สวีเดน สวีเดิน
ได้ยินเขาบอกว่าเมืองในยุโรป ยิ่งขึ้นเหนือยิ่งเจริญ ยิ่งลงใต้ยิ่งด้อยความเจริญ ด้วยตัวเรานี้ไปจากประเทศเกือบใต้สสุดของทวีปยุโรป (และไม่ขอโต้เถียงสิ่งที่ได้ยินเขาบอกมาด้วย เป็นความจริงไม่ใช่น้อย) การจะต้องไปประเทศเหนือๆ อย่างสวีเดนเป็นครั้งแรก รวมทั้งถือเป็นครั้งแรกในสแกนดิเนเวียด้วย ทำให้มีรู้สึกผสมกันระหว่างความคาดหวังที่จะเห็นความเป็นอารยชนกับความกลัวที่จะไปทำอะไรเปิ่นๆ ในประเทศเขา เดินทางด้วยสารการบิน Norwegian ของนอร์เวย์ เครื่องหัวแดงแป๊ด สภาพเครื่อง บริการ ที่นั่ง ช่องเก็บของได้มาตรฐานยุโรป แต่ที่ชอบมากกว่าสายการบินยุโรปอื่น คือ มี wifi internet ให้ใช้ฟรีตลอดเส้นทาง 3 ชม. นิดๆ ถึงสนามบิน Stockholm มีสาวๆ สวีดิชมารอกรี๊ดนักร้อง super idol กันเต็มสนามบิน สุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่าน้องเขาเป็นใคร ร้องเพลงอะไร ดังแค่ไหน แต่ก็ได้ขอถ่ายรูปด้วยแล้ว สนามบินสะอาด พื้นที่โล่ง ไม่มีร้านเยอะแยะเกินความจำเป็น ซื้อบัตรโดยสารรถ shuttle เข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ขายบัตรโดยสารที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก รถ shuttle สะอาด ไม่เบียดเสียด เพราะคนไม่แน่น แถมมีไวไฟฟรีบริการด้วย ลงรถในเมืองแล้วต้องเดินหา Air BNB ที่จองไว้อีกพักใหญ่ คุณลุงเจ้าของห้องเช่า มาอธิบายการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้อง ห้องพักสำหรับสองคน แต่มาคนเดียวก็นอนได้ คุณลุงตบท้ายด้วยการบอกว่า ฉันเคยไปทั้งประเทศไทยและเคยอยู่อาศัยอยู่ที่กรุงโรม ปาเข้าไปเกือบบ้ายแล้วเมื่อพร้อมออกจากห้อง จึงรีบเดินไปยังจุดนัดพบสำหรับสิ่งที่ผมทำทุกครั้งในการมาเที่ยวเมืองในยุโรป คือ free walking tour มาตามเวลานัดหมาย 13.30 น. มีคนร่วมเดินประมาณเกือบ 20 คน ไกด์ชาวสวีเดนหนวดจิ๋มพาเราเดินไปตามจุดต่างๆ ตามแผน ส่วนที่ผมเดินทัวร์ในวันนี้ คือ ทัวร์ย่าน Soder ย่านที่เมื่อหลายร้อยปีก่อนเคยเป็นย่านที่ยากจนที่สุดของ Stockholm ปัจจุบันนะหรือ กลายเป็นย่านที่ chic ที่สุดย่านหนึ่ง เปรียบได้กับย่าน Brooklyn ของมหานครนิวยอร์ก เว็บไซต์บริษัทเขาว่างั้น ในระยะเวลา 2 ชม. ของ free walking tour ไกด์ได้พาพวกเราเดินชมย่าน Soder พร้อมอธิบายอย่างลึกซึ้ง ที่ใส่มานี้ คือ รูปสถานที่ต่างๆ ในย่าน Soder ครับ แทบจะทุกจุดในเมือง Stockholm มีรถจักรยานจอดเต็มไปหมด คนที่นี่ขี่จักรยานกันจริงจังมากเมืองหนึ่ง หากเปรียบเทียบกับยุโรปใต้ อย่างที่โรมเพิ่งจะมีการสร้างเลนจักรยานกันจริงจังเร็วๆ นี้เอง ชาวโรมหลายคนคิดว่าไมน่าเวิร์ค ร้าน Starbucks อยู่ในตึกสวยงาม มีที่นั่งด้านนอกสำหรับผู้นั่งดื่มที่ชอบบรรยากาศดีๆ ของหน้าร้อน หน้าร้อนจริงๆ คนเขาก็ใส่เสื้อผ้าหน้าร้อนกันนะครับ แต่ผมกลับรู้สึกกว่าหน้าร้อนในสแกนยังแอบเย็นอยู่ ต้องใส่เสื้อนอกตลอดเวลา ต้องโรมเท่านั้นถึงจะร้อนพอสูสีกับบ้านเรา ที่จำได้จริงๆ คือ สถานีรถไฟใต้ดิน Medborgarplatsen ซึ่งอยู่ติตกับจัสตุรัสสำคัญชื่อเดียวกัน เป็นจัสตุรัสที่ใช้จัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการแสดงออกทางการเมือง มีลานไอซ์สเก็ตหน้าหนาว ห้องสมุดและอื่นๆ Gotgantan ถนนเส้นที่ยาวที่สุดของ Stockholm กำเนิดตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 Katarina Church หนึ่งในโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของ Stockholm เคยปิดซ่อมแซม 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ปิดซ่อมเพราะถูกไฟไหม้เมื่อปี 1990 ไฟไหม้หนักจนโบสถ์เหลือแต่กำแพงด้านนอก ไกด์แนะนำให้เราเดินไปชมวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงามที่ Monteliusvagen มองเห็นวิวเมืองฝั่งตรงข้ามสวยงาม ได้ใช้เวลาที่จุดนี้อีกสิบนาที ได้พักขาเพื่อเตรียมเดินกลับไปขึ้นรถไฟใต้ดิน สุดท้ายก่อนจะขึ้นรถไฟใต้ดินกลับโรงแรม เราได้ขึ้นไปดื่มเบียร์บนตึกละแวกนั้น หน้าตาแปลกๆ มีสะพานยื่นออกมา มองเห็นแต่ไกล ขึ้นไปดื่มเบียร์สวีเดนชมบรรยากาศรอบตัว ปะทะลมในหน้าร้อนของประเทศนี้ที่ทำให้รู้สึกเย็นได้เป็นพักๆ วิวสวยเพราะเป็นย่านประวัติศาสตร์ของ Stockholm อากาศชิลๆ ประมาณต้นฤดูใบไม้ผลิของอิตาลี รถไฟใต้ดินที่ผมได้ใช้บริการแค่ครั้งเดียวในทริปนี้ สะอาดปลอดภัย ตรงเวลา มาตรฐานยุโรปเหนือ ประเภทศิลเปรอะเขรอะขบวนรถแบบทางยุโรปใต้ไม่มี มาสวีเดนรอบนี้ใช้บริการ free walking tour ไปทั้งสิ้น 3 ครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะบ้านเมืองเขาไม่มีอะไรที่เรารู้จักหรือเพราะ free walking tour มีให้เลือกหลายบริษัท เช้าวันรุ่งขึ้นจึงใช้บริการเส้นทาง City Walk นัดเจอกันที่สถานีรถใต้ดินกลางเมือง Stockholm City ไกด์เริ่มด้วยคำถามว่าพวกเรารู้จักอะไรเกี่ยวกับสวีเดินบ้างนอกจาก H&M และ Ikea เฉลยแล้วมีหลายอย่างเลยที่ผมคิดไม่ถึง เช่น Absolute Vodka, Spotify, Electrolux, Saab สรุปว่ารอบตัวเราต้องมีผลิตภัณฑ์ของสวีเดนโดยที่เราอาจไม่รู้ ส่วนสิงโตหน้ายิ้มตาหยีที่ตั้งอยู่ทั่วไปในย่านถนนคนเดิน Drottninggatan ใช้เป็นตัวป้องกันรถเข้ามาในเขตคนเดิน เพราะเคยเกิดเหตุเมื่อปี 2017 คนสติไม่ดีขับรถบรรทุกเข้ามาในถนนคนเดินทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่ไม่อยากให้สิงโตดูน่ากลัวเกินไป จึงทำหน้าตาให้จิ้มลิ้ม Stockholm Concert Hall ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีมอบรางวัลโนเบลเป็นประจำทุกปี ไกด์บอกเหตุผลที่ Alfred Nobel ไม่ยอมให้มีรางวัลโนเบลสาขาคณิตศาสตร์เนื่องจากคนรักของ Nobel ได้หนีตามนักคณิตศาสตร์ไป พระสวามีของเจ้าหญิง Victoria แห่งสวีเดินเคยเป็น personal trainer ในยิมออกกำลังกายที่ชื่อ Balance แห่งนี้มาก่อน ไกด์เล่าว่า ตอนอภิเสกสมรส Daniel ต้องนั่งในขวบนรถผ่านมาทางถนนเส้นนี้ เขาได้บอกให้คนขับรถขับผ่านยิม Balance ของเขาไปเร็วๆ เพราะอึดอัดที่จะต้องทักทายเพื่อนร่วมงานที่สถานะแตกต่างกันแล้ว ธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งเคยอยู่ตึกสีขาวในภาพเคยถูกปล้นและจับตัวประกันเป็นเวลา 5 วัน มีการถ่ายทอดสดไปทั่วสวีเดน เมื่อเหตุการจบลงโดยไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า Stockholm Syndrome คือ กลายเป็นว่า ผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไม่เอาผิดผู้ร้ายแถมยัง defend ว่าผู้ร้ายไม่ผิด ไม่ได้ตั้งใจทำเสียอีก ห้าวันห้าคืนที่อยู่ด้วยกันคงทำให้เกิดพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรและความเข้าอกเข้าใจผู้ร้ายได้ แต่สุดท้ายผู้ร้ายก็ได้รับโทษไปพอสมควร ไกด์เล่าว่า ปัจจุบันผู้ร้ายได้ใช้โทษครบถ้วนแล้ว และได้กลายเป็นเพื่อนที่ดีและยังไปมาหาสู่กันกับตัวประกันในเหตุการณ์วันนั้น ไกด์ city walking tour พาเรามาจบที่อนุสาวรีย์กษัตริย์ Karl ที่ 13 และ Karl ที่ 12 ซึ่งน่าจะเป็นกษัตริย์องค์สำคัญของสวีเดนในอดีต ไม่ได้จดจำรายละเอียดที่ไกด์เล่าจึงไม่มีอะไรมาเล่าต่อครับ บ่ายวันเดียวกันมีต่อ walking tour เมืองเก่าอีกอัน จึงตัดสินใจถามไกด์ city walking tour ให้แนะนำร้านอาหารท้องถิ่นซึ่งในเวลานั้นทราบแล้วว่า คือ meatball ไกด์แนะนำร้านที่ไม่ไกลออกไปมาก อาหารกลางวันมื้อนี้จึงต้องเป็น meatball ของท้องถิ่น ราคาไม่แพง แม้ปกติจะไม่ชอบกินอะไรที่แปรสภาพแล้วก็ตาม ไม่ลองก็คงไปบอกใครเขาไม่ได้ว่า Swedish meatball กับน้ำจิ้มหวานๆ นั้นรสชาติใช้ได้เลยเวลาหิว Free walking tour สุดท้าย พาเดินย่านเมืองเก่าชื่อ Gamla Stan เริ่มบ่ายโมงตรง คนพอสมควร การเดินทัวร์แบบนี้ก็ดี ได้ความรู้ เก็บไฮไลท์ครบ สนุกสนาน ถ้าท่านคุยเก่งหน่อยก็จะได้เพื่อนใหม่ด้วย ถ้าจะนับเป็นข้อเสียก็อาจจะต้องรู้ภาษาหลักภาษาใดภาษาหนึ่ง อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน หรือภาษาท้องถิ่น หรือท่านต้องไปตามเส้นทางที่ไกด์นำไป จะแวะถ่ายรูปที่ไหนนานเป็นพิเศษก็อาจโดนนักท่องเที่ยวคนอื่นมองบนได้ เมืองเก่าของ Stockholm ก็มีเกร็ดเรื่องเล่าสนุกๆ หลายอย่าง เช่น ซอยเล็กๆ เงียบๆ นี้เคยเป็นซอยที่มีอาชญากรรมสูง ช่องทิ้งของเสียของบ้านสมัยก่อน ทิ้งลงบนถนนหน้าบ้าน ถนนที่แคบที่สุดใน Stockholm เป็นตรอกที่เต็มไปด้วย graffiti เดินเอามือลูบลงไปจนถึงปลายทางจะโชคดี ไกด์บอกแต่เรื่องโชคดี ไม่บอกว่ามีคราบสกปรก หมากฝรั่ง ของเหลวเหนียวๆ อยู่บนกำแพงเหล่านั้นด้วย ท่านเดินลูบไล้ได้แต่เตรียมล้างมือไว้เลย ร้านกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดร้านหนึ่งในเมือง อากาศเหมมือนจะดีมีแดด แต่เย็นใช่น้อย รูปปั้น Evert Taube นักร้องนักแต่งเพลงคนสำคัญที่ไม่มีชาวสวีเดนคนไหนไม่รู้จัก ด้วยความเคารพ ท่านเป็นคนที่ถ่าวยรูปด้วยสนุกมาก ในขณะที่กำลังคิดว่า สะพานนี้ดูละม้าย Bridge of Sigh ที่เวนิสจัง ไกด์ก็โพล่งขึ้นมาว่า หลายคนเห็นสะพานนี้แล้วอาจนึกถึงเวนิส ตรงนี้ไกด์อธิบายเกี่ยวกับระดับขอบหน้าต่างกับระดับน้ำทะเลอะไรสักอย่าง จำไม่ได้ครับ เซนต์จอร์จฆ่ามังกรสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในการสงคราม บ้านเมืองสะอาดก็เพราะมีอาสาสมัครเดินเก็บขยะทั่วทั้งเมือง ที่โรมแค่รถขยะมาเก็บจากถังให้ตรงเวลายังทำไม่ค่อยได้เลย Iron Boy ผู้นั่งมองพระจันทร์ ได้ยินมาตอนแรกคิดว่าจะใหญ่โตกว่านี้ อันนี้หากท่านมา Stockholm เป็นสิ่งที่ควรหาดูเพราะแปลก เดินมายากนิดนึงเพราะอยู่ในเขตของโบสถ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่จิ๋วที่สุดในสวีเดน มาแล้วลูบหัวน้องแกนิด วางเหรียญหรือขนมเป็นเครื่องเซ่นสักหน่อย ท่านจะโชคดี จบทัวร์ภาคบ่ายที่ Big Square ชื่อใหญ่ ขนาดไม่ใหญ่ แต่เก่าแก่ที่สุด จำตึกสีๆ ได้ มักจะเห็นในโปสการด์จากสวีเดิน ว่าด้วยอาหารสวีดิชที่ชอบมากกว่า meatball ก็คงเป็น fisksoppa ซุปปลานี่แหละ มีขายอยู่ทั่วไปตามห้าง กินตอนอากาศเย็นๆ ในหน้าร้อนของสวีเดนอุ่นอร่อยดีครับ ยิ่งได้เติมพริกป่นกับมะนาวเสียหน่อย พลาดไม่ได้ครับ ลงไว้เตือนตัวเอง ภารกิจหลักของการเดินทางในครั้งนี้ คือ ร่วมงานแต่งที่บ้านสวนนอก Stockholm ของน้องกวางกับน้องบิลลี่
| Create Date : 10 ธันวาคม 2561 |
| Last Update : 20 มิถุนายน 2563 11:11:26 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1585 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [