เรียนรู้ในความมืด(Dialogue in the Dark)
Dialogue in the Dark เรียกย่อๆ ว่า DID แปลเป็นภาษาไทยตรงๆ คือ บทสนทนาในความมืด ถ้าให้ความหมายลึกไปกว่านั้น คือ บทเรียนในความมืด ทำไมถึงเป็นบทเรียน เพราะเป็นโอกาสที่เรา -คนตาดี- จะได้เรียนรู้และเข้าใจด้วยตัวเองว่าใ นความมืดสนิทที่เราไม่สามารถใช้สายตา มองเห็นอะไรได้เลยนั้นเป็นอย่างไร เรามีความรู้สึกอย่างไร เราจะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร และจะทำอย่างไรในความมืดนั้น และในท่ามกลางความมืดที่ไม่รู้ว่าตัวเราอยู่ตรงไหน สิ่งของต่างๆ อยู่ตรงไหน คนที่จะนำเราเข้าไปรู้จักกับการใช้ชีวิตประจำวันช่วงสั้นๆ ประมาณ ๑ ชั่วโมงในความมืดนั้น จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจากคนที่อยู่กับความมืดทุกเมื่อเชื่อวัน และรู้จักความมืดดีที่สุด นั่นคือ เหตุผลว่าทำไมถึงต้องคัดเลือกคนตาบอดมาเป็นไกด์ในนิทรรศการนี้
นิทรรศการนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมัน โดย ดร. อันเดรอัส ไฮเนอเกอ (Andreas Heinecke ) เมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักหนังสือพิมพ์และได้ร่วมงานกับคนตาบอด เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะอยู่ร่วมกับคนตาบอด แต่ก็ได้พบว่าคนตาบอดสามารถทำอะไรได้เหมือนคนทั่วไป และคนทั่วไปมักจะแบ่งแยกคนตาบอดจากสังคมของคนตาดี มีความรู้สึกสงสาร เห็นใจ และไม่กล้าสื่อสารกับคนตาบอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความไม่รู้ และไม่เข้าใจคนตาบอดต่อมาเขาเปลี่ยนไปทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือและ อุปกรณ์เพื่อช่วยให้คนตาบอดมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์
ครั้งหนึ่งเมื่อไฟดับ เพื่อนคนตาบอดได้สอนเขาให้รู้จักสิ่งรอบข้างในความมืด และจากเหตุการณ์นั้นเองที่ได้จุดประกายแนวความคิดของนิทรรศการ Dialogue in the Dark เพื่อเป็นการสื่อสารให้คนทั่วไปได้เรียนรู้และเข้าใจคนตาบอดมากขึ้น คนตาดีจะได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับคนตาบอด และคนตาบอดจะได้สอนคนตาดีในความมืด เพื่อที่จะค้นพบสิ่งที่มองไม่เห็นในตัวเราและรอบข้าง พสุภา ชินวรโสภาค ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ นอกจากนี้ท่านยังสามารถเข้าไปดูบทความที่คุณพสุภาได้เขียนเล่าประสบการณ์ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับการจัดนิทรรศการครั้งนี้ รวมทั้งที่มาของนิทรรศการและวัตถุประสงค์ค่ะโดยคลิกที่นี่ค่ะ
นิทรรศการตั้งอยู่บนชั้น 4 ตึกจามจุรีสแควร์ จัดโดย อพวช.ค่ะ ไม่มีลายแทงบอกภายในตึกเลยค่ะ (หันหน้าเข้าหาตึกขึ้นบันไดเลื่อนซ้ายสุดนะคะ หรือทะลุมาจากศูนย์หนังสือจุฬาฯก็ได้ค่ะ)
เมื่อได้อ่านประสบการณ์ของคุณพสุภาแล้วก็อยากจะให้ลูก ๆ ได้ไปเรียนรู้การใช้ประสาทสัมผัสอันมีค่าของเราบ้าง เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เด็กในสมัยนี้นั้น ได้ถูกเทคโนโลยีและความวุ่นวายในสังคมหล่อหลอมให้ใช้แต่ความคิด และอยู่แต่กับภายในตัวเรา เคยมีโอกาสสังเกตผู้คนในร้านฟาสต์ฟู้ด ว่าเขามาด้วยกันแต่ต่างคนต่างโทรศัพท์ เสร็จแล้วก็จะเดินออกจากร้านไปด้วยกัน หรือผู้คนที่ต้องพึ่งพาวอล์คแมนเสียบหูไว้ตลอดเวลา
เราจึงได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนนิทรรศการมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมาค่ะ ในส่วนของตนเองนั้นไม่ได้เรียนรู้โดยตรงจากสิ่งที่ผู้จัดต้องการ เนื่องด้วยอายุที่มากแล้ว ทำให้รู้ดีเกินว่าเขาจัดวางความปลอดภัยไว้แล้ว และประสบการณ์ในการฝึกฝนตนเอง กับความเชื่อที่ว่าคนเรานั้นมีประสาทสัมผัสที่มากกว่าห้าชนิด กอปรกับความเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กด้วยเกรงว่าด้วยวัยยังไม่เจ็ดขวบ จะเกิดกลัวจนต้องออกจากนิทรรศการกลางคัน แต่กลับได้เรียนรู้ว่าลูกนั้นได้เรียนรู้ที่จะไว้ใจผู้อื่นแล้ว ด้วยการปล่อยมือเราไปจับมือกับไกด์ "พี่อาร์ม" ตามที่ไกด์เสนอความช่วยเหลือ และได้เรียนรู้ที่จะรับความช่วยเหลือและให้คนตาบอดเป็นผู้นำเราบ้าง
ติดต่อได้สองช่องทางนะคะ นิทรรศการจะจัดจนถึง 31 ตุลาคม 2554 นี้ค่ะ
ลูกสาวคนโตบอกว่าประทับใจในสวนสาธารณะที่สุดค่ะ
ลูกสาวคนเล็กบอกว่าประทับใจในรถบนท้องถนนที่สุดค่ะ
รูปปั้นในสวน และขนมก็ชอบค่ะ
ในตอนจบมีช่วงให้ซักถามเหมือนนั่งคุยกันในคาเฟ่เพราะมืดค่ะ เด็ก ๆ ก็มักจะถามในเรื่องของทักษะในการช่วยเหลือตนเองของคนตาบอด ส่วนดิฉันนั้นอยากจะฟังเรื่องอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า แต่ไม่กล้าถามค่ะ เพราะไกด์ของเราเพิ่งประสบอุบัติเหตุมาเพียงสองปีเท่านั้น และยังเด็กอยู่มาก แต่อย่างไรก็ตามดิฉันเชื่อและขอเป็นกำลังใจว่า การสูญเสียนั้นอาจทำให้ได้มาในสิ่งที่สำคัญกว่าก็เป็นได้ค่ะ
ขอขอบคุณBG สวย ๆ จากเพื่อน ๆ ในบล็อกแก๊งค์ค่ะ และรวมถึง"การให้" และ "การรับ" ของนิทรรศการครั้งนี้ค่ะ
Create Date : 11 มีนาคม 2554 |
|
11 comments |
Last Update : 16 มีนาคม 2554 19:23:39 น. |
Counter : 4866 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: haiku 12 มีนาคม 2554 14:00:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 13 มีนาคม 2554 20:31:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 14 มีนาคม 2554 20:55:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: พสุภา IP: 58.8.82.41 16 มีนาคม 2554 16:01:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 16 มีนาคม 2554 20:28:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 25 มีนาคม 2554 16:26:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แล้วก็ต้องชื่นชมคุณเค็นด้วย ที่ช่างสรรหาประสบการณ์ใหม่ ๆ มาให้ลูก ๆ ได้เรียนรู้สม่ำเสมอเลย