6 ม.ค. 51 กับร้านอาหารญี่ปุ่นในห้าง วันนี้ตื่นขึ้นมากับความรู้สึกที่มึนๆหัว ก็ไงล่ะ เมื่อคืนนอนซะดึกเลยนี่นา ผมลุกขึ้นจากภวังค์แห่งนิทราได้ ก็แหงนมองหานาฬิกาตัวดี..หึหึหึ กี่โมงแล้ววะ นั่นแน่..เกือบ 11 โมงเช้า นึกได้ว่า วันนี้เรามีนัดกับเพื่อนๆที่ทำงานไปหาอะไรทานกัน แล้ววันนี้ก็หมุนไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่ผมไม่เคยไปมาก่อน... มันคือ... เอสพลานาด (Esplanade) รูปลักษณ์ภายนอก สวยเว่อร์เชียวล่ะ จริงๆแล้ว ได้ไปเปิด dictionary ดูแล้ว อยากรู้ความหมายก็ได้ความว่า esplanade (เอสพละนาด-) n. ทางเดินเล่น หรือขับรถเล่นริมทะเล S.promenade นอกจากนั้นลองค้นดูก็พบว่า ชื่อนี้ยังเป็นชื่อโรงละครที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ และเป็นชื่อของบริเวณแหล่งชอปปิงในเมืองอัลกอนควินในรัฐอิลลินอยส์ ในอเมริกาอีกด้วย สำหรับในประเทศไทย มันเป็นชื่อของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนรัชดาภิเษก และก้าวแรกที่เดินเข้ามาก็รู้สึกได้ว่าเขา design ห้างนี้มาได้ดีพอสมควร ภายในมันดูโล่งดีนะ ดูไม่อึดอัด ซึ่งเพื่อนบอกว่าเพิ่งเปิดไม่นานมาก และก็ได้รู้ว่าห้างนี้เริ่มเปิดอย่างไม่เป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549 โดยมีแนวความคิดให้เป็น ศูนย์ศิลปะบันเทิงแห่งแรกของไทย (Art & Entertainment Center) และห้างนี้มีการออกแบบตกแต่งภายในโดย Jacqueline et Henri Boiffils สถาปนิกจากปารีส ที่มีผลงานการออกแบบให้กับเอ็มโพเรี่ยม และสยามพารากอนนั่นเอง[ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี] ไม่น่าล่ะถึงว่า ดูแบบไฮโซดีจริงๆ แต่จริงๆแล้วเรานัดกันมาที่นี่ไม่ได้มีจุดหมายอะไรพิเศษหรอก แค่รู้สึกว่ามันสะดวกกับทุกคนต่างหาก เมื่อเรามากันครบสุดท้ายก็ตกลงว่าเราจะทานอาหารกันที่ร้านที่ชื่อว่า 'Shabushi' มั้งถ้าจำไม่ผิด เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่พูดตรงๆว่า ไม่ค่อยถูกปากคอส้มตำปลาร้าอย่างผมมากๆ ก็เพื่อนๆเค้าว่าอย่างนั้น ขนาดไปกินข้างในยังแซวกันซะ เนื่องจากผมดูแบบไม่เค้ยไม่เคยจริง ระหว่างการเดินไปที่ร้านก็เหลือบไปเห็นว่าที่นี่มี TOPS supermarket โรงหนัง ฟิตเนส(california) แล้วก็ที่โยนโบล์ลิ่งอยู่อีกด้วยนะ คือจริงๆแล้วมันมีมากกว่านี้อีก เห็นว่ามีทั้งลานไอซ์เสก็ต โรงละคร สถานที่แสดงดนตรี สถานที่แสดงศิลปะแบบประติมากรรม อีกด้วยนะ มาต่อกันที่ร้านอาหาร เพื่อนผมบอกว่าร้านนี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์หยิบกินเท่าไรก็ได้เหมาจ่ายเอา พอเข้าไปดู มันเป็นแบบอาหารเป็นจาน จานละ 2-3 ชิ้น แล้วอาหารเหล่านี้ก็หมุนวนไปตามทางที่เค้าออกแบบไว้ เหมือนเป็นกระแสน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ ผู้คนก็หยิบฉวยกันตามแต่จะพอใจ บ้างหยิบถี่ บ้างหยิบห่าง บ้างหยิบซอย บ้างหยิบเนิบๆ..เอ้..แปลกๆแล้วนะ(ฮา) อย่างโต๊ะผมก็เหมือนกัน หยิบกันมือจะเป็นตะคริว แรกๆก็หยิบถี่หน่อย พอหลังๆก็เร่มหยิบห่าง นี่แหละสุดท้ายแล้วกระเพาะคนเราก็คงจุได้แค่พอดี ถึงจะคิดกินให้คุ้ม ผมก็ว่าเจ้าของกิจการเค้าก็ต้องคำนวณมาแล้วล่ะว่าเค้าได้กำไร แต่ก็เถอะทำไมต้องไปคิดมาก ตามวลีที่ผมชอบพูดกับตัวเอง 'ก็กะรูอยากนิ' แล้วผมก็เริ่มสวาปามเข้าแบบไม่ต้องมองหน้ากันเลยเกือบห้านาที...(ฮา) หม้อในร้านลักษณะนี้แหละ น่ากินไหมล่ะ ผมคงสาธยายอะไรไม่มากนะครับ เพราะอยากรู้ต้องไปลองกันเอง แต่ในภาพรวมผมว่าโอเคนะครับ ไปกัน 5 คน หารแล้วตกคนละ 250 บ. ได้กินอะไรแบบนี้ที่เป็นครั้งแรกหรือเปิดบริสุทธิ์(ชื่อหนังสือยอดฮิตสมัยก่อน ฮิตจริงๆ เรียกว่าโคตระฮิตแลยทีเดียว)ของผมเลย ผมก็ว่าคุ้มแล้ว แล้วผมก็เริ่มรู้สึกชอบอาหารญี่ปุ่นมากขึ้นอีกวัน ทั้งๆที่แต่ก่อนนี่ไม่เคยคิดเข้าเลยจริงๆ เพราะประสบการณ์ครั้งแรกกับไอ้กะปิเขียวนั่น(วาซาบิ)มันเล่นงานจนผมน้ำหูน้ำตาไหล อุทานไม่เป็นประสาคนเลยทีเดียว...(จริงๆผมทึ่งนะว่ามันทำมาจากพืชอะไร มีพืชที่ฉุนได้ขนาดนี้ด้วยเหรอ) รูปเจ้ากะปิเขียวของผม นี่เค้าบอกว่าคือต้นวาซาบิ ลืมบอกไปว่าราคาที่จ่ายกับการกินอาหารแบบนี้เค้ามีจำกัดเวลาครับ 1 ชั่วโมงกับ 15 นาที คือเวลาที่คุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จ น้ำดื่มเติมได้ตลอด ที่จำได้มีน้ำชาเขียว น้ำพันซ์ น้ำขาดำเย็น น้ำเปล่า น้ำชาร้อน และน้ำดื่มอัดลมค่ายเป๊ปซี่ หลังจากกินอาหารคาวเสร็จก็จะมีไอติม+เยลลี่ให้ตบท้ายด้วย แต่ไม่ค่อยประทับใจ ก็เล่นแบบหมดไม่เติมให้เลยนี่นา แล้วก็ไอติมรสชาติไม่อร่อยมากนักอีกต่างหาก หลังจากกินเสร็จ ผมก็ตบพุงตัวเอง ลูบๆ ตบๆ ตบๆ ลูบๆ อยู่นั่น หยั่งกับจะมียักษ์วิเศษออกมาเลย เฮ้อ อิ่มจริงๆตู ขึ้นมาอีกกี่โลเนี่ย... ภายหลังผมมาได้รู้ว่าร้านนี้เป็นเครือของ Oishi นั่นเอง และนี่คือ คำโฆษณาของทางร้านในอินเตอร์เน็ทที่ผมขำตรงท้ายๆประโยคเรื่องการแอบแฝงในโฆษณาที่มีกันอยู่ทั่วไป "บริการให้อร่อยเต็มอิ่มด้วยรูปแบบบุฟเฟ่ต์ ชาบู-ชาบู สุกี้หม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมน้ำซุป 2 สูตรพิเศษ ได้แก่ ชาบูซุป และ มิรูกุซุป และ ซูชิ ข้าวปั้นสารพัดหน้า ที่ส่งความอร่อยตรงถึงที่ด้วยระบบสายพานหมุนวนทั่วทั้งร้าน ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถรับประทานได้ไม่จำกัดภายในระยะเวลา “1 ชั่วโมง 15 นาที” นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม อาทิ โออิชิ กรีนที น้ำอัดลม ผลไม้ตามฤดูกาล ไว้บริการแบบไม่อั้น ในราคาเพียงท่านละ 219 บาท++ เท่านั้น..." ตัวเลขในภาพก็มีดอกจันนะ :) ฮ่าๆๆ สุดท้ายก็กลับมาสู่การพิจารณาสังขารตัวเองอีกแล้ว คราวหลังขอนัดไปกินส้มตำปลาร้านะโว๊ยเพื่อนๆ ฮ่าๆๆๆ ปล.เมื่อไรผมจะมี six pack เสียที ผมว่ารูปนี้สวยและศิลป์ดีครับ มีเพื่อนบอกว่าเมื่อไรผมมี เพื่อนจะขอกรี้ดให้สลบเลย คือแบบว่าผมมันเซ็กซี่ไง ไม่เชื่อดิๆ...ฮ่าๆๆๆ แล้วแบบนี้น่ากินหรือเปล่าครับ I n T h e G h e t t o เพลงประกอบ 'In The Ghetto' by Elvis Presley หนึ่งในศิลปินที่ชืนชอบของผม   Create Date : 06 มกราคม 2551 12 comments Last Update : 19 ตุลาคม 2551 15:22:25 น. Counter : 2011 Pageviews. Share Tweet

ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าเพิ่งเคยหน้าตาต้นวาซาบินะเนี่ย คิดว่าเป็นพวกเครื่องเทศมาผสมๆ กันหลายอย่างซะอีก แปลกจังค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอามาให้ดูกัน myspace icons   โดย: คนช่างคุย 7 มกราคม 2551 0:30:24 น.

ว้าว วันนี้ยินดีไว้มาอ่านบ๊อกใหม่ของคุณโจรา 2-3 วันก่อนยุ่งมากจริง ๆ ค่ะ แต่ว่าตอนนี้หายยุ่งไปมากแล้ว แวะมาทักทายยามเช้า และสารภาพว่ายังมิมีเวลาได้อ่านอย่างละเอียด ตอนดึกจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ   โดย: BeCoffee 7 มกราคม 2551 8:41:49 น.

มาอีกที ภาพศิลป์จังอิอิ   โดย: BeCoffee 9 มกราคม 2551 8:16:04 น.

เพิ่งเคยเห็นหน้าตาต้นวาซาบิเป็นแบบนี้เองเหรอเนี่ย ดูแล้วเหมือนสัตว์ประหลาดเลย โดยเฉพาะต้นที่อยู้ด้านซ้ายมือ(ของเราเวลาหันหน้าเข้าหาจอคอมฯ) เห็นหน้าตามันด้วยค่ะ มีเพื่อนบอกว่าเมื่อไรผมมี เพื่อนจะขอกรี้ดให้สลบเลย คือแบบว่าผมมันเซ็กซี่ไง ไม่เชื่อดิๆ...ฮ่าๆๆๆ ^ ^ ^ ไม่เชื่อจริง ๆ ค่ะ จนกว่าจะได้เห็นหน้าตา จขบ. "แวะมาเยี่ยมเยียนเจ้าของบล็อกด้วยความรู้สึกที่ดีจริงๆนะครับ" ปล.ขอบคุณมากมายสำหรับความรู้สึกที่ดีที่มีให้ ขอน้อมรับไว้ด้วยใจ และขอส่งความรู้สึกดี ๆ เช่นนี้กลับคืนสู่ จขบ. เช่นกันค่ะ   โดย: กระจิบหญ้าฯ (กระจิบหญ้าสีเรียบ ) 10 มกราคม 2551 10:16:24 น.

เปิดศักราชใหม่ ดูบล๊อกสดใสขึ้นค่ะ อาจเป็นด้วยภาพ คำ และลูกเล่นที่ดูเป็นกันเองขึ้น .. ชอบนะคะ .. อาหารญี่ปุ่น นี่นานๆไปทีค่ะ ส่วนมากถ้าทนเสียงตื้อของเพื่อนไม่ไหว ก้อจะพยักหน้าตอบตกลงไปด้วยความเกรงใจ ก้อเพราะว่า ไม่ชินกะวาซาบิ ปลาดิบหรืออะไรดิบๆก้อไม่เคยกิน ซุปเต้าเจี้ยวก้องั้นๆ .. สู้ต้มแซบไม่ได้ 55+ .. ทุกครั้งก้อจะสั่งและจบที่ชุดปลาแซลมอน สลัด แต่ชอบยำสาหร่ายค่ะ ต้องสั่งพิเศษเลยจานนี้ บรรยากาศการไปกินและทำเวลากะเพื่อนๆนี่ เป็นธรรมเนียมไปแล้วละ ไม่มีกั๊กมารย่ง มารยาทกันแล้ว รู้ไส้พุงเหมือนเอ็กซเรย์กันหมดทุกขุมขน แต่พอหารมาแล้ว 250 นับว่าคุ้มค่านะคะ คุณโจราไปลองอีกบ่อยๆ อาจลืมลาบ - ส้มตำ ไปเลยก้อได้นะคะ ปีใหม่ ได้ลองอะไรใหม่ๆ รุ้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมั่งยังคะ   โดย: ดาวทะเล 11 มกราคม 2551 19:17:48 น.

สวัสดีปีใหม่นะจ๊ะคุณจอน เป็นงัยบ้าง สำหรับยีนส์งานโคตรยุ่งเล้ย 555 ตามมากินด้วยคนนะ ไอ้วาซาบิเนี่ยชอบจังเวลากินแล้วมันจี๊ดขึ้นหัวเนี่ย 55 สะใจ   โดย: Atomix1976 11 มกราคม 2551 20:55:27 น.

ขอบคุณนะเพื่อนๆที่แวะเข้ามาน่ะ สุดท้ายผมก็รู้สึกว่า bloggang อบอุ่นนะ ที่ไหนก็ไม่เหมือน งานช่วงที่ผ่านมามันยุ่งๆเหมือนกัน เลยไม่มีโอกาสมาอัพ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็ต้องไปต่างจังหวัดอีกแล้ว **** หนู becoffee กั้บ ภาพมันศิลป์ไม่ศิลป์มันอยู่ที่มุมมองจริงๆน่ะแหละ ฮ่าๆๆ ขอบคุณที่แวะมาจิบกาแฟนะ **** คุณกระจิบหญ้าฯ ขอบคุณที่แวะมาดูต้นวาซาบิ ผมก็เพิ่งรู้จักหน้าตามันแหละ ว่าแต่ไอ้ต้นซ้ายสุดนั่น มันคล้ายๆเป็นหน้าจริงๆน่ะแหละ เข้าใจสังเกตุนะเนี่ย ส่วนเรื่องผมเซ็กซี่ไหม อันนี้คอนเฟิร์มว่าจะเซ็กซี่ที่สุดเวลาปิดไฟครับ ฮ่าๆๆๆ :) **** คุณดาวทะเล ขอบใจนะที่บอกว่า blog สดใสขึ้น พยายามครับ ผมพยายาม ฮ๋าๆๆ นี่แล้วจะให้ผมลืมลาบ-ส้มตำ น่ะ คงต้องฝันไปแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรเทียบหรอกจ้ะ วันหลังไปทานอาหารกันบ้างดีกว่าพวกเรา **** คุณยีนส์ ท่าทางแพ้วาซาบิเหมือนผมเลยนะ แต่เค้าว่าทานไปเรื่อยๆจะชินน่ะ สวัสดีปีใหม่เช่นกัน อืม แล้วก็งานอย่าหักโหมนะ พักผ่อนบ้าง ด้วยความเป็นห่วง   โดย: โจรา IP: 124.121.167.145 11 มกราคม 2551 21:33:14 น.

แวะมาทักทายยามดึกค่ะ หิวรึเปล่าคะ เอาขนมมาฝาก   โดย: BeCoffee 11 มกราคม 2551 22:54:39 น.

แวะมาทักทายวันเด็กค่ะ เอ..เจ้าของบล็อกยังเด็กอยู่ปล่าวน๊อ ปล.ช่วงนี้ไม่เหงาเลยจริง ๆ ค่ะ กำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือสอบอยู่ มีหนังสือเรียนกองเป็นเพื่อนอยู่รอบตัวไปหมด..555 ขอบคุณที่แวะไปอยู่เป็นเพื่อนนะคะ   โดย: กระจิบหญ้าสีเรียบ 12 มกราคม 2551 22:30:16 น.

เ อ๋ ... ชื่อจอนเหรอคะ ... ช่างขัดแย้งกะรสนิยมเรื่องอาหารจัง ถ้าไปกินด้วยกัน ขอส้มตำนัวๆค่ะ   โดย: ดาวทะเล 13 มกราคม 2551 11:46:28 น.

วันนี้จะอ่านหนังสือเหรอคะ ดีจังค่ะ ได้พักผ่อนหลังจากทำงานกันมาทั้งอาทิตย์ วันนี้ก็ได้หยุดเหมือนกันค่ะ ทำอะไรหลายอย่าง ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ ทำงานที่ค้างไว้ ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ ปล.ที่มอชอ เรียนคณะเภสัชศาสตร์ค่ะ จบมาก็หลายปีแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงมอชอเสมอเลยค่ะ   โดย: BeCoffee 13 มกราคม 2551 14:03:50 น.

น่ากินจัง.....   โดย: Heroine_Girl 16 มกราคม 2551 18:32:08 น.