Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

TPL นัดแรกของผม

ไทยพรีเมียร์ลีก
30 ก.ค.53 สนามกีฬากองทัพบก
ทหารบก 3-2 ทีทีเอ็ม พิจิตร


ความทรงจำเกี่ยวกับฟุตบอลไทยของผมมีช่วงขาดตอนไปนิดส์นึง

ผมเริ่มติดตามฟุตบอลครั้งแรกตอนอยู่ ป.5 ก็สนใจมันไปหมดแหละทั้งบอลไทย-บอลนอก ไม่มีแบ่งสี แบ่งฝ่ายหรอก ขอให้มันเป็นฟุตบอลก็พอ ^-^

สำหรับบอลไทยแล้ว ผมดูมันไปหมด ตั้งแต่ถ้วย ก, โตโยต้าคัพ, ยามาฮ่า ไทยแลนด์ คัพ, กีฬาแห่งชาติ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, โค้กคัพ ฯลฯ

ข้อมูลเรื่องฟุตบอลตอนนั้นจัดว่าปึ้กมาก (^-’)b

ในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 5 โรงเรียนสวนกุหลาบฯ ว่ากันว่ามีกูรูลูกหนังตัวเอ้อยู่ 2 คนคือผมและไอ้วุตตี้เพื่อนเลิฟ

เพื่อนในห้องถึงขนาด “กล้า ๆ” ปั้นเรา 2 คน...

ไอ้วุตตี้คือย.โย่ง (บก.นิตยสารสตาร์ ซอกเกอร์) ส่วนผมคือซ้ง บางพุทรา (บก.นิตยสารฟุตบอลสยาม)

อ้อ! ความจริงผมก็สามารถเป็นย.โย่งได้นะ แต่ไอ้วุตตี้มันไม่สามารถเป็นซ้งได้ไง ผมจึงต้องรับบทบาทซ้ง บางพุทราไป ^^/

ผมเริ่ม “ห่าง ๆ” ฟุตบอลไทยเอาตอนจบมหาลัยแล้ว แต่ก็ยังให้ความใส่ใจทีมชาติไทยและ “ใครเป็นแชมป์ไทยลีกปีนี้” อยู่

นี่แหละคือช่วงที่ความทรงจำเกี่ยวกับฟุตบอลไทยของผมออกจะเลือน ๆ ส่วนความทรงจำในยุค “รุ่งเรือง” ของผม ด้วยระยะเวลาที่แสนยาวนาน...ทำให้ตอนนี้ก็ออกจะเลือน ๆ ด้วยเหมือนกัน (เอ! เหมือนคนแก่ชอบก๊ล ^^!)

ผมกลับมา “จริงจัง” กับการติดตามฟุตบอลไทยอีกครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังจากเกิดแรงบันดาลใจในการเขียนเว็บบล็อก Futbol Review ขึ้นมา

ฤดูกาลที่แล้วผมติดตามดูบอลไทยพรีเมียร์ลีกรวมแล้ว 33 นัด

แต่สำหรับสนามกีฬากองทัพบกที่ผมก้าวเดินเข้ามาในวันนี้...

นี่คือไทยพรีเมียร์ลีกนัดแรกของผมในฤดูกาลนี้!

ก็ไม่ได้จะละเลยไทยพรีเมียร์ลีกเพราะจุฬา ยูไนเต็ดอยู่ในดิวิชัน 1 หรอกนะ แต่ด้วยการงานที่วุ่นวายมากกว่าปีที่แล้ว หลาย ๆ แม็ทช์ที่แพลนไว้ว่าจะดูก็ต้องยกเลิกไป

แต่ก็ได้ดูถ่ายทอดสดบ้าง ไรบ้างสัก 3-4 แม็ทช์นะ

ราชนาวี-ระยอง VS ทีทีเอ็ม พิจิตร, โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี VS BU, บีอีซี เทโร ศาสน VS ทีทีเอ็ม พิจิตร และล่าสุดก็บางกอกกลาส VS เอสซีจี สมุทรสงครามนั่นเอง




ซุ้มขายของที่ระลึกของทีมทหารบก

มีเกมให้แฟน ๆ ได้ร่วมสนุกด้วย


ละแวกหน้าสนามกีฬากองทัพบกเต็มไปด้วย “ร.ด.เด็กไทยผมเกรียน ไปเรียนก็เกาะรถเมล์ ไม่หล่อแต่เราแต่งตัวเก๋ เกเรไม่เป็นเหมือนใคร...” เออ! พอเหอะ...เดี๋ยวเขียนจนจบเพลงแล้วเค้าจะรู้ว่าผมน่ะ “วัยไหน” :P

เห็นน้อง ๆ ร.ด.แล้วก็พลันคิดไปถึงตัวเองในวัยนั้น

สมัยเรียน ม.4 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มเรียนวิชารักษาดินแดนหรือร.ด. ปีนั้นเป็นปีแรกที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดการแข่งขันไทยแลนด์เซมิโปรลีกขึ้นมา...

ว่าจะไม่ “แวะเข้าซอย” (สำนวนท่านมรว.คึกฤทธิ์ เวลาจะเขียนนอกเรื่อง) แต่ขอนิดนึง

พูดถึง “ร.ด.” แล้ว อาจารย์ที่สอนวิชาภาษาอังกฤษของผมตอน ม.4 (ถ้าจำไม่ผิดชื่ออ.สิทธิศักดิ์ อะไรประมาณนี้) เคยบอกว่าพวกเอ็งจะเรียน “ร.ด.” ไปทำไม วิชานี้ให้พวกศึกษานารี, สตรีวิทยาเรียนสิ...วิชา “รอดอ” :P)

มาที่ไทยแลนด์เซมิโปรลีกต่อ

นี่เป็นการแข่งขันที่ทดลองจัดแบบลีก แต่มีแค่ 6 ทีมเท่านั้น โดยทีมที่ผ่านการพิจารณาคือ “บิ๊กทีม” สมัยนั้นทั้งสิ้นคือ ทหารอากาศ, การท่าเรือ, ธนาคารกสิกรไทย, ราชประชา, ตำรวจ ส่วนธนาคารกรุงเทพนั้นหลุดการพิจารณาไปเพราะความผิดพลาดของผู้บริหารที่ส่งเรื่องช้าเอง ทีมที่ 6 จึงเป็นทีมทหารบก

แน่นอนว่าทีมทัพบกคือเต็งบ๊วย แต่กลับสร้างเซอร์ไพร้ส์ ใช้สไตล์ “วิ่งสู้ฟัด” ทำแต้มนำในช่วงแรก ๆ สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลมาก ๆ แม้สุดท้ายจะไม่ได้แชมป์ก็เถอะนะ

สไตล์ “วิ่งสู้ฟัด” ยังเป็นจุดเด่นของทหารบกในยุคนี้ แต่กลับไม่เซอร์ไพร้ส์เหมือนวันเก่า ๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะมาตรฐานของการแข่งขันในสมัยนี้ที่สูงขึ้นด้วยล่ะมั้ง ทีมทัพบกเลยอยู่ท้าย ๆ ตารางมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล เพิ่งจะมาดีเอาในนัดท้าย ๆ ทำให้พอหายใจหายคอได้บ้าง

วันนี้พวกเขาเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีทีเอ็ม พิจิตร




กองเชียร์เจ้าบ้านมากันอย่างหนาแน่น

กองเชียร์ทีมเยือนเชียร์กันอย่างคึกคัก

ป้ายแซวทหารบกขำ ๆ ของกองเชียร์ "สิงห์เหนือ"


ผมเดินมาที่ซุ้มขายของที่ระลึก ว่าจะอุดหนุนเสื้อเชียร์สีเขียวสักตัว เห็นป้ายปักราคาบอกไว้ว่า 199 บาท

“เสื้อตัวใหญ่ต้องซื้อในช็อปนะคะ” แหม! พนักงานขายไม่คิดว่าผมจะวัยสะรุ่นใส่เสื้อติ้ว ๆ บ้างเลยหรอนี่...ไม่เป็นไร ไว้พักครึ่งก่อนค่อยเดินไปซื้อละกัน

เดินเข้าไปในสนามเห็น “เสี่ยเหมา” กมล สุวรรณเจริญ ผู้อยู่เบื้องหลังการตลาดของทีมทหารบกเดินวุ่นวายอยู่ ผมหวลคิดไปถึงเมื่อ 6 ปีก่อน เคยมีคำสั่งจากเจ้านายให้ผมไปถ่ายเกมเพลย์ออฟ (เพื่อแย่งสิทธิ์เล่นในไทยลีก) ระหว่างยาสูบกับทหารบกมาออกรายการ “สปอร์ต โซน” ทางช่อง 5

“ไปถ่ายทีมพี่เหมาหน่อยก็แล้วกัน อย่าน้อยแกก็ให้ของรางวัลมาแจกในรายการ”

“ทีมพี่เหมา” ในตอนนั้นคือทีมยาสูบนะครับ...แกเป็นผู้จัดการทีมอยู่

หลังตัดต่อเสร็จ อะไรเสร็จ ป๊ะหน้า “พี่เหมา” แกเปรยกับผมว่า “ผมไม่ชอบเลยที่คนมาตั้งฉายาให้ทีมยาสูบว่าสิงห์อมควัน”

เออ...พี่ครับ ผมก็เขียนบทบรรยายโดยใช้ฉายาแบบนี้แหละครับ แต่ทำไงได้ล่ะในเมื่อมันเป็นฉายาที่ “สื่อใหญ่” ใช้มาตลอดนี่ เราก็ต้องเนียนใช้ตามไป

ว่าแล้วผมก็ขอ “เข้าซอย” อีกครั้ง ^^!

ทุกวันนี้พออ่านฉายาทีมฟุตซอลใน “สื่อใหญ่” เจ้านี้แล้ว ผมไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “หนุ่มแบงก์ลาดพร้าว” บ้าง, “หนุ่มมหาชัย” บ้าง, “หนุ่มเมืองหลวง” บ้าง ฯลฯ

คือ...มหาชัย, ปากน้ำ, เมืองหลวง ฯลฯ มันก็โอเคแหละ แต่ไปใส่ “หนุ่ม” ข้างหน้า มันเลยดูตลกซะมากกว่าน่าเกรงขาม - -"

แต่ที่ผมรับไม่ได้คือฉายาของทีมฟุตซอลนนทบุรี -*-

“ทีมอีกานนท์” (ดีนะนี่ไม่ “หนุ่มอีกา” ด้วย)

เข้าใจว่านั่นมันฉายา (และโลโก้) ของทีมนนทบุรีในดิวิชัน 2 นะครับ

ส่วนทีมฟุตซอล ผมเคยไปถ่ายสกู๊ปในรายการ “Extreme Futsal” มาแล้ว ทีมฟุตซอลนนทบุรีเขามีฉายาและโลโก้ของเขาเป็นเอกเทศจากทีมฟุตบอล นั่นก็คือ “Killer Bee” (ผมเขียนบทบรรยายในสกู๊ปว่า “ผึ้งเพชฌฆาต”)

อาจจะเป็นทีมจังหวัดเดียวกัน แต่ 2 ทีมนี้มันคนละทีมกัน ดังนั้นฉายาจึงไม่เหมือนกันนะครับ

เข้าเรื่องต่อ...




ขุนพลนักเตะทั้ง 2 ทีมพร้อมทำศึก "ไฟร์เดย์ ไนท์"

นักเตะทั้ง 2 ทีมจับมือกันก่อนเกม

โคมาริ โยชิทากะผูกเชือกรองเท้าให้เพื่อนร่วมชาติอย่างโคจิ จุน


พ.ต.ขวัญ รัตนรังษี อดีตนักฟุตบอลทหารบกรุ่นเดียวกับประดับพันธ์ จรัญญา, สำราญ นามพันธ์ ฯลฯ เฮดโค้ชเจ้าบ้านจัดผู้เล่นในระบบ 4-4-2 ดังนี้ ผู้รักษาประตูใช้บริการของ “หนุ่มปลาดิบ (อิอิ ลองใช้คำว่า “หนุ่ม” ดูบ้าง)” โคจิ จุน ส่วนแผงหลัง 4 คนวันนี้ไม่มีชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม ปราการหลังตัวเก๋าที่ไม่ค่อยสมบูรณ์จึงจัดเอาวันชนะ รัตนะยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับจักรกฤษณ์ เรืองสันเที๊ยะ ในขณะที่แบ็กขวานั้นพินิจพงษ์ แจ้งพลอยก็เจ็บ ต้องเข็นสราวุธ ทองสวัสดิ์ลงไปยืนแทน ส่วนแบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของดาวุฒิ ดินเขต

แดนกลางใช้ตระกูลฉัตร ทองใบคุมเกมคู่กับอนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ เกมริมเส้นใช้จักรพงษ์ สมบูรณ์ขึ้นเกมทางด้านขวาและดาวเตะญี่ปุ่น คาโต โยสึฮิโระลากเลื้อยทางซ้าย

คู่หน้าเป็นธาตรี สีหา ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีมจับคู่กับดาวิด บายีฮา

ส่วนทีมเยือนนั้น ที่ม้านั่งสำรองไร้เงาเฮดโค้ชชาวบราซิลอย่างโชเซ อัลเวส เบร์วิส...เอ!...หรือจะถอดใจไปแล้ว

“โชเซไปต่างประเทศ...ติดธุระครับ เดี๋ยวก็กลับมา ยังไม่ได้ออกนะ เขากลับมาแน่นอน” คุณไทเกอร์ ภาคภูมิ เกียรติศรีชาติซึ่งต้องมาดูแลทีมในช่วงนี้แทนไขปริศนา

11 ตัวจริงของทีม “สิงห์เหนือ” ในระบบ 4-4-2 ประกอบด้วยทศพร ศรีเรืองในตำแหน่งผู้รักษาประตู แผงหลังจากขวามาซ้ายมีนิพนธ์ พันธุ์พร้อม, โกเบนาน เอ็นกาตตา, ยามาโมโตะ ฮิโรยูกิและวัชระ มหาวงศ์

แดนกลางมีกัปตันทีมกอบเดช ชอบมโนธรรมคอยควบคุมจังหวะอยู่หน้าแผงหลัง ส่วน 3 คนที่เหลือดูเหมือนจะสลับกันเล่นได้ตลอด เจษฏา บุญเรืองรอดเหมือนจะออกซ้าย, ณรงค์ จันทร์เสวกเหมือนจะเน้นขวา ส่วนอีกคนนึงก็คือชัชปภพ อุตสาพรม

คู่หน้าเป็นคู่บราซิล วาลซีและโรมาริโอ...เอ้ย! ขวัญชัย เฟื่องประกอบ ชาวไทยตะหาก ^^!




นักเตะทหารบก มีต่างชาติแล้วนะ

11 ตัวจริงของทีมสิงห์เหนือ


เกมในครึ่งแรกดูไปเรื่อย ๆ ตามจังหวะ มีโอกาสหวาดเสียวกันประปราย

ดาวเตะต่างชาติของเจ้าบ้านมีบทบาทกับเกมรุกของทีมพอสมควร บายีฮารูปร่างดีมาก เทคนิคก็ใช้ได้ สามารถครองบอล, พักบอลให้เพื่อนได้ดี ส่วนคาโต ปีกปลาดิบหัวทองนั้นดูคล่องและกล้าลากกล้าเลื้อยดี

นาทีที่ 21 จักรพงษ์ของเจ้าบ้านได้ฮาล์ฟวอลเลย์ริมเขตโทษฝั่งขวาแต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาสองออกไป

10 นาทีต่อมาสราวุธ แบ็กขวาทัพบกเติมเกมขึ้นมาสูง เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ บายีฮาเข้าไม่ถึงบอล ทำให้หลุดไปถึงเจ้าโด้ ธาตรีที่พยายามพุ่งเข้าชาร์จ แต่ก็ไม่ตรงกรอบอีก

นาทีที่ 37 วาลซี ศูนย์หน้าบราซิลของทีมเยือนลองกดฟรีคิกดู แต่ก็ไปแฉลบกำแพงออกหลังไป

รูปเกมที่ดูไปเรื่อย ๆ ทำให้ผมตัดสินใจเดินไปถ่ายรูปกองเชียร์ “กรีน อาร์มี” ซะหน่อย

“กรี๊ด!”

พวกเขาไม่ได้คลั่งไคล้ผมหรอกครับ แต่มีอารมณ์ร่วมกับเกมต่างหาก...แต่แค่กรี๊ด ไม่มีเสียงถอนหายใจแสดงว่าทีมเยือนคงได้เสียวล่ะสิ

ซะที่ไหน...พอเดินออกมา ผมกลับเห็นภาพทีมเยือนกำลังเฮฮาอยู่

“ผู้ทำประตูให้ทีมทีทีเอ็ม พิจิตรคือขวัญชัย เฟื่องประกอบค่ะ” โฆษกสาวเสียงสวยประกาศ

ซะงั้น

โดนไปก่อนทำเอาขุนพล “กงจักรพิฆาต” รีบเดินเกมทันที แต่อนุวัติกับบายีฮาไม่เฉียบขาดในจังหวะสังหารจึงจำต้องรับผล 0-1 ไปเมื่อจบครึ่งแรก




ช็อตเปิดเกมโดยวาลซีและ "โรมาริโอ"

บายีฮาออกอาการไม่เข้าใจไลน์แมน

วัชระ แบ็กซ้ายทีมเยือนลากลุยทำเกม

การดวลลูกกลางอากาศของอนุวัติและยามาโมโตะ

เจษฎาจ่ายบอลให้โกเบนาน

ยามาโมโตะบังไม่ให้บายีฮาเข้าถึงบอล

ลีลาการลากลุยของขวัญชัย "(อดีต) โรมาริโอเมืองไทย"

จังหวะชุลมุนหน้าประตูทหารบก


ผมดูการแสดงช่วงพักครึ่งจากเชียร์ลีดเดอร์ของม.ศรีปทุมเล็กน้อย จากนั้นก็ปลีกตัวไปที่ช็อปของที่ระลึก แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะพลทหาร 2 นายที่ยืนอยู่หน้าร้านบอกผมสั้น ๆ ว่า

“ร้านปิดแล้ว”

ร้านปิดทั้ง ๆ ที่ดีมานด์สินค้าของที่ระลึกจากแฟน ๆ ยังมีอยู่ อย่างน้อยก็ผมและพลทหาร 2 คนนั้นนั่นแหละ

ตลกดี ช็อปของที่ระลึกของสโมสรทหารบกเป็นช็อปเดียว (เท่าที่ผมเคยไปมา) ที่เปิดขายแค่ก่อนเกมเท่านั้น พักครึ่งกับหลังจบเกม...เราไม่ขาย!

ยอดขายของที่ระลึกวันนี้ 4,500 บาท...ทั้งที่ความจริงมันควรจะเป็น 4,699 บาทด้วยซ้ำ

เดินไปซื้อน้ำมาดื่มแก้เซ็งดีกว่า คนขายเป็นหนุ่มร่างยักษ์ แต่คุณเธอบอกราคาน้ำกับผมว่า “15 บาทค่ะ” พอเดินออกมา ผมได้ยิน “เสียงผู้ชายที่พยายามทำเป็นหญิง” เสียงนั้นเรียกชื่อผม!

สงสัยงานเข้า

เอาวะ ถ้ารู้จักจริงก็แค่คุย แต่จะไม่ยอม “เสียเอกราช” เด็ดขาด...นั่นทำให้ผมตัดสินใจหันกลับไป

“คุณเธอ” ไม่รู้จักผมหรอก แล้วก็ไม่ได้อยากได้เอกราชของผมด้วยครับ สังเกตจากนิ้วที่ชี้ไปยังชายวัยกลางคนใส่แว่น ต้นเสียงการเรียกครั้งแรกที่แท้จริง

อ้อ! พี่หนู ธราวุธ นพจินดา นักพากย์บอลและผู้ประกาศข่าวกีฬาของช่อง 5 คนนั้นนั่นเองครับ

ผมคุยกับพี่เขานิดหน่อยก็ขอตัวไปชมเกมครึ่งหลังต่อ

ก่อนเข้าสู่สนาม ผมได้ยิน “เสี่ยเหมา” คุณกมลกระตุ้นนักเตะเจ้าบ้านพร้อมกับบอกทีเด็ดว่า

“บอกดาวิดให้มันอยู่สูงเลย อย่าลงมาต่ำ”

“เซนเตอร์ของเขาอืดจะตายไป” นายทหารที่ยืนคู่กันเสริม




เอ็มซีสาวสวย 2 คนของทีมทหารบก

การแสดงช่วงพักครึ่ง


ผมเดินไปเก็บรูปกองเชียร์ทีมเยือนที่อยู่บนอัฒจันทร์อีกฝั่งหนึ่ง พอจะเดินกลับมา คุณประยูร วีรพูล ผู้ตัดสินในวันนี้ก็เป่าเริ่มเกมซะแล้ว

“แวะถ่ายรูปมุมหลังโกล์ทหารบกสักแป๊บดีกว่า ใคร๊จะบ้ายิงตั้งแต่นาทีแรก”

เล็งกล้องถ่าย ๆ อยู่ ก็ดันมี “คนบ้า” ขึ้นมา...เจ้าโด้ ธาตรีนั่นเองครับที่ยิงซะเร็ว ตีเสมอให้เจ้าบ้านได้สำเร็จ

นี่มันอะไรกัน ไม่ได้ดูทั้ง 2 ประตูเลยวันนี้!

เกมครึ่งแรกอาจจะดูเรื่อย ๆ แต่ครึ่งหลังเกมกลับเริ่มสนุกขึ้น

พอโดนตีเสมอเร็ว คุณไทเกอร์และทีมงานเลยอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ตัดสินใจเปลี่ยน 2 คนพร้อมกัน ส่งสันติภาพ ศิริลงมาแทนณรงค์ที่เล่นไม่ออก แล้วก็เปลี่ยนไกรกิตติ อินอุเทนลงไปล่าประตูแทนเสือเฒ่าอย่างขวัญชัยในนาทีที่ 57

ณรงค์ที่ถูกเปลี่ยนออกมาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เตะขวดน้ำซะกระจุย

ส่วนไกรกิตตินั้นมีคอมเมนท์จากโค้ชขวัญหลังเกมครับ

“มันเป็นทหารอยู่ลงมาได้ไง เดี๋ยวบอกนายให้จับมันขังคุกซะให้เข็ดเลย”

น้ำเสียงดูจริงจังครับ แต่ใบหน้านั้นดูยิ้มแย้ม ยิ่งพูดหลังแข่งที่ทีมชนะด้วยแล้ว อารมณ์จึงเอนมาทางอย่างหลังมากกว่า

เปลี่ยนตัวแทนที่จะดี กลับกลายเป็นว่าแค่ 4 นาทีต่อมาเท่านั้นก็โดนเจ้าบ้านขึ้นนำซะงั้น

จากลูกที่ดาวุฒิลุยขึ้นสูงมาทางซ้าย โกเบนาน ปราการหลังแอฟริกันของ “สิงห์เหนือ” พยายามหยุด พยายามกระแทกแล้ว แต่ก็หยุดลูกเปิดของแบ็กซ้ายจอมลุยไม่ได้ สุดท้ายเป็นคาโตที่มาจบสกอร์ให้ทีมได้สำเร็จ

ทหารบก 2 ทีทีเอ็ม 1 ซะแล้ว

ดาวเตะญี่ปุ่น “เป็น” ซะด้วย หลังจากดีใจเสร็จแล้วก็มาทำตะเบ๊ะใส่กองเชียร์เจ้าถิ่นซะทีนึง

เล่นดีแบบนี้ แต่ใครจะรู้ว่าความจริงแล้วคาโต้เป็นแค่ “ของแถม” ที่โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรีมัดรวม ๆ มากับดาวิด บายีฮาและโคมาริ โยชิทากะเท่านั้นเอง

ค่าเหนื่อยหมอนี่ก็น้อยที่สุดในบรรดาดาวเตะต่างชาติของทีมคือ 3 หมื่นบาทเท่านั้น (ส่วน 2 นักเตะญี่ปุ่นที่เหลือรับ 4 หมื่น ในขณะที่บายีฮารับ 5 หมื่น)

“คาโตพอปรับระบบมาเล่นกับเราได้แล้ว ผมก็ปล่อยลงเลย ส่วนอีกตัวคือโยชิทากะยังปรับไม่ได้ แล้วโยชิเล่นเป็นฮาล์ฟรับด้วย ซึ่งเรามีตำแหน่งนี้อยู่ 3 ตัวแล้ว” พ.ต.ขวัญเล่าถึงดาวเตะจากแดนปลาดิบทั้ง 2 คน “แต่คาโตนี่ผมก็ต้องคอยบอกมันนะ ท้ายครึ่งแรกไม่รู้จะมาเล่นฝั่งขวาทำไม ระบบของเราเซ็ทมาอยู่แล้ว พักครึ่งเลยต้องบอกให้มันอยู่แต่ทางซ้าย”

คาโตจี๊ดจ๊าดอยู่ในสนามหลังยิงประตูได้อีกแค่ 11-12 นาทีเท่านั้นก็ถูกเปลี่ยนตัวออก เข้าใจว่าน่าจะเป็นตะคริว โดยโค้ชขวัญส่งมงคล ทศไกรลงมาแทน

ขณะเดียวกันทางฝั่งทีมเยือนก็ตัดสินใจทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ส่งสลาฮูดิน อาแวลงมาแทนชัชปภพ

วาลซีมีโอกาสกดฟรีคิกในนาทีเดียวกันนั้นเอง แต่โคจิ จุนแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีดีไม่น้อยไปกว่าคาโตหรือบายีฮาเหมือนกัน เมื่อพุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม

ทีทีเอ็ม พิจิตรพยายามเร่งเครื่องแล้วก็มาตีเสมอได้ก่อนหมดเวลา 12 นาทีจากการฮาล์ฟวอลเลย์นอกเขตโทษอย่างสุดสวยของพี่เสือ เจษฎา บุญเรืองรอด ที่ไว้ผมทรงหางจิ้งเหลนเหมือนผมเด๊ะ

สกอร์กลับมาเป็น 2-2 ซะแล้ว

ช่วงท้ายเกมเหมือนเจ้าบ้านจะพอใจแค่ผลเสมอแล้วแหละ เลยส่งปราการหลังจอมเก๋าอย่างชัยวัฒน์ นาคเอี่ยมลงมาแทนสราวุธในนาทีที่ 83

ก่อนจะถึงช่วงทดเวลาเจ็บ โกเบนาน ปราการหลังของทีมเยือนถูกไล่ออกจากการตัดเกมบริเวณกลางสนาม ระหว่างที่เดินผ่านผม เขาบ่นพอให้ได้ยินว่า “เวรี กู๊ด ๆ กรรมการ”

เกมทำท่าว่าจะเสมออยู่แล้ว แต่จากลูกที่กุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ ในกรอบเขตโทษของทีมเยือนในช่วงทดเวลาเจ็บ แล้วสุดท้ายถ้าจะมีใครสักคนที่จะเป็นฮีโรของชาวกรีน อาร์มี มันก็ต้องเป็นเขาคนเดียวนั่นแหละ...ธาตรี สีหา โดยเจ้าโด้สับไกลูกที่ยิงกันหลายทอดก่อนหน้านี้เข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม ช่วยให้กงจักรพิฆาตเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-2 จี้คอหอยราชนาวี-ระยองเหลือแค่แต้มเดียวแล้ว




บรรยากาศหลังโกล์ทหารบก ช่วงเริ่มเกมครึ่งหลัง

ไกรกิตติเตรียมตัวลงสู่สนาม

ชัชปภพพยายามหนีการประกบของนักเตะทหารบก

บายีฮาช่วยคลายตะคริวให้คาโต

นักเตะทีทีเอ็ม พิจิตรเฮหลังตีเสมอได้ 2-2

นิพนธ์เอาเรื่องที่บายีฮาไปชาร์จทศพร

โกเบนานบ่นหงุงหงิงหลังโดนไล่ออก

ธาตรีดีใจสุดขีดที่ยิงประตูชัยให้ทีมได้ในช่วงทดเวลาเจ็บ


“พอใจกับผลพอสมควรเพราะต้องยอมรับว่าทีทีเอ็มก็เป็นทีมระดับบิ๊กเหมือนกัน เกมของเราต้องอดทนอดกลั้นที่จะเล่นแบบนี้แหละ จะได้ประตูก็ตรงจุดนี้ทุกทีเพราะเราวางระบบไว้อย่างนี้อยู่แล้ว แต่บางจังหวะเด็ก ๆ มันไม่อดทนก็เลยเสียง่าย ผมหวังไว้แต้มนึง ได้มา 3 ก็ถือเป็นโบนัส ชนะในบ้านเป็นนัดที่ 2 แบบนี้น่าจะลบคำสบประมาทที่ว่าเราเล่นในบ้านแพ้ตลอดได้แล้วนะ” พ.ต.ขวัญร่ายยาวแบบอารมณ์ดีสุด ๆ

ส่วนฝั่งผู้แพ้นั้น คุณไทเกอร์ยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดีแม้จะผิดหวังก็ตาม “เสียใจกับผลการแข่งขันนะ ครึ่งแรกเราได้สกอร์นำไปก่อน นี่เป็นความได้เปรียบมากเพราะปรกติทบ.จะเล่นรับแล้วโต้กลับ พอโดนก่อนก็ต้องเปิดเกมทำให้มันจะง่ายสำหรับเรา แต่ครึ่งหลังเราเสียเร็ว 2 ลูกด้วยกัน ทำให้เราอยู่ในสถานะลำบากอีกครั้ง กว่าจะตั้งเกมกลับมาใหม่จนตีเสมอ 2-2 ได้ ซึ่งมันน่าจะดีขึ้น แต่มาโดนใบแดงก่อนหมดเวลาและโดนยิงช่วงทดเจ็บทำให้เราหมดสิทธิ์แก้ตัว ความจริงวันนี้ผลเสมอน่าจะเป็นผลที่ดีที่สุดสำหรับ 2 ทีมนะ”

บรรยากาศหลังเกมของทีมทหารบกนั้นชื่นมื่นมาก มีแต่คนมาแสดงความยินดีกับพ.ต.ขวัญ แต่สำหรับเจ้าตัวแล้ว นี่ก็แค่ความสุขชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้นเพราะยังมีงานหนักรอคอยอยู่ข้างหน้า

“ยังไม่มั่นใจว่าจะรอดนะ ขออีกสัก 4-5 แม็ทช์ ถ้าเราชนะ เสมอได้ โดยไม่มีแพ้...ก็ค่อยว่ากันอีกที”

ฟอร์มเทพ (ที่อาจจะเป็นรองแค่เพื่อนตำรวจเท่านั้น) ในดิวิชัน 1 ฤดูกาลที่แล้ว แต่กับเกมในระดับไทยพรีเมียร์ลีกแล้วต้องบอกว่าคนละเรื่องกันเลย เมื่อมาผสมรวมกับปัญหาภายใน...ก็เรื่องโควต้านักเตะต่างชาติน่ะสิ ยิ่งทำให้ทหารบกทีมนี้เป๋ไปซะครึ่งฤดูกาล แต่พอเก็บชัยชนะได้เรื่อย ๆ แบบนี้ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่ากงจักรพิฆาตทีมนี้จะกลับบ้านเก่าเพียงแค่ฤดูกาลเดียวอย่างที่หลาย ๆ คนคาดการณ์เอาไว้

“ยอมรับว่าเกมระดับไทยพรีเมียร์ลีกหนัก แต่ก็โชคดีที่เรามากลับตัวทัน ตอนนี้ผมอยากได้นักเตะต่างชาติอีกสัก 2 คน...หลังคน หน้าคนก็พอแล้ว โควต้าน่ะเราเหลือ แต่เงินเราน่ะไม่ค่อยเหลือแล้วนะสิ” โค้ชคนเก่งพูดติดตลกในตอนท้าย




บรรยากาศสุดหงอยเหงาที่ซุ้มม้านั่งสำรองของทีทีเอ็ม พิจิตรหลังจบเกม

นักเตะทารบกเฮฮาหลังจบเกม


ในความทรงจำของผมเมื่อนึกถึงทีมทหารบก...ผมจำนักเตะนามกระเดื่องได้หลายคนนะ พิสิษฐ์ ฟูเผ่า, กฤษขจร วงษ์รัตนะ, อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์, “น้าโขน” บรรหาร สมประสงค์, แมน จันทนาม ฯลฯ ทุกคนล้วนเป็นทหารในสังกัดกองทัพบกทั้งสิ้น แน่นอนมันง่ายต่อการสร้างสปิริตภายในทีม แต่บางครั้งบอลอาชีพ...มันมีอะไรมากกว่านั้น ฟอร์มโดดเด่นของดาวิด บายีฮา, คาโต ยาสึฮิโระ รวมถึงโคจิ จุนน่าจะตอบโจทย์นั้นได้ในวันนี้

แต่พอไม่ใช่ทหารมันก็อาจจะมีปัญหา “อะไรก็ไม่รู้” มากวนใจได้เหมือนกัน

“ไอ้ดาวิด (บายีฮา) ตอนนี้มันติดหญิงอยู่ เป็นสาวแบงก์ ผมก็ต้องคอยคุย ต้องคอยถามมันตลอดนั่นแหละ” เฮดโค้ชทัพบกเล่า

ถ้าคุมให้อยู่ในวินัยแห่งทหารได้ (ไม่ใช่แค่ตะเบ๊ะเหมือนทหารเป็นแบบเจ้าคาโตเท่านั้น) ทหารบกโฉมใหม่ ศูนย์รวมแห่งนักเตะเกรดบี เกรดซีทีมนี้ก็อาจจะเอาตัวรอดได้เหมือนกัน

จะได้ไม่ต้องตกชั้น แล้วมานับ 1 ในลีกสูงสุดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า




 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2553
0 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2553 14:42:04 น.
Counter : 2215 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.