...บล๊อกสบายๆ สไตล์ของฉันเอง...
"
Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
17 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ประสบการณ์ (อันแสนจะอ่อน)

เห็นเขาใช้กล้อง DSLR กัน ใจนึงก็อยากจะซื้อมั่ง..แต่มาหวลคิดถึงอดีต ตอนที่ซื้อกล้องตัวแรก ก็เลยคิดว่าไม่เอาดีกว่า...

.....วันนี้ก็เลยลองรื้อเจ้ากล้องตัวนั้นออกมาดู...มันถูกเก็บอยู่ในถุงกันความชื้นอย่างดี (ตามทฤษฎี)..แต่ไม่เคยเปลี่ยนสารดูดความชื้นเลยเกือบสิบปีแล้วมั้ง...





...หยิบมันขึ้นมาดู(พอจะนึกสภาพออกอยู่แล้วว่ามันควรจะเป็นยังไง)..ลองง้างคานขึ้นฟิล์ม ลองกดชัตเตอร์ดู ทุกๆความเร็ว..เออมันยังใช้ได้...แต่ลองเล็งในช่องมองภาพ มันฝ้าหมดแล้ว..ราตรึม...

..........ก็เลยมานั่งคิดถึงความหลังตอนที่ซื้อมันมา.......

..............เมื่อตอนที่ฉันยังเรียนอยู่แถวๆสามย่าน กลุ่มวิชาเอกของฉันมีวิชาบังคับอยู่วิชานึงคือ การถ่ายภาพเบื้องต้น ความจริงฉันชอบถ่ายรูปมานานแล้ว แต่ว่าไม่ได้เน้นในเรื่องของศิลปะทางด้านนี้ซักเท่าไหร่..จริงๆแล้วฉันคิดว่าฉันอยากจะแอ๊คกับกล้องของฉันมากกว่า(ความคิดแบบกบในกะลาครอบน่ะ) กล้องของฉันเป็นของที่พ่อซื้อมาจากเวียตนามเมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น เป็นกล้องระบบเร้นจ์ไฟเดอร์ ยี่ห้อ YASHICA รุ่น Electro 35 ตอนนั้นฉันคิดว่าโก้ที่สุดแล้ว สำหรับเด็กอย่างฉัน จะไม่โก้ได้ยังไง ก็ยุคนั้นมือสมัครเล่นทั่วๆไปเขาใช้กล้องพวกอินสตาเมติก ยกขึ้นถ่ายอย่างเดียวไม่ต้องปรับอะไร ฟิล์มก็เป็นแบบกลัก ถ่ายหมดแล้วก็ถอดออกส่งไปล้างได้เลย..แต่ของฉันปรับโฟกัสได้ ปรับรูรับแสงได้ ฟิล์มก็เป็นแบบม้วน(อย่าที่เห็นมาถึงเดี๋ยวนี้) จะต้องมีการโหลดเข้า กรอออก..สุดจะโก้....ทีนี้พอมาถึงตอนที่ได้เรียนวิชานี้.....โอ้โฮ อะไรกัน...เพื่อนๆ ใช้ PENTAX K1000 (มารู้ทีหลังว่าสมัยนั้นนิยมมากในหมู่นักศึกษา) งั้น ใช้ CANON ใช้ MINOLTA งั้น ฉันดูแล้วแปลกๆเมื่อเทียบกับของฉัน กล้องอะไรฟระ ช่องมองภาพก็ตันๆ มองแล้วทะลุไปทางไหน..งง...ทดลองหยิบของเพื่อนมาเล็งนู่นเล็งนี่อยู่ซักพัก ถึงได้รู้ว่า..อ๋อ..มันมองเห็นผ่านเลนซ์ตรงๆ เลนซ์มันเห็นยังไง เราก็เห็นหยั่งงั้น (ผิดกับเร้นจ์ไฟเดอร์ของฉัน) .. เพื่อนๆบอกว่า เขาเรียก กล้อง SLR (ตอนนั้นฉันไม่รู้หรอกว่ามันย่อมาจากคำว่าอะไร) และฉันก็คิดว่า....เข้าท่าแฮะ...

..............ตอนนั้นในใจก็คิดว่าอยากจะได้มั่ง แต่ก็ได้แต่ฝัน...โธ่..ได้ตังค์มาเรียนวันละ 50 บาท ค่ารถ กับค่าอาหาร ก็แทบจะไม่พอแล้ว จะเอาที่ไหนมาเก็บ จริงๆรู้มาว่า PENTAX K1000 ตอนนั้น ตัวละไม่กี่พันหรอก แต่สำหรับฉันมันก็เกินเอื้อมอยู่ดี

..............ทีนี้ในช่วงที่เรียนถ่ายภาพ ซึ่งจริงๆในหลักสูตรที่เรียน ก็ไม่ได้เน้นในเรื่ององค์ประกอบ และแสง ซักเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าจะเน้นไปในเรื่องของการปรับ และใช้กล้องขั้นพื้นฐานมากกว่า แล้วก็ไปเรียนรู้ในเรื่องของการปฏิบัติการในห้องแล็ปไปโน่น...ในระหว่างที่เรียนนี่แหละ ฉันก็เริ่มได้ข้อมูลซ้ำๆ อยู่ข้อหนึ่ง คือ ถ้าจะมีกล้องแล้วให้ดูเหมือนโปรซักหน่อย ก็ควรจะเป็นกล้องที่ใช้ระบบแมนวลล้วนๆ และที่มักจะใด้รับคำแนะนำอยู่เสมอทั้งจากอาจารย์ และเพื่อนๆ ก็คือ Nikon FM พร้อมเลนซ์ ซูม 35-105 มม. .......นี่แหละ...มันฝังอยู่ในหัวฉันตลอดมา.......ถ้าได้ทำงานเมื่อไหร่ จะต้องซื้อชุดนี้ให้ได้..

................ต่อมาพอเรียนจบ และมีงานทำ(ความจริง "ฝุ่น" อยู่หลายปี) ก็ไม่ได้นึกถึงแล้ว เพราะส่วนมากจะหนักไปทางตะแล็ตแต๊ดแต๋ ไม่เคยได้เก็บเงินเป็นชิ้นเป็นอัน จนมีอยู่วันหนึ่ง เจ้านายใช้ให้ไปถ่ายรูป หน้างานอะไรซักอย่าง จำไม่ได้ เอากล้องของหลวงให้ไป เป็นกล้องคอมแพ็ค (ฟิล์ม) ใช้งานง่ายๆ ฉันถ่ายมาแล้ว ได้รูปไม่ถูกใจเลย ฉันเคยถามนายว่า ทำไมไม่ของบซื้อกล้องดีๆใช้ล่ะ นายก็ตอบว่า แล้วจะมีคนใช้เป็นซักกี่คนฟระ...ทีนี้ไอ้ความคิดเดิมสำหรับกล้องชุดนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมอง...เราซื้อใช้เองอวดนายเล่นดีกว่า...ฉันก็เลยพักการแต๊ดแต๋..เก็บเงินอยู่เกือบ 2 เดือนมั๊ง ได้มาประมาณ 3 หมื่น(เงินเดือนไม่พอกินหรอก แต่รายได้พิเศษยุคนั้นดีมากๆ) เริ่มหาข้อมูลเรื่องราคา ความจริงยุคนั้น กล้อง SLR เขาก็นิยมแบบออโต้โฟกัส กันแล้ว แต่ไอ้ความคิดเดิมๆ ว่ามือโปร ต้องใช้กล้องแมนวล มันก็ยังอยู่แน่นในหัวของฉัน...เอาละทีนี้พอเห็นว่าฉันเก็บเงินพอซื้อได้แล้ว ก็ไปซื้อเลย คิดดูจากตอนที่ฉันได้ข้อมูลสมัยเรียน กับตอนที่ฉันไปซื้อ เวลามันห่างกันตั้งสิบกว่าปี...เทคโนโลยีของกล้องมันไปถึงไหนแล้ว...แต่ฉันก็ยังฝังใจอยู่กับกล้องชุดนี้..จริงๆแล้วมันเป็นการโง่แกมหยิ่งของฉันเอง ฉันไม่เคยศึกษาเรื่องกล้องเลย ไม่เคยจับกล้องชุดนี้เลย เรียกว่าไม่เคยเห็นเลยดีกว่า...ฉันไปซื้อที่ร้านตัวแทนจำหน่าย แถวๆตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว ชื่อร้านอะไรจำไม่ได้ เดี๋ยวนี้ก็ยังเห็นอยู่ ตอนนั้นตัวกล้องรุ่นนี้ที่ร้านหมด มีแต่เลนซ์ แต่เขาก็โทรสั่งมาให้ และบอกให้รอประมาณสาม-สี่ชั่วโมง ฉันก็รอ คิดดูอยากได้ขนาดไหน พอของมาฉันก็หยิบมาเล็งโน่นเล็งนี่อยู่แป๊บนึง(ตามฟอร์ม) แต่ไม่ได้ดูอะไรจริงจังหรอก ฉันจำได้ว่าเตรียมเงินไป 3 หมื่น เหลือกลับมาไม่ถึง 3 พัน ของประกอบทุกชิ้นต้องซื้อทั้งหมด ไม่มีการแถม...ของแบรนด์นี้แต่ละชิ้นราคาไม่ใช่น้อย.......

............พอได้มาแล้วก็เริ่มทดลองถ่าย.....นั่นแหละ ฉันถึงได้รู้ความอ่อนประสบการณ์ของฉัน ที่ไม่ศึกษาให้ดีก่อน (จริงๆสมัยนั้นฉันจะไปหาลองได้ที่ไหนล่ะ)........ฉันสายตาสั้น.....มองในช่องมองภาพไม่ชัด ปรับโฟกัสไม่แม่น....จบเห่เลย..เรื่องกล้องระบบแมนวล..ถ่ายรูปออกมาก็ไม่สวยอย่างที่ฝัน (ความจริงฉันฝีมือห่วยเองต่างหาก)..ไหนจะค่าฟิล์ม ค่าล้างอัด..ไม่สนุกซะแล้วซี....รู้สึกว่าฉันจะใช้มันถ่ายรูปไปไม่น่าจะเกิน 20 ม้วน แล้วก็เก็บใส่ถุงทิ้งไว้จนลืม....

............พอมาเริ่มเล่นคอมฯ ก็เริ่มรู้เรื่องของกล้องดิจิตอล..เอาอีกแล้ว..ยุคแรกๆ เห็นมีของโซนี่ ระบบก็ไม่เท่าไหร่ แต่ราคาแทบกระอัก..จนต่อมาราคาเริ่มถูกลง ประสิทธิภาพก็ดีขึ้น ก็เลยตัดสินใจซื้อมั่ง..เห็นเขาเรียกว่า DSLR LITE (ไม่รู้ว่าจริงๆ ในสารบบมันมีหรือเปล่า) ฟังดูมันก็โก้ดี...เกือบๆจะ DSLR ว่างั้น....ถ่ายรูปออกมาก็ใช้ได้..รู้สึกว่าจะมันส์มากซะด้วยซี ไม่ต้องกังวลว่าฟิล์มจะหมดนึกอยากจะถ่ายก็ถ่าย ไม่ต้องไปสนใจ ถ้าไม่ดีก็ลบทิ้งไป ถ่ายแล้วเห็นเลยด้วยว่ารูปเป็นยังไง ไม่ต้องรอลุ้นแบบกล้องฟิล์ม แถมเราไม่ต้องไปอัดทุกรูปแบบกล้องฟิล์มด้วย และยิ่งเดี๋ยวนี้ เครื่อง Print ดีๆ ราคาก็ไม่เท่าไหร่ พิมพ์รูปเอง ไม่ต้องไปเสียเงินอีก....ตอนนี้ฉันซื้อใหม่อีกตัวนึงแล้ว แต่ก็เป็นกล้องแบบเดิม ฉันชอบตรงที่ระยะซูมมันกว้างดี ถ่่ายออกมาแล้วสวยน้อยหน่อย ก็ช่างมันเหอะ เอาติดตัวไปไหนก็ง่าย ไม่ต้องพกเลนซ์หลายๆตัวให้วุ่นวาย...ส่วนไอ้เรื่องกล้อง DSLR จริงๆนี่ ฉันคิดว่าถ้าฉันไม่ได้ลองสัมผัสกับมันอย่างจริงจัง ฉันไม่ซื้อเด็ดขาด....เข็ดแล้ว...


Create Date : 17 เมษายน 2553
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 2:04:45 น. 29 comments
Counter : 2145 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:9:26:03 น.  

 
มาเยือนกันจาก //www.thai-school.net/wanarat


โดย: พริกดิบ (พริกดิบ ) วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:9:29:39 น.  

 
^

( คุณ หาแฟนตัวเป็นเกลียว )

มันเลยวันสงกรานต์มา 2 วันแล้วค่ะ เคี้ยกเคี้ยก .



โดย: yosita_yoyo วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:13:12:18 น.  

 
ตามมาดูจ้า
ว๊าว....Nikon ตัวนี้ดูขลังมากเลยค่ะ
สาวก Nikon เหมือนกัน
ตอนนี้ใช้ D5000 อยู่ค่ะ



โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:22:18:53 น.  

 
อ่านเพลินเลยครับ ^^

ผมเพิ่งหัดถ่ายรูปไม่กี่ปี
แรกสุดก็ใช้ Compact แล้วพัฒนาเป็น DSRL Like
เพิ่งจะได้ซื้อ DSLR จริงๆ เมื่อปีที่แล้วเองครับ
เรื่องกล้องฟิล์มไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยใช้เลย

DSLR สมัยนี้มี Auto Focus นะครับ
แล้วก็ปรับ view finder ให้เข้ากับคนสายตาสั้นได้ด้วย
จะเลือกถ่ายแบบ Auto ทั้งหมด หรือ ปรับ Mannual ทั้งหมด/บางส่วน ก็ได้ครับ



โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:11:30:36 น.  

 
...ขอบคุณ คุณพลทหารไรอันนะจ๊ะ..สำหรับข้อมูล..

..ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ด้วยจ้ะ...


โดย: ก้นกะลา วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:16:45:17 น.  

 
DSLR ไมไ่ด้ยากอย่างที่คิด

ซื้อมาเลยเดี๋ญวก้อเก่ง เราก้อมือใหม่

แต่ก่อนซื้ออ่านเยอะๆ จะได้เลือกที่เหมาะกับเรา และราคาเป็นมิตร อิอิ


โดย: หมูน้อย (gadupong ) วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:18:33:48 น.  

 
ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม

ที่ถามมา...โหลดภาพให้อยู่ตรงกลาง ทำยังไง...หมายถึงภาพbackgroundหรือภาพอะไรครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:22:48:16 น.  

 
หลังจากเข้า พาสเวิดบล๊อกแก๊งแล้ว เข้าไปที่จัดการ แก้ไขblog
1,2.ขวามือจะมีหัวข้อที่เราสร้าง ของคุณ "ประสบการณ์..."
คลิก แก้ไข

3.Enter 1 บรรทัด เพื่อวาง

(คำว่า
ขึ้นหลังจากทำข้อ 4 ครับ)
4.คลิกเมาส์ที่ตำแหน่งจัดตรงกลาง เหมือนพิมพ์พวกไมโครซอฟเวิดครับ

ส่วนการแก้ไขข้อความที่พิมพ์ผิดก็พิมพ์จากข้อความในหน้านี้ได้เลยครับ

ถ้างงถามได้อีกนะครับ ยินดีสอนแบบมือใหม่


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:9:20:06 น.  

 
หน้า ทีมีคำว่า online แก้ไข ลบ
ใช้เมาส์คลิกคำว่า แก้ไข
ขออภัยข้อ 3 (3.Enter 1 บรรทัด เพื่อวางคำว่า center)


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:9:27:55 น.  

 
กำหนด หน้า กล้อง ของคุณให้เป็นหน้าแรกเวลาเปิดบล๊อก

หลังจากเข้า พาสเวิดบล๊อกแก๊งแล้ว เข้าไปที่จัดการ แก้ไขblog

ซ้ายมือ คลิก กำหนดกลุ่มย่อย default

ขวามือ Group Blog ประเภท รหัสผ่าน กลุ่มย่อย default
คลิกในวงกลม Group Blog ถ่ายภาพสมัครเล่น หน้าหลักให้เป็นสีเขียว

ลองทำดูครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:10:28:39 น.  

 

รูปจากจอ..ที่คุณใช้ประกอบในการอธิบายน่ะ..เซฟเอามายังไง.
กดปุ่ม print screen ที่คีย์บอร์ด แล้วเข้าโปรแกรม paint
เข้าเมนู edit คลิกที่คำว่า paste(วาง) ก็จะได้รูปจากจอ แล้วเซพ เสร็จแล้วครับ


โดย: เศษเสี้ยว (เศษเสี้ยว ) วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:9:07:59 น.  

 
นั่นมันฟิล์มนี่!!!


โดย: แม่นางหลินฮุ่ย วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:7:41:07 น.  

 
โอ้ว รุ่นเดอะเลยค่ะ ^^

เคยใช้กล้องฟิล์มสมัยเด็กๆ แต่ก็ไม่ใช่กล้องโปรอะไร กล้องคอมแพคป๊อกแป๊กธรรมดานี่เองค่ะ

ปัจจุบันก็ยังเอื้อมไม่ถึง DSLR นะคะ เต็มที่ก็ DSLR Like แต่ก็ยังเป็นคอมแพ็คอยู่ดีค่ะ

ยิ่งตอนนี้มาเจอกล้องตัวกระจิ๋วหลิ๋วแต่ถูกใจ ยิ่งไม่ได้จับคอมแพคตัวใหญ่เลย ไม่ได้เปิดกระเป๋าดูมาจะ 3 ปีแล้วมั้ง เดี๋ยวไปดูหน่อยดีกว่า ยังอยู่ดีมั้ยเนี่ย แอบกลัวเปิดมาเจอราเหมือนกันนะคะ


โดย: แม่นางจันทร์เจ้า วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:11:20:12 น.  

 

แวะมาทักทายก่อนนอน

goodnight


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:22:30:21 น.  

 



โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:7:57:58 น.  

 
หวัดดีค่ะ เคยมี Nikon แบบใช้ฟิลมเหมือนกัน ชอบเพราะสีสันสดใสดี เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนมาใช้ DSLR แต่ก็ยี่ห้อนี้ค่ะ
ชอบถ่ายรูปเพื่อเก็บความประทับใจไว้นานๆ
ขอบคุณค่ะที่แวะเข้าไปรำลึกถึงปูเสฉวนด้วยกัน
ขอให้มีความสุขทุกๆวันค่ะ


โดย: Chefin วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:12:02:11 น.  

 

โปรดฟังอีกครั้ง

ขณะนี้คณะบล๊อกแก๊งส์ ยึดบล๊อกนี้เรียบร้อยแล้ว

โปรดฟังอีกครั้ง



โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:21:23:19 น.  

 


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:9:04:26 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปทักทายค่ะ


โดย: north_star224 วันที่: 29 เมษายน 2553 เวลา:8:47:50 น.  

 
สวัสดีจ้า

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะจ๊ะ

ตามกลับมาเจอหน่าบล๊อคว่างๆ ของกรุ๊ปตัวอย่าง ต๊กใจหมด...คลิคไปมาจึงเจอบล๊อคนี้ ฮิ ฮิ ฮิ

ยังไงลองไปแก้ไขในตรงตั้งค่ากรุ๊ปบล๊อคดูนะจ๊ะ ว่าจะให้กรุ๊ปไหนเป็นหน้าแรกจ้า



โดย: merecat วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:16:28 น.  

 
อ่านเพลินเลยครับ เป็นความทรงจำที่สวยงามครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:40:35 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ ค่ะ

เสียดายจังค่ะ กล้องนี้ถ้ายังใช้ได้ก็ดีดิเนอะคะ
classic สวยดีอ่ะ ^^

เรียนถ่ายภาพด้วย ดีจังเลยค่ะ

ถ่ายภาพเอามาลงที่นี่ดูด้วยกันนะคะ
แนะนำเรื่องถ่ายภาพเราบ้างนะคะ หัด ๆ อยู่ค่ะ
กว่าจะได้รูปนึงที่ชอบ ....
แหะ ๆ ก็ต้องดูผ่านไปหลายร้อยรูปอ่ะ


:)


โดย: wujirab วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:28:18 น.  

 
กล้องที่ได้ใช้เป็นตัวแรก เป็นกล้องฟิลม์ธรรมดา
ราคาไม่ถึงพัน ได้ใช้เพราะจะไปทัศนศึกษา ตอน ม ต้น

พอได้เล่น ได้ถ่ายภาพ ก็รู้สึกได้เลยว่า
เรามีความสุขในการในเก็บภาพต่างๆ

ตอนนี้ก็เลย ชอบถ่ายภาพ
ใช้มันทุกกล้อง กล้องมือถือ กล้องคอมแพ็ค
หรือ DSLR

ขอบคุณที่แวะไปทักทาย ชมภาพถ่ายนะครับ


โดย: สุดท้ายก็ชื่อนี้ วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:12:52 น.  

 
ผมว่าเมื่อมีพื้นฐานเรื่องการวัดแสงอยู่แล้ว DSLR ง่ายนิดเดียว จะรอชมภาพอยู่นะครับ


โดย: OxyMan วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:19:05 น.  

 
สวัสดีครับ ขอบคุณครับที่แวะไปชมภาพน่ะครับ
กล้องรุ่นนี้เหมือนของพ่อผมเลยครับ เคยเอามาขอดูมีราขึ้นเหมือนกัน อิอิ เป็นรุ่นที่ต้องอนุรักษ์ไว้เลยครับ
ตอนนี้ก็เพิ่งถอยDSLRมาได้3เดือนเองครับ เป็นรุ่นธรรมดาๆ แต่จะแพงหรือว่าจะธรรมดาก็ขอแค่มีความสุขกับการถ่ายภาพก็พอแล้วนิเนอะ ^^
เอาไว้จะรอชมภาพน่ะครับ


โดย: patarapol-juri วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:24:00 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เห็นภาพของกล้องถ่ายรูปแล้วก็พอจะเดาอายุของ จขบ. ได้ครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:39:03 น.  

 
กล้องสภาพสวยทีเดียว เป็นกล้องในฝันเหมือนกัน เพื่อนๆเค้าใช้กัน แต่ผมมีแต่canonเพราะชอบระบบออโต้ซึ่งทำมาก่อนnikonเพิ่งจะมาได้ใช้ก็เป็นรุ่น10ซะแล้ว แระก็โดดมาใช้d60หลังจากได้ลองcompactมาหลายตัว ถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกที่ให้ความเพลิดเพลินดี ไม่ได้เรียนมาแต่ชอบครับมีกล้องตั้งแต่เด็กสมัยนั้นมีให้เช่ากล้องก็เริ่มด้วยวิธีนี้แหละ ถ่ายม้วน1ค่าใช้จ่ายประมาณ200บาท ในขณะที่ราคาทองตอนนั้นบาทละ400 ถ้าหากปัจจุบันค่าใช้จ่ายเป็นครึ่งหนึ่งของราคาทองคนที่เล่นถ่ายด้วยฟิล์มได้ต้องเป็นเศรษฐีมีอันดับแน่ๆ แวะมาคุยด้วยครับ


โดย: ไอร้อนแรง วันที่: 11 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:03:56 น.  

 
ตัวกล้องสวย ให้ความรูสึกดูดีมีชาติตระกูลมาก ๆ จ้า


โดย: minute waltz วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:9:21:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ก้นกะลา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




..นี่คือบันทึกของฉัน.. ฉันเพียงต้องการแสดงความรู้สึก ความในใจของฉันเท่านั้น...ฉันไม่ต้องการขัดแย้งกับใคร..จะไม่คิดพาดพิงอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ใครๆทั้งสิ้น...ฉันจะไม่พยายามฝ่าฝืนสังคม ถึงแม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างมันจะไม่ตรงกับใจฉันก็ตาม...
New Comments
Friends' blogs
[Add ก้นกะลา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.