หน้ามัน...ทำยังไงดีละเนี่ย
วัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวมักมีผิวหน้ามันและหนังศรีษะมันเยิ้ม เนื่องจากเป็นไปตามวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งร่างกายมีความสมบูรณ์ มีฮอร์โมนเพศสูง ต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะหลั่งไขมัน ซึ่งจะขับออกมาทางผิวหนังทำให้ต้องสระผมและล้างหน้าบ่อยๆ โดยผลจากการล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้รูขุมขนกว้าง เพราะต่อมไขมันต้องทำงานหนัก
สำหรับบางคนแม้จะผ่านช่วงวัยรุ่นไปแล้ว แต่ยังคงมีปัญหารู้ขุมขนกว้าง ทำให้ดูเหมือนผิวหน้าหยาบ ไม่กระชับ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการที่ถูกแดดถูกลมเป็นประจำ ทำงานในที่ร้อนชื้น จึงทำให้มีการสะสมสิ่งสกปรกหรือสารตกค้างบนใบหน้า เช่น เหงื่อไคล หรือไขมันตามรูขุมขน กลายเป็นสิวเสี้ยนดำๆ
หลายคนคงสงสัยว่าจะทำยังไงดีน้อ เราจึงจะสามารถลดความมันบนใบหน้า รวมทั้งลดสิวเสี้ยนต่างๆ โดยใช้เทคนิควิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง รวมทั้งประหยัดเงินและเวลาได้บ้าง
เรามาดูวิธีการต่างๆ ที่ทำเองง่ายๆ กันดีกว่า
1. ควรดูแลผิวหน้าโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า (Facial Scrubs) หรือโฟมล้างหน้าที่มีเม็ดบีดส์ เนื่องจากจะช่วยขัดสิ่งสกปรกที่อุดอยู่ตามรู้ขุมขนให้หลุดลอกออกไป รวมทั้งช่วยขจัดไขมันที่หลั่งออกมาจากต่อมไขมันด้วย
ทั้งนี้ โฟมล้างหน้าแบบมีมีเม็ดบีดส์และผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน อาทิ เม็ดบีดส์ที่มาจากธรรมชาติ เช่น เปลือกของเมล็ดมะกอกหรือวอลนัตบด หรือเม็ดบีดส์ที่ได้จากการสังเคราะห์ เป็นต้น ทั้งนี้ การใช้โฟมล้างหน้าแบบมีมีเม็ดบีดส์และผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้าควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อย่าใช้รอบบริเวณดวงตา และไม่ควรใช้บ่อยเกินไปด้วยจ๊ะ
2. การใช้ผลิตภัณฑ์พอกหน้า (Face Mask) อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อดูดซับสิ่งสกปรกและสิวเสี้ยนออก โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์พอกหน้าที่เหมาะกับคนที่มีผิวมัน เช่น โคลนพอกหน้าจากธรรมชาติ ดินสอพอง หรือแผ่นฟิล์มพอกหน้า โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15 - 30 นาที ซึ่งดินดังกล่าวจะสามารถดูดซับไขมันและสิ่งสกปรกจากรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวหน้าสะอาดและกระชับ หากทำเป็นประจำจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์พอกหน้าต้องระวังการปนเปื้อนของเชื้อโรค เพราะเชื้อโรคสามารถเติบโตในผลิตภัณฑ์พอกหน้าได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ควรซื้อผลิตภัณฑ์พอกหน้ายี่ห้อที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ควรเว้นพื้นที่รอบดวงตา เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นผิวแห้งและบอบบาง
3. หากนิยมใช้โลชั่นเช็ดหน้า (Toner) เพื่อกระชับผิวหน้า ควรเลือกใช้โลชั่นเช็ดหน้าที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่น้อยที่สุด แม้แอลกอฮอล์จะช่วยลดความมันบนใบหน้าก็ตาม แต่แอลกอฮอล์จะทำให้ผิวหน้าแห้ง เพราะขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากปัจจัยที่ผิวหน้ามันเพราะต่อมไขมันทำงานมาก ถือว่ามีความแตกต่างจากการที่ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นจากการสูญเสียน้ำ
4. เมื่อมีเวลาว่าง อาจพักผิวหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการพอกหน้าด้วยผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว เช่น แตงกวาหั่นเป็นแว่น หรือเนื้อว่านหางจระเข้ที่ปอกเปลือกให้หมด แล้วนำมาวางบนผิวหน้าประมาณ 15 - 30 นาที ซึ่งการทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยกระชับผิวหน้าและรู้ขุมขนอย่างได้ผล
5. สำหรับคนที่มีเหงื่อออกมากและมีไขมันหลั่งจากต่อมไขมันมาปกคลุมผิวหน้ามากจนเป็นปัญหา อาจปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อรับประทานยาควบคุมการทำงานของต่อมไขมันและต่อมเหงื่อให้ลดลง แต่การกระทำดังกล่าวจะเป็นเพียงการระงับอาการชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อหยุดยา การทำงานของต่อมไขมันและต่อมเหงื่อจะกลับมาทำงานเหมือนเดิม
6. พยายามควบคุมสิ่งแวดล้อม เช่น ที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงาน โดยอย่าทำให้สถานที่เหล่านั้นอับชื้น เพราะจะส่งผลให้ต่อมเหงื่อทำงานหนัก ซึ่งจะทำรูขุมขนกว้าง
7. พยายามควบคุมการรับประทานอาหารไม่ให้มันมากเกินไป หรือลดการบริโภคอาหารทอดด้วยน้ำมัน
8. หากยังมีผิวมันจนรู้สึกเป็นทุกข์มาก การพบแพทย์ผิวหนังเพื่อกรอผิวหนังโดยอาศัยอุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วย เช่น เครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ หรือเครื่องกำเนิดแสงชนิดจำกัดคลื่นความถี่ หรือที่นิยมเรียกกันว่า "ไอพีแอล" (Intense pulse light) ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งวิธีนี้จะสามารถกรอผิวหน้าเพื่อกระชับผิว เร่งผลัดเซลล์ผิวหน้า รวมทั้งการลดเลือนริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันการรักษาผิวหน้าด้วยการอาศัยอุปกรณ์ทางการแพทย์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามเรื่องอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก มติชน จ๊ะ
Create Date : 29 เมษายน 2551 |
|
26 comments |
Last Update : 29 เมษายน 2551 16:23:11 น. |
Counter : 2289 Pageviews. |
|
|
|
แวะมา Say Happy Birthday!!!!! ด้วยคร้าบบบบบ
หิ้วเค้กวันเกิดมาฝากเอาไป 2 ก้อนเลยนะ