ชั่งครั้งที่ 6

.
.
น่ากลัวว่าจะโทรม เพราะเมื่อวาน(5 กค. 52) ชั่งได้ 76.5 กิโลกรัม

คิดๆๆๆ ว่าเราทำไรไปบ้าง ไมลดเร็วขนาดนั้น

เมื่อวันที่1 น้ำหนักอยู่ที่ 77.8 เพียงแค่4-5 วัน น้ำหนักเราลดลงไปตั้ง 1.3 กิโลกรัม


อ่อ!! พอจะสันนิฐานได้ว่า ก่อนวันที่1 ประมาณ 2-3 วัน ระบบขับถ่ายของเราไม่ค่อยทำงาน ไม่ค่อยถ่ายเท่าไหร่

ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้น้ำหนักในวันที่ 5 จึงลดลง 1.3 กิโลกรัม

..........................................

เช้าวันนี้ระบบขับถ่ายเราไม่ทำงานอีกแล้ว ชั่งเมื่อเช้าอยู่ที่ 77 กิโลกรัม

...........................................

เป้าหมายในครั้งหน้าคือ 76 กิโลกรัม

...........................................

อย่าว่ากันนะ ถ้าต่อไปนี้เห็นเราเปลี่ยนเป้าหมายให้น้ำหนักลดลงเร็วขึ้น

เพราะเมื่อก่อนคิดเอาไว้ว่าสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม

แต่ต่อไปนี้ขอสัปดาห์ละอย่างน้อย 1 กิโลกรัม

ก็พึ่งจะนึกได้ว่า จะทำเรื่องขอจบรับพระราชทานปริญญาบัตรในเร็ววันนี้

ไม่อยากใส่ชุดครุยอ้วนชุ ขนาดนั้น

จังหวะนี้ยอมโทรม ดีกว่าอ้วนดำนะเจ้าค่ะ

เราต้องลดให้เหลือ 70 กิโลกรัม ก่อนถ่ายรูปลงใบขอจบ

ไม่อยากให้รูปประวัติศาสตร์ต้องเห็นคอสองชั้นอ่ะ

...........................................

มีเพื่อนๆ ถามมา ว่าเราลดน้ำหนักโดยใช้วิธีไหน

ก็บอกเลยว่า เราไม่มีสูตรลดน้ำหนักเลยอ่ะ

กินอย่างที่อยากกินไม่ค่อยเลือกเท่าไหร่

อย่างไก่ทอด ไข่เจียว พวกใช้น้ำมันปรุงอาหารทั้งหลายเราก็กิน

แกงกะทิ เราก็กิน

ไอศครีม ช๊อกโกแล๊ต มันฝรั่งทอด นมช๊อคโกแล๊ต เรากินหมด

อย่าพึ่งตกใจ เราไม่ได้กินทั้งหมดนี้ในวันเดียว หรือหนึ่งมื้อสักหน่อย

เมื่อไหร่ที่อยากกินเราก็กิน แต่กินเฉพาะตอนกลางวัน

สมมุตินะ

ตอนเช้าประมาณ10โมง เรากินข้าวราดไข่พะโล้ กับหมูทอด

ตอนเย็น5โมง เราก็กินเลย์ กับเต้าหู้นมสด เรียกว่าอาหารว่างละกัน

พอกลางคืนถ้าหิว เราก็ดื่มนมไมโล หรือไม่ก็นมถั่วเหลือง 1 กล่อง

สรุปง่ายๆ คือ เราจะกินมือหนักแค่หนึ่งมื้อต่อวัน

จะไม่ทานของว่างระหว่างมื้อ จะทานให้เป็นมื้อๆแล้วจบไป

สังเกตุว่าตอนเย็นเรากินเลย์และเต้าหู้นมสด เพราะเราอยากกิน ถ้าคนลดความอ้วนทั่วไปเค้าจะไม่กินกัน

แต่เรากินเพราะหากเราไม่กิน อดทนกับมัน อาการเราจะเหมือนเก็บกด

เรากลัวว่าเมื่อไหร่ที่เราอดไม่ได้ขึ้นมาเราจะกินแหลกลาน ถึงเวลานั้น เราอาจจะซัดไอครีมไปทั้งถังเลยก็ได้

แล้วอีกอย่างเราไม่ได้กินมันทุกวัน นานๆ จะกินที ประมาณสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ค่อยกลับมากินมัน

อาจจะสลับกับไอศครีม ซ๊อคโกแล๊ต หรือขนมปังคุ๊กกี้

แต่ที่ว่าสลับก็ไม่ใช่ว่ากินสลับกันทุกวัน

แต่จะกินอาหารว่างแค่วันที่อยากกินจริงๆเท่านั้น

ข้าวกลางคืน เป็นคำสั่งของคนคิดสูตรลดน้ำหนักเลยว่าห้ามกิน

แต่สำหรับเราแล้ว มันกินได้นะ

กินนิดๆ หน่อยๆ หรือจะกินจนอิ่มก็ไม่เป็นไร แต่ควรทำใจไว้ด้วยว่า พรุ่งนี้น้ำหนักตัวของคุณจะคงที่หรือไม่ก็เพิ่มขึ้นหลายขีด

สำหรับเรา ข้าวกลางคืนก็กินทุกครั้งที่มีคนเลี้ยง 555+

แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่กินไปแล้ว พอกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกผิด "ไม่น่ากินเลย"

อ่อ! ระหว่างวันเราดื่มน้ำตลอด ไม่ใช่เพราะลดน้ำหนักหรอกนะ

แต่นิสัยเดิมเราชอบดื่มน้ำอยู่แล้ว วันนึงก็2-3 ลิตรเลย

เป็นคนขี้กระหายอ่ะ 55+

อาหารที่ให้ความหวาน เช่นลูกอมเลือกที่เป็นชูก้าฟรี แต่เราก็ไม่ค่อยกินเท่าไหร่ พบไว้ติดตัวให้มันละลายในกระเป๋าเสียมากกว่า

น้ำอัดลม ถ้าอยากดื่มจริงๆ ก็ควรเป็นพวก 0 กิโลแคลลอรี่ แต่ก็มีคนบอกเรามาว่ามันมีค่าเท่ากันกับพวกน้ำอัดลมทั่วไป อันนี้เราก็ไม่ค่อยกินอยู่แล้ว

.............................................

กิจกรรมที่เราทำในแต่ละวันก็

กวาดขยะ ไปเรียนตัดเสื้อ ยืนเกือบทั้งวัน วันละ5ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

กลับมาก็กวาดขยะอีกรอบ ฝึกตัดเย็บเสื้อผ้า อันนี้ต้องลุกขึ้น นั่งลง ตลอด เพราะขี้ลืม ต้องลุกไปหยิบของ 55+

แต่ละวันก็ประมาณนี้แหล่ะ ไม่ได้มุ่งมั่นบากบั่นออกกำลังกายอย่างที่คนลดความอ้วนพึ่งกระทำหรอก

แต่ก็มีบางทีอยากยืดเสื้อยืดสาย ก็เปิดเพลง เต้นๆๆๆๆ เป็นสมทรงอยู่คนเดียวในห้อง พอเหนื่อย ขี้เกียจก็หยุด ไม่เคยนับหรอกว่ากี่นาทีแล้ว

..............................................

จบสักทีดีกว่า

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นกำลังใจให้จินะน่ะค่ะ

จินะก็ขอส่งกำลังใจให้กับเพื่อนๆ ทุกๆ คนด้วย

ต้องสู้!.. ต้องสู้ถึงจะชนะ

Create Date : 06 กรกฎาคม 2552 Last Update : 6 กรกฎาคม 2552 19:32:56 น. Counter : 320 Pageviews.		1 comments
Share Tweet