"No, thank you. I have had an elegant sufficiency..."
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
19 พฤศจิกายน 2550

Michael Clayton

การชมภาพยนตร์ในโรงนั้น
ไม่เหมือนกับการนั่งดูจากแผ่นอยู่ที่บ้านนะคะ
ด้วยไม่มีเสียงโทรศัพท์ หรือเสียงต่างๆมารบกวน
ไม่มีเวลาจะหยุดเพื่องีบ หรือเพื่อทานของว่าง
หากต้องพร้อม ต้องตั้งใจดู
ดูอย่างมีสมาธิ
หนังเรื่องนี้ก็เช่นกันค่ะ

Michael clayton จะว่าเป็นหนังโรงๆศาลๆซะทีเดียวก็ไม่เชิง
ต้องบอกว่าเป็นหนังชีวิต (ดราม่า) จะใกล้เคียงมากกว่า

หนังกล่าวถึงทนายที่ชื่อเดียวกับชื่อหนังนะคะ
บทของคลูนีย์เปรียบเสมือนพนักงานเก็บกวาดของบริษัทกฏหมาย
หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ภารโรง
ชะล้างสิ่งที่จะยุ่งยากให้ง่ายต่อการจัดการ
ตัดปัญหาเล็กไม่ให้บานปลาย
และไม่ให้ต่อขยายกลายเป็นปัญหาใหม่และใหญ่กว่าเก่า
หนึ่งในปัญหาที่เขาต้องรับผิดและเคยรับชอบไปนั้น
คือการจัดการกับผู้ป่วยทางจิตรายหนึ่งที่รับบทโดยวิลคินสัน
ผู้ป่วยที่เคยเป็นเพื่อนทนายเช่นกัน
เคยรักษา และขาดการรักษาไป

ทว่าวิลคินสันหนีจากความช่วยเหลือค่ะ
เพื่อนเก่าที่กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
เพื่อนเก่าที่กุมความลับสำคัญของธุรกิจเคมีการเกษตร
ที่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้รับสัมผัสโดยตรง
ซึ่งยังคงมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันอย่างยืดเยื้อ
และอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรม
ธุรกิจที่ต้องมีคนจ่ายค่าชดใช้แพงแสนแพง
บทของคลูนีย์มีเอี่ยวเข้าไปพบเงื่อนงำบางอย่างค่ะ
จนทำให้ถลำลึกเกินกว่าที่ตัวเขาเองจะคาดคิดได้

หนังใช้วิธีนำเสนอที่ไม่ใหม่เท่าไรนะคะ
เล่าเรื่องโดยฉายย้อนอดีตขึ้นมาก่อน
แล้วเล่าไล่เรียงย้อนกลับมาจนถึงปัจจุบัน
และเล่าผลที่ยังคงดำเนินต่อไปข้างหน้า

หนังให้น้ำหนักการเล่าเรื่องของตัวละครหลัก
เปิดเผยชีวิตของตัวละคร
ที่คอยสะสางความยุ่งเหยิงให้บริษัท
ทว่าปัญหาส่วนตัวและปัญหาภายในครอบครัวตัวเองกลับแก้ไม่ตก
ครอบครัวที่ต้องห่างเหิน ภาระหนี้สินติดตัว
ปัญหาพนันที่คอยสิงอยู่ไม่เลิกลา
และท้ายที่สุด หน้าที่การงานที่แทบจะ "ย่ำอยู่กับที่" มาพักใหญ่
จึงหลอมบุคลิกลักษณะตัวละครของคลูนีย์
ให้เห็น ให้เด่นชัดขึ้นมา
ด้วยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการขาดสภาพคล่องทางการเงิน
และความลับที่บังเอิญได้เจอนั้น "ขายได้" ไม่น้อยอยู่

กลายเป็นตัวละครที่มีมิติ ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง
ที่ใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์ เป็นธรรมชาติของมนุษย์
ที่ประกอบไปด้วยรัก โลภ โกรธ หลง ด้วยกันทุกคน
ด้วยไม่มีใครขาวและดำอย่างสุดโต่ง
หากเราล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมของทั้งสองสี
บทของคลูนีย์จึงทำให้ดิฉันกลัว กลัวใจของตัวละคร
ว่าจะเลือกทำอย่างไร จะเลือกทำเพื่ออะไร และเพื่อใคร
คลูนีย์สอบผ่านค่ะ กับ "การแสดง" ที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
การแสดงที่ราบเรียบ จนดูเหมือนกับไม่ได้เล่น ไม่ได้แสดงอะไร
การแสดงแบบนี้ล่ะค่ะ ที่น่าดู จับตาจับใจ

ตัวละครที่สำคัญอีกตัวคือบทของวิลคินสัน
ที่เป็นผู้ป่วยโรคจิต และอยู่ๆ
ก็เหมือนกับจะกลับมาอยู่กับร่องกับรอย
แถมพรสวรรค์ที่เคยติดๆดับๆไป ก็กลับมาวิบวับฉายประกายให้เห็น
วิลคินสันทำให้เราเชื่อได้อย่างหมดใจเลยว่าเขาเคยบ้า
และหายบ้า เคยฉลาดอย่างไร ก็กลับมาฉลาดอย่างนั้น
ภาพการปะทะคารมของคลูนีย์และวิลคินสันจึงดูจริงใจเหลือเกิน
เหมือนต่างฝ่ายต่างรู้จักกันดีเกินไป
ด้วยบทสนทนาเพียงไม่กี่คำนะคะ
สร้างมิติทางความคิดให้เราได้มากเอาการอยู่

บทของสวินตันก็ใช่ย่อยนะคะ
เปิดโอกาสให้ได้แสดงฝีมืออยู่เนืองๆ
บทประทานที่ปรึกษาของบริษัทเคมีการเกษตร
อาจไม่ได้มีความลึกทางอารมณ์เท่า 2 ตัวละครข้างต้น
แต่ก็สร้างบุคลิกของ "คนธรรมดา" ได้ชัดเจน

โดยรวมแล้วนี่เป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในกรอบค่ะ
กรอบของการล่ารางวัลทางภาพยนตร์ ล่ารางวัลทางการแสดง
กรอบของความบันเทิงแบบเก่าๆ องค์ประกอบเดิมๆ
หนังไม่ได้ยกระดับจิตใจ เหมือนตอนที่เรานั่งดู Lions for lambs จบ
หนังไม่มีอะไรใหม่มากมายนัก
หากแต่เป็นหนังที่มุ่งขับเน้นศิลปะของภาพยนตร์อย่างชัดเจน
การสร้างบุลคิกของตัวละครที่ราบเรียบ เสมือนจริง
บทสนทนาที่ไม่ได้คมคายขนาดกรีดจอเงินขาด
ทว่าจริงจัง ขรึมขลังอยู่ในที
บรรยากาศที่กด และไล่ให้เรากลัว
ด้วยความสมจริง เสมือนเป็นเหตุการณ์จริง
จนดิฉันต้องออกมาดูใบปิดของหนัง ว่าสร้างจากเรื่องจริงหรือเปล่า

เกือบๆ 2 ชั่วโมงที่เสียไปนั้น คุ่มค่าแน่นอนค่ะ
ถ้าใครที่ชอบหนังแนว The insider หรือ A civil action
แนะนำให้ไปตีตั๋วโดยพลัน
ก่อนที่รอบจะหมดนะคะ

ขอแสดงความนับถือค่ะ




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2550 12:06:40 น.
Counter : 556 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Gloomy Sunday
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Gloomy Sunday's blog to your web]