Superman is not EASY....To be ME...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

เมื่อเกิดเป็นโรคบ้านหมุนเนี่ย...

เหตุมันก็เกิดจากที่อยู่ดีๆ บ้านก็หมุนติ้วๆๆๆๆ เลย คลื่นไส้ อาเจียนอย่างแรง แถมด้วยการปวดหัวตามมาอีก ไม่รู้ใครเคยเป็นบ้างรึป่าว

คนที่ได้ยินส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ต้องเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันแน่เลย เพราะเคยได้ยินมาแบบนั้น เราเองก็เคยได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกันนะ ก็เลยไปหาหมอไง ได้ยาแก้เวียนศีรษะ ปรับสมดุลเส้นเลือด แล้วก้ออีกอย่างไรก็ไม่รู้จำไม่ได้หละมารับประทาน

อืม...2 สัปดาห์ผ่านไป มันก็ยังหมุนอยู่นะเนี่ย เมื่อวานก็เลยไปหาหมออีกรอบ รอบนี้ต้องไปพบแพทย์ด้านระบบประสาทหละ และผลที่ได้จากการพบแพทย์คือ โดนฉีดยาเข้าเส้นเลือด 1 เข็ม บรรเทาอาการหมุนก่อน และได้ยามาอีก 4 ตัว และหมอก็จะนัดดูอาการอีก 2 สัปดาห์หน้า และที่สำคัญหมอสั่งให้หยุดงานเพื่อพักเต็มๆ อีก 2 วันด้วย เพราะโรคนี้ต้องการให้พักผ่อนมากๆ เท่านั้น

มันเลยเกิดอยากรู้ว่าตกลงไอ้โรคบ้านหมุนเนี่ยมันนานขนาดไหนกว่าจะหาย search พี่กุ๊กไก่ (Google) ดูซิว่ามีไรให้เราเรียนรู้บ้าง ปรากฏว่า อาการบ้านหมุนมันไม่ใช่โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเท่านั้น แต่มีหลายอย่างทีเดียว เลยเอามาลงไว้ใน blog เผื่อเพื่อนๆ คนไหนเกิดอาการเหมือนกัน จะได้เอาไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้น
ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากโรคพยาบาลพญาไทด้วยจ้า

มาดูกันว่ามีไรบ้าง....

โรคบ้านหมุน (Vertigo)

โรคบ้านหมุนเป็นโรคใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุทุกคน บางคนจะมีอาการเวียนศีรษะ, โคลงเคลง, ลุกไม่ไหว ซึ่งบางครั้งก็เป็นมากจนต้องนำส่งโรงพยาบาลเลยทีเดียว โดยคำวินิจฉัยส่วนใหญ่ของแพทย์มักระบุว่า เกิดจากอาการเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ น้ำในหูไม่เท่ากัน หรือ มีตะกอนในหูชั้นใน ทำให้มีคำถามตามมาอีกว่า อาการเหล่านี้เกิดจากอะไร มีผลกระทบร้ายแรงหรือไม่ และสามารถจะหายขาดได้หรือไม่

1. จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นอาการบ้านหมุน ?

ถ้าอาการเพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ผู้ป่วยมักจะแยกไม่ออก ให้ลองสังเกตดูว่า อาการที่เกิดขึ้นมีลักษณะบ้านหมุน (Vertigo) โคลงเคลง เซหรือไม่ ถ้าใช่แสดงว่ามีปัญหาที่ระบบควบคุมการทรงตัว ได้แก่ หูชั้นใน และระบบประสาทส่วนกลางบริเวณก้านสมอง ส่วนอาการมึน ๆ (Dizziness) คล้ายนอนไม่พอ มีสาเหตุมากมายด้วยกัน ตั้งแต่เครียด พักผ่อนไม่พอ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด อาการสุดท้ายที่ต้องแยกคือ อาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม (Pre-syncope) สาเหตุจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ พบมากในผู้ป่วยที่ความดันโลหิตต่ำ ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร สรุปว่าในขั้นแรกต้องใจเย็นๆ ตรวจเช็คอาการให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นอาการบ้านหมุน หน้ามืด หรือ แค่มึนๆ เพราะสาเหตุต่างๆ ดังกล่าว

2. ถ้าเป็นบ้านหมุนแล้วเกิดจากอะไรได้บ้าง ?

อาการบ้านหมุนส่วนใหญ่ มักเกิดจากปัญหาที่ หูชั้นใน ได้แก่ มีตะกอนในหูชั้นใน น้ำในหูไม่เท่ากัน หรือติดเชื้อไวรัส เป็นต้น ส่วนน้อยพบว่า มีปัญหาจากก้านสมอง ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ลิ้นแข็ง แขนขาอ่อนแรง เห็นภาพซ้อน ถ้าเป็นทันทีให้คิดถึงอาการเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงในเรื่องความดันโลหิตสูง เบาหวาน และสูบบุหรี่จัด (ถ้ามีอาการบ้านหมุนร่วมกับอาการทางระบบประสาท ควรมาพบแพทย์โดยเร็ว เพราะหากเกิดจากสมองขาดเลือด อาการอาจเป็นมากขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง)

3. โรคที่กล่าวมา มีอาการแตกต่างกันอย่างไร ?

โรคหูชั้นใน มักจะมีอาการเวียนศีรษะมาก บางครั้งมีหูอื้อหรือภาวการณ์ได้ยินลดลง แต่จะไม่มีอาการแขนขาอ่อนแรงแบบอัมพฤกษ์ ปากเบี้ยว หรือไม่มีอาการทางระบบประสาท สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

(1.) โรคตะกอนในหูชั้นใน
ผู้ป่วยมักมีอาการเวียนศีรษะในท่าต่างๆ เช่น บ้านหมุนจะเป็นขึ้นทันทีเวลาจะนอน เงยหน้า หยิบของบนชั้น หรือสระผมที่ร้านเสริมสวย ในขณะที่เป็นจะรู้สึกรอบๆ ตัวหมุนไปหมด คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก ต้องนอนนิ่งๆ ซักพักถึงจะดีขึ้น แต่ถ้าขยับศีรษะก็จะมีอาการบ้านหมุนขึ้นมาใหม่ เป็นๆหายๆ เป็นวันหรือสัปดาห์ ศัพท์แพทย์ที่ใช้ตามลักษณะของโรคโดยตรง คือ Benign Paroxysmal Positional Vertigo (BPPV) โรคเวียนศีรษะเวลาเปลี่ยนท่า

สำหรับสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดแต่พบบ่อยในผู้ป่วยที่เคยได้รับอุบัติเหตุทางศีรษะมาก่อน เคยติดเชื้อในหูชั้นใน และที่สำคัญ คือมีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป

ในหูชั้นในประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ
1. อวัยวะรูปก้นหอย (cochlea) มีหน้าที่รับการได้ยิน
2. อวัยวะรูปครึ่งวงกลม (semicircular canal) เชื่อมต่อกันสามชิ้น มีหน้าที่ควบคุมการทรงตัว

ในผู้ป่วยกลุ่มนี้มีการตกตะกอนของสารที่อยู่ข้างใน หรือมีหินปูนหลุดจากอวัยวะข้างเคียงเข้ามาอยู่ในส่วนครึ่งวงกลมดังกล่าว ทำให้เวลาที่ผู้ป่วยขยับศีรษะเกิดการสั่นของตะกอนในหูข้างที่มีปัญหา สัญญาณที่ส่งจากหูทั้งสองข้างไปยังสมองส่วนกลางจึงไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความรู้สึกบ้านหมุนขึ้นมา โดยทั่วไปอาการเวียนศีรษะในครั้งแรกจะรุนแรง ต่อมาจะค่อยๆ ลดความรุนแรงลง อาการบ้านหมุนสามารถเป็นได้หลายๆ ครั้งต่อวัน จากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นอาจจะนานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ในบางรายอาการจะกลับเป็นซ้ำได้อีกในเวลาเป็นเดือน หรือเป็นปี แต่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการหูอื้อไม่มีเสียงผิดปกติหรือหูไม่ได้ยิน และไม่พบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวตลอดเวลา ไม่มีอาการหมดสติ

การรักษา
การทำกายภาพบำบัด (Vestibular exercise) ในปัจจุบันเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับและได้ผลดีมาก แบ่งได้ 2 วิธี

วิธีแรก
ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคเวียนศีรษะเท่านั้น ซึ่งจะต้องประเมินก่อนว่า ผู้ป่วยมีข้อห้ามในการทำด้วยวิธีดังกล่าวหรือไม่ เช่น มีหมอนรองกระดูกคอเสื่อม เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ (Carotidartery Stenosis) หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบชนิดไม่คงที่ (Unstable Angina) โดยแพทย์จะหมุนศีรษะผู้ป่วย เพื่อให้ตะกอนเคลื่อนที่ออกมาจากอวัยวะรูปครึ่งวงกลมที่คุมเรื่องการทรงตัว วิธีนี้ ได้ผลประมาณ 50-70% หลังจากทำครั้งแรก หากทำซ้ำอีกจะได้ผลถึง 90% ทีเดียว

วิธีที่สอง
ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำที่บ้านเองได้ ด้วยการทำซ้ำๆ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น โดยให้ผู้ป่วยนั่งข้างเตียง แล้วล้มตัวด้านข้างจนหูแนบที่นอนอ ถ้ามีอาการบ้านหมุนเกิดขึ้นให้ค้างในท่านั้นจนกว่าจะดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เกิน 3-5 นาที แล้วลุกนั่งเพื่อล้มไปยังด้านตรงข้างใหม่ ควรทำซ้ำๆ อย่างน้อย 5-10 ครั้ง เช้า-เย็น อาการจะดีขึ้นในหนึ่งสัปดาห์ นอกจากนี้ ในช่วงแรกที่อาการเป็นมาก สามารถให้ยาแก้เวียนศีรษะทานได้ แต่ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราจะทำให้อาการบ้านหมุนหายช้าลง ไม่เกิดการปรับตัวตามธรรมชาติของสมอง

(2.) โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease)
เป็นโรคที่คิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินชื่อมาก่อน บางคนก็เข้าใจผิดคิดว่าเกิดจากมีน้ำเข้าไปในหู ซึ่งในหูชั้นในของเราประกอบด้วยท่อครึ่งวงกลมเชื่อมต่อกับส่วนที่รับฟังรูปก้นหอย ดังที่อธิบายมาข้างต้นแล้ว และในท่อดังกล่าวมีของเหลวบรรจุอยู่ภายใน สาเหตุของโรคนี้จริงๆ แล้วยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าเกิดจากความดันของของเหลวดังกล่าวเพิ่มขึ้น (Endolymphatic hydrops) เป็นครั้งคราว ส่งผลให้สัญญาณจากหูทั้งสองข้างไม่เท่ากันจึงมีอาการบ้านหมุนเกิดขึ้น ประเด็นที่ผู้ป่วยมักจะสงสัยกันบ่อย ได้แก่

• อาการแบบไหนถึงจะเป็นอาการจากน้ำในหูไม่เท่ากัน และต่างจากภาวะตะกอนในหูอย่างไร?
อาการเริ่มต้นมักจะมีหูอื้อหรือมีเสียงวิ้งๆ ในหูนำมาก่อน เป็นที่หูข้างหนึ่งหรือสองข้างพร้อมกันก็ได้ จากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการบ้านหมุน ซึ่งจะรุนแรงและนานเป็นชั่วโมงหรืออาจเป็นวันได้ โดยต่างจากภาวะตะกอนในหูที่จะเป็นช่วงสั้นๆ คล้ายเดินอยู่บนเรือโคลงเคลงตลอดเวลา อาเจียน คลื่นไส้ หลังจากอาการดีขึ้น จะเพลียมากต้องนอนพักเป็นวัน

• พบบ่อยแค่ไหน ทำไม่เวลาบ้านหมุนทีไร หมอก็บอกว่าเป็นโรคนี้ทุกครั้ง?
จริงๆ แล้วโรคนี้พบได้ไม่บ่อยเท่ากับโรคตะกอนในหู และพบในผู้ป่วยที่อายุเริ่มเป็นน้อยกว่า รวมถึงมักจะมีประวัติครอบครัวร่วมด้วย

• วินิจฉัยได้อย่างไร?
ดูจากประวัติและอาการเป็นหลัก ถ้าสงสัยมีภาวะอื่นร่วมด้วย หรือมีอาการทางระบบประสาท จำเป็นจะต้องตรวจเอกซเรย์สมองเพิ่มเติม ในรายที่เป็นมานานหรือมาตรวจขณะที่กำลังมีอาการ การตรวจการได้ยินแบบละเอียด (Audiogram) หากพบว่ามีการได้ยินเสียงในความถี่ต่ำลดลงก็จะช่วยในการวินิจฉัยได้มากขึ้น

• ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างเวลามีอาการ?
ขณะมีอาการบ้านหมุนรุนแรง ควรนอนพักให้ศีรษะอยู่นิ่งๆ ให้นานที่สุด เพราะการขยับศีรษะจะทำให้อาการเป็นมากขึ้นได้ การทานยาแก้อาเจียนหรือยาลดอาการเวียนศีรษะก็ช่วยได้มากเช่นกัน

• จะมีทางรักษาให้หายขาดหรือไม่ และต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
ลักษณะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน จะเป็นๆหายๆ บางราย 2-3 ปี มีอาการหรือบางคนเป็นเกือบทุกเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความดันที่เพิ่มในท่อครึ่งวงกลม และปัจจัยกระตุ้นต่างๆ

คำแนะนำสำหรับผู้เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

1. สูตรอาหารเฉพาะสำหรับน้ำในหูไม่เท่ากัน เนื่องจากเลือดและของเหลวตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเชื่อมต่อและมีการแลกเปลี่ยนกัน อาหารและปริมาณเกลือแร่ที่เราจึงมีผลกับความดันของน้ำในช่องหู

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่มีปริมาณเกลือและน้ำตาลมาก เช่น อาหารที่ผ่านการหมัก,ดอง, อาหารกระป๋อง
อาหารที่มีผงชูรส หรือสารปรุงแต่งมาก เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม เช่น กาแฟ ชา ชาเขียว น้ำอัดลม
กลุ่มแอลกอฮอล์

2. การใช้ยาในกลุ่มแก้เวียนศีรษะ เช่น ยาแก้เมารถ หรือยาในกลุ่มใหม่ที่ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงหรือง่วงซึม ทานช่วงที่มีอาการในสัปดาห์แรกจะได้ผลดี
3. ในรายที่เป็นเรื้อรังและไม่ได้ผลจากการคุมอาหารหรือใช้ยา และกลุ่มที่มีอาการได้ยินมีปัญหา การผ่าตัดเพื่อเอาครึ่งวงกลมในส่วนที่มีปัญหาออก (Endolymphaticsac Surgery) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

(3.) สมองในส่วนการทรงตัวขาดเลือดเป็น ๆ หาย ๆ (Vertebro-basilar Insufficience)
อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หูชั้นในส่วนที่เป็นครึ่งวงกลมทำหน้าที่รับการทรงตัว จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปยังก้านสมอง (Brainstem) และสมองน้อยด้านหลัง (Cerebellum) ดังนั้นพยาธิสภาพอะไรก็ตาม เช่น สมองขาดเลือด สมองอักเสบบริเวณดังกล่าวก็จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกหมุน โคลงเคลงได้ สำหรับผู้ป่วยรายใดก็ตาม ถ้ามีความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น ตาเห็นภาพซ้อนเห็นคนเป็นสองหัว พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง แขนขาอ่อนแรงข้างเดียว หรือสองข้างมีอาการเดินเซจะล้มโดยที่ขายังมีแรงดี บ่งบอกว่าอาการบ้านหมุนจะต้องมาจากรอยโรคในระบบประสาทแน่นอน ส่วนใหญ่อาการจะเกิดเป็นนาทีแล้วก็จะดีขึ้น

• ผู้ป่วยมักจะมีปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดมาก่อน ได้แก่ เบาหวาน, ความดัน, โลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, สูบบุหรี่จัด และอายุมาก

• ทำไมต้องแยกว่าสาเหตุอยู่ที่หูหรือสมอง?
เพราะการรักษารวมไปถึงการพยากรณ์โรคต่างกันอย่างสิ้นเชิง โรคของหลอดเลือดสมองจำเป็นต้องได้ยาป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบหรืออุดตัน โดยใช้ยาในกลุ่มยาต้านเกร็ดเลือดหรือต้านการแข็งตัวของเลือด ควบคู่ไปกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงของหลอดเลือด มิฉะนั้นหากปล่อยทิ้งไว้ ผู้ป่วยอาจเกิดอัมพาต


เอาไว้เป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับเพื่อนๆ และใครที่กำลังมีอาการบ้านหมุนแบบเรา
เราแนะนำว่าควรไปพบคุณหมอดีที่สุดเลยจ้า......




 

Create Date : 11 มกราคม 2551
19 comments
Last Update : 11 มกราคม 2551 17:03:06 น.
Counter : 15331 Pageviews.

 

เคยเป็นครับ เนื่องจาก
เครียด
ลดน้ำหนักมาก
ไม่ได้ไปหาหมอนะแค่ควบคุมจิตใจ ลดความกังวลลง พักผ่อนมาก แทบจะทิ้งงานไปเลย ก็หาย
อาการน่าตกใจมาก
เข้าใจคนเพิ่งเคยเป็นนะครับ

 

โดย: นายอาวุธ IP: 125.26.171.46 11 มกราคม 2551 12:57:46 น.  

 

ขอบคุณ คุณจขบ มากๆที่แนะนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้.........

เคยมีอาการแบบนี้คะ เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเป็นกังวลอยู่เลยว่ามันจะหวนกลับมาอีกหรือเปล่า?

ไปหาหมอ คุรหมอก็บอกว่าเราเครียด แต่เราก็คิดว่าเราไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องมาเครียดนี่???" ก็ได้ยามากิน ไม่หายคะ แต่ทุเลาลงเท่านั้นเอง

เป็นอยู่เกือบปีแหนะ คือเป็นๆหายๆแย่อย่างนี้ตลอด ไม่อยากบอกเลยว่า จากน้ำหนักตัว 71 เหลือแค่ 46 เพราะเจ้าโรคนี้แหละ ทรมานเหลือเกินตอนที่เป็น

 

โดย: ยุค IP: 202.180.203.101 11 มกราคม 2551 18:45:06 น.  

 

คุณแม่ก็เพิ่งเป็นเมื่อไม่กี่วันมานี้เองค่ะ ตกใจกันทั้งบ้าน เคยแต่ได้ยินคนรอบข้างเป็น ไม่คิดว่าจะเป็นคนใกล้ตัว เราก็หาข้อมูลให้แม่อ่านด้วยเหมือนกัน ข้อมูลเดียวกับของคุณจขกท.เลยค่ะ ยังไงก็ขอให้หายไวไวนะคะ

 

โดย: OkeyLa 11 มกราคม 2551 22:25:44 น.  

 

จขบ.ค่ะ มะช่ายจขกท. ขออภัย ติดมาจากพันทิป แฮะ แฮะ

 

โดย: OkeyLa 11 มกราคม 2551 22:27:29 น.  

 

อ้าว แล้วกัน
แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะยุ้ย ดีขึ้นบ้างหรือยัง
เป็นห่วงเน้อ
พักผ่อนมากๆนะ

 

โดย: หนูปูน IP: 58.9.126.203 15 มกราคม 2551 19:35:39 น.  

 

ดูแลรักษาสุขภาพนะคะ พักผ่อนให้เพียงพอ เคยเป็นเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว เป็นอยู่ 1 วัน ช่วงนั้นนอนไม่พอ หมุนจนคว่ำนอนหลับตาก็ยังหมุนติ้ว พอขยับจะมีอยู่ท่าไหนจำไม่ได้แล้วค่ะ ว่าเอียงซ้ายหรือขวา แล้วมันหาย ตั้งแต่นั้นมา ก็พยายามนอนหลับให้เพียงพอ ก็หายไปนาน จนเมื่อ 3 เดือนที่แล้วมีเรื่องทำให้เครียด เสียใจ ก็เป็นอีกแต่ไม่มาก พออาเจียนก็หาย ต่อจากนั้นก็ก้ม ๆ เงย ๆ หน่อยก็โคลงเคลง เอ๊ะจะเป็นบ้านหมุนอีกแล้วหรือนี่ เป็นอยู่เกือบ 2 เดือน ไม่ได้หมุนแต่เวียน ๆ เหมือนนั่งเรือ พอทำใจให้หายเครียดและเสียใจ มันก็ค่อย ๆ หายไป ก็ดีขึ้นค่ะ คนเป็นเยอะค่ะ เพื่อนก็เป็นเหมือนกัน พักผ่อนมาก ๆ นะคะ ขอให้หายเร็ว ๆ

 

โดย: cyberart 16 มกราคม 2551 0:01:13 น.  

 

โรคบ้านหมุน คนใกล้ตัว เป็นชาย อายุ 74 เพิ่งมีอาการโรคบ้านหมุน (ตอนนั้นไม่มีความรู้เลย) คือตีห้าจะลุกไปเข้าห้องน้ำเกิดอาการเหมือนหัวอยู่ล่างเท้าชี้ฟ้า เหงื่อออกมาก อย่างแรง ลุกไม่ขึ้นหงายหลังลงเตียงร้องโอยๆ เราให้ลองขยับมือแขนขากลัวว่าจะเป็นอัมพาต แต่ขยับได้ และให้นอนนิ่งๆ 2 ชม. จึงค่อยๆประคองลุกขึ้นนั่ง สัก 1 นาทีหลับตา และยืน 1 นาที เพื่อรอการทรงตัวค่อยก้าวเดิน พอหัวตรงก็ไม่มีอาการบ้านหมุน แต่พอจะลงนอนก็เกิดอาการ วิธีป้องกันและแก้ไขเบื้องต้นคือ ก่อนลุกจากที่นอน ให้นั่งยึดขอบเตียงให้แน่นก่อน 1 นาที และยืนตรง 1 นาทีจึงก้าวเดิน 3วันแรกที่เป็นใช้หมอน 2 ใบรองศรีษะ 45 องศา ต่อมาลดความสูงลงได้ กินยาตามหมอสั่ง และบริหารนั่งห้อยขาบนเตียง แล้วยืดแขนไปข้างๆ ทีละข้าง เอียงตัวให้หูเกือบแนบที่นอน ทำวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น ครั้งละ ประมาณ 5 นาที เพื่อให้หินปูนที่หลุดออกมาเข้าที่เดิม(หมอบอกว่าหินปูนในหูมีทุกคน หากมันหลุดออกมาจากที่ควรอยู่ก็เกิดอาการบ้านหมุน ในขณะที่หินปูนเคลื่อนที่ไปมา จึงต้องหาวิธีให้มันกลับไปอยู่ที่เดิม โดยท่าบริหารดังกล่าว)

 

โดย: Noongning IP: 221.128.75.2 2 เมษายน 2551 15:29:12 น.  

 

โรคน้ำในหูไม่เท่ากันในครอบครัวผมเป็นกันหลายคนครับ แต่ตอนนี้หายกันหมดแล้วครับคือบังเอิญที่บ้านผมได้รับสูตรยาแผนโบราณมา ลักษณะและกลิ่นคล้ายๆยาลมครับ พ่อผมลองทำทานดูปรากฏว่าหายครับ ด้วยได้สูตรมาฟรีๆและรู้สึกเห็นใจคนที่เป็นโรคนี้ครับ เลยอยากจะทำบุญใครต้องการยาลองโทรมาหาผมครับ ไม่ขายนะครับและไม่บอกสูตรด้วยต้องการทำบุญจริงๆครับแต่ถ้ามาขอกันเยอะๆก็รอ กันหน่อยนะครับ เพราะเศรษฐกิจในกระเป๋าผมไม่ค่อยจะดี แต่ถ้าใครคิดว่าผมต้องการผลตอบแทนถามนู่นถามนี่ไม่ต้องโทรมานะครับขี้เกียจต อบคำถาม โรจน์ 081-4059611

 

โดย: โรจน์ IP: 58.64.106.88 21 สิงหาคม 2551 23:50:45 น.  

 

เราเป็นอยู่หนักมากด้วยทำไงดีแทบอยากจะนั่งร้องไห้เลยเวลาเป็นเนี่ยทรมานสุดสุดเวียนหัวบ้านก้อหมุนอ้วกด้วยไม่อยากทำอะไรเลยนอนแทบนอนไม่ได้เฃ็งมากมากเมื่อไหร่จะหายไม่รู้อายุแค่18เองทำไมถึงเป็นไม่รู้ทรมาเหลือเกินอยากหายจังค่ะ

 

โดย: น้ำพระราม2 IP: 124.121.159.158 29 กันยายน 2551 18:45:07 น.  

 

ตอนนี้แฟนเป็นอยู่ครับ เป็นมากเลยทีเดียวครับ
ต้องไปหาหมอเกือบทุกวันครับ เพื่อไปฉีดยาแก้เวียนหัว
เป็นแบบนี้มาหลายเดือนแล้วครับ...หมอก็ไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงได้..เป็นหนักขนาดหมดสติ ก็บ่อยครับ
ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยครับ ถ้าติดต่อกลับจะดีมากๆเลยครับ intake_bk@hotmail.com
ขอบคุณครับ

 

โดย: intake IP: 203.149.16.34 9 ธันวาคม 2551 15:36:57 น.  

 

เป็นเหมือนกันเลยอ่ะครับ ผมอายุ 30 ปี
กำลังหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมพอดีเลย
ครั้งแรกตอนต้นปีเป็นหนักมากขนาดต้องนอนโรงพยาบาลเลย ครั้งต่อมาเป็นหลังจากนั้น 3 เดือนแต่เป็นไม่หนักมากครับ อยากกายขาดจัง รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเลยอ่ะครับ

 

โดย: ปิงปอง IP: 203.131.209.113 16 มีนาคม 2552 14:16:06 น.  

 

เราก้อเคยเป็น มันจะไม่หายจนกว่าจะอาเจียนออกมา ทรมานโคดๆ ตามันจะพร่าๆ อ่ะ ตอนนี้กินด้วยวิธีการโภชนาการบำบัด รุ่นพี่ที่เป็นหมอเค้าแนะนำให้กินอ่ะคะ
เหมือนเกือบจะหายขาดเลย ถ้าสนใจติดต่อเข้ามาได้ที่ waranthorn.ung@gmail.com

 

โดย: เอิง IP: 116.58.231.242 8 เมษายน 2552 17:57:18 น.  

 

ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ได้รับอุบัติเหตุตกที่สูงหัวกระแทกพื้นลงข้างหลังปวดท้ายทอยมาก ตอนที่ตกใหม่บ้านหมุนติ้วอยู่เป็นชั่วโมง หมอเอกซเรย์สมองแล้วบอกไม่เป็นอะไร แต่กระดิกหัวไม่ได้อยู่เป็นเดือน ต้องนอนนิ่งๆ พอลุกได้ปวดต้นคอมากไปหาหมอเอกซเรย์บอกว่ากรดูกต้นเสื่อม(หมอนรองกระดูกเคลื่อน) ตอนนี้กลับมาทำงานได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว อาการบ้านหมุนกลับมาเป็นอีกเวลาล้มตัวลงนอน บางที่ตื่นมากลางดึกก็เป็น เงื่อแตกเม็ดเป้งๆเลย ทรมานมาก จะรักษาอย่างไร

 

โดย: บุญหลาย IP: 124.157.177.208 21 ตุลาคม 2552 15:04:22 น.  

 

เป็นเหมือนกันน่ะครับ ทรมานมาก ๆ เลย สำหรับคนเป็นโรคบ้านหมุน เขาให้พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ให้เครียด งดอาหารหวาน มัน เค็ม และของหมักดอง กีฬาที่งดไม่ควรเล่นเด็ดขาดคือ ว่ายน้ำ และดำน้ำ หมอไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ผมเลยสรุปเองว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม เพราะเป็นมาตั้งแต่ปี 2545 ทุกวันนี้ก็พยายามศึกษาธรรมะ และทำบุญ เพื่อให้ทุำกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นและที่สำคัญขอให้หายจากโรคนี้

 

โดย: ต๋อง IP: 180.183.34.214 17 พฤศจิกายน 2552 20:40:01 น.  

 

เราก็เป็นเหมือนกันเป็นตะกอนในหูไปหาหมอ เราต้องไปกายภาพที่หมอทุก ๒ อาทิตย์ตอนนี้เรายังมึน และโคลงเคลง วูบด้วย ทรมานสุดๆ ต้องลาออกจากงานเลย

 

โดย: เนย IP: 117.47.44.176 13 กุมภาพันธ์ 2553 10:52:22 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากค่ะ เคยเป็นเหมือนกัน อันนี้จะรู้ตัวตอนนอนหลับอยู่ค่ะ แค่พลิกตัวนะคะ มันมีความรู้สึกว่าเราเวียนหัวมาก น่าตกใจค่ะ

 

โดย: ก้อย IP: 1.46.15.18 22 กันยายน 2553 23:53:23 น.  

 

เป็นอยู่เหมือนกันทรมานสุดๆต้องเข้าโรงพยาบาลถึง3วันโดนให้น้ำเกลือและยาแก้เวียนศรีษะเป็นเพราะเรานอนน้อยและพักผ่อนไม่เพียงพอและดื่มจัดทุกวันนี้ยังไม่หายเลยค่ะ

 

โดย: มิ้ม IP: 192.168.50.173, 58.9.23.230 23 ตุลาคม 2553 8:55:36 น.  

 

จากข้อความนี้นะคะ..
โรคน้ำในหูไม่เท่ากันในครอบครัวผมเป็นกันหลายคนครับ แต่ตอนนี้หายกันหมดแล้วครับคือบังเอิญที่บ้านผมได้รับสูตรยาแผนโบราณมา ลักษณะและกลิ่นคล้ายๆยาลมครับ พ่อผมลองทำทานดูปรากฏว่าหายครับ ด้วยได้สูตรมาฟรีๆและรู้สึกเห็นใจคนที่เป็นโรคนี้ครับ เลยอยากจะทำบุญใครต้องการยาลองโทรมาหาผมครับ ไม่ขายนะครับและไม่บอกสูตรด้วยต้องการทำบุญจริงๆครับแต่ถ้ามาขอกันเยอะๆก็รอ กันหน่อยนะครับ เพราะเศรษฐกิจในกระเป๋าผมไม่ค่อยจะดี แต่ถ้าใครคิดว่าผมต้องการผลตอบแทนถามนู่นถามนี่ไม่ต้องโทรมานะครับขี้เกียจต อบคำถาม โรจน์ 081-4059611

เพิ่มเติมเบอร์ติดต่อค่ะ 080 459 1565
หรือ lokprai@gmail.com คุณพิมค่ะ

 

โดย: คุณพิม IP: 192.168.51.240, 110.164.162.27 18 พฤศจิกายน 2553 16:08:32 น.  

 

ขอความกรุณาเจ้าของบล็อกช่วยลบข้อความข้างบนนี้ให้ด้วยนะคะ
ปัจจุบันได้ทำการปิดบล็อกไปแล้วค่ะ

 

โดย: พิม IP: 192.168.51.240, 110.164.163.141 3 กุมภาพันธ์ 2554 16:19:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


hiyuice
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Superman is not EASY...To be ME...
Friends' blogs
[Add hiyuice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.