"No, thank you. I have had an elegant sufficiency..."
<<
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
18 กรกฏาคม 2551

The Dark Knight

ในช่วงสมัยหนึ่ง มนุษย์ค้างคาวในแบบแฟนตาซีของเบอร์ตัน
ได้รับการกล่าวขวัญกันว่า หม่นหมองเหลือเกิน
มีปมในใจที่ดูจริงจังเกินไปสำหรับฮีโร่คนนี้
เบอร์ตันเคยทำหน้าที่นั้นได้ดีจับใจ ยากที่ใครจะมาลบไปได้
จนบัดนี้ ผู้กำกับโนแลนทำสิ่งที่ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้
นั่นคือการตีความในแบบใหม่
ด้วยธีมหลักของเรื่อง ที่เผลอๆจะหม่นไปซะกว่าด้วยซ้ำ
ไม่มีฉากมืดทึมให้เห็นตลอดทั้งเรื่องอีกแล้ว
มีแต่ความมืดหม่นในจิตใจของตัวละครต่างหาก …ที่มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง

ผู้กำกับกอร์ดอนและมนุษย์ค้างคาวพบเส้นสายทางการเงินของมาเฟียนะคะ
พยายามที่จะหยุด "กระเป๋าเงิน" ของพวกมาเฟีย
และแน่นอนว่าต้องไปเหยียบหาง "เจ้าของเงินตัวจริง" เข้าอย่างจัง
ถึงตรงนี้ เมื่อมาเฟียจนหนทาง เลยขอยืมมือจาก "คนนอกวง" มาช่วย
โจ๊กเกอร์จึงได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ นั่นคือการ "ทำลายตัวตน" ของมนุษย์ค้างคาว
ด้วยโจ๊กเกอร์นั้นเชื่อค่ะว่า ไม่มีใครดีได้ทั้งหมด และไม่มีใครเลวได้ทั้งสิ้น
ทั้งสองอย่างนั้นรวมอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกชนชั้น
เนื้อเรื่องหลักๆมีเท่านี้ล่ะค่ะ
สำหรับที่เหลือ …คือความชาญฉลาดอย่างล้ำลึกของผู้กำกับโนแลน
ส่งผ่านสารที่มีน้ำหนัก ทรงพลังเหลือเกินมาสู่เรา

มนุษย์ค้างคาวมาถึงจุดที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น
ห่างไกลจากแบบฉบับเดิมๆในแนวแฟนตาซี
ที่เราเคยเห็น ของเล่นใหม่ๆ ตัวร้ายใหม่ๆ
จบแบบชนะใส ไม่มีอะไรนอกกรอบ
ไม่มีให้เห็นกันอีกแล้วล่ะค่ะ
ไม่ใช่เรื่องนี้ …ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว(ไม่ใช่มาตั้งแต่ภาคแรกแล้วด้วย)

ไม่มีอีกแล้วสำหรับความสำเร็จแบบสมบูรณ์แบบ
หากมีแต่ด้วนหม่นเศร้าที่ถูกปลดปล่อยออกมา
ไม่มีอีกแล้วสำหรับการก้าวกระโดดไปสู่ความสำเร็จแบบเบ็ดเสร็จ
หากแต่กลับกลายเป็นการก้าวย่างอย่างมั่นใจ ทีละก้าวๆ ไปสู่ทิศทางใหม่
ที่สำคัญหนังไม่สนุกนะคะ ต้องเรียนไว้ตรงนี้ว่า หนังไม่สนุกเลย
ด้วยหม่น และโศกเหลือใจ …หากแต่เป็นหนังที่ดีสุดเรื่องหนึ่งทีเดียวสำหรับดิฉัน

แต่นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่หลายๆคนคาดหวังจะได้มาดูเป็นแน่แท้ ใช่ไหมคะ ?
ผู้ชมหวังมานาน กับการจะได้ดูการแสดงของดาราผู้ล่วงลับ
พวกเขา "ยิ่ง" ไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นเลดเจอร์ในแบบเดิมๆ
แต่พวกเขาจะได้รับมากกว่านั้นค่ะ มหัศจรรย์กว่านั้นเยอะ
บทบาทที่ไร้ขีดจำกัดของเขาสร้างสิ่งที่น่าจดจำในจอไว้ได้ค่ะ
บทคนบ้า บ้าที่จะทำความเลว ชอบความยุ่งเหยิง
อัจฉริยะนะคะ สร้างตัวละครที่น่าจดจำได้ถึงเพียงนี้

ฉากที่โจ๊กเกอร์ถือชนวนระเบิดออกมาจากโรงพยาบาลนั้นน่านำมาศึกษายิ่งนัก
เดินเข้าหากล้อง เล่นกับชนวนระเบิด
และแล้วระเบิดก็ทำงาน …เป็นฉากหลังให้
วางท่าอย่างมีความสุข และเดินเตาะแตะเหมือนเด็กยังไงยังงั้น
เป็นความบริสุทธิ์ของเด็ก ที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี
หากแต่ตั้งหน้าตั้งตาสร้างความยุ่งเหยิงโกลาหล และวุ่นวาย
ก้าวผ่านเส้นแบ่งระหว่างความหายนะของประชาชน
และความบอบบางของระบบการต่อกรกับเหล่าร้าย
ความชั่วร้ายนั้นคือ โจ๊กเกอร์
แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี
...ไม่ใช่สำหรับคนไม่ดี(ในสายตาคนอื่น)อย่างมนุษย์ค้างคาว
...ไม่ใช่สำหรับคนดีอย่างอัยการเขตคนใหม่อย่างเดนท์
...และไม่ใช่แม้กระทั่งตัวคนเลวของจริงอย่างพวกมาเฟียด้วยซ้ำ
เพราะโจ๊กเกอร์ไม่สู้กับเราด้วยแบบแผนเดิมๆ
เพราะว่าเขาไม่ได้ถูกจูงใจด้วยสิ่งเร้าเหมือนเราๆท่านๆ
เขาแค่อยากเห็นโลกใบนี้ลุกไหม้ … อย่างที่อัลเฟรดได้เปรียบเปรยไว้
หนังเครียด หดหู่ อ้างว้าง สงัด และไร้หวัง
และโนแลนทำสำเร็จนะคะ
โนแลนต้องขอบคุณเลดเจอร์ในส่วนนี้ด้วย

การเปรียบเทียบตัวละคร 2 ตัว ให้เราได้เห็นจังๆ
ตัวแรกคือผู้ปิดทองหลังพระของเรา-มนุษย์ค้างคาว
คนบ้าการทำความดี ต้องการเห็นเมืองเป็นระบียบ
ตัวหลังคือตัวแทนความเลวไร้ขีดสุด-โจ๊กเกอร์
คนที่บ้าในการสร้างความยุ่งเหยิง (หรือความเลว-ในนิยามของเรา)
นั่นเป็นตัวแปรต้นของเรา

โดยมีอัยการไฟแรง-เดนท์ เป็นตัวแปรตามนะคะ
ตัวแปรที่มีเจตนาตั้งต้นดีเหมือนมนุษย์ค้างคาว
รักที่จะทำความดี รักที่จะต่อขยายการทำความดีให้ประชาชน
ส่งผ่านความหวังไปสู่ประชาชน
หากแต่อ่อนแอเกินไป สูญเสียจนยากที่จะเยียวยา
มองกันให้ดี
มีคนสูญเสียควบคู่ไปกับเขาด้วยนะคะ ไม่ได้เสียใจยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ไม่ได้แบกความรู้สึกผิดไว้บนบ่าเบาบางไปกว่ากันเลย
หากแต่ใคร ? จะดึงสติตัวเองกลับมาได้เร็วกว่ากัน
ตั้งมั่นได้เร็วกว่า มีแก่นของความดีที่แข็งแรงกว่ากัน

โจ๊กเกอร์ชนะใสไปเลยในยกนี้
สำหรับเจตนาในการสำแดงสันดานมนุษย์ให้ได้เห็น
ว่าธาตุแท้ของคนนั้น ไม่ต่าง (?)
ผลสุดท้ายออกมาคือ เราแพ้ (?)
คนดีจำต้องทำด้วยใจ แอบทำอยู่ลับๆ ทำงานอยู่เบื้องหลัง (?)

ฉากสุดท้ายที่มนุษย์ค้างคาววิ่งหนีออกไป …ทำให้รู้เลยว่า
มนุษย์ค้างคาวเป็นคนเดียวดายเหลือเกิน
ถูกผูกติดไว้กับความเจ็บปวด แบกรับจากการเป็นมนุษย์ค้างคาว
ด้วยการเสียชีวิตส่วนตัวไป และมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ค่า
เขาแค่พยายามเป็นคนดี แค่บ้าที่จะเป็นคนดี
บ้าที่จะปกป้องคนและเมืองที่ตนรัก ...แค่นั้นเอง

ฉากแรกที่ดิฉันชอบคือ ฉากที่นักโทษบนเรือลำหนึ่งตัดสินใจทำอะไรลงไป
เป็นอาชญากรที่เคยกระทำความผิด ที่กำลังชดใช้ความผิด แล้วไง ?
การจะกลับตัวเป็นคนดีนั้น ไร้หนทาง ตีบตันเชียวหรือ ?
เราชนะในฉากนี้ค่ะ ความดีของเขาทำให้เราชนะโจ๊กเกอร์ไปได้
เราพิสูจน์สมมติฐานของโจ๊กเกอร์แล้วค่ะ
บอกใส่หน้าเขาตรงๆเลยว่า ...เขาผิดแล้ว ที่ด่วนตัดสินมนุษย์เร็วเกินไป
หนังตบหน้าเราอีกครั้ง ด้วยเงื่อนไขที่เราๆท่านๆรู้ดีค่ะว่า
ในสภาวะการจริง เราจะทำอย่างไรกัน
โหวตด้วยระบบประชาธิปไตยรึ ? ว่าใครควรอยู่ ใครควรตาย
หรือจะแฟร์กันในทุกๆด้านๆ ตามทฤษฎีความยุ่งเหยิงของโจ๊กเกอร์ ?
บทหนังฉลาดเหลือเกิน ที่นำสิ่งเหล่านี้มาตีแผ่ออกมาอย่างหมดเปลือก

อีกฉากคือ ฉากที่มนุษย์ค้างคาวจับหน้าของเดนท์
ให้เห็นด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว ด้วยเพราะอยากมอง จึงให้เห็น
ตบหน้าคนดูจนชาเลยนะคะ
คนดูอย่างเราๆท่านๆที่เชื่อด้วยตา ตกหลุมรักกันด้วยเพียงแค่นั้น
น้อยในน้อยเหลือเกินที่จะใช้ให้ใจมองแทน

ใครเล่าจะไปจินตนาการถึงหนังแอคชั่นที่มีความซับซ้อนทางจิตใจสูงถึงเพียงนี้
มนุษย์ค้างคาวภาคนี้เป็นฮีโร่ที่หม่นสุดแสนจะหม่น
แทบจะหม่นที่สุดแล้วในบรรดามนุษย์ค้างคาวภาคเก่าก่อนนะคะ

มีคำถามที่น่ากลัวเหลือเกินค่ะว่า ถ้าเลดเจอร์ยังอยู่แล้วล่ะก็
หนังภาคต่อนั้นจะเป็นอย่างไร ?
ด้วยตัวละครนี้จะมีการพัฒนาไปในทิศทางไหน ?
คงไม่มีใครตอบได้
ด้วยวันนี้ไม่มีเลดเจอร์อีกแล้วค่ะ
…หลับให้สบายนะคะ

ดูจบเดินออกมาจากโรงแล้ว ประทับใจค่ะ
ไม่สนุกเลย แต่ประทับใจมาก
ไปดูกันให้ได้นะคะ

ขอแสดงความนับถือเป็นอย่างสูง

ปล. ขอร่วมรำลึกถึงการจากไปของเลดเจอร์นะคะ
Requim For My Friend (Lacrimosa) ของ Zbigniew Preisner ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=NAXKGWUI-Os


Create Date : 18 กรกฎาคม 2551
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 13:25:33 น. 6 comments
Counter : 711 Pageviews.  

 
..

สำหรับผมแล้ว The Dark Knight คือ Batman ภาคที่ดีที่สุด

และเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดด้วยครับ

..


โดย: POGGHI วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:46:19 น.  

 
เพิ่งกลับจากโรงหนังครับ

สุดยอดจริงๆ ภาคนี้

ไม่เป็นแนวแฟนตาซีแบบเมื่อก่อน แนวนี้แหละ ผมชอบ

เสียดายฮีท เลทเจอร์เหมือนกันนะครับ พูดแล้วเศร้า


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:42:26 น.  

 
เห็นด้วยค่ะ

หนังเรื่องนี้ไม่สนุก

แต่ดี มีอะไรให้กลับไปขบคิดและจดจำค่ะ ^_^


โดย: เสี่ยวป้างจื่อ วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:32:59 น.  

 
ไม่น่าเชื่อว่าหนังอธรรมชนะธรรมะ จะกวาดเงินได้เกินห้าร้อยล้าน ของเขาดีจริงๆ



โดย: joblovenuk วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:0:11:20 น.  

 
เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องเปิดดูซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า


โดย: haro_haro วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:10:00:07 น.  

 
ก็วิจารควายๆแบบนี้ ถึงไม่ดังไง
wannabe ชิบหาย ไอ่ควาย


โดย: โง่ IP: 171.99.161.48 วันที่: 25 กรกฎาคม 2560 เวลา:15:41:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gloomy Sunday
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Gloomy Sunday's blog to your web]