|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
21 เมษายน 2550
|
|
|
|
Hannibal Rising
มีนักเขียนหนึ่งในน้อยเหลือเกิน ที่จะสามารถขายนิยายของตัวเอง ให้ขึ้นจอเงินได้ทั้งหมด ทุกเรื่อง โธมัส แฮร์ริสคือนักเขียนคนนั้นค่ะ เขียนหนังสือมาแค่ 5 เล่มเท่านั้น และทั้ง 5 เล่มนี้ ล้วนได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แล้วทั้งสิ้น เล่มล่าสุดอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้วนะคะ ขึ้นจอในนาม Hannibal Rising ค่ะ
หนังทำออกมาในลักษณะ prequel โดยพาเราย้อนกลับมาสู่จุดเริ่มต้น ของด็อกเตอร์เล็คเตอร์ เจ้าของฉายามนุษย์กินคน ดูสาเหตุแห่งความวิกลจริต การเปลี่ยนรูปแบบก้าวกระโดดของจิตใจด็อกเตอร์เล็คเตอร์ การตามล่า ล้างแค้น เหมือนนั่งดูวัยเยาว์คนใหญ่ยังไงยังงั้น
เราได้รู้ว่าด็อกเตอร์เล็คเตอร์ เป็นชาวลิธัวเนียที่เป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 มิสชาหรือน้องสาวของด็อกเตอร์เล็คเตอร์ เป็นตัวละครในหนังสือ Hannibal และเรารู้ชะตากรรมของเธอมานานแล้วค่ะ หนังมาสร้างส่วนขยาย เติมเต็มจินตนาการให้แก่เรา ฟังดูเหมือนจะดีนะคะ แต่เดี๋ยวจะบอกค่ะว่า เลวอย่างไร
ตัวละครของด็อกเตอร์เล็คเตอร์นั้นถูกสร้างอย่างมีมิติโดยนักแสดงชั้นครู เซอร์แอนโธนี่ ฮอปกินส์ สร้างตัวละครที่น่าจดจำในความน่ากลัวบนเจอเงินมากที่สุดตัวหนึ่ง อัจฉริยะ มีรสนิยม และที่สำคัญคือ
กินคนค่ะ กินแบบเยียบเย็น อำมหิตเลยทีเดียว เหล่านี้ทำให้ ชื่อ ของด็อกเตอร์เล็คเตอร์นั้นยังคงสดใหม่ในการขาย ด้วยเชื่อขนมกินได้ว่ายัง ขายได้ (แต่ต่อจากภาคนี้ไป ดิฉันชักไม่แน่ใจ) เป็นบ่อเงินบ่อทองในการเรียกเงินจากกระเป๋าคนดู
โดยรวมแล้วบรรยากาศในหนังนั้นคุมโทนให้เป็นหนังสยองขวัญ ไม่น่าวางใจ หากแท้ที่หนังเป็นได้ ก็แค่สยองขวัญ
แบบดาดๆ
ผู้เขียนเลือกที่จะดูหนังเรื่องนี้ ด้วยเพราะคนเขียนบทดั้งเดิมและบทดัดแปลงนั้นเป็นคนๆเดียวกันค่ะ แฮร์ริสยังสร้างบรรยากาศชวนสยองได้ดีเหลือใจ แต่เฉพาะในหนังสือเท่านั้นนะคะ (เสียดายแทนหลายๆคนขึ้นไปอีก ที่คุณสุวิทย์ ขาวปลอด ไม่ได้แปล Hannaibal Rising ให้เราได้อ่านกันนะคะ) ไม่ใช่บนจอใหญ่ที่พาเราเสียเวลามานั่งดูแน่ๆ
ผู้เขียนนั่งดู แต่กลับมองไม่เห็นอดีตของ ด็อกเตอร์เล็คเตอร์ ตรงหน้าเลย มองเห็นแต่เด็กหนุ่มหน้าตาโรคจิต ที่ปราศจากความน่ากลัว ไร้ความลุ่มลึก ยิ่งแววพรนรกอย่างที่ฮอปกินส์เคยสร้างไว้นี่ หาไม่เจอ
อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าฮอปกินส์มาเล่นแทนแล้วล่ะก็ ท่านเซอร์ของเราจะตีความบทเหล่านี้อย่างไร สร้างความเชื่อมโยงกับความอำมหิตที่มีเสถียรภาพสูงสุดในปัจจุบัน ได้น่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน
เหล่านี้คือสิ่งที่น่าเสียดาย และกลายเป็นข้อผิดพลาดแรกของหนัง นักแสดงหนุ่มน้อยหน้าใหม่ขาดความลุ่มลึกตรงนี้ล่ะค่ะ ตีบทได้ตื้นเขินเกินไป ตัวละครที่ดูเสียสตินั้น แบนราบและไร้มิติ ขาดเสน่ห์โดยสิ้นเชิง ไม่มีความอำมหิตในดวงตา ในน้ำเสียง และในการแสดงออก พูดง่ายๆคือ มือยังไม่ถึง ที่จะแบกรับน้ำหนักของตัวละครตัวนี้ได้หมด ข้อเสียเพียงข้อแรกนี้ ก็ใหญ่เกินกว่าที่จะมองข้ามผ่าน และร้ายแรงเกินกว่าจะให้อภัยได้
กงลี่มาสร้างแนวทางที่แปลกให้กับหนัง เป็นตัวละครใหม่ที่เราท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน สิ่งหนึ่งที่กงลี่ เป็นและ สลัดไม่หลุด คือภาพลักษณ์ ของความเป็นผู้หญิงแกร่ง สง่า และตัวหนังก็ใช้เธอคุ้มเลยทีเดียว กงลี่ทำได้ดีนะคะกับบทเลดี้มุราซากิ ยังดูมี อะไรๆ ให้ได้คิด ให้ได้ดูมากกว่าตัวเอกของเราอีกค่ะ
คงเป็นไปอย่างที่ใครบางคนว่านะคะว่า ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเจ็บ ตัวละครที่สร้างสัมพันธภาพกับเราไว้ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำร้าย และสร้างความเสียใจให้เราได้มากเท่านั้น
เฮ้อ
แล้วที่ทิ้งช่วงเวลาไว้ โดยหวังว่าจะมีภาคต่อ ไม่กล้าบอกเลยค่ะ
ว่าจะรอ จะรอ เหมือนเคย
ขอแสดงความนับถือ
Create Date : 21 เมษายน 2550 |
|
7 comments |
Last Update : 26 สิงหาคม 2550 3:00:56 น. |
Counter : 809 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: Kino (das Kino ) 22 เมษายน 2550 0:42:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฮันนิบาล IP: 61.7.139.205 6 กันยายน 2550 12:52:38 น. |
|
|
|
| |
|
|
Gloomy Sunday |
|
|
|
|