|
ผ้าห่มคลุมทะเล
ตอนเด็กๆ ใครเคยโดนเฆี่ยนบ้างไหม ยิ่งถ้าใช้อุปกรณ์เสริมด้วย "หางกระเบน" ด้วยแล้ว แสบเข้าถึงทรวง
แต่สำหรับนักดำน้ำแล้ว โดดลงน้ำใครๆก็ฝันอยากเห็น "หางกระเบน" ด้วยกันทั้งนั้น และมันคงไม่ได้มาแต่หางแน่ มันคงมาทั้งตัว ยิ่งถ้าเป็นกระเบนยักษ์ด้วยล่ะก็ ใครได้เห็นต้องออกแรงตีฟินว่ายตามแน่ๆ อยากอยู่ใกล้ชิด อยากเห็นชัดๆมันให้มากเท่าที่จะทำให้มันไม่ตกใจหนีไปซะก่อน
ปลากระเบนเป็นญาติกับปลาฉลาม จัดเป็นปลากระดูกอ่อน ปลาพวกนี้จัดเป็นปลาโบราณ เมื่อหลายล้านปีก่อนหน้าตาเป็นยังไง เดี๋ยวนี้มันก็ไม่ได้มีวิวัฒนาการไปจากเดิมมากนัก ลักษณะที่เห็นได้คือ ปลาพวกนี้จะไม่มีฝาปิดช่องเหงือก ปลากระเบนนี่ก็มีทั้งอยู่ในน้ำจืดและอยู่ในทะเล มีทั้งขนาดเล็กๆเท่าฝ่ามือ ไปจนถึงขนาดยักษ์ใหญ่เกือบ 10 เมตร และวันนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังถึงเจ้ากระเบนยักษ์ตัวนี้นี่เองงงง...... (นึกถึงสำเนียงแบบ TV Champion ไปด้วยเพื่อได้อารมณ์ความยิ่งใหญ่)
เจ้ากระเบนยักษ์นี้ มีชื่อภาษาไทยว่า "ปลากระเบนราหู" ถ้านิยมภาษาสากลก็เรียกกันว่า "Manta ray" คำว่า ray นี่ก็คือปลากระเบน ส่วนคำว่า Manta นี่ จำไม่ได้ว่าเป็นภาษาอะไร แต่แปลว่า 'ผ้าห่ม' เวลาเจอเจ้ายักษ์ใหญ่นี่ก็จะเหมือนเป็นผ้าห่มคลุมอยู่ไงล่ะ
เจ้าแมนต้านี่ อาจจะนึกภาพหน้าตามันกันไม่ค่อยออก มีรูปช่วยนิดนึง
นี่ไงล่ะ เจ้าแมนต้าใจดี นี่เห็นแต่ด้านข้างๆ จะเห็นว่าหลังมันจะเป็นลายสีดำสลับสีขาว แล้วก็มีครีบด้านข้างเป็นเหมือนปีก แล้วก็เป็นหางที่ยื่นยาวออกมา
จะโชว์ส่วนสัดทั้งทีก็ต้องมีหลายมุมกันหน่อย นี่เป็นด้านข้าง จะเห็นครีบด้านหน้าที่เหมือนเป็นมือคอยโบกอาหารเข้ามา
จะสังเกตเห็นว่าจะมีรูปแมนต้าแบบลางๆ อย่างนี้ เพราะว่าตัวมันใหญ่ แล้วก็ว่ายน้ำหนีเราเร็วมากถ้าเข้าไปใกล้มันมากเกินไป ทำให้จะมีภาพหน้าตรงน้อยนัก ใครได้จ๊ะเอ๋กับเขาล่ะก็ คุยโม้ได้เป็นสิบๆปีเลยล่ะ
เนื่องจากเวลาเจ้าแมนต้านี่ว่ายน้ำ จะใช้การกระพือโบกครีบด้านข้าง ทำให้เรามักเรียก กริยาการว่ายน้ำของมันว่า "การบิน" ซะมากกว่า จะเรียกได้ว่าแมนต้าเป็นปลาที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดชนิดหนึ่งก็ได้นะ
อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ นักดำน้ำต่างมีความฝันอยากเห็นเจ้าแมนต้านี่กันทั้งนั้น อยากเห็นว่ามันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน เราก็เหมือนกัน ตั้งแต่ดำน้ำไดฟ์แรกก็อยากเห็นแล้วล่ะ ตอนไปอันดามันใต้ มีข่าวว่าเห็นแมนต้าที่หินม่วงติดต่อมาหลายสัปดาห์แล้ว เราต้องได้เจอเหมือนกันแน่ๆ ดำแล้วดำอีก ลงหินม่วงหินแดง 4-5 ไดฟ์ ก็ไม่เห็นแม้แต่หางกระเบน แต่ที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือ คนบนเรือที่ไม่ได้ลงดำ และลูกเรือบางคน เห็นเจ้าแมนต้านี่ 'บิน' ขึ้นมาเหนือผิวน้ำด้วย อะไรจะโชคดีขนาดนั้น ไม่เป็นไร ไม่เจอกันคราวนี้ แต่ชีวิตการดำน้ำเราต้องได้เจอ 'ผ้าห่มยักษ์' ให้ได้แน่นอน
จนเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ไปดำที่อันดามันเหนือ มีคนร่ำลือกันว่า แมนต้านี่มีบ้านอยู่ที่เกาะบอน ใครมาดำเกาะบอน มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้เจอแมนต้าสักครั้งนึง ความหวังเต็มเปี่ยม ต้องเจอแน่นอน แต่แล้ว.... โดดตูม..ลงเกาะบอน น้ำก็แรง ตีฟินจนเหนื่อย มองไปไกลๆ เจอแต่เงาน้ำ กับน้องปลาสีสดใสตัวอื่นมากมาย ท่าทางทริปนี้ก็คงหมดหวังกับแมนต้าอีกแล้ว
จนเช้าวันที่สาม ทั้งง่วงและเริ่มเหนื่อยแล้ว มาถึงเกาะตาชัย น้ำแรงมากๆ โดดตูม...ไม่ได้หวังอะไรมากนัก รู้แต่ว่าน้ำแรงมาก ตีฟินจนหอบแห่กๆๆ ตีฟินลอยตัวดูปลาอยู่เพลินๆ ได้ยินเสียงเคาะแท้งค์ รู้แล้วต้องมีอะไรเด็ดๆแน่นอน พี่ที่ว่ายตามมาสะกิดให้เงยหน้าดูข้างหน้าไกลๆ ห่างออกไปราว 50 เมตรได้ ใช่เลยนี่แหละ 'ของจริง' แมนต้าเรย์ ปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มันว่ายอยู่อย่างช้าๆ ค่อยๆกระพือปีกช้าๆแต่หนักแน่น เห็นมีพี่ร่วมเรือก๊วนข้างหน้าอยู่ใกล้กับเขามากๆ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ค่อยๆผ่อนออกช้าๆ รวบรวมกำลัง ตีฟินสุดกำลัง ตีซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ยังไงก็ตามไม่ทัน เงยหน้าขึ้นอีกที อ้าว...พี่เบิ้มบินหนีไปซะแล้ว เซ็งเลย ยังเห็นไม่ถนัดตาเลยอะ
ช่วงรอพักน้ำ เขาเชือกทุ่นอยู่ มองออกไปข้างนอกมวลน้ำอย่างไร้จุดหมาย เงาดำๆอะไรน่ะ...ใช่แล้ว เขามาอีกแล้ว น่าจะเป็นแมนต้าตัวเดิม ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร บินกลับมาอีกแล้ว อย่างกับรู้ว่าเมื่อกี้พวกเรายังชื่นชมไม่หนำใจ เขาบินมาช้าๆ ค่อยๆก้มลง แล้วโชว์แผ่นหลังสีดำขาวให้ชม ก่อนบินขนานกับเรา แล้วก็หันหลัง กระพือปีกบินหายไปในเงามืดของมวลน้ำ รวมเวลาที่เขากลับมาให้ชื่นชมอีกครั้ง ไม่น่าเกิน 20 วินาที แต่บอกได้เลยว่า สุดยอดจริงๆ
เป็นประสบการณ์การเจอแมนต้าครั้งแรกที่ประทับใจมากๆ เจ้าแมนต้านี่หาชมไม่ได้ในตู้ปลาเมืองไทยนะครับ ไม่ต้องไปหา และปลาอื่นๆอีก ถึงแม้ว่าจะมีในตู้ปลายักษ์ที่เรียกกันว่า อควาเรียม Aquarium แต่รับรองอารมณ์ที่ได้ มันเทียบไม่ได้กับการเจอพวกเขาในธรรมชาติ ที่เขาเริงร่าว่ายน้ำกันอย่างอิสระมีความสุข ไม่ถูกโทษ 'จำคุกตลอดชีวิต' และรับรองว่าใครที่ได้เจอพวกเขาจริงๆในทะเล จะประทับใจไปไม่น้อยกว่าเราแน่นอน
ช่วยกันดูแลพวกเขานะ และอย่าส่งเสริมกิจกรรมที่ทำร้ายเขาทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าการทิ้งขยะลงน้ำ การเลี้ยงปลาทะเลเองโดยขาดความรู้ความเข้าใจในพวกเขา การซื้อของที่ระลึกที่เอาซากศพพวกเขามาเป็นวัสดุ หรือรวมถึงการกินอวัยวะของพวกเขา
Let's Diving SAVE OUR SEA
Create Date : 05 มีนาคม 2549 |
|
9 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2549 16:23:29 น. |
Counter : 1091 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แมวอ้วน IP: 203.114.121.227 10 มีนาคม 2549 15:14:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: คอเล่า (เพื่อนแมวอ้วน) IP: 125.25.17.56 11 มีนาคม 2549 14:46:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: jeafish (jeafish ) 13 มีนาคม 2549 16:12:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: คอเล่า IP: 203.172.116.188 13 มีนาคม 2549 22:45:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: cHomPoo IP: 58.136.98.74 8 กรกฎาคม 2549 16:02:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุ มันตาพ้อยท์ IP: 117.47.104.79 22 มีนาคม 2551 14:03:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: อง IP: 125.27.246.107 25 กันยายน 2553 20:22:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตัวเองดำน้ำไม่เป็น สามีเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน แต่ตอนนี้เลิกแล้วค่ะ
คนออสซี่เค้าก็นิยมดำน้ำกัน เห็นว่าที่สวย ๆ ก็ต้อง Great barrier reef คนที่นี่เห็นคุณค่าและค่อนข้างรักษ์ทุกสิ่งใต้น้ำ แต่ก๋ได้ยินบ่อย ๆ ว่าใต้น้ำบ้านเราก็สวยนักหนาเช่นกัน
คุณโชคดีจังค่ะที่มีโอกาสเห็นโลกสวยใต้น้ำ