|
 |
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
 |
16 มีนาคม 2550
|
|
|
|
Bridge to Terabithia
วรรณกรรมเยาวชนเจ้าของรางวัลนิวเบอรี่ เมดัลประจำปี 1977 เขียนโดยคาเธอรีน ปีเตอร์สันผู้ได้รับแรงบัลดาลใจจากการสูญเสียเพื่อนของลูกชายเธอ เดวิด ปีเตอร์สัน (ลูกชายเธอ) ก็เป็นหนึ่งในทีมเขียนบทและเป็นผู้อำนวยการสร้างเองซะด้วย
ชื่อ Bridge to Terabithia นั้นดัดแปลงมาจากเกาะ Terebinthia ในหนังสือเจ้าชายแคสเปี้ยน (Prince Caspian) และผจญภัยโพ้นทะเล (The Voyage of the Dawn Treader) ของซี.เอส.ลูอิสค่ะ
ตัวหนังเคยถูกสร้างมาแล้วในปี 1985 นะคะ หนังกล่าวถึงการพบกันของเด็กน้อยผู้โดดเดี่ยว 2 คน เจสส์ แอรอนส์ จูเนียร์และเลสลี่ เบิร์คค่ะ หนังเปิดตัวง่ายและสั้นบอกเราถึงสถานะของเจสส์ในบ้าน รองเท้าเก่าเก็บที่ยังใช้ใส่ซ้อมวิ่ง บอกถึงสถานะครอบครัวได้ดี พ่อที่แทบจะไม่มีเวลาเกลาลูกชายคนเดียว และถึงมีเวลาก็ไม่รู้วิธีแสดงออกถึงความรัก
ส่วนเลสลี่นั้นเป็นสาวข้างบ้านที่เพิ่งย้ายมา เธอวิ่งแข่งชนะผู้ชายทุกคนในโรงเรียน รวมทั้งเจสส์ด้วย 2 คนที่ต่างก็มีความเหงาลึกๆในใจ เพราะไร้เพื่อนเหมือนๆกัน กลายมาเป็นเพื่อนสนิท และเริ่มสร้างอาณาจักร Terabithia ขึ้นจากจินตนาการค่ะ หนังยังมีเรื่องราวให้ติดตามต่อไปอีก
และก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า คนที่ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อน แล้วได้รู้และดูมาแค่หนังตัวอย่าง ย่อมคาดหวังว่า จะได้พบกับมหากาพย์แฟนตาซีผจญภัยเรื่องใหม่ในแนวเดิมๆ ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า... หนังเรื่องนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหรอกค่ะ
ตัวโครงเรื่องเองมีความเป็นดราม่าสูงและเป็นสากลกว่านั้นเยอะ แทบจะทุกอณูของหนังที่มีทรัพยากรทำเป็นหนังดราม่าหนักๆได้เรื่องนึงเลยทีเดียว แต่ก็อนิจจา... ผู้กำกับหาตลาดให้กับหนังของตัวเองไม่เจอค่ะ ไม่รู้จะเจาะกลุ่มเป้าหมายไหนดี วางตำแหน่งของหนังตัวเองผิดพลาดอย่างมหันต์ กลายเป็นหนังครึ่งๆกลางๆ กลับไม่ได้ไปไม่ถึง จะเล่นความตระการตาจากเทคนิค CG ก็ทำได้เท่าที่ตัวหนังสือจะเอื้ออำนวย หรือจะเล่นดราม่าซะทีเดียว ก็กลัวจะเสียฐานลูกค้าเด็กและเยาวชน ภาพของหนังที่ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองตัดสินใจจูงลูกหลานเข้าไปดูจึงเจื่อนๆพิกลๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังคาดหวังเลยเถิดไปคนละทิศคนละทาง
ดูแล้วให้เสียดายในทรัพยากร เสียดายในบทประพันธ์ เสียดายฉากที่น่าจะทำออกมาได้สื่อและกินใจมากกว่านี้ เสียดายแง่งามที่ซ่อนอยู่ แต่ไม่ได้ถูกนำมาเสนออย่างมีนัยสำคัญ กลายเป็นหนังหน้าตาฉลาดน้อยไปซะอย่างงั้น เฮ้อ... นั่งดูไปถอนหายใจไป
โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันชอบดูความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชายค่ะ ฉากที่เรียกน้ำตาเรานั้น จึงถือว่าทำออกมาได้พอใช้ วางจังหวะกำลังดี
ตัวละครเด็กหน้าตาน่าเอ็นดูค่ะโดยเฉพาะหนูน้อยเมย์เบลล์ บทคุณครูสอนดนตรีสาวมีน้อยไปนิด แต่ก็ทำให้เราเชื่อและรู้สึกหลงรักได้จริง
แต่ก็อย่างที่เรียนไว้ข้างต้นค่ะ หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าลึกซึ้ง และก็ยากเกินกว่าที่ผู้กำกับจะเข้าใจได้ น่าเสียดายจริงๆ
ขอแสดงความนับถือ
Create Date : 16 มีนาคม 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 17 มีนาคม 2550 10:55:39 น. |
Counter : 833 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: bigwores 31 มีนาคม 2550 14:45:53 น. |
|
|
|
| |
|
 |
Gloomy Sunday |
|
 |
|
|
ได้ยินมาเหมือนกันนะคะ ว่าไม่มีกราฟฟิคเอยะแบบนาร์เนีย
แต่เค้าดันโปรโมตมาแบบนี้เลยเข้าใจผิดกัน
ส่วนตัวเองก็คิดไปแบบนั้นเหมือนกัน
สงสัยต้องโดนคนดูบ่นแน่เลย ว่าผิดหวัง
งึ่มๆๆๆ