วัคซีน วัคซีน วัคซีน

ความเข้าใจอันดับแรกสำหรับ โรคที่ต้องทำวัคซีน คือเป็นโรคที่รุนแรงมาก รักษาไม่ได้ หรือ เมื่อเป็นแล้วเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ทั้งหมดนั้นทำให้การทำวัคซีนจะทำให้แมวเหมียวปลอดภัยในการดำรงชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลกับโรคอันตรายมากนัก


ในแมวนั้น โรคที่จำเป็นต้องทำวัคซีน(อ่านตามบัตรวัคซีน)ได้แก่

1. โรคหวัดแมว(feline viral Rhinotracheitis)
2.โรคไข้หัดแมว (feline panleukopenia)
3.โรคที่เกิดจาก feline calicivirus บางทีก็เรียกช่องปากอักเสบติดต่อ
4. โรคที่เกิดจาก feline leukemia virus FeLV
5.โรคพิษสุนัขบ้า
เยอะจัง

แต่มีข่าวดีว่า 3 ชนิดแรก ทำพร้อมกันได้ เนี่องจากการทดลองทำวัคซีนที่รวมทั้ง 3 ชนิดนั้น ได้ผลต่อการสร้างภูมิต้านทานเป็นที่น่าพอใจ
ส่วน feline leukemia virus (FeLV) เข็มแรกแนะนำให้ทำแยก เพื่อให้ระบบภูมิต้านทาน สร้างภูมิได้ดีกว่า

มีวัคซีนที่รวม ทั้ง 4 ชนิดในเข็มเดียวกัน แต่ว่าถ้าอายุ ไม่ถึง 4 เดือนหรือแมวไม่แข็งแรงจริงๆ ไม่แนะนำให้ทำ เพราะว่าแมวมักจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่มากพอ หรืออาจกลายเป็นไม่สบายไปแทน แต่ด้วยความสะดวกของแมว(ไม่ต้องเจ็บหลายที) จึงนิยมใช้เมื่อเป็นการกระตุ้นภูมิประจำปี (หรือทำวัคซีนประจำปี)

สุดท้ายวัคซีนพิษสุนัขบ้า (หมอจะนิยมเรียกRabies มากกว่า) เป็นโรคที่รักษาไม่ได้ เมื่อได้รับเชื้อแล้วจะเสียชีวิตสถานเดียว สามารถเป็นได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่วาฬ หรือโลมา ทุกท่านที่เลี้ยงสัตว์ ยกเว้นปลา งู เต่า ควรพาสัตว์เลี้ยงไปทำวัคซีนตัวนี้ด้วยค่ะ

และทั้งหมด ต้องทำซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง( ตามตำรา) ในเมืองไทยจะนิยมทำ 2 ครั้ง และทำซ้ำทุกปี มีบางคลินิกจำทำซ้ำถึง 3 ครั้ง อันนี้จัดเป็นดุลพินิจของหมอ ซึ่งในทางปฏิบัติภูมิต้านทานที่ได้จะสูงกว่า ถ้าเจ้าของสามารถทำได้ ถือว่าเป็นเรื่องดี ในบางประเทศไม่ทำขนาดนี้ เนื่องจากอัตราการระบาดมีน้อย เช่น พิษสุนัขบ้า ที่ประเทศอเมริกาจะทำ 3 ปีต่อครั้ง เรื่องการระบาดของโรคเป็นเรื่องของการจัดการระบบในแต่ละประเทศด้วย เนื่องจากเค้าจะไม่มีสุนัขจรจัด ถ้าพบสุนัขไม่มีเจ้าของหรือหลงทาง จะมีเทศบาลมาจับไปเลี้ยงในศูนย์เลี้ยงดูสุนัขจรจัด และเลี้ยงดูให้จนกว่าจะมีผู้สนใจมารับไปเลี้ยง ซึ่งอาจเสียค่าธรรมเนียมเพื่อนำสัตว์ออกตามกฏ (ยกผลประโยชน์ให้กับการที่ผู้เลี้ยงสัตว์ในประเทศนั้นว่าต้องเสียภาษีเพื่อเลี้ยงสัตว์) นอกจากนี้ยังมีกฎหมายรองรับ อีกหลายข้อที่เมืองไทยยังไม่พร้อมที่จะทำ ฯลฯ (ง่า ออกนอกเรื่องไปนิด)

ในเมืองไทยนั้น ถือว่าค่าทำวัคซีนถูกมากจนไม่น่าเชื่อ อาจเพราะกฎหมายนั้นกำหนดว่าให้ทำ(เฉพาะพิษสุนัขบ้า) หรือเป็นการจูงใจบุคคลทั่วไปให้ทำวัคซีน(บริษัทนำเข้ามาจำหน่ายในราคาถูก) ถ้าให้ยกตัวอย่าง ที่อเมริกา นั้น ทำวัคซีนพิษสุนัขบ้าในราคา ราวๆ 30-50 เหรียญ(1,200-2,000 บาท) ส่วนในไทย อยู่ที่ 80-120 บาท (ต่างกันตั้ง 10 เท่า) เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ทำเถอะค่ะ


ทั้งหมดที่ว่ามานั้น เป็นโรคที่ทำวัคซีนได้ และปัจจุบันยังมีวัคซีนตัวใหม่ล่าสุดที่พึ่งนำเข้ามาในไทย ก็คือ โรคช่องท้องอักเสบในแมว (Feline infectious peritonitis = FIP) รายละเอียดของโรคนี้ต้องยกไปอีกหัวข้อนึง เพราะว่ามันเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

มาว่ากันในแง่วัคซีนก่อน เพราะเป็นโรคที่พึ่งผลิตวัคซีนได้เมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นประสิทธิภาพจึงยังไม่สามารถบอกได้ว่า ได้ผลถึง 100 เปอร์เซ็นต์ และพบข้อจำกัดที่เห็นชัดมากๆ ก็คือ

1. ไม่สามารถทำในแมวอายุน้อยกว่า 4 เดือน (แต่เราว่า 6 เดือนน่าจะปลอดภัยกว่า)
2. ต้องตรวจเลือดก่อนทำวัคซีนว่าไม่มีการติดเชื้อโรคนี้อยู่ก่อน 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน(ตามตำรานะ)
3. ผลของการทำวัคซีนตัวนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ตามผลการค้นคว้า วัคซีนจะกระตุ้นให้ภูมิต้านทานสูงมากพอจะต้านทานโรคได้ ในกรณีที่ทำติดต่อกัน 2 ครั้งที่ห่างกัน 2 สัปดาห์ ได้ผลราวๆ 50 เปอร์เซ็นต์

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเอาเป็นว่าเรายังไม่แนะนำให้ทำ วัคซีน ตัวนี้ล่ะกัน เหมือนผลเสียยังมากเกินกว่าจะเสี่ยงทำอ่ะ

สำหรับคนที่ภาษาอังกฤษแข็งแรง ตามไปอ่านที่ลิงค์นี้ได้จ๊ะ ว่าด้วยการทำวัคซีน FIP
//www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&A=234&S=1&SourceID=19

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2550 Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2550 16:47:16 น. Counter : 1477 Pageviews.		2 comments
Share Tweet