E-r-o-s-a-g-a-p-e : Unlimited Love ^_^
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
++..Legend of Therabithia.++ ตำนานแห่งเทราบิเทีย : บทที่ 2 (3)

3.

ณ ยานรบอินวินซิเบิ้ล..

"ในที่สุด กองทัพมังกรอันเกรียงไกรของซิกฟรีดก็พ่ายแพ้จนได้.. สมกับเป็นราชบัณฑิตแห่งจักรวรรดิ์จักรกลจริงๆ " ลอร์ดฟอลคอนกล่าวเมื่อเห็นมังกรตัวสุดท้ายร่วงลงสู่เบื้องล่าง "ไม่หรอก" เรมิเอลตอบปฏิเสธทันที "สิ่งที่ข้าต้องการจนถึงกับยอมลงทุนลงแรงแฝงตัวมาในอาณาจักรแห่ งนี้ยังไม่บรรลุผลเลย ท่านไม่ต้องรีบยอข้าก็ได้" ชายหนุ่มเดินลงมายังเฉลียงยานรบพลางมองดูปราสาทเทราบิเทียที่อย ู่ด้านหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย .. “ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งแล้วสินะ ไม่นึกเลยว่าเวลา 1 วันจะทำอะไรได้เปลี่ยนไปได้เพียงนี้...” เรมิเอลครุ่นคิด..

"คิดถึงเจ้าหญิงเซเลสเทียสินะ.." ลอร์ดฟอลคอนพูดลอยๆ ขึ้นมา ทำเอาคำพูดนั้นแทงใจดำของชายหนุ่มทันที "ท่านพูดอะไร!!" เรมิเอลหันขวับมาแก้ตัวทันควัน ลอร์ดฟอลคอนหัวเราะในลำคอ "*หึ ..ข้าพอรู้นะว่าท่านกับนางเคยรู้จักกันตอนที่ยังเรียนอยู่ที่มห าวิทยาลัยเปรสิเดียมสินะ.. โชคชะตาช่างน่าขันจริง ที่มันสมองอันเปรื่องปราชญ์แห่งจักรวรรดิ์จักรกลเช่นท่าน กลับเคยเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรเวทย์มนต์เทราบิเ ทียที่เป็นอริต่อกันมาเกือบ 400 ปี!"

"มิใช่แล้ว.. สิ่งที่ข้าต้องการ ณ ยามนี้มีเพียงสิ่งเดียว คือสิ่งทีองค์จักรพรรดิ์ปรารถนา.. และนั่นคือหน้าที่ของข้าในฐานะพลเมืองของอาร์เคดิสที่จะปฏิบัติ ตาม.. ส่วนท่านเล่าฟอลคอน ท่านเป็นพลเมืองของใคร และหน้าที่ของท่านคืออะไร..เหอะๆ หากมิใช่ด้วยลาภยศเงินทองหรือ ที่ทำให้ท่านต้องทรยศบ้านเมือง แม้กระทั่งเพื่อนพ้องของตัวเอง!!" เรมิเอลตอบโต้ทันที ทำให้ลอร์ดฟอลคอนหน้าชาด้วยความโกรธ แต่เขายังคุมอารมณ์ได้ "หึหึ ..ท่านยังเยาว์นักเรมิเอล.. ข้าไม่ถือสาวาจาท่านหรอกนะ.. แต่ท่านจงจำคำข้าไว้.. ทุกคนล้วนมำตามสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกทั้งนั้น แล้วอะไรเล่าคือสิ่งที่ถูกที่แท้จริง.. ผู้ชนะที่แข็งแกร่งที่สุดคนสุดท้ายย่อมเป็นผู้ที่ตัดสินว่าอะไร คือความถูกต้องไงละ!! เขานั่นแหละจะเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ครอบครองทุกอย่างในที ่สุด"

ลอร์ดฟอลคอนพูดพลางเดินกลับเข้าไปในยาน ขณะที่ทหารได้เดินเข้ามารายงานสถานการณ์ล่าสุด "ท่านเรมิเอล..เราควบคุมสถานการณ์ได้หมดแล้วครับ" เรมิเอลพยักหน้า และถามต่อว่า "ดี..พวกเจ้าจงจับตัวทหารทุกคนให้ได้ อย่าทำอะไรพวกเค้า.. และที่สำคัญ ตามหาตัวซิกฟรีด และเจ้าหญิงเซเลสเทียให้พบ และอย่าให้พวกเค้าเป็นอะไรแม้แต่ปลายนิ้วก้อย เข้าใจไหม!!" ทหารรับคำสั่งทันที "ครับท่านผู้บัญชาการ!!" เรมิเอลหันไปมองปราสาทเทราบิเทียที่อยู่เบื้องหน้า พลางคิดว่าคงจะถึงเวลาที่จะทำให้หน้าที่สำเร็จลุล่วงและจบๆ ไปเสียที แล้วเขาก็หันกลับเข้าไปข้างในยานและสั่งการ

"เตรียมลดระดับการบินให้ใกล้ปราสาทที่สุด เมื่อเข้าใกล้ปราสาทแล้ว เตรียมอสูรลีเวียธาน ภารกิจต่อไปเราจะดับไฟปราสาทนี้ให้หมด และลงจอดที่อุทยานเบื้องล่าง!!" ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องควบคุมหลัก หลอดแก้วที่เคยบรรจุอสูรวาริกัลมันดาร์อยู่เบื้องหน้า บัดนี้ได้นำผลึกอสูรอันใหม่มาวางแล้ว ผลึกอสูรสีน้ำทะเลมีตราผนึกอักษรโบราณอยู่ เรมิเอลมองดูพลางรำพึงในใจ "สิ่งที่หลงเหลืออยู่จากสงครามศักดิ์สิทธิ์ สัตว์อสูรของฝ่ายเวทย์มนตร์ที่ได้ถูกปิดผนึกให้หลับไหลเอย.. ข้าจำเป็นที่จะต้องใช้พลังจากท่าน เพื่อให้วัฏจักรอันน่าเศร้านี้ได้สิ้นสุดเสียที!" แล้วเขาก็กดปุ่มที่อยู่ตรงหน้า

ทันใดนั้นในหลอดแก้วก็ปรากฏคลื่นพลังประหลาดดันให้ผลึกลอยตัว ห้องทั้งห้องสั่นสะเทือน "ทำงานอีกครั้ง sharman emulator!" เมื่อชายหนุ่มกดปุ่มอีกปุ่มหนึ่ง ก็มีเสียงคล้ายคำภาวนาดังไปทั่วห้องควบคุม ในหลอดแก้วปรากฏอักษรอิครรัสล้อมรอบผลึกอสูรนั้น และพลันมันก็ได้แปรเปลี่ยนรูปร่างอสูรรูปร่างม้าน้ำสีน้ำเงิน มันได้ลืมตาขึ้นแล้วหลอดแก้วก้อเต็มไปด้วยน้ำทะเลอันมากมายที่พ วยพุ่งออกมาคล้ายจะกระแทกหลอดแก้วนี้ให้แตกให้จงได้!! เรมิเอลเห็นดังนั้นก็ยิ้มด้วยความพอใจ "ตื่นแล้วหรือเจ้าแห่งท้องทะเล ในผลึกแก้วที่ทำด้วยแร่อาดามันไทด์คริสตัลบริสุทธิ์นี้ เจ้าไม่สามารถที่จะทำลายได้หรอก เพราะมันก็เป็นเนื้อสารเด่ยวกันกับตอนที่เจ้าเป็นผลึกยังไงเล่า เอาละ จงให้ข้ายืมพลังเดี๋ยวนี้!"

เรมิเอลกดปุ่มอีกปุ่มหนึ่ง แล้วเขาก็เดินออกมาจากห้องควบคุมพร้อมสั่งการทหารภายนอกว่า "เปิดท่อส่งพลังงานเบื้องล่าง หย่อนผลึกอสูรลงไป ได้เวลาสำแดงพลังแล้ว!!"

ยานอินวิซิเบิ้ลลอยมาเหนือยอดปราสาทเทราบิเทีย แล้วไต้ท้องยานก็ได้เปิดออก หลอดแก้วผนึกอสูรลีเวียธานได้ถูกหย่อนลงมาจากท้องยาน และมันก็ได้แปรสภาพเป็นกรงขังเวทย์มนตร์ที่ตรึงไว้ด้วยสิ่งที่ค ล้ายอักษรอิคารัสนั้น พลังนั้นได้ทำให้ลิเวียธานเจ็บปวดมาก จนมันได้ระเบิดพลังออกมาจากปากสู่เบื้องล่าง เป็นคลื่นน้ำตกลงสู่เบื้องล่างอย่างรุนแรง!!

แต่ทว่าเรมิเอลก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าจู่ๆ กระแสน้ำกลับหยุดนิ่งและเหมือนกับว่ากำลังจะไหลย้อนกลับ "อะไรกัน..พลังนี้!?" แล้วเขาก็หันไปถามทหารที่ควบคุมมาตรวัดพลังงานอยู่ทันที "เกิดอะไรขึ้น เวดจ์ เหมือนมีอะไรมาหยุดพลังของเราไว้" ทหารหันไปเช็คหน้าจอก็ต้องตกใจ "คือมีพลังงานต่อต้านมาจากด้านล่าง เหมือนว่ากำลังปะทะกันอยู่ครับ"
"งั้นเร่งพลังเต็มที่ เอาชนะให้ได้.." เรมิเอลสั่งการแต่ไม่ทันแล้ว "แย่แล้วครับพลังมันถูกตีกลับมาอย่างรุนแรง!" ชายหนุ่มหันไปดูจอภาพก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าอสูรในหลอดแก้วได้หลุ ดออกมาจากกรงเวทย์มนตร์ได้และกำลังรวบรวมพลังกลับคืนมา และเขาก็พลันเห็นดวงไฟสว่าลลิบๆ อยุ่เหมือนปราสาทที่เป็นผู้ปล่อยพลังไฟมาปะทะกันอยู่เบื้องล่าง

อสูรสีแดงมีเปลวไฟล้อมรอบกำลังลอยตัวอยู่บนยอดปราสาทเทราบิเทีย มันกำลังรวบรวมพลังกางบาเรียไฟขนาดยักษ์ดังกลับว่าปกป้องปราสาม แห่งนี้ "อีฟริท!?" เรมิเอลมองภาพนั้นด้วยความแปลกใจ และเมื่อยิ่งพิจารณาถึงหน้าตาของอสูรใกล้ๆ แล้วก็อุทานมาด้วยความคาดไม่ถึง "ใบหน้านั้น...กษัตริย์อัลวิส?..เป็นไปไม่ได้" เสียงของเรมิเอลทำให้ลอร์ดฟอลคอนเข้ามาดูบ้าง เขาชะงักไปครู่หนึ่ง "เป็นความจริงหรือเนี่ยะ...ที่ว่าพลังแห่งพันธสัญญาได้ถูกปลุกข ึ้นมาอีกครั้งจนได้.." เรมิเอลหันไปถามทันที "พันธสัญญา..พันธสัญญาอะไรกัน"

ลอร์ดฟอลคอนจึงเล่าให้ฟังว่า

เชื้อสายของราชวงศ์เทราบิเทียเป็นเชื้อสายต้องคำสาบจากเทพแห่งร าตรีกาลเนครอส ครั้งเมื่ออดีตกษัตริย์แห่งเทราบิเทียมีความทะเยอทะยานอยากที่จ ะครอบครองโลกใบนี้ จึงได้ทำพันธสัญญากับเทพแห่งความมืดเนครอส เพื่อเรียนรู้ศาสตร์มืด จึงได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรเวทย์มนตร์ และทำสงครามกับจักรวรรดิ์อัลเคดิส ที่นับถือเทพแห่งแสงสว่างอัลเทียน่า ก่อให้เกิดสงครามระหว่างเทพเจ้าขึ้น แต่ผลก็คือเนครอสพ่ายแพ้ และถูกกักขังไว้ในตราผนึกทั้ง 8 ส่วน ฝ่ายอัลเคดิสได้กระจายผนึกนั้นไปทัวโลกเพื่อมิให้เนครอสได้ฟื้น คืนอีก และใช้พลังของเทพอัลเทน่าล้างพันธสัญญาของเนครอส ทำให้อาณาจักรนี้สงบสุขตลอดมา..

"ท่านหมายความว่า..กษัตริย์อัลวิสพันธสัญญาใหม่นี้เกิดขึ้นอีกค รั้งหรือ" เรมิเอลถามต่อ "แล้วเพืออะไร ก่อสงครามไร้สาระอีกครั้ง?" ลอร์ดฟอลคอนหัวเราะในลำคอ "สงครามใร้สาระงั้นหรือ... ท่านจงลองถามจักรพรรดิ์น้อยของท่านเถอะเรมิเอล" คำตอบของเขาทำให้ชายหนุ่มชะงักไป

"แต่ยังไงก็ตาม..นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ควบคุมผลึกอสูรมาอีกตัว หนึ่ง เปิดคลื่นพลังจับอสูร!!!" เรมิเอลหันไปสั่งการทันที แล้วเบื้องหน้าของยานก็ปรากฏเป็นรูปจานทรงกลมขนาดใหญ่ และมันได้หันไปทางอสูรอีฟริตนั้นที่กำลังรวบรวมพลังเต็มที่พร้อ มที่จะระเบิดออกมา "เดินเครื่องได้!!" สิ้นเสียงเรมิเอล คลื่นเสียงก็ได้ถูกปล่อยออกมาจากยานรบอินวิซิเบิ้ล มันได้ทำให้บรรยากาศนอกยานสั้นสะเทือนเป็นวงกว้าง ลอร์ดฟอลคอนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อรอบๆ ตัวของอีฟรีทบัดนี้กลับมีแสงสีขาวและคลื่นพลังเสียงล้อมรอบคล้า ยดังเส้นไหมที่ค่อยๆ พันรอบๆ ตัวอสูรและกักขังพลังทั้งหมดของมันไว้โดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ เลย

"นี่แหละคือพลังของแชร์แมนอีมิวเลเตอร์ละ” เรมิเอลหันไปพูดกับลอร์ดฟอลคอนที่กำลังตกตะลึง “...ในคลื่นพลังสะกดเวทย์มนตร์นี้ พลังเวทย์มนตร์ใดๆ ก็ไม่มีผล นี่แหละคือพลังของจักรวรรดิ์จักรกล" เรมิเอลเดินไปมองดูสถานะที่จอเรดาร์ พบว่าคลืนพลังของอีฟรีตค่อยๆ ลดลง ขณะที่พลังของลีเวียธานค่อยๆ เพิ่มขึ้น "เอาละ ได้เวลาทำความสะอาดปราสาทแล้ว เร่งพลังจู่โจมย้อนกลับได้เลย!!"

ทันใดนั้นอสูรลิเวียธานก็รวบรวมพลังปล่อยคลื่นน้ำขนาดยักษ์ลงมา อีกครั้ง คราวนี้ความรุนแรงของมันยิ่งกว่าครั้งก่อน อสูรอีฟรีตที่ไม่อาจป้องกันตัวเองได้เพราะถูกสะกดอยู่ก็ถูกพลัง กระแทกจมหายไปกับกระแสน้ำสู่เบื้องล่าง ความแรงของกระแสน้ำทำให้เปลวไฟที่เคยลุกท่วมปราสาทเทราบิเทียบั ดนี้ค่อยๆ ดับจนในที่สุดก็หมดสิ้นลง..

“ไฟหายไปหมดแล้ว!!” ประชาชนที่มองเห็นเหตุการณ์ต่างพากันออกมาจากค่าย บ้างก็กระโดดโลดเต้นและต่างก็ดีใจที่เปลวเพลิงที่ปกคลุมปราสาทเ ทรรบิเทียค่อยๆ มอดลงๆ เผลให้เห็นท้องฟ้าเหนือปราสาทที่กลุ่มควันได้ถูกพลังของลิเวียธ านขับไล่ไป ได้ทำให้ท้องฟ้าเปิดออกอีกครั้งหลังจากที่ปกคลุมด้วยม่านควันเป ็นเวลานานหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น.. แสงสะท้อนกับไอน้ำทอเป็นรุ้งสีสดใสพาดผ่านปราสาทเทราบิเทียอย่า งสวยงาม.. ประชาชนและทหารต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดีปรีดา..

อีกด้านหนึ่ง...

พวกของอารุสและเจ้าหญิงเซเลสเทียเดินตามสะพานมายังส่วนลึกที่สุ ดของถ้ำเบื้องหลังน้ำตกในภูเขา ตามที่หมาป่าสีขาวนำมา ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าใจกลางถ้ำนี้มิวิหารผลึกแก้วคริสตัลข นาดใหญ่อยู่ และหน้าประตูนั้น หมาป่าสีขาวได้รอพวกเขาอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นมาจากภายนอก

“ครื่นนนนนนน!!!” แรงสะเทือนทำให้บริเวณนี้สั่นสะเทือน แต่พวกอารุสกลับไม่รู้สึกว่าแผ่นดินจะไหว เซเลสเทียมองไปรอบๆ ก็ประหลาดใจ “ทำไมภูเขาสะเทือนอย่างนี้พวกเราถึงยังยืนอยู่กันได้นะ” เรน่าก็มองรอบๆ อย่างหวาดกลัวและหันมาอยู่ใกล้ๆ เซเลสเทีย หมาป่าสีขาวเห็นดังนั้นจึงกล่าวกับพวกเขาว่า “เจ้าจงมองดูเบื้องล่างเถิด”

อารุสและเซเลสเทียเดินไปมองดูเบื้องล่างรอบๆ อาณาเขตวิหารนี้ก็ต้องตกใจ “นี่มัน.... ไม่เห็นพื้นดินเลย ที่นี่ลอยอยู่งั้นหรือ?” ชายหนุ่มอุทาน เซเลสเทียเสริมว่า “มิน่าถึงไม่มีแรงสะเทือนเลย แต่ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นนะ” หมาป่าสีขาวไม่ตอบพลางเดินเข้าไปข้างในวิหารและพูดว่า “ไม่มีเวลาแล้ว...ตามข้ามาเถิด”

ในสุดของวิหารปรากฏผท่นบูชาขนาดใหญ่และเบื้องหน้านั่นก็มีผลึกค ริสตัลขนาดยักษ์ปกคลุมทั่วแท่นบูชา ผลึกนั้นมีสีเขียวสดใส เมื่อพวกเขามองไปที่แกนกลางก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ ่งกำลังกุมมือทำท่าสวดภาวนาอยู่ และรอบๆกายเธอสีของผลึกนั้นเป็นสีคล้ำขึ้นเรื่อยๆ

“อะไรกันเนี่ยะ....ผลึกนั่น แล้วนั่นใครกันนะ” อารุสอุทานด้วยความตกใจ ขณะที่เซเลสเทียเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้เหลือเกินแต่ก็นึกไม่ออกสักที หมาป่าสีขาวเดินเข้าไปด้านหน้าแท่นบูชาและหันมาพูดกับพวกของเซเ ลสเทียว่า “นี่คือ... ร่างทรงแห่งเทพีอัลเทน่า... ราชินีนิรันดร์กาลแห่งเทราบิเทีย อัลฟิโอน่า!!!”




Create Date : 03 พฤษภาคม 2552
Last Update : 3 พฤษภาคม 2552 9:54:17 น. 0 comments
Counter : 245 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

The Prophet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนบ๊องๆ คนหนึ่ง..
รักดนตรี เสียงเพลง
เตบอยากเป็นครูบ้านนอก
แต่ดันเป็นโปรแกรมเมอร์เมืองหลวง
ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
ฝันอยากจะเป็นบาหหลวง
แต่ดันแอบหลงรักสาวอยุ่ร่ำไป
ใครๆ บอกว่าเป็นคนดี แต่ตัวเองบอกว่าคงไม่ดีเท่าไร
อย่างน้อยก็หน้าตาหละ...
แต่เห็นหน้าตาอย่างนี้ ก้อจบปรัชญาราม นะคร้าบบบ
Friends' blogs
[Add The Prophet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.