|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
=-_-= โรคคุณนาย =-_-=
พี่สาวบอกว่าช่วงนี้ดวงเราเป็นช่วงพระเสาร์ทับ ไม่ใช่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก แต่เป็นพระเสาร์ทับกันเลย... แถมพระเสาร์จะจรลีออกจากดวงเราหลังเดือนพฤศจิกายนเสียด้วย
วันนี้วันที่สาม เดือนพฤศจิกา และเราก็มีเรื่องเร้าใจอันสืบเนื่องมา จากไวรัส EVB มาให้ตื่นเต้นเล่น...
วันที่หน้ามืดวันก่อน อาการอย่างหนึ่งได้เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ ทันสังเกต จนเมื่อกลับบ้านมาดูทีวี ถึงได้รู้สึกว่าตาข้างขวามีน้ำ ตาไหลตลอดเวลา มันค่อยๆเอ่อขึ้นมาแล้วไหลไม่หยุด ตอนแรกนึกว่าตัวเองอินกับหนังที่ดูมากไป(รู้สึกจะดูหนังจีนเรื่อง "ผมจะสู้เพื่อฝันของพ่อ" หรือ Together หนังดี แนะนำให้ไปหาดู)
เนื่องจากเป็นคนสายตาสั้นมาก แถมมีโรคประจำตัวคือตาบอด กลางคืน (กลางคืนจะเห็นไม่ชัดเท่ากลางวัน) พ่อ แม่ พี่ชายมี อาการทางตาโดยถ้วนทั่ว เหมือนเป็นพันธุกรรม อาการจิตแตก จึงเริ่มบังเกิด ยิ่งตกใจมากไปกว่านั้นคือเริ่มรู้สึกว่าเปลือกตา ข้างขวาปิดไม่สนิท มุมปากขวายกไม่ขึ้น เคี้ยวอาหารทีต้องใช้ ความพยายามมากกว่าปกติ
ไม่อยากคิด แต่ก็ต้องคิดว่าซีกหน้าข้างขวาเรากึ่งๆจะอัมพาต ลองให้พี่สาวดู ว่าปากเบี้ยวหรือเปล่า ก็ไม่ แต่ตัวเราเองรู้สึกได้ คิดอยู่ในใจว่าหมอต้องบอกว่า ยายนี่มาแปลกอีกแล้ว แหงๆ... =-_-=
เป็นอะไรแปลกๆ...นั่นคือคำพูดหมอหลังจากที่อุตส่าห์บอกข่าว ว่าตับที่มันอักเสบหายดีแล้ว แต่หมอก็ต้องงงอีกแล้วกับอาการ อัพเดทเรา
แกสรุปว่าเป็นเพราะเชื้อไวรัสตัวดีมันไปเดินเล่นแถวประสาท ที่ควบคุมกล้ามเนื้อหน้าซึ่งอยู่แถวๆต่อมน้ำเหลืองที่ติดเชื้อ หน้าเราก็เลยเดี้ยงไปข้างหนึ่ง แต่เพื่อความชัวร์แกก็เลยส่งไปให้ หมอทางระบบประสาทดู ไปถึงหมอก็จับเคาะๆตามตัว แล้ว ก็สรุปว่าอาจจะเป็นไวรัสตัวเดิมหรือ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรค งูสวัด
เราเริ่มอึ้งอีกรอบ อะไรกันนักกันหนาฟะ เจออีที(EBV)ยังไม่พอ ยังมาเจองูอีก เหมือนถูกหวย ทั้งที่ไม่ได้ซื้อ
หมอให้ยามากินอีกรอบ แล้วสั่งให้ไปทำกายภาพหน้า กล้ามเนื้อจะได้ไม่ตาย เอา...ไปก็ไป มาถึงขั้นนี้แล้ว เสียเงิน ยังไงก็ยอม หน้าตึงไปข้างนึงอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่
ไปถึงก็โดนจับนอน เอาแผ่นร้อนอังหน้าเพื่อคลายกล้ามเนื้อ สักพักนักกายภาพก็เข็นเครื่องเข้ามา เครื่องจี้ไฟฟ้า ฟังดูน่า หวาดเสียวใช่ย่อย หลุดปากถามออกไปว่า มันจะเจ็บไหม ทั้งที่รู้แหละว่ามันไม่เจ็บ เธอก็บอกว่าไม่เจ็บหรอก ก็เหมือน เครื่องนวดหน้าที่เขาขายกันตามทีวีไดเร็กนั่นแหละ แต่ของหมอ นี่เป็นกระแสตรง เออ...ฟังดูแล้วมันน่ากลัวกว่านะคุณน้อง
จี้วน จี้วน หน้ากระตุกไปสิบห้านาที คราวนี้ก็ลุกขึ้นมาหัดบริหาร หน้า แยกเขี้ยว ยิงฟัน ขมวดคิ้ว เลิกคิ้ว พร้อมกับใช้นิ้วช่วย กระตุ้น พอมาทำอย่างนี้หน้ากระจกก็รู้สึกว่าเออ มันทำลำบากจริงๆ นะนี่ ซึกขวาของหน้ามันเหมือนมีใครมายึดไว้
หมอสั่งไว้ว่าต้องมาทำทุกวัน เราดูค่ากายภาพต่อครั้งแล้วก็ต้อง ทำใจ ทำงานฟรีแลนซ์ก็อย่างนี้แหละ ป่วยที เงินก็หายหมด
แต่โชคดีที่พอกลับบ้านโทรคุยกับเพื่อน มันแนะนำให้ไปหา second opinion กับหมอโรงพยาบาลอื่น เพื่อนสงสัยว่ารักษา เกือนหายแล้ว ทำไมมันมาติดเชื้ออีกที่หนึ่งได้ล่ะ เราเป็นอะไร มากกว่านี้แล้วหมอไม่รู้หรือเปล่า ต้องดูดีๆนะ ไม่รักษาแต่เนิ่นๆ เกิดหน้าเบี้ยวขึ้นมาจะเป็นยังไง
ฟังมันไซโคแล้วก็เกิดอาการจิตแตกดับเบิ้ล รีบแจ้นไปพึ่งพ่อ แล้วก็มานึกขึ้นกันได้ว่าหมอประจำตัวแม่เราเขาเก่งระบบ ประสาทนี่หว่า เป็นระดับอาจารย์หมอนี่ เชื่อถือได้แน่นอน
ว่าแล้วรุ่งเช้าก็รีบไปดักเจอหมอแต่ไก่โห่ ตอนแรกไม่ได้บอกหรอก ว่าอีกโรงพยาบาลบอกว่าเราเป็น EBV แต่พอเล่าอาการไป อาจารย์ หมอก็บอกเลยว่าเป็นตัวนี้แหละ เฮ้อ...อย่างน้อยที่แล้วมาก็ไม่เสีย ตังค์ฟรีนะ
ข่าวดีกว่านั้นก็คือ โรคนี้เป็นเองหายเอง นอนพักเยอะๆ กินครบ หมวดหมู่รับรองหาย กายภาพก็ไม่ต้องทำ บริหารเองที่บ้านดีกว่า เดินทางออกมาทุกวันจะเหนื่อย แล้วจะยิ่งไม่หาย ที่บอกว่าเป็นงูสวง งูสวัดก้ไม่ใช่แน่ เพราะถ้าเป็นเชื้องูสวัด จะไม่มี อาการเจ็บคอ แต่เรามี
ก็โอเค โล่งใจกลับบ้านนอน กินยาไปสองวันก็รู้สึกว่าเคี้ยวข้าว คล่องขึ้น เพียงแต่ตายังตึงๆอยู่ แต่น้ำตาไม่ค่อยไหลแล้ว ตอนนี้เลยทำตัวตามสบาย นั่งกินนอนกิน ดูหนังเกาหลีอย่าง มีความสุข งานเงินช่างหัวมัน เอาร่างกายไว้ก่อน
จากไวรัสเกาหลี เราอัพเกรดมาเป็นโรคคุณนายแทน พี่สาวตัวดีสรุป
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2548 |
|
11 comments |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2548 9:41:48 น. |
Counter : 1684 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: grappa 3 พฤศจิกายน 2548 9:58:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: asita 3 พฤศจิกายน 2548 10:10:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: มาริอา 3 พฤศจิกายน 2548 12:49:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: gata 3 พฤศจิกายน 2548 14:16:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: bookmark 4 พฤศจิกายน 2548 15:04:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) 9 พฤศจิกายน 2548 17:55:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า
เป็นโรคคุณนายนี่เอง
หุหุ
ป.ล. เล่าเรื่องหนุกดีนะ