Bloggang.com : inspection : ดูราคาบ้านและกำลังเงิน

ดูราคาบ้านและกำลังเงิน

ดูราคาบ้านและกำลังเงิน : มีเงินเท่าไหร่ ? จะซื้อบ้านได้ในราคาเท่าใด?

ปัจจุบันมีบ้านหลากหลายชนิด ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านทาวน์เฮ้าส์และห้องชุด โฆษณาขายอยู่มากมาย นับเป็นหมื่นเป็นแสนหลัง มีราคาขายตั้งแต่ประมาณ 2 แสนบาทเศษๆ จนถึงหลังละหลายล้านบาท

โดยทั่วไปแล้วทุกคนคงปรารถนาและใผ่ฝันที่จะมี "บ้านเดี่ยว" เป็นของตนเอง แต่ความใฝ่ฝันนั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อ "มีเงินที่จะซื้อได้" หากไม่มีเงินพอแล้ว ความใฝ่ฝันนั้นก็เป็นเพียง "ความอยาก" อยู่นั่นเอง ไม่ใช่เป็น "ความต้องการที่มีอำนาจซื้อ" แต่ประการใด

คำว่ามีเงินพอที่จะซื้อได้ ก็มิได้หมายถึงว่าคุณจะต้องมี "เงินสด" ที่จะชำระราคาค่าซื้อบ้านทั้งหมดแต่หมายถึงว่า จะต้องมี "กำลังซื้อพอ" ซึ่งได้แก่ การมี "เงินออม" ประมาณร้อยละ 20 ของราคาบ้าน เพื่อเป็นค่าวางเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินผ่อนดาวน์ ส่วนที่เหลือประมาณร้อยละ 80 ของราคา คุณจะต้อง "ขอกู้" จากสถาบันการเงิน ทั้งนี้คุณจะต้องมี "รายได้" มากพอที่จะ "ผ่อนเงินงวดรายเดือน" ได้ทุกเดือน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานประมาณ 20 ปี (หรือสูงสุดไม่เกิน 30 ปี)

ปัจจุบัน บ้านราคาถูกที่ขายอยู่ในตลาดซึ่งมักจะอยู่แถบชานเมือง โดยเฉลี่ยแล้ว หากเป็นห้องชุด ขนาด 21-30 ตารางเมตร จะมีราคาขายประมาณ 300,000 บาท บ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นขนาดที่ดิน 16 ตารางวา ราคาประมาณ 600,000 บาท และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 50-60 ตารางวา ราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท การที่จะซื้อบ้านเป็นของตนเองสักหลังหนึ่ง โดยเฉพาะบ้านหลังแรก จึงไม่ใช่เริ่มต้นที่การมองหาบ้านที่สวยหรูอยู่ในฝัน เช่น บ้านเดี่ยวอยู่ริมทะเลสาบ ใกล้สนามกอล์ฟ เป็นต้น เพราะบ้านเหล่านั้นมักจะราคาแพงมาก จนคนทั่วไปซื้อไม่ได้ หากซื้อไม่ได้ ก็เป็นเพียงความฝันอยู่นั่นเอง

ดังนั้น เวลาจะซื้อบ้านผู้ซื้อจะต้องทราบราคาบ้านที่มีขายอยู่ในตลาด โดยอาจจะสำรวจเบื้องต้นจากสำนักงานขายใกล้บ้าน ดูจากสื่อโฆษณาขายบ้าน ตามบิลบอร์ด ตามนิตยสารเกี่ยวกับบ้านหรือตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ จากนั้นจึงประมาณการทางการเงินของตน(หรือรวมกับคู่สมรส) ว่ามีพอที่จะซื้อได้หรือไม่ โดยจะต้องตั้งโจทย์ให้กับตนเอง 2 ประการคือ

1) คุณมี "เงินเก็บออม" เพียงพอที่จะจ่ายเป็นค่าทำสัญญา ค่าเงินดาวน์ หรือผ่อนดาวน์ กับเจ้าของโครงการตามที่กำหนด (ประมาณ 6 - 18 งวด) ซึ่งจะเป็นเงินรวมกันประมาณร้อยละ 20-30 ของราคาบ้าน หรือไม
่
2) คุณมี "รายได้" มากพอที่จะผ่อนชำระหนี้เป็นเงินงวดทุกเดือน กับธนาคารในวงเงินกู้ประมาณร้อยละ 70-80 ของราคาบ้าน ระยะเวลาผ่อนนานประมาณ 20 ปี ได้หรือไม่ หากผ่านคำถามนี้ได้ โดยมีกำลังเงินพอ ความฝันที่จะมีบ้านเป็นของตนเองจึงจะเป็นความจริงขึ้นมา นั่นคือ คุณซื้อบ้านได้แน่ๆ

ในตลาดปัจจุบันบ้านที่ราคาต่ำสุดขณะนี้ ได้แก่ห้องชุด ราคาต่ำสุดประมาณ 2 แสนเศษก็มี แต่โดยทั่วไปแล้วห้องชุดราคาถูกราคาเฉลี่ยประมาณ 300,000 บาท ซึ่งหากธนาคารให้กู้ร้อยละ 70 ของราคาขาย นั่นหมายความว่าให้กู้ได้เป็นเงิน 210,000 บาท ดังนั้นคุณจะต้องมีเงินเก็บหรือต้องผ่อนดาวน์มาแล้วอย่างน้อยร้อยละ 30 ของราคาขายคือ 90,000 บาท

การกู้เงินจำนวน 210,000 บาท หากคุณต้องการผ่อนชำระนาน 20 ปี ก็จะต้องผ่อนประมาณเดือนละ 1,566 บาท (หากธนาคารคิดดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 ต่อปี) ทั้งนี้หากคุณเลือกผ่อนสั้นลงเป็น 10 ปี หรือ 15 ปี เงินงวดก็จะเพิ่มมากขึ้น

โดยทั่วไปเงินงวดต่อเดือนที่จะผ่อนกับธนาคาร มักจะเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 25 - 30 ของรายได้รวมของผู้กู้ ดังนั้นหากต้องผ่อนเดือนละ 1,566 บาท รายได้ต่อเดือนจึงควรจะต้องมีอย่างน้อยประมาณ 5,220 - 6,264 บาท

สำหรับบ้านประเภทอื่น ต้องผ่อนดาวน์เท่าใด ต้องกู้เงินจำนวนเท่าใด ค่าผ่อนชำระจะเป็นเท่าใด อาจขอดูได้จากตารางที่เจ้าของโครงการ หรือธนาคารจัดทำขึ้น หรืออาจดูได้จากหนังสือคู่มือการซื้อบ้านที่มักจะมีอัตราดอกเบี้ยและตารางอัตราการผ่อนชำระเงินงวดให้ผู้ซื้อพิจารณาได้ (ดูตารางเงินงวดของ ธอส.)

สรุปก็คือ หากคุณคิดว่ามีเงินดาวน์พอ และมีรายได้พอที่จะผ่อนเงินงวดรายเดือนกับสถาบันการเงินได้ตลอดระยะเวลากู้แล้ว คุณก็สามารถซื้อบ้านได้อย่างไม่มีปัญหา

Create Date : 27 สิงหาคม 2551

Last Update : 27 สิงหาคม 2551 2:57:25 น.

0 comments

Counter : 407 Pageviews.