E-r-o-s-a-g-a-p-e : Unlimited Love ^_^
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
++..Legend of Therabithia..++ : ตำนานแห่งเทราบิเทีย - บทที่ 5 (2)

2.



ลานหน้าวิหาร ณ เมืองอัลเทน่าโพลิส



เทวรูปเทพีอัลเทน่าตอนนี้เปล่งแสงสีทองสุกใสและแผ่กระจายม่านพล ังจากคฑาที่ถืออยู่ในมือของเทวรูปพวยพุ่งออกไปยังท้องฟ้าทั่วทุ กทิศทางของเมืองดังกรงทองคำที่คุ้มครองเมืองนี้ไว้ ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดเสียงอื้ออึงคะนึงไปทั่วบริเวณ อารุสที่เห็นเหตุการณ์ก็ยืนตะลึงด้วยความประหลาดใจ



“นี่มันอะไรกันวะ” ชายหนุ่มครุ่นคิด จากนั้นจึงเดินเข้าไปถามคนที่กำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย ู่ “เกิดอะไรขึ้นพี่ชาย ..แสงบ้าบนฟ้านั่นมันคืออะไรกัน” คนหนึ่งหันมาบอกด้วยท่าทีเลิกลั่กอย่างตื่นเต้นก่อนจะยกมือไหว้ ท่วมศีรษะ บางคนก็บอกว่า “เทพี..เทพีอัลเทน่าทรงปรากฏองค์แล้ว”



“แล้วตอนนี้เรน่ากับร็อดนี่ย์อยู่ไหนกันนะ...ไม่ได้การละ” อารุสไม่รอช้ารีบวิ่งตรงไปยังลานกว้างหน้าวิหารทันทีพร้อมทั้งต ะโกนเรียกหา “ร็อดนี่ย์!! เรน่า!!” แต่ลานกว้างหน้าวิหาร ณ เวลานี้อัดแน่นไปด้วยผู้ที่คนที่เบียดเสียดและรอจะฟังว่าสังฆรา ชแห่งอัลเทน่าโพลิสจะกล่าวอะไรต่อไป ทำให้อารุสไม่อาจจะเข้าไปได้ลึกกว่านี้ได้มากนัก



“พี่น้องชาวเทราบิเทียและชาวอัลเทน่าโพลิส! โปรดสงบลงและฟังคำข้าที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้” เสียงของสังฆราชดังขึ้นทำให้ฝูงชนที่กำลังพูดคุยกันเงียบลงทันท ี อารุสเองก็เช่นกัน ทันใดนั้น สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ สังฆราช เขาจำได้ทันทีและตะโกนสุดเสียงโดยไม่รู้ตัว



“ร๊อดนี่ย์!!”



ด้วยเสียงของอารุสที่โพล่งขึ้นมาทำให้ผู้คนรอบๆ ข้างหันมามองอารุสอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มพยายามแหวกผู้คนเพื่อเข้าไปให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได ้ แต่เบื้องหน้ากลับถูกทหารอารักขาขวางไว้เสียก่อน



“นี่เจ้าจะทำอะไร...อยู่เงียบๆสิวะ” ทหารคนหนึ่งที่ขวางไว้ตะคอกใส่อารุส แต่อีกคนหนึ่งสังเกตเห็นชุดทหารเทราบิเทียจึงตรงเข้ามาผลักอารุ สล้มลงและใช้หอกจ่อไปที่คอของชายหนุ่มทันที “นี่แก..เป็นทหารในสังกัดนครหลวงนี่ มาที่นี่ทำไม”



อารุสที่เสียหลักล้มลงใช้มือปัดหอกของทหารออกและชักดาบออกมาตั้ งท่าเตรียมสู้เช่นกัน “ข้ามีธุระจากเจ้าหญิงเซเลสเทียที่ทรงรออยู่ข้างนอก และต้องการพบกับท่านสังฆราชเดี๋ยวนี้” ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ได้ฟังอารุสพูดก็แตกตื่นและถอยออกไปด้ว ยความตกใจ เสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ขึ้นมาอีกครั้ง



“ดูนั่นสิ!!” “อะไรน่ะ!!” “ปีศาจ!!!” ทันใดนั้นเสียงคนทั่อุทานอย่างตระหนกตกใจก็ดังขึ้นเมือได้ชำเลื องมองไปบนท้องฟ้าและเห็นกับยานบินรูปทรงประหลาดสีดำทมึนลอยอยู่ บนฟ้า บนยานลำนั้นปรากฏชายคนหนึ่งในชุดสีแดงโดยแขนทั้งสองของเขามีปืน ขนาดใหญ่ติดอยู่และกำลังรวบรวมพลังเล็งมายังเทวรูปเทพีอัลเทน่า “ข้าคือเปลวไฟสวรรค์ไกเซอร์ ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าทั้งหมดยอมแพ้แต่โดยดีและจงปิดม่านพลังเวทย ์มนต์นั้นเสียและส่งเทวภัณฑ์มาให้เดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นข้าจะทำลายมันเองด้วยพลังของข้าและบุกไปเอาด้วยตัวของข ้าเอง และถึงเวลานั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือนนะ”



“พวกจักรวรรดิ์จักรกล!!!...ทุกคนหนีไป” อารุสตะโกนและรีบผลักทหารวิ่งตรงขึ้นไปยังบริเวณวิหารทันที แต่ฝูงชนที่ได้ยินกลับไม่ยอมไปไหน คนหนึ่งตะโกนมาว่า “ไม่ต้องตกใจ...เทพีอัลเทน่าจะปกป้องเรา” “ใช่ๆ ท่านสังฆราชจะคุ้มครองเรา” ทหารคนหนึ่งกระโดดมากระแทกอารุสล้มลงเพื่อป้องกันไม่ให้ไปยังแท ่นพิธี ความชุลมุนทำให้ร็อดนี่ย์สังเกตเห็นก็วิ่งลงจากแทนพิธีเพื่อไปห ้ามทหาร “ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้... คนนี้คือเพือนของข้า!” ทหารงงนิดหนึ่งและหันไปมองสังฆราชที่ก็พยักหน้าให้ทำตามที่ร็อด นี่ย์สั่ง เมื่ออารุสหลุดมาได้ก็วิ่งมาหาร็อดนี่ย์ทันที “เรน่าละ” ร็อดนี่ย์อึกอักๆ ชายหนุ่มจึงเข้ามาเขย่าตัวและถามอีกครั้ง “ว่าไงร็อดนี่ย์ เรน่าอยู่ไหน” หญิงสาวไม่ตอบแต่หันไปมองท่านสังฆราชที่บัดนี้เดินออกไปยังหน้า แทนบูชาต่อหน้าประชาชนและกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า



“จงอย่าตื่นตกใจ แต่ให้วางใจและช่วยกันสวดภาวนาต่อเทพีแห่งแสงสว่าง และห้ามออกไปจากอาณาเขตนี้เด็ดขาด” เมื่อขาดคำแล้วสังฆราชก็หันมาพูดกับร็อดนี่ย์และอารุสก่อนที่จะ ลอยตัวขึนไปสู่ท้องฟ้าว่า “จงพาเจ้าหญิงเซเลสเทียมาที่นี่โดยเร็วที่สุด..ไปเร็ว ข้าจะถ่วงเวลาสกัดกั้นมันไว้เอง!” อารุสกับร็อดนี่ย์พยักหน้าพร้อมกันและรีบฝ่าฝูงชนวิ่งลงไปจากวิ หารทันที



ทาวด้านไกเซอร์เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบรับจึงเปิดเครื่องตรวจจั บพลังเวทย์เพื่อค้นหา “นี่เอง...พวกเจ้าคิดว่าจะซ่อนมันไปจากสายตาข้าได้เรอะ” เมื่อเห็นพิกัดแล้วไกเซอร์ก็ประกบปืนทั้งสองกระบอกและรวบรวมพลั งเต็มที่ ทำให้อากาศบริเวณนั้นถูกบีบอัดหมุนวนอย่างรุนแรงเข้าสู่ปลายกระ บอกปืนทีบัดนี้มีพลังเต็มเปี่ยม “จงดูพลังของข้า ณ บัดนี้!!” แล้วทันใดนั้นไกเซอร์ก็ยิ่งมันไปทันที “เปรี้ยงงงง!!!!”



กระสุนคลื่นพลังอัดอากาศพุ่งตรงไปยังบริเวณกองคาราวานอย่างรวดเ ร็ว “ตูม!!!!” เสียงระเบิดดังกึกก้องทันทีที่เกิดการปะทะกันกับกำแพงแสงสีทองท ี่ครอบคลุมเมืองอัลเทน่าโพลิสไว้และในเวลาเดียวกันก็ได้สะท้อนก ลับไปยังไกเซอร์อย่างรวดเร็วเช่นกัน “เฮ้ย!!!” ไกเซอร์เห็นพลังคลื่นถูกสะท้อนกลับมาอย่างนั้นก็รีบบังคับยานบิ นหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด



“อะไรกันวะ” ไกเซอร์อุทานอย่างตกตะลึง และหันกลับมาก็พบว่าพลังนั้นไม่อาจทำอันตรายใดๆ ต่อม่านพลังที่คุ้มครองเมืองอัลเทน่าโพลิสได้เลยแม้แต่นิดเดียว “นี่แหละคือพลังอันศักดิ์สิทธิ์จากการภาวนาของเทพีแห่งแสงสว่าง ความชั่วร้ายใด ๆไม่มีทางทำลายมันได้หรอก” เสียงดังขึ้นมาทำให้ไกเซอร์หันไปพบกับสังฆราชแห่งอัลเทน่าโพลิส ยืนอยู่ ณ จุดกึงกลางแห่งม่านพลัง ซึ่งก็คือปลายคฑาของเทพีอัลเทน่าที่เป็นจุดรวมพลังนั่นเอง



“อะไรกันตาแก่นี่...แกเป็นใคร” ไกเซอร์ถามด้วยความงุนงง “ แต่ช่างเถอะ...การที่แกลอยตัวมาและออกมาจากม่านพลังมาประจัณหน้ ากับข้าได้นี่คงจะแน่มากสินะ...ชักน่าสนุกแล้วสิ ” ไกเซฮร์หัวเราะเยาะเย้ย ชายชราเห็นดังนั้นก็ส่ายหน้าและรำพึงออกมาว่า



“น่าสงสาร...” ไกเซอร์สะดุดกับคำพูดของชายชราและรู้สึกหน้าชาทันที “ไอ้แก่ แกว่าอะไรนะ” สังฆราชแห่งอัลเทน่าโพลิสจึงพูดดังๆ อีกครั้ง “ข้าบอกว่าเจ้านี่น่าสงสารนัก.... ที่รู้จักแต่การทำลายล้าง จิตใจอย่างเจ้านี่มันน่าเวทนายิ่ง!”



ไกเซฮร์โมโหมากและชี้ปลายกระบอกปืนทั้งสองข้างมายังชายชราที่อย ู่เบื้องล่างทันที “ท่าทางแกจะไม่อยากแก่ตายสินะ เก็บคำพูดไว้พูดกับตัวแกเองในนรกเถอะ!!!” ขาดคำนั้นไกเซอร์ก็ยิงพลังแสงไปยังชายชราอย่างรุนแรงนับครั้งไม ่ถ้วน



“เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ” คลื่นพลังมากมายพุ่งตรงไปยังสังฆราชแห่งอัลเทน่าโพลิสที่ยืนอยู ่ตรงหน้าอย่างไม่สะทนสะท้าน แต่มันกลับหยุดนิ่งลงตรงหน้าชายชราดังเจอกำแพงที่มองไม่เห็น ไกเซอร์อุทานด้วยความประหลาดใจ “เฮ้ย..อะไรกัน!” ชายชราส่ายหน้าอีกครั้งหนึ่ง “เมื่อกี้เจ้าก็เห็นแล้วมิใช่เหรอ ว่าพลังแห่งการปกป้อง มันเป็นอย่างไร...” สังฆราชแห่งอัลเทน่าโพลิสยกคฑาประจำตัวขึ้นและตวัดมันออกไปอย่า งรวดเร็ว “ถ้าคิดว่ามันมีเพียงแค่นั้นละก็ จะดูถูกข้า เมลฟิส สังฆราชแห่งอัลเทน่าโพลิสมากเกินไปแล้ว!!” แล้วคลื่นพลังที่หยุดนิ่งก็สะท้อนกลับไปยังไกเซอร์อย่างรวดเร็ว



“บรึม!!!!” เสียงระเบิดกัมปนาทดังกึกก้อง ไกเซอร์ที่ตั้งท่าป้องกันอยู่ลืมตาขึ้นก็แปลกใจที่ตัวเองกลับไม ่เป็นอะไร เพราะเบื้องหน้ามียานบินลำเล็กอีกลำหนึ่งที่บินมากางบาเรียรับก ารโจมตึแทนไว้อยู่...



“วะ...เวโรนิส?” ไกเซอร์พูดเมื่อพบว่าเป็นเวโรนิสที่บินเข้ามาทันท่วงที “เจ้ามาทำไม!?” หญิงสาวในชุดคลุมสีฟ้าออกมาจากยานและหันมาตบหน้าไกเซอร์อย่างแร ง “เจ้าบ้า!! เจ้าทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไป เกือบจะตายแล้วรู้ไหม..” แล้วก็หันมายังชายชราที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ “ถ้าข้ามาไม่ทันเนี่ยะ ..เจ้าเป็นศพไปแล้วเพราะความโง่ของเจ้าน่ะ”



“มีคนมาช่วยทันเวลาสินะ.. เจ้าหนุ่ม.. นับว่าเทพเจ้ายังปรานีเจ้า” สังฆราชแห่งอัลเทน่าโพลิสกล่าว “ที่ผ่านมาเจ้าเป็นฝ่ายจู่โจมและข้าเป็นฝ่ายตั้งรับ. คราวนี้ขอเป็นข้าจู่โจมบ้างละกันนะ” พูดจบชายชราก็ชูคฑาขึ้นและรวบรวมพลัง ทันใดนั้นแสงสว่างก็พวยพุ่งดังเปลวเพลิงจากคบไฟของเทวรูปที่ชาย ชรายืนอยู่สู่ปลายของคฑาดังลูกบอลไฟขนาดยักษ์และรวมตัวเป็นรูปร ่างใหญ่ขึ้นๆ เรื่อยๆ เวโรนิสมองไปที่เครื่องวัดพลังเวทย์ที่ตัวเลขพุ่งขึ้นๆๆ อย่างตกใจ “อะไรกัน...พลังนั่น...”



“พลังโจมตีที่สร้างจากการทำลายล้าง ไม่อาจเทียบได้จากพลังโจมตีบริสุทธิ์ที่มาจากการปกป้องได้หรอก” ชายชราตะโกนและตวัดคฑาออกไป ลูกบอลไฟก็ได้เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นวิหคแสงสีแดงขนาดยักษ์พุ่ง ตรงไปยังยานของเวโรนิสและไกเซอร์อย่างรวดเร็ว “นี่มันอสูรฟินิกซ์!!” เวโรนิสตะโกน “ไกเซอร์หลบเร็ว!!” ไกเซอร์และเวโรนิสพลิกยานบินหลบการพุ่งชนได้อย่างฉิวเฉียด ไกเซอร์โมโหสุดขีดที่ถูกไล่ต้อนอย่างนี้ “คิดว่าจะเอาชนะข้าได้เรอะ ไม่มีทาง!!”



ไกเซอร์บังคับยานบินตามฟีนิกซ์ไปและเปลื่ยนกระบอกปืนในมือทั้งส องข้างเป็นดาบลำแสงขนาดใหญ่ “ข้าชอบการไล่ล่าไอ้ตัวอะไรๆ ทีบินได้ที่สุดเลย... มาลองดูกันสักตั้งว่าแกกับข้าใครจะแน่กว่ากัน!”



(ต่อตอนหน้าจ้า)




Create Date : 31 มีนาคม 2553
Last Update : 31 มีนาคม 2553 12:05:06 น. 1 comments
Counter : 218 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:12:25:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

The Prophet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนบ๊องๆ คนหนึ่ง..
รักดนตรี เสียงเพลง
เตบอยากเป็นครูบ้านนอก
แต่ดันเป็นโปรแกรมเมอร์เมืองหลวง
ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
ฝันอยากจะเป็นบาหหลวง
แต่ดันแอบหลงรักสาวอยุ่ร่ำไป
ใครๆ บอกว่าเป็นคนดี แต่ตัวเองบอกว่าคงไม่ดีเท่าไร
อย่างน้อยก็หน้าตาหละ...
แต่เห็นหน้าตาอย่างนี้ ก้อจบปรัชญาราม นะคร้าบบบ
Friends' blogs
[Add The Prophet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.