เดินลงมา ก็เจอทางเดินที่อบอุ่น
มีร้านค้าเยอะมาก แต่วันนี้ร้านปิดเป็นส่วนใหญ่
เพราะวันที่1มกราคม คนญี่ปุ่นจะถือว่าต้องไปไหว้พระรับพร
ร้านค้าต่างๆส่วนใหญ่จึงปิด
แต่ก็มีหลายๆร้านที่เปิด โดยเฉพาะร้านขายอาหาร เปิดกันแต่เช้า
เรามุ่งหน้าไปฝากกระเป๋าก่อน
เราเลือก locker ตรงสถานีรถไฟใต้ดิน
สะดวกตรงที่เราส่งกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จากสนามบินไปแล้ว
เหลือแต่กระเป๋าใบน้อยนี้ แค่ 2 ใบ
ไม่มีกระเป๋าพะรุงพะรังแล้ว ก็ไปหาของกินรองท้องก่อน
ตอนนี้ก็เกือบ 11 โมงได้มั้ง
เลือกของกินง่ายๆ ก่อนไปกินมื้อใหญ่
เดินเล่นที่ถนน Dotonbori
เพื่อหาร้านอาหารเที่ยง
เดินเล่นจนมาเจอ ของเล่น
เป็นทีวีที่ถ่ายคนเดินไปเดินมา เราเลยมาเล่นด้วย ^^
หากาแฟกินที่ สตาร์บัค
มีคนเข้าคิวซื้อถุงโชคดี ยาวเยียดเลย
ร้านนี้น่ารักมาก ไม่ได้กิน
แต่ถ่ายรูปมา
ตอนแรกจะไปกินปูที่ร้าน kani doraku
เพราะยังติดใจจากการกินที่โตเกียว ซึ่งจริงๆสาขาแรกอยู่ที่โอซาก้า
จึงตั้งใจมากินปูในวันนี้
แต่ แต่ ... วันนี้เค้าไม่ขายเป็น set menu
เราเลยตัดสินใจ ไปกินอย่างอื่นดีกว่า
เพราะถ้าไม่เป็น set เราก็สั่งไม่ค่อยเป็น
เดินผ่านร้าน Daruma คนเข้าคิวยังน้อย
ก็เลยตัดสินใจกินร้านนี้ละ อาหารเสียบไม้ทอด
เคยกินเมื่อตอนมาโอซาก้า ญี่ปุ่นรอบที่2
ตอนนั้นไปเข้าคิวรอตั้ง 1 ชม.ครึ่ง
ยืนกันรากงอก แต่รอบนี้รอประมาณ 15 นาทีเอง
ร้านนี้สาขาเยอะมาก ลองหาร้านที่คิวน้อยๆจะได้ไม่นาน
เข้ามาในร้าน ก็ได้เมนูมา
เราเลือกเป็น set (จำไม่ได้แล้วว่า set ไหน)
แล้วก็สั่งเพิ่มเมนูปรกติอีก 5-6 ไม้
อุปกรณ์พร้อม น้ำดื่มฟรี
กะหล่ำปลีฟรี เติมได้ตลอด
สักพักก็มี ..
ซุปเนื้อตุ๋นกับบุก.. มาเสริฟ
อันนี้เสียเพิ่มนะ (รสชาติอร่อยดี แต่เป็นเนื้อวัวเราเลยแค่ชิม)
มาละ อร่อยๆๆๆ
เนื้อหมูสามชั้น อร่อยมาก
กินอิ่มละก็จ่ายเงิน
กินอิ่มละก็จ่ายเงิน แล้วก็ไปเดินเที่ยวกันต่อ
เดินเล่นไปเรื่อย ซื้อของยังไม่เยอะ เพราะเราต้องอยู่อีกตั้ง 10 กว่าวัน
ได้ของมา 2 อย่างคือ
1.รองเท้าของเรา เพราะเตรียมมามันใส่ไม่สบาย ซื้อจากร้าน gu ราคา 900 yen เอง
2. ชาเขียวของฝากคุณหมอประจำตัวเฮีย
ร้านชาเขียวเป็นร้านชาพรีเมี่ยมจากเกียวโต
ร้านอยู๋บนถนนช๊อปปิ้ง Shinsaibashi เลย
ชามีหลายแบบ มีกล่องชาสวยมาก เหมาะกับซื้อเป็นของฝาก
และมีช๊อคโกแลตชาเขียวเคลือบแอลมอล์ อร่อยมากด้วย
ส่วนเฮีย
สนใจเสื้อ uniqlo ตัวนี้
แต่ยังลังเลเรื่องความเทอะทะ เลยยังไม่ได้ซื้อ
พอตอนหลังไปตามล่าหาซื้อที่สาขาโตเกียว ก็หมดจ้า
เลยได้ตัวอื่นมาแทน
เราไปลองกรอบแว่นที่
... ร้าน Jin ...(ร้านแว่นตาสุดฮิตของญี่ปุ่น)
ตั้งใจจะตัดแว่นที่นี่ ตามคำแนะนำของน้องสาวเฮีย
ก็ไปลองกรอบ แต่ยังไม่ได้ตัด เพราะเวลาน้อย
เลยตั้งใจไปตัดแว่นที่สาขา โตเกียว
เดินเล่นไปเรื่อยตั้งแต่ 11 โมงจนค่ำ
ก็เก็บบรรยากาศแถบนี้ครบถ้วน
เล่นกล้องที่ตึก มีรูปเราในจอด้วย
ก่อนไป check in รร.
เฮียก็หาอะไรรองท้องก่อนนิดนึง
มาได้ ทาโกะยากิ ( takoyaki ) กินเล่นอร่อยดี
จริงๆร้านนี้เราเคยกินเมื่อมาญ๊่ปุ่นรอบที่แล้ว มันอร่อยดี
รอบนี้ก็เลยซ้ำแบบไม่สบายใจ
** เราแนบแผนที่ทำมือของเราไว้ด้วย ชื่อร้านนี้คือ ... ทาโกะยากิไวน์ขาว **
เฮียยังไม่หนำใจ ไปต่อราเมนมังกร
(มีในแผนที่ด้านบน)
ร้านนี้เฮียอยากลองตั้งแต่มาญี่ปุ่นรอบที่แล้ว แต่ไม่มีโอกาส วันนี้เลยได้ลอง
ราเมนมังกร เป็นราเมนสไตล์จีน
ยืนกินข้างทาง ร้านใกล้ๆทางลง14 subway
อิ่มพอสมควร ก็ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ locker
แล้วใช้รถไฟใต้ดินสาย midosuji line
จากสถานี Namba (M20) ไปลงสถานี Esaka (M11)
นั่งสบายยาวไปเลย 10 สถานี
เพื่อไปโรงแรม Shin Osaka Esaka Tokyu REI Hotel
VDO clip ช่วงเช้าของวันนี้
ขอให้มีความสุข กับ Trip ของคุณ