|
 |
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
 |
9 มีนาคม 2551
|
|
|
|
ไตรภาคบาร์ติเมอัส... Bartimaeus Trilogy
เคยได้ยินมาว่า หนังสือสำหรับเด็กนั้นเขียนยาก ขายก็ยาก ที่บอกว่าเขียนยากนั้น เพราะต้องเข้าให้ถึงใจเด็ก รู้ว่าเด็กชอบอะไร อยากอ่านอะไร ความหมายระหว่างบรรทัดนั้น จะมีหรือไม่ก็แล้วแต่วาระ ที่บอกว่าขายยาก นั่นเพราะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ยังไม่มีกำลังซื้อเป็นของตนเอง ยังต้องร้องกระจองอแงต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง ว่าอยากอ่านเล่มนั้น ว่าอยากอ่านเรื่องนี้
จำได้ว่าตอนเด็กๆ แม่พาไปห้องสมุดของมหาลัยใกล้บ้าน แล้วให้เดินหยิบ เดินจับ อยากอ่านอะไร ดูอะไร ก็ไม่ว่า แถมให้เลือกได้ด้วย ว่าอยากยืมเล่มไหนกลับบ้าน ก็ยืมได้ โดยมีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว ว่าอ่านแล้ว แม่ก็อยากสนุกด้วย รู้เรื่องด้วย ดังนั้น ต้องมาอ่านออกเสียงดังๆให้แม่ฟังวันละบทๆ แค่วันละบทนะคะ ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น บังเอิญว่าเรื่องที่อ่านนั้นสนุกหนักหนา ก็เลยแอบอ่าน แอบรู้ก่อนแม่ ตั้งแต่นั้น
ก็ชอบอ่านหนังสือให้แม่ฟัง ชอบอ่านหนังสือให้ตัวเองฟัง รักการอ่านมาตลอด รักมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เป็นภาพความทรงจำที่ชัด กระจ่างตาทุกครั้งที่นึกถึง ยังได้ยินเสียงตัวเองออกเสียงก้องกังวานอยู่ในหัว เฮ้อ
มานั่งเล่า นั่งรำพึงถึงอดีตอีหรอบนี้ นี่ผู้อ่านก็เดาออกสิคะ ว่าคนเขียนนั้นวัยไหนแล้ว
เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ เพิ่งอ่านหนังสือชุดหนึ่งจบ เลยอยากจะมาแนะนำค่ะ หนังสือชุดนี้ได้รับการนำไปแปลกว่า 38 สำนักพิมพ์ทั่วโลกแล้วนะคะ ทั้งชุดประกอบด้วยหนังสือ 3 เล่มค่ะ ชื่อชุดไตรภาคบาร์ติเมอัส (Bartimaeus Trilogy) เล่มแรกชื่อตอนซามาร์คันด์ เหรียญอาถรรพ์ (The Amulet of Samakand)

เริ่มจัดพิมพ์และจำหน่ายในกลางปี 2002 เป็นต้นมา และแทบจะทันทีที่ ค่ายหนังมิราแมกซ์ของดิสนีย์ก็ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ไปทำเป็นภาพยนตร์ รวดเร็วอะไรจะปานนั้น เล่มถัดมาเป็นตอนต่อเนื่องค่ะ ชื่อตอนโกเล็มส์อาย (The Golems Eye)

และเล่มสุดท้ายพิมพ์ออกมาในปี 2005 เป็นตอนจบของไตรภาคชุดนี้ ชื่อประตูโทเลมี่ค่ะ (Ptolemy's Gate)

เนื้อเรื่องทั้ง 3 เล่มกล่าวถึงประเทศอังกฤษยุคใหม่ ที่ถูกปกครองโดยผู้วิเศษ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเรียกใช้ปีศาจ และพลังของมันเพื่อปกครองพวกไพร่(ซึ่งใช้เวทมนตร์ไม่ได้) ปีศาจระดับกลาง ชื่อบาร์ติเมอัส ได้ถูกผู้วิเศษฝึกหัดอายุเยาว์ชื่อนาธาเนียลเรียกมา เขาเป็นผู้วิเศษที่มีพรสวรรค์เกินตัว ทะยานอยากเอาเรื่องเชียวค่ะ บาร์เมติอัสจึงถูกสั่งให้ไปขโมยเหรียญซามาร์คันอันทรงพลัง จากไซม่อน เลิฟเลซ ผู้วิเศษที่เก่งกาจกว่า อำมหิต และมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างไม่มีใครเทียม และนั่นเอง ที่กลายเป็นต้นตอของปัญหานานับประการที่จะตามมา แผนร้าย การฆาตกรรม และการก่อกบฎ จึงเริ่มขึ้นค่ะ
หนังสือเรื่องนี้ดำเนินเรื่องกลับกันจากเรื่องอื่นๆนะคะ เพราะผู้วิเศษที่เราๆเคยรู้จักนั้น เล่นเป็นผู้ร้ายค่ะ และมีปีศาจ (เอ่อ ที่จริงต้องเรียกบาร์ติเมอัสว่าจินน์จึงจะถูกต้องนะคะ) เป็นตัวเอกพร้อมกับเป็นตัวเล่าเรื่องไปพร้อมๆกัน
เนื้อหาถ้าจะมองว่าหนักก็มองได้ค่ะ จินน์-นาย บ่าว-ไพร่ แถมมีการก่อกบฎ เป็นหนังสือสำหรับเด็กที่ผู้ใหญ่อ่านก็ยิ่งดี เผลอๆจะสนุกกว่าเด็กอ่านเสียด้วยซ้ำค่ะ เพราะหนังสือเล่มนี้มีประกอบไปด้วยอารมณ์ขันอันแยบคาย เป็นตลกร้ายที่แทรกมาในรูปเชิงอรรถนะคะ แถมแทรกประวัติศาสตร์ไว้มากมาย เล่มสุดท้าย ถึงกับทำดิฉันเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัว ด้วยเข้าใจ ความในใจของศิษย์-ครู เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและแนบแน่นแค่ไหน
ส่วนปกหนังสือที่บ้านเราเลือกใช้นั้น เป็นแบบปกเดียวกันกับที่ประเทศอังกฤษเลือกใช้ค่ะ สวยที่สุดก็ว่าได้เชียวค่ะ
โจนาธาน สเตราด์ ผู้เขียน ใช้เวลา 4 ปี กว่าที่จะเขียนหนังสือไตรภาคชุดนี้จบ เขาบอกว่าความคิดของเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเดินตากฝนกลับบ้านค่ะ พอถึงบ้านก็รีบเหวี่ยงข้าวของ แล้วรีบจดบันทึกทุกอย่างที่มีในหัว และเริ่มเขียนโครงเรื่อง ตัวละครสำคัญ ทิศทางของหนังสือ ความคิดเหล่านี้คุณสเตราด์เชื่อว่า เกิดได้ง่ายๆค่ะ ทั้งจากคนที่เราพบ สถานที่ที่เราไป หนังสือที่เราอ่าน ข้อความในฝัน(อันนี้จดยากหน่อย) หรือแม้กระทั่งจากความทรงจำในวัยเด็ก (ของดิฉันยังชัดมากนะคะ) เหล่านี้ประกอบเป็นรูปเป็นร่าง แล้วจึงก่อให้เกิดเป็นจินตนาการอันบรรเจิด ให้เราๆท่านๆได้อ่านกันไงคะ
สำนักพิมพ์ในไทยซื้อลิขสิทธิ์มาแปลแล้วนะคะ อ่านจนจบปุ๊ป ก็หยุดไม่ได้ รีบไปหาเล่ม 2 มาอ่านต่อทันที ตอนนี้ออกครบทั้งชุดแล้วค่ะ ขอรับรองนะคะ ว่าสำนวนที่คุณเอธ แย้มประทุมแปล ก็มันหยดย้อย น่าติดตามไม่แพ้ต้นฉบับกันเลยทีเดียว ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ
และไม่ว่าใครจะอ่านออกเสียงให้ใครฟัง หรือใครรักจะอ่านเพียงในใจก็ตามแต่ ขอให้ได้เลือกหนังสือที่ดีสักเล่ม เหมาะๆมือ แล้วค่อยๆลงมืออ่าน
จนจบนะคะ ดิฉันเชื่ออย่างหมดใจเลยค่ะว่า ความสุขเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ จะทำให้ชีวิตที่เรายังไม่รู้ความหมาย หากแต่จะมีความสุขได้ และทำให้วันเหล่านั้น มีค่าขึ้นมากมาย อ่านเรื่องไหนกันแล้ว มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
ปล. เหล่านี้คือรางวัล(เท่าที่พอจะทราบ)ของหนังสือชุดนี้ค่ะ Winner of a Boston Globe/Horn Book Honor 2004 (USA). Winner of Lancashire Children's Book Award 2005 (UK). Short-listed for the British Book Awards, 2004; the WH Smith Teen Choice Award (UK) 2004; Deutscher Jugendliteraturpreis (German Youth Literature Award) 2005. Winner of the CORINE Youth Book Award 2006 (Germany). Shortlisted for the Quill Award, Children's Chapter Book category, 2006 (USA)
Create Date : 09 มีนาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 9 มีนาคม 2551 15:56:30 น. |
Counter : 1825 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: monodon IP: 210.213.0.25 16 กรกฎาคม 2551 14:06:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ooioioo IP: 202.12.118.61 13 สิงหาคม 2551 17:35:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: hinghoy IP: 124.122.112.217 12 พฤศจิกายน 2552 15:50:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ThamP IP: 202.28.21.6 14 ธันวาคม 2552 10:10:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: captercat IP: 58.9.128.26 15 มิถุนายน 2553 16:02:59 น. |
|
|
|
| |
|
 |
Gloomy Sunday |
|
 |
|
|