ที่เล่น ice skate แบบ outdoorที่ใหญ่ที่สุดใน Mannhattan และเป็นอีกหนึ่งในฉาก ของหนังเรื่อง Home aloneอีกเช่นกันค่ะ เปิดเฉพาะช่วง Winter เท่านั้นนะคะ วิธีไป ก็เดินลัดเลาะจาก 5AV.เข้ามาใน Central park East ไม่นานก็จะเจอค่ะ กะเบิ๊ดเคยไปเล่น แล้วเพ้อจินตนาการคิดว่าตัวเองเป็นนางในเทพนิยายอย่างไงยังงั้นเลยค่ะ 555

     The Metropolitan Museum ตั้งอยู่ที่ 82nd street + 5th AV.เป็น museum ที่ใหญ่ที่สุดของ NY และ ใหญ่เป็นหนึ่งใน 3 ของ Art museum โลกเลยค่ะเพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะไป ต้องมีเวลาอย่างน้อย 2-5 ชั่วโมง หรือไม่ก็ทั้งวันเลยค่ะตั๋วเข้าก็แล้วแต่เราศรัทธาบริจาค เท่าไหร่ก็ได้ ภายใน มี Gallary ต่างๆ อาทิ Acient Egypt, Eropean art, American &modern art, African, Asian.... อูยเยอะ ไม่หวาดไม่ไหว แค่เข้ามาที่ห้องแรกเป็นห้องเกี่ยวกับมัมมี่ ล้วนๆ ก็ตื่นตาตื่นใจไปกับทุกๆสิ่งที่ได้เจอค่ะ

        Guggenheim Museum อยู่ระหว่าง 88th-89th street + 5AV.เป็น Art museum ที่มี collection อาทิ Impressionist, Post-impressionist, earlymodern & contemporary art เข้าไว้ด้วยกัน ตัวตึกเป็นทรงกลมๆโค้งๆยอดตึกกว้างกว่าฐาน โดยผู้สร้างให้คอนเซ็ปว่า “a temple of spirit” เป็นหนึ่งในตึกที่สำคัญทางด้านสถาปัตยกรรมของยุค ศตวรรษที่ 20 ค่ะ

เที่ยวทางฝั่ง upper east side เสร็จแล้ว คราวนี้เรามาทางupper west side กันบ้างนะคะ 

     เริ่มที่ Columbus circle ถนน 59th + Central parkwest เป็นอนุสาวรีย์เกาะกลางถนน วงเวียนใหญ่ที่เดียวค่ะสามารถข้ามถนนไปที่เกาะเพื่อถ่ายรูปได้นะคะ แต่ถ้าอยากช็อปปิ้ง ก็เข้าไปในตึก Timewarnner ได้เลยค่ะ ชั้น 2 ของตึกเป็นแบบกระจกใส สามารถมองเห็น Columbus circleได้ในมุม birdeye view สบายๆเลยค่ะ

      Bethesda Terrace อยู่ที่ 72th street ใน Central Parkที่นี่คนไทยเรารู้จักกันดีในฉาก หนังเรื่อง กุมภาพันธ์ ตอนจบที่พระเอก (ชาคริต)ตายอ่ะค่ะ เค้าถ่ายทำกันตรงน้ำพุนี้แหละ นอกจากนี้ ใครที่ชอบมานั่งเล่น ปิคนิก อาบแดด หรือ people watching สามารถมาที่ Central park เลือกพื้นที่เองตามใจชอบเลยค่ะ เพราะมันใหญ่สุดลูกหูลูกหา 

    Imagine พอขึ้น Subway ที่ป้าย 72 street แล้วเดินเข้ามานิดนึงจะเห็นป้ายวงกลม เขียนว่า “Imagine” ที่พื้น นั่นแหละค่ะ เป็นที่ที่ John Lennonแห่งวง The bettle ถูกยิงตาย ชาว NYC ก็เลยทำสัญลักษณ์เพื่อรำลึกถึงคุณจอห์น 

        Museum of Natural History อยู่ที่ 79th street ที่นี่ถ้าจะเดินให้ทั่วก็ต้องใช้เวลาเป็นวันเหมือนกัน เพราะใหญ่มว๊าก เป็นหนึ่งในcelebrated museum ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในมี สิ่งต่างๆให้ชมมากกว่า 32 ล้านspeciemes ของ plants, animals, fossils, minerals, rocks, meteorites, and humancultural artifacts... แค่คิดก็มึนแล้วใช่ไหมคะ อ้อ!!ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในฉากของหนังฮอลลิวู้ด ด้วยน้าา จะบอกให้

     The Cathedral of St. John the Divine อยู่ระหว่าง W110-113th street + Amsterdam AV. ถ้านั่ง subway จากใน downtownก็ไปลงนู่นนน ค่ะ ที่ป้าย Cathedral Pkwy (ถึงแม้จะนั่นรถไฟนานหน่อยแต่กะเบิ๊ดชอบไปถ่ายรูปที่โบสถ์นี้เป็นประจำค่ะ เพราะสวย เก่า และขลัง ) โบสถ์นี้สร้างสไตล์Romanesque Revival and Gothic Revival  เป็นโบสถ์คริสเตียนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกค่ะ เปิดใช้การเมื่อปี 1892แต่ได้รับความสเสียหายเนื่องจากไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อ 18 ธันวาคม 2001จึงต้องปิดบูรณาการ แล้วเปิดเป็นทางการอีกทีในปี 2008 ค่ะ ศิลปะงามๆของโลกเช่นนี้ไม่อยากให้พลาดนะคะ ถ้ามีเวลาควรไปเยี่ยมชมค่ะวันดีคืนดีเราจะเห็นนูกยูงออกมาเดินเล่น รำแพนหางสวยๆที่สวนข้างโบสถ์อีกด้วยค่ะ

      ColumbiaUniversity มหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ผลิตปัญญาชนสำคัญๆและมีบทบาทในโลกมานับต่อนับ อยู่ไม่ไกลจากโบสถ์Cathedral แต่ถ้านั่ง subway ก็ลงที่ป้าย Columbia University เลยนะคะเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าที่สุดของ New York และเก่าเป็นอันดับ 5 ของอเมริกา  ก่อตั้งเมื่อปี 1754 ค่ะ 

เอาเป็นว่าใน Manhattan เที่ยวเท่านี้ก่อนละกัน ตอนต่อไปเราจะไปเก็บ borough อื่นๆบ้าง อาทิ The bronx, Queens, Brooklyn บริหารเวลากันเอาเองนะคะใครมีเวลาน้อยก็เลือกเอาเฉพาะสิ่งที่ตัวเองสนใจก่อนจริงๆแล้วค่อยเก็บตกอย่างอื่นทีหลังค่ะ