การดำน้ำกับการฝึกสมาธิ (ตอนจบ)

หลังจากเล่ามาสองตอน ก็พอจะเห็นภาพคร่าวของการโดดลงไปดำน้ำกันบ้างแล้ว ถึงจะมีอุปกรณ์มากมายไปหน่อย แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น และก็หาไม่ยาก อะไรที่ไม่มี ช่วงแรกๆ ก็สามารถยืมครูที่สอนดำน้ำ หรือว่าหาเช่าจากเรือที่พาเราไปดำน้ำก่อนก็ได้ ก็ไม่แพงอะไรนัก

คราวนี้มาโดดลงน้ำกัน LET'S DIVING

เมื่อแต่งตัว ใส่อุปกรณ์ต่างๆให้พร้อม ก็เช็คอุปกรณ์ก่อนนะ ว่ามีอากาศในถังหรือไม่ หน้ากากมีรอยรั่วรึเปล่า แล้วก็โดดน้ำกันได้ ทีละคนนะ

เมื่อลงไปที่ผิวน้ำ ทุกกลุ่มจะมี Dive leader เป็นคนคอยดูแลและควบคุมเวลา ความลึก รวมถึงคอยชี้ให้ดูโน่นนี่ต่างๆ ใต้น้ำ เขาก็จะชี้หัวแม่มือลง แสดงสัญญาณมือว่า ให้ทุกคน ปล่อยลมออกจาก BCD และทำตัวตรง หรือเกาะทุ่นลงไปใต้น้ำกันได้

ระดับความลึกที่จะดำกันส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ราว 10-20 เมตร แล้วแต่จุดที่ลง พวกเราจะไม่ดำลึกเกิน 30 เมตร หรือ 100 ฟุต เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ เราก็เพียงแต่ หายใจเข้า หายใจออก และเตะฟินตามลีดเดอร์ไปเรื่อยๆ เท่านั้น ลีดเดอร์ก็จะพาไปดูโน่นดูนี่ เขาจะรู้ว่าปลาตัวนั้นชอบอยู่ตรงนี้ ม้าน้ำอาศัยประจำอยู่หลีบหินนี้ เขาก็จะพาไปดู

ใต้น้ำ เราต้องเคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อเป็นการสงวนแรง และทำให้ไม่เหนื่อยง่าย ก็จะเตะฟินด้วยแรงสม่ำเสมอ ความถี่คงที่ เพื่อจะได้เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ และที่สำคัญคือ การหายใจเข้าออก

นี่เป็นที่มาของหัวข้อเรื่องนี้ (เล่ามาซะตั้งยาว)
การหายใจเข้าออกในการดำน้ำ ถ้าจะว่าตามศัพท์การฝึกสมาธิ ก็จะเรียกว่า หลักอานาปานสติ การกำหนดลมหายใจเข้าออก

หลักอานาปานสติ คือการฝึกสมาธิ ด้วยการรู้กำหนดลมหายใจเข้าออก ตามเป็นจริง
เมื่อหายใจเข้า ก็กำหนดรู้ว่าหายใจเข้า ท้องพองออก
เมื่อหายใจออก ก็กำหนดรู้ว่าหายใจออก ท้องยุบลง
ลมจะผ่านจากจมูกเข้าผ่านหลอดลมลงไปที่ปอด และจะมีการพองออกของท้อง เมื่อหายใจออกก็จะกำหนดรู้ว่า ลมจะออกจากปอดผ่านตามหลอดลมออกมาที่ปลายจมูก เป็นเช่นนี้ สลับไปมา ตามที่เป็นจริง
สามารถเป็นการกำหนดสติและสมาธิไปได้พร้อมๆกัน

เมื่อเราอยู่ใต้น้ำ กิจกรรมร่างกายที่เหลืออยู่ก็คือ การเตะฟินเพื่อเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ การเพ่งมองดูสิ่งต่างๆใต้น้ำ และที่สำคัญที่สุด คือการหายใจเข้า หายใจออก เพื่อเอาอากาศในถังมาใช้เป็นอากาศหายใจ

การหายใจเข้า หายใจออกนี่แหละ จะเป็นสิ่งที่กำหนดอย่างหนึ่งว่า เราสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานเท่าไร ถ้าเราหายใจเข้าเร็วๆ และออกเร็วๆ ก็จะใช้อากาศในถังเปลือง ทำให้เราต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ
หรือว่าเราดำลงลึกๆ ก็จะใช้อากาศในถังเปลืองเช่นกัน เนื่องจากยิ่งลึกลงไป อากาศยิ่งมีความกดดันมาก ทำให้เปลืองมากขึ้น

ดังนั้นการที่หายใจใต้น้ำได้มีประสิทธิภาพ คือต้องอยู่ในระดับความลึกที่เหมาะสม
และที่สำคัญ คือต้องกำหนดรู้ช่วงจังหวะการหายใจเข้า และหายใจออก ให้ดี
หายใจเข้าให้ลึก กำหนดรู้ว่ากำลังหายใจเข้าอยู่
หายใจออกให้ยาว กำหนดรู้ว่ากำลังหายใจออกอยู่
เหมือนการฝึกสมาธิเลยหรือเปล่าล่ะ !!!

ถ้าเราสามารถหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานขึ้น ชื่นชมธรรมชาติใต้น้ำได้นานขึ้น และที่สำคัญจิตใจก็จะสงบ เวลาเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา ก็มีสติและสมาธิในการจัดการได้อย่างดี

เพราะฉะนั้น ไปฝึกดำน้ำกันเถอะ นอกจากจะได้ออกกำลังกาย ไปเที่ยวพักผ่อน ไปชื่นชมธรรมชาติใต้น้ำที่สุดแสนจะงดงามแล้ว ยังได้เป็นการฝึกจิต ให้มีสติและมีสมาธิอีกด้วย

Create Date : 03 เมษายน 2549		5 comments
Last Update : 3 เมษายน 2549 22:32:36 น.
Counter : 655 Pageviews.
Share Tweet