[hip_ib ] >>>"It is never too late to be what you might have been." <<<<
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
28 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 

ไฮโซซื้อประกัน200ล. +หนีลงทุนความเสี่ยง/นักธุรกิจซื้อทั้งบ้าน/เศรษฐีแย่งจองพันธบัตร

ไฮโซซื้อประกัน200ล. +หนีลงทุนความเสี่ยง/นักธุรกิจซื้อทั้งบ้าน/เศรษฐีแย่งจองพันธบัตร
นักธุรกิจใหญ่-เจ้าของกิจการหนีลงทุนความเสี่ยงสูง หันซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ตะลึง! ค่ายประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ เอไอเอ จีบนักธุรกิจเหมืองแร่ซื้อกรมธรรม์สามัญทั้งครอบครัว 6 คน 1,800ล้านบาท จ่ายเบี้ยปีละ 200 ล้านบาท วงในเผยเทรนด์ตัวแทนเจาะลูกค้ารายใหญ่ ฐานะการเงินมั่นคง ส่วน SCNYL ไม่น้อยหน้า เผยมีลูกค้านักธุรกิจโรงสีซื้อกรมธรรม์100 ล้านบาท ชี้ภาพ6เดือนแรกเจ้าของธุรกิจบริหารเงินลงประกันชีวิตมากขึ้น เฉลี่ยจ่ายเบี้ยต่อปี 1-5 ล้านบาท ขณะที่เศรษฐีและรายย่อยจ้องซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ธปท. 27 ส.ค.นี้ ถือ 4 ปี และ7 ปี กินดอกเบี้ย 4.25 % และ 5.00% คาดทะลักเกินยอดจำหน่าย 40,000 ล้านบาท





แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาจนถึงกลางปีนี้ รวมทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ส่งผลให้นักธุรกิจและเจ้าของกิจการ ระมัดระวังในการบริหารเงินมากขึ้น ด้วยการหาช่องทางลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแต่ความเสี่ยงต่ำ ซึ่งล่าสุด จากการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่าช่องทางการบริหารเงินของนักธุรกิจรายกลางและรายใหญ่ คือ


การซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์กับบริษัทประกันที่เสนอความคุ้มครองและผลตอบแทนที่คุ้มค่า





****ตะลึง!ซื้อกรมธรรม์เบี้ย200ล.ต่อปี


แหล่งข่าวจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด ( เอไอเอ) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนและเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ เริ่มมองหาช่องทางใหม่เพื่อบริหารเงินที่มีอยู่ให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ โดยพบว่าในปีนี้การเสนอขายกรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์ (Endowment Plan) 20 ปี ตรีคูณ เป็นกรมธรรม์ที่ลูกค้าให้การตอบรับคึกคักมาก


โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคมนี้ มีตัวแทนที่สามารถขายกรมธรรม์ดังกล่าวให้แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกรายใหญ่ สนใจซื้อกรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์ (Endowment Plan) 20 ปี ตรีคูณของบริษัท เป็นการซื้อทั้งครอบครัว รวม 6 คน โดยมีทุนประกันรวม 1,800 ล้านบาท คิดเป็นทุนประกันต่อคน 300 ล้านบาท และเบี้ยประกันรวม 200 ล้านบาทต่อปี (เบี้ยประกันต่อคน 33 ล้านบาทต่อปี) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบฐานะทางการเงินและรอการอนุมัติจากบริษัทแม่ที่อเมริกา คาดว่าจะทราบผลในอีก 2 เดือน


"การซื้อกรมธรรม์ในกรณีนี้ ถือเป็นตัวเลขสะท้านวงการเบี้ยประกันสูงสุดในรอบ10 ปีที่ผ่านมา จากที่เคยพบว่ามีตัวเลขของผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ทุนประกันสูงสุด 200 ล้านบาท และเบี้ยประกันเพียง 26 ล้านบาท โดยลูกค้าที่เป็นรายใหญ่เหล่านี้ จะมาจากการแนะนำด้วยสายสัมพันธ์ส่วนตัวและต้องเลือกลูกค้าที่มีฐานนะการเงินค่อนข้างนิ่ง ถือเงินสดอยู่ในมือ ไม่ใช่มาซื้อประกันเพื่อต้องการนำเงินไปหมุนในธุรกิจ เพื่อไม่ให้บริษัทมีความเสี่ยงสูง" แหล่งข่าว เอไอเอ กล่าว และว่า


ผลตอบแทนสำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ข้างต้น เมื่อคำนวณผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับ ในกรณีที่ลูกค้าอยู่จนครบสัญญา 20 ปี จะได้เงินคืน 3 เท่าของทุนประกันรวม คือ 1,800 X 3 = 5,400 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอีก 10% ของทุนประกันรวม คือ 180 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นมูลค่า 5,580 ล้านบาท ในส่วนของเงิน 5,400 ล้านบาท บริษัทจะแบ่งจ่ายเงินคืนทุก 5 ปี คิดเป็น 300% ของทุนประกันรวม ได้แก่ 5 ปีแรก 20%, 5 ปีต่อไป 30% ,ปีที่ 15 50% และ ปีที่ 20 200% นอกจากนี้ถ้าลูกค้าไม่รอรับเงินคืนทุกๆ 5 ปี บริษัทจะบวกดอกเบี้ยเพิ่มให้อีก 3% ของทุนประกัน การันตีไม่ต่ำกว่า 2% โดยหากพิจารณาผลประโยชน์การลงทุนตามสัญญา ถือว่า ลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ามากกว่าฝากธนาคารปีละ 200 ล้านบาท ที่ฝากเงินไว้ 2 ปีก็ได้เงินแค่ 400 ล้านบาท ถ้าปีถัดไปเสียชีวิตก็ไม่มีความหมาย นอกจากนี้ยังมีประกันชีวิตคุ้มครองความเสี่ยงอีกด้วย


****ซื้อกรมธรรม์เบี้ยเฉลี่ย1-5ล้าน


นอกจากนี้ ยังพบว่าตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ลูกค้าของเอไอเอในกลุ่มของนักลงทุนหรือเจ้าของกิจการเริ่มหันมาซื้อกรมธรรม์สะสมทรัพย์มากขึ้น แต่โดยเฉลี่ยเบี้ยประกันต่อปีเริ่มต้นที่ 1-5 ล้านบาท ซึ่งตัวแทนขาย เอไอเอ พื้นที่กรุงเทพฯ กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ มีลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจที่เข้ามาซื้อกรมธรรม์ และเลือกจ่ายเบี้ยประกันเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 5 แสนบาท – 3 ล้านบาท หรือทุนประกันที่ 10 ล้านบาทเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ขณะที่มูลค่าเบี้ยประกัน 10-30 ล้านบาทต่อปี ทุนประกัน 100-300 ล้าน เริ่มมีลูกค้ากลุ่มใหม่ เป็นนักธุรกิจระดับสูงหรือผู้บริหารที่รู้จักวางแผนทางการเงิน ทะยอยเข้ามามากขึ้น ยอดขายกรมธรรม์สะสมทรัพย์ประเภทนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 20-30% ในขณะที่หัวหน้าหน่วยจะรับเป้าเบี้ยประกันประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี


ลูกค้าส่วนใหญ่ของเอไอเอ จะย้ายพอร์ตจากเงินฝากธนาคารเพียงบางส่วน มาซื้อกรมธรรม์สะสมทรัพย์แทน เพื่อกระจายความเสี่ยงทางการเงินในธุรกิจ แม้จะไม่ได้ผลกำไรมาก แต่เพิ่มประโยชน์ความคุ้มครอง พัฒนาเงินออมระยะยาวขณะนี้ได้ดีกว่าออมเงินผ่านธนาคาร อีกทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นยังมีความผันผวน อนึ่ง กรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์ (Endowment Plan) 20 ปี ตรีคูณ ของเอไอเอ เป็นแบบการประกันซึ่งรวมการคุ้มครองชีวิต และการออมทรัพย์ไว้ด้วยกัน ชดเชยทุนประกันแก่ผู้รับผลประโยชน์ ในกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิต และชดเชยทุนประกันแก่ผู้เอาประกันที่อยู่จนครบสัญญา เบี้ยประกันสูง มีมูลค่าเงินสดที่ผู้ถือกรมธรรม์สามารถขอกู้ได้ในยามที่ประสบปัญหาทางการเงิน ส่วนสัญญาเพิ่มเติม นอกจากผลประโยชน์ความคุ้มครองชีวิตจาก กรมธรรม์ประกันชีวิตหลักแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อ สัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์ด้านอื่น ๆ ซึ่งแนบกับ กรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ ตรงกับความต้องการมากขึ้น


สัญญาเพิ่มเติมที่ ได้รับความนิยม อาทิ 1. สัญญาเพิ่มเติมการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล และศัลยกรรม (H&S)เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล ค่ารักษาพยาบาล และผลประโยชน์สำหรับการศัลยกรรม2. สัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์มรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุ และบันทึกเพิ่มเติมอุบัติเหตุ (AI/RCC, ADD/RCC,ADB/RCC) และยังคุ้มครองการสูญเสียกรณีต่าง ๆ อันมีสาเหตุเนื่องมาจากการถูกลอบทำร้ายร่างกาย ฆาตกรรม การจลาจล สงครามกลางเมืองการนัดหยุดงาน หรือการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้าย (RCC)3. สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันสำหรับการเข้ารักษาในโรงพยาบาล (HB) 4.สัญญาเพิ่มเติมการมรณกรรมและการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคมะเร็ง (CR) หรือโรคร้ายแรง 5 โรค ได้แก่ โรคโปลิโอ โรคถุงลมโป่งพอง โรคกล้ามเนื้อเสื่อม การแข็งตัวของเนื้อเยื่อโดยทั่วไป และโรคตับแข็ง





****ตัวแทนประกันเจาะลูกค้าเงินหนา


ด้านแหล่งข่าว บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต กล่าวว่า แนวโน้มตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาเจ้าของกิจการส่วนใหญ่โดยเฉพาะธุรกิจในต่างจังหวัด หรือลูกค้าที่มีบัญชีกับธนาคารไทยพาณิชย์อยู่แล้ว หันมาซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคล สะสมทรัพย์ 25/20 (สินเพิ่มพูน) ของบริษัทเพิ่มขึ้น เช่น จากต้นปีนี้เจ้าของกิจการ 3-4 แห่ง อาทิ เจ้าของโรงสี หรือลูกค้าที่มีบัญชีกับไทยพาณิชย์อยู่แล้ว ซื้อกรมธรรม์ทุนประกัน 100 ล้าน เบี้ยประกัน 1.5 ล้านบาทต่อปี ซึ่งลูกค้าที่จะเข้าโครงการประกันชีวิตรายบบุคคล แบบสะสมทรัพย์พิเศษ ต้องเป็นนักธุรกิจระดับสูงระดับกรรมการผู้จัดการขึ้นไป , เจ้าของธุรกิจที่เป็นบริษัท จำกัดหรือมหาชนเท่านั้น รวมถึงนักลงทุนที่มีความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท จะเป็นลูกค้าชั้นพิเศษที่เปิดบัญชีในวงเงินสูงกับธนาคารไทยพาณิชย์อยู่แล้ว ซึ่งธนาคารหรือตัวแทนขายเฉพาะกลุ่มนี้เท่านั้น ที่จะเสนอกรมธรรม์กลุ่มนี้ได้


กรมธรรม์ดังกล่าวจะ ให้ความคุ้มครองชีวิตและสนับสนุนการออมทรัพย์จำกัดเวลา โดยที่บริษัทจะคืนเงินให้กับผู้เอาประกัน ตามกำหนดระยะเวลาในแต่ละแบบประกัน จะมีเงินคืนให้ทุกๆ 5 ปี จนครบสัญญา แบ่งเป็น สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 5 รับเงินคืน 10%ของทุนประกัน สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินคืน 20%ของทุนประกัน สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 15 รับเงินคืน 20%ของทุนประกัน ระยะเวลาการชำระเบี้ย 20 ปี รับความคุ้มครอง 25 ปี


"รูปแบบนี้ถือเป็นทางเลือกใหม่ของนักลงทุนในช่วงนี้ ลูกค้าต้องอยู่จนครบสัญญา และผ่านการตรวจสอบฐานะทางการเงิน (เครดิตบูโร) ตามที่สัญญาระบุและตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เนื่องจากบางกรณีจะไม่ได้รับความคุ้มครอง อาทิ ฆ่าตัวตาย, เสียชีวิตในปีแรกและผู้รับประโยชน์จากการฆาตกรรม ป่วยด้วยโรคที่ตรวจพบหรือเล่นกีฬาที่เสี่ยงภัย หากลูกค้าต้องการ ต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่มเอง"


ขณะที่ นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัลศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Agency Officer บริษัทไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาจนถึงกลางปีนี้ประชาชนหันมาหาช่องทางการออมที่ใกล้เคียงกับการฝากเงินมากที่สุด เช่น การซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยเฉพาะลูกค้าระดับบนที่เข้ามาซื้อกรมธรรม์ออมทรัพย์ระยะสั้น 15 ปีมากขึ้น หรือกลุ่มนักธุรกิจที่มีทุนประกันหลัก 1-5 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนนอกจากจะย้ายเงินมาจากเงินฝากธนาคารแล้ว ยังมีเงินที่ย้ายมาจากการลงทุนในกองทุนต่างๆ


นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ให้ความเห็นว่า


ในกรณีลูกค้าตัดสินใจ ยอมจ่ายเบี้ยถึง 30 ล้านบาท ในรูปแบบออมทรัพย์แบบสามัญ พร้อมเพิ่มความคุ้มครอง 20 ปี ชนิดมีเงินปันผล ขณะนี้ในตลาดธุรกิจประกันชีวิต ยังไม่เห็นภาพชัดเจนมากนัก แต่อย่างไรก็ตามทิศทางการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นี้ ตลาดเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เช่นเดียวกับปี 2539 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารลดลง โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บางปีบริษัทสามารถสร้างเบี้ยประกันจากกรมธรรม์ประเภทนี้ได้ถึง 3,000 – 4,000 ล้านบาท


****เศรษฐี-รายย่อยจองพันธบัตรรัฐ


นอกจากช่องทางการบริหารเงินของนักธุรกิจที่หันมาลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น การซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตมากขึ้นแล้ว ล่าสุด จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทออมทรัพย์ พ.ศ.2550 ครั้งที่ 1 อายุ 4 ปีและ 4 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ย 4.25% และ 5.00% ตามลำดับ โดยกำหนดออกจำหน่ายเบื้องต้น 40,000 ล้านบาท เปิดจองผ่านธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง ในวันที่ 27 ส.ค.-4 ก.ย.นี้นั้น


แหล่งข่าวจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ยอดจองพันธบัตรธปท.ในวันแรกคือวันที่ 27 ส.ค.นี้ จะหมดภายในวันเดียว เพราะจากการที่สถาบันการเงินให้สาขาทำการสำรวจความต้องการของลูกค้าก่อนหน้านี้ พบว่าลูกค้าประเภทบุคคล มูลนิธิ และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรมีความต้องการจองซื้อพันธบัตรดังกล่าว และยอมรับว่าลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้บริการฝากเงินกับธนาคาร แสดงความสนใจที่จะซื้อพันธบัตรธปท.ดังกล่าว โดยบางรายมียอดเสนอจองเป็นหลัก 10 หรือ 100 ล้านบาท


นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พันธบัตรธปท. เป็นทางเลือกในการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยมากหรือไม่มีความเสี่ยงเลย และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนประเภทบุคคลค่อนข้างมาก ซึ่งการออกพันธบัตรดังกล่าว ถือเป็นช่องทางที่ธปท.ใช้ดูแลสภาพคล่องในตลาดการเงินให้เหมาะสม และช่วยดูซับสภาพคล่องจากการที่ธปท. เข้าไปแทรกแซงค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน


ก่อนหน้านี้ นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริการเงินสำรอง ธปท. เปิดเผยว่า การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ธปท. จะจำหน่ายผ่านธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม – 4 กันยายนนี้ แต่หลังจากที่ธปท.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปจำนวนมากที่ไม่สามารถสั่งจองพันธบัตรออมทรัพย์ธปท.ได้ เนื่องจากได้รับการปฏิเสธใบสั่งจองจากธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หลังจากเข้าไปติดต่อขอรับใบสั่งจองล่วงหน้า โดยธนาคารพาณิชย์ได้แจ้งสาเหตุว่า ยอดการสั่งจองพันธบัตรผ่านธนาคารเต็มจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากธปท. แล้ว


ล่าสุดธปท.ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้ง 8 แห่งประกอบด้วย ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) , ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) , ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) , ธนาคาร ซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. , ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) , ธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้ทำการเปิดรับใบสั่งจองพันธบัตรธปท.จากประชาชนทุกคนที่สนใจเข้ามาติดต่อสั่งซื้อผ่านธนาคาร


"สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ยอดการสั่งจองพันธบัตรธปท.พ.ศ. 2550 มีจำนวนมากเกินวงเงินที่อนุมัติ ก่อนวันเปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการนั้น เบื้องต้นคาดว่า เป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนของพันธบัตรสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน รวมถึงความมั่นคงของพันธบัตรที่มีสูงกว่าการลงทุนในตราสารประเภทอื่นๆ หรือการลงทุนในตลาดหุ้น "


ทั้งนี้ ขั้นตอนการรับใบสั่งจองจากประชาชนนั้น ธนาคารพาณิชย์ตัวแทนทุกแห่งจะต้องทำการเรียงลำดับใบสั่งจองก่อน-หลังเพื่อสิทธิในการได้รับพันธบัตร ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินค่าพันธบัตรที่สั่งจองนั้นกำหนดให้จ่ายในวันที่ 3 กันยายน 2550 สำหรับการจ่ายในรูปแบบเช็ค และจ่ายในวันที่ 4 กันยายน 2550 สำหรับรูปแบบการหักผ่านบัญชี และรูปแบบการจ่ายด้วยเงินสด ซึ่งประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินในวันแรกที่ทำการสั่งจองแต่อย่างใด


นอกจากนี้ หากยอดความต้องการของประชาชนมีจำนวนมากเกินกว่าวงเงินพันธบัตร 40,000 ล้านบาทที่ธปท.อนุมัติไปนั้น เบื้องต้นธปท.อาจจะพิจารณาขยายวงเงินพันธบัตรเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ทั้งนี้เนื่องจากต้องการกระจายพันธบัตรให้เข้าถึงประชาชนรายย่อยให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้เกษียณอายุราชการที่ต้องการรูปแบบการออมใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ตามจำนวนวงเงินที่จะขยายเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้คงไม่สามารถกำหนดวงเงินที่ชัดเจนได้ คงขึ้นอยู่กับจำนวนความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2550
2 comments
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 18:23:03 น.
Counter : 888 Pageviews.

 

ข่าว ตีกันร้านค้ารายย่อย สรรพากร ออนไลน์รีดภาษี : ผมว่า สรรพากร ไปเก็บภาษีที่สนุกดอทคอมดีกว่า ได้ข่าวว่ารายได้ดี ลองดูว่า เสียภาษีถูกต้องรึเปล่า เออ...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า Sponsor หรือ คนโฆษณาที่มีงบน้อยถึงไปโฆษณาที่สนุกดอทคอม เพราะว่า โฆษณาที่นี่คิดเป็นแบบความถี่ที่กระพริบ ถ้าโฆษณาที่เสียเงินน้อย แทบไม่มีโอกาสที่คนดูจะได้เห็น สูญเงินเปล่าๆ

 

โดย: คนกันเอง (hip_ib ) 28 สิงหาคม 2550 18:24:15 น.  

 


เกร็ดความรู้นิดหน่อย~เศรษฐกิจระหว่างประเทศ( คลีนิคย่อย เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ) อิอิ
1. ปัจจัยที่มีผลทำให้ค่าเงินบาทและเงินสกุลอื่นๆแข็งค่าขึ้น คือ

- ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเนื่องจากสถานะการเงินที่ไม่ดีของสหรัฐฯ

2. ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อเสถียรภาพของค่าเงินบาท คือ

2.1 การแทรกแซงจากธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งไม่สามารถทำได้มาก

2.2 มาตรการส่งเสริม Capital Outflows ของธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าจะมีผลมากแค่ไหน

2.3 อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง

2.4 ความชัดเจนของนโยบายหลังจากที่การเมืองนิ่ง

3. การประชาคมและตลาดร่วมแคริบเบียน คืออะไร

- ประชาคมและตลาดร่วมแคริบเบียน ( CARICOM ) ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2516 มีสมาชิกที่เป็นหมู่เกาะเล็กๆในทะเลแคริบเบียน จำนวน 17 ประเทศ เช่น เกรนาดา กายอานา จาเมกา ตรินิแดดและโตเบโก บาฮามา อันติกัวและบาร์บูดา
บาร์เบโดส เบลิช โดมินิกา ฯลฯ

- วัตถุประสงค์ คือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างประเทศสมาชิกและยังเป็นการสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศที่ใหญ่กว่า

4. ประเทศพัฒนาแล้วช่วยประเทศที่ด้อยพัฒนามีเงื่อนไขอะไรบ้าง

- โดยการให้ความช่วยเหลือของประเทศพัฒนาแล้วแก่ประเทศด้อยพัฒนานั้นอาจมองว่าเป็นการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม
แต่ก็อาจมีจุดประสงค์บางอย่าง เช่น ต้องการสร้างอิทธิพลทางการเมืองของตนในเวทีระหว่างประเทศ หรือปูทางสำหรับการค้าขายของประเทศพัฒนาแล้วในประเทศด้อยพัฒนา

อธิบายศัพท์ยาก

1. capital outflows คือทุนไหลออกที่ถูกกฎหมาย



อ้างอิง จาก ศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจระหว่างประเทศ/กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ / กรมกระทรวงการต่างประเทศ นะค่ะ

 

โดย: Nooprae (n_n)") (hip_ib ) 30 สิงหาคม 2550 3:50:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


hip_ib
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add hip_ib's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.