|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กลุ่มปตท.โดนพิษซับไพรม์ +แผนออกหุ้นต่างประเทศ 'ปตท.เคมิคอล' หมื่นล้านพัง! ตลาดตราสารหนี้ไทยตีปีก
กลุ่มปตท.โดนพิษซับไพรม์ +แผนออกหุ้นต่างประเทศ 'ปตท.เคมิคอล' หมื่นล้านพัง! ตลาดตราสารหนี้ไทยตีปีก กลุ่มปตท.หนีไม่พ้นผลกระทบวิกฤติซับไพรม์ "บมจ.ปตท.เคมิคอล" พับแผนออกหุ้นกู้ต่างประเทศหมื่นล้าน หันหัวเรือกลับขายสถาบันในประเทศแทน 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟล์ลิ่งแล้ว ขณะที่พบ 3 บริษัทยักษ์พับแผนออกหุ้นกู้นอกรวม 5 หมื่นล้านบาท สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยรับส้ม
แหล่งข่าวจากวงการที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด(มหาชน) (PTTCH ) ได้ระงับแผนการออกหุ้นกู้ต่างประเทศวงเงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ประมาณ 10,000 ล้านบาท ) และหันมาออกหุ้นกู้ในประเทศแทน แต่เนื่องจากการระดมทุนของPTTCH ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ ดังนั้นจึงได้แบ่งหุ้นกู้ออกเป็น 3 ล็อตที่อายุแตกต่างกัน โดยคาดว่าจะเสนอขายได้เร็ว ๆนี้
แหล่งข่าวรายเดิมระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ PTTCH ต้องปรับแผนมาระดมทุนในประเทศแทนเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยลูกหนี้ด้อยคุณภาพ(ซับไพรม์)ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ลามถึงตลาดตราสารหนี้ด้วย
จากการตรวจสอบของ"ฐานเศรษฐกิจ" พบว่าPTTCH ได้ยื่นขออนุมัติออกหุ้นกู้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) แล้ว โดยวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้เริ่มนับ 1 ในแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟล์ลิ่ง)แล้ว โดยหุ้นกู้แบ่งออกเป็น 3 ชุด เสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน มีบมจ.ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) เป็นผู้จัดการการจำหน่าย ขณะที่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดของหุ้นกู้ทั้งมูลค่าการเสนอขาย อายุและอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เจพีมอร์แกน(ประเทศไทย) กล่าวยอมรับว่า ผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ทำให้การออกหุ้นกู้ต่างประเทศเริ่มยากขึ้น เนื่องจากผู้ลงทุนไม่มั่นใจต่อการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับอินเวทเม้นท์เกรด(BBB-)นอกจากนี้อัตราผลตอบแทน (yield)ตราสารหนี้ก็มีความผันผวนสูง จากภาวะดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากเพื่อจูงใจนักลงทุนและเป็นผลตอบแทนที่รวมความเสี่ยงจากปัญหาซับไพรม์ ด้วย
นายวรภัคกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีบริษัทในประเทศไทยที่มีแผนออกหุ้นกู้ต่างประเทศเกินกว่า 5,000 ล้านบาทต่อบริษัท ขึ้นไป ได้ปรับแผนหันมามาระดมทุนในประเทศแทน อย่างไรก็ตามเนื่องจากมูลค่าการระดมทุนค่อนข้างสูง ทำให้ต้องแบ่งหุ้นกู้ออกเป็นล็อตและมีอายุแตกต่างกัน เนื่องจากนักลงทุนในประเทศบางกลุ่มไม่กล้าลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอายุยาว 10 ปี นอกจากนี้อาจมีการปรับแผนเป็นการออกตราสารหนี้ระยะสั้นหรือตั๋วแลกเงิน(บี/อี)อายุไม่เกิน 1 ปี และต่ออายุไปเรื่อย ๆ เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศจะเปิดเมื่อไหร่ โดยคาดว่าจะต้องติดตามสถานการณ์ปัญหาซับไพรม์ประมาณ 2-3 เดือนหรือมากกว่านั้น
อนึ่งนอกจากPTTCH ได้ระงับแผนการออกหุ้นกู้ในต่างประเทศจากผลกระทบซับไพรม์แล้วก่อนหน้านี้ได้มีธุรกิจเดินเรือขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 บริษัท ได้ชะลอแผนการออกหุ้นกู้ต่างประเทศแล้วเช่นกัน ประกอบด้วยบมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA ) จากเดิมที่คาดว่าจะออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5,800 ล้านบาท ) ที่จะเสนอขายนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและนำหุ้นกู้ดังกล่าวจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ และนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปรีไฟแนนซ์หนี้และซื้อเรือขนส่งลำใหม่ ขณะที่ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ TTA กล่าวว่า หากภายในปีนี้ไม่สามารถขายหุ้นกู้ได้ ก็จะปรับแผนใหม่ด้วยการกู้จากสถาบันการเงินแทน
ส่วนบริษัทเดินเรืออีกรายคือ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง ( PSL)ที่ผู้บริหารบริษัทดังกล่าวระบุก่อนหน้านี้ว่าได้ชะลอแผนออกหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯออกไปก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากซับไพรม์
อนึ่ง วันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ว่า จะออกหุ้นกู้ทุกประเภท (ทั้งชนิดมีประกันและไม่มีประกัน) ไม่เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ(ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท) หรือเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น
ทั้งนี้เมื่อรวมวงเงินการชะลอแผนออกหุ้นกู้ต่างประเทศของทั้ง 3 บริษัท พบว่ามีมูลค่ารวมสูงถึงประมาณ 50,000 ล้านบาท
นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าว ยอมรับว่าผลกระทบจากซับไพรม์ในสหรัฐฯจะส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ หรือที่เรียกว่า จังก์บอนด์ รวมถึงตลาดหุ้นกู้ทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน และทิศทางเงินลงทุนจะเริ่มไหลไปที่ตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐมากขึ้น สำหรับบริษัทเอกชนที่จะออกหุ้นกู้ในช่วงนี้เชื่อว่านักลงทุนจะต้องคำนวณความเสี่ยงผลกระทบจากซับไพรม์เข้าไปด้วย ส่งผลให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้ของเอกชนปรับขึ้นอีกประมาณ 0.5 %
ดังนั้นบริษัทที่มีแผนออกหุ้นกู้ต่างประเทศก็จะหันมาระดมทุนในประเทศแทน ถึงแม้ว่าต้นทุนการระดมทุนจะต่างกันเพียง 1 % จากที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ดังนั้นบริษัทที่จะออกหุ้นกู้ช่วงนี้จะต้องปรับอัตราผลตอบแทนขึ้น และจากแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยที่ไม่ต่างกันมากนัก จะทำให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนตราสารหนี้ในประเทศได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อตลาดตราสารหนี้ในประเทศที่จะมีปริมาณการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้น
นายณัฐพล กล่าวว่า แม้เอกชนจะหันมาออกหุ้นกู้ในประเทศมากขึ้น แต่ThaiBMA ยังไม่ปรับประมาณการมูลค่าการออกหุ้นกู้เอกชนในปีนี้ โดยยังคงเป้าหมายเดิมที่ 1.7 แสนล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกมีการระดมทุนไปแล้ว 8 แสนล้านบาท
Create Date : 28 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 18:19:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 759 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|